สวัสดีครับผม
ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเป็นนิสิตเรียนครู มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านอโศก
ที่มารีวิวการเรียนครูในวันนี้ ผมคิดมากตั้งนานแล้วครับว่าอยากจะแบ่งปันเรื่องราวการศีกษาในสายการศึกษาให้บุคคลอื่นได้ทราบ
ผมเรียนในด้านจิตวิทยาการศึกษา พูดง่ายๆก็คือ เรียนครูแนะแนวนี่แหละครับ
ผมขอข้ามช่วงสอบตรงติดเลยนะครับ ช่วงนั้นคือดีใจตามภาษาเด็ก ม.6 ที่มีที่เรียน แล้วก็มาเรียนที่นี่
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ช่วงปี1 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
เป็นการเรียนที่ใสใสมากครับ คือมีวิชาของทางมหาวิทยาลัย 5 ตัว วิชาชีพครู 1 ตัว และ วิชาเอกอีก 3 ตัว
วิชามหาวิทยาลัยก็เรียนไปเรื่อยๆ ครับ จะยากตรงวิชาชีพครูและวิชาเอก ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ใหม่มาก ต้องท่องจำทั้งหมด เป็นภาคทฤษฎีซึ่งไม่เคยเจอในตอนเรียนช่วงมัธยมศึกษา
ปีหนี่งนี่เรียนสบายครับ เรียนน้อย ต่อยไม่หนัก ผ่านมาได้ ดีงาม ^^
ช่วงปี2 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
ประกอบด้วย วิชาของทางมหาวิทยาลัย 2 ตัว วิชาเอก 6 ตัว วิชาชีพครู 5 ตัว วิชาเลือกอีก 1 ตัว
อื้อหื้ออออออออออออ มันต่างจากปี1ลิบลับเลยครับผมมมม ทฤษฎีทางจิตวิทยา ทฤษฎีทางการศึกษามาหมด อีกทั้งต้องบูรณาการของทั้งสองทฤษฏีมาใช้ในการสอนอีกด้วย เพราะเวลาเรียนในวิชาเอก อาจารย์ในภาควิชาก็จะบอกว่า สิ่งใดควรทำบ้างเมื่อเข้าไปสอนในช่วงชั้นปีที่5 วิชาอีกวิชาหนึ่งที่เรืฃิ่มต้นตั้งแต่ปี 2 คือวิชาที่ต้องเข้าโรงเรียนครับ เป็นโรงเรียนเครือสาธิต ในปีสองนั้นจะเป็นการดูภาพรวมของทางโรงเรียนก่อนครับว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง เช่น ข้อมูลโรงเรียน บุคลากร เป็นต้น
ช่วงปีสองเริ่มแล้วครับ เริ่มที่จะท้อในการเรียนบ้าง แต่ก็ฮึดสู้ฝ่ามาได้ด้วยเอนิดหน่อยครับ ^^
ช่วงปี3 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
ประกอบด้วย วิชาของทางมหาวิทยาลัย 2 ตัว วิชาเอก 7 ตัว วิชาชีพครู 4 ตัว
เอาแล้วครับ มันต่างจากปี1 ลิบลับเลยครับ ทั้งความยากของวิชาการ ภาระงานที่เพิ่มขึ้น แต่ผมก็ยังสู้ครับ มีวิชาหนึ่งที่ถือว่ามีความสำคัญ หนึ่งในหัวใจของการแนะแนว นั่นคือ วิชาการให้คำปรึกษารายบคุคคล มันทำให้ผมเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากความทุกข์ของมนุษย์ที่พึงมี การเป็นเหมือนกระโถน ให้เขาให้ระบายความคับข้องใจ แล้วเราคอบช่วงรับฟัง และเข้าใจปัญหา พร้อมที่จะแก้ปัญหาไปด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้จากวิชานี้ครับ อีกวิชาที่เป็นเหมือนสมองของคนเรียนครู เลยก็คือ วิชาวิธีวิทยาการในการจัดการเรียนรู้ เรียกกันง่ายๆก็คือ วิชาเขียนแผนการสอน เรียกให้ง่ายไปอีกก็คือ วิชาเขียนแผน ที่แรกตั้งแต่เรียนมา ผมคิดว่า ครูอยากจะสอนอะไรก็สอนไป ให้นักเรียนอ่าน นักเรียนจดไปก็พอ แต่วิชานี้ไม่ได้สอนให้ครูทำแบบนั้น แต่ต้องมีวิธีการที่หลากหลาย ทั้งจับกลุ่ม แบ่งการสอนเป็นขั้นๆ เพื่อให้ได้แผนการสอนที่มีคุณภาพออกมาเป็นหลักฐานในการสอนของเรา เพราะเราไม่สามารถไปสอนลอยๆได้เลย วิชาต่อไปที่มีภาระงานที่หนักคือ วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษารายกรณีเบื้องต้น เรียกกันง่ายๆคือ วิชาทำCase Study เป็นวิชาที่ทำให้ผมได้รู้จักเครื่องมือแบบสอบถาม แบบประเมินต่างๆ ในการใช้กับนักเรียนที่มีปัญหา เพื่อช่วยเหลือนักเรียน วิชานี้อาจารย์ทางภาคให้ลงไปเก็บข้อมูลจากนักเรียนที่มีปัญหาจริงๆ ผ่านการประเมินจากครูประจำชั้นเบื้องต้น แล้วให้นิสิตลงไปทำ สนุกดีครับ ได้เจอนักเรียนได้ช่วยเหลือนักเรียน ปี3 ก็ยังมีวิชาที่ยังต้องเข้าโรงเรียนอยู่ครับ แต่คราวนี้ไม่ได้แค่ทำเหมือนปี 2 แต่เข้าไปเก็บชั่วโมงครับให้ครบ40ชั่วโมง แล้วแต่เลยครับว่างเมื่อไหร่ก็นักอาจารย์เข้าไป เข้าไปทำอะไร เข้าไปสังเกตการสอน ช่วยภาระงานของครูประจำชั้น ประจำวิชา นิสิตฝึกสอน เพื่อให้รู้ว่าภาระงานที่พึงทำในชั้นปีที่5มีอะไรบ้าง
ปีสามก็ผ่านไปครับ หนักขึ้น เข้มข้นขึ้น สนุกม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ช่วงปี4 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
ประกอบด้วย วิชาเอก 9 ตัว วิชาชีพครู 5 ตัว
คราวนี้ไม่ขอบ่นอะไรครับ แต่อยากเดินจากไปอย่างเงียบๆ มากกว่า แต่ทำไม่ได้ครับ ต้องฮึดสู้ต่อไป มาเริ่มที่วิชาเบาๆกันก่อนนะครับ นั่นคือวิชาวิธีวิทยาในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โอ้ยย ตั้งแต่เรียนมาไม่รู้ว่าโรงเรียนต้องมีหลักสูตรเป็นของตนเองเลย นึกมีมีแค่แกนกลางมาให้แล้วก็เอาไปใช้ ซึ่งต้องช่วยกันภายในกลุ่ม แล้วร่างหลักสูตรเป็นเหมือนหุ่นขึ้นมาส่งเอง สนุกดีครับ วิชาต่อไปคือวิชาการวัดประเมินทางการศึกษา เป็นวิชาที่ช่วยให้ครูอย่างเราๆออกข้อสอบ ส่วนตัวก็คือ เห้ยยย ครูนี่ต้องมีวิธีออกข้อสอบด้วยหรืออ ไม่ใช่สักจะออกอะไรก็ออกใช่ไหม แล้วมันจะยากตรงที่ ข้อสอบแต่ละข้อนั้นนน มีคุณภาพหรือไม่ คือต้องให้ อาจารย์ตรวจสอบและให้คะแนน แล้วเอามาใช้สอบกับเพื่อนในห้อง เพื่อหาคุณภาพ โอ้ยยย กว่าจะได้ข้อสอบแต่ละชุดยากเย็น ในปี4นั้นมีวิจัยที่ต้องทำทั้งหมด 4 เล่ม แบ่งเป็นวิจัยกลุ่มเพื่อจัดสัมนา1เล่ม วิจัยเดี่ยว1เล่ม วิจัยกลุ่มในการวิจัยทางการศึกษาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนอีก2เล่ม สนุกกันไปเลยครับ 555555555555555555 ตอนเรื่องนี่ก็ยากครับไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี พอเริ่มแล้วก็เป็นเลยครับ ต้องมาเรียนเองจะรู้เทคนิคในการเลือกเรื่องที่จะมาทำ ตอนนี้ก็ผ่านมาได้แล้วครับ แล้วยังมีวิชาที่ต้องเข้าโรงเรียนเพื่อสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นจากโรงเรีนยนฝึกสอนของรุ่นพี่ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการเรียนการสอนเมื่อเราอยู๋ปี5ครับผม
วิชาซึ่งถือว่าเป็นชอตเด็ดของการเรียนปี4 เลยก็คือวิชาการสอนกิจกรรมแนะแนวในโรงเรียน ชอตเด็ดอยู่ที่อาจารย์ผู้สอนครับ ถือว่าท่านเป็นอาจารย์ที่เป็นบุคคลากรมือหนึ่งของการแนะแนวที่ผมได้เจอมา ผมขอเรียกอาจารย์ว่า อาจารย์ป้อม นะครับ ^^ ผมได้ยินชื่ออาจารย์มาจากรุ่นพี่หลายรุ่นแล้วครับ ว่าอาจารย์เป็นคนที่เป๊ะ ก็จริงอย่างที่รุ่นพี่ได้บอกกันมาครับ กล่าวคือ วิชาที่เรียนมาตั้งแต่ปี1 จนถึงปี4 อยากกลับไปเรียนใหม่เลยครับ เพราะอาจารย์ให้เขียนแผนการสอนมาส่ง แล้วอาจารย์ก็ให้นำเสนอหน้าห้อง เกือบทุกแผนเขียนได้แต่สอนให้นักเรียนเข้าใจและพัฒนาตนเองไม่ได้เลย (ต้องมาเรียนเองครับแล้วจะรู้ว่า มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ) แต่สุดท้ายแล้ว อาจารย์เป็นคนน่ารักครับ ^^ ปีสี่ผมเพิ่งผ่านไปหมาดๆนี่เองครับ
สุดท้ายนี้ผมกำลังจะขึ้นชั้นปีที่5แล้ว ก็เลยอยากรีวิวการเรียนสายการเรียนนี้บ้าง เพื่อให้บุคคลส่วนใหญ่ได้รู้ว่า เรียนครูไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดกัน
หรือ ให้ครูวิชาอื่นมาสอนแนะแนวก็ได้ ผมว่าแนะแนวมีเอกลักษณ์ในแบบของมัน เหมือนกับวิชาอื่นที่มีเอกลักษณ์ในแบบวิชานั้นๆ
ผมขอเป็นกำลังใจให้ครูแนะแนวที่กำลังฝึกสอนทุกคน ครูแนะแนวทั่วประเทศด้วยนะครับ (ผมเป็นใครเนี่ยยย ให้กำลังใจตัวเองก่อนดีไหม)
ขอบคุณครับผม
*ปล แก้ไขคำผิด
**((รีวิว))** การเรียนครู(แนะแนว) ไม่ได้เป็นกันได้ง่ายง่าย
ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเป็นนิสิตเรียนครู มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านอโศก
ที่มารีวิวการเรียนครูในวันนี้ ผมคิดมากตั้งนานแล้วครับว่าอยากจะแบ่งปันเรื่องราวการศีกษาในสายการศึกษาให้บุคคลอื่นได้ทราบ
ผมเรียนในด้านจิตวิทยาการศึกษา พูดง่ายๆก็คือ เรียนครูแนะแนวนี่แหละครับ
ผมขอข้ามช่วงสอบตรงติดเลยนะครับ ช่วงนั้นคือดีใจตามภาษาเด็ก ม.6 ที่มีที่เรียน แล้วก็มาเรียนที่นี่
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ช่วงปี1 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
เป็นการเรียนที่ใสใสมากครับ คือมีวิชาของทางมหาวิทยาลัย 5 ตัว วิชาชีพครู 1 ตัว และ วิชาเอกอีก 3 ตัว
วิชามหาวิทยาลัยก็เรียนไปเรื่อยๆ ครับ จะยากตรงวิชาชีพครูและวิชาเอก ขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ใหม่มาก ต้องท่องจำทั้งหมด เป็นภาคทฤษฎีซึ่งไม่เคยเจอในตอนเรียนช่วงมัธยมศึกษา
ปีหนี่งนี่เรียนสบายครับ เรียนน้อย ต่อยไม่หนัก ผ่านมาได้ ดีงาม ^^
ช่วงปี2 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
ประกอบด้วย วิชาของทางมหาวิทยาลัย 2 ตัว วิชาเอก 6 ตัว วิชาชีพครู 5 ตัว วิชาเลือกอีก 1 ตัว
อื้อหื้ออออออออออออ มันต่างจากปี1ลิบลับเลยครับผมมมม ทฤษฎีทางจิตวิทยา ทฤษฎีทางการศึกษามาหมด อีกทั้งต้องบูรณาการของทั้งสองทฤษฏีมาใช้ในการสอนอีกด้วย เพราะเวลาเรียนในวิชาเอก อาจารย์ในภาควิชาก็จะบอกว่า สิ่งใดควรทำบ้างเมื่อเข้าไปสอนในช่วงชั้นปีที่5 วิชาอีกวิชาหนึ่งที่เรืฃิ่มต้นตั้งแต่ปี 2 คือวิชาที่ต้องเข้าโรงเรียนครับ เป็นโรงเรียนเครือสาธิต ในปีสองนั้นจะเป็นการดูภาพรวมของทางโรงเรียนก่อนครับว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง เช่น ข้อมูลโรงเรียน บุคลากร เป็นต้น
ช่วงปีสองเริ่มแล้วครับ เริ่มที่จะท้อในการเรียนบ้าง แต่ก็ฮึดสู้ฝ่ามาได้ด้วยเอนิดหน่อยครับ ^^
ช่วงปี3 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
ประกอบด้วย วิชาของทางมหาวิทยาลัย 2 ตัว วิชาเอก 7 ตัว วิชาชีพครู 4 ตัว
เอาแล้วครับ มันต่างจากปี1 ลิบลับเลยครับ ทั้งความยากของวิชาการ ภาระงานที่เพิ่มขึ้น แต่ผมก็ยังสู้ครับ มีวิชาหนึ่งที่ถือว่ามีความสำคัญ หนึ่งในหัวใจของการแนะแนว นั่นคือ วิชาการให้คำปรึกษารายบคุคคล มันทำให้ผมเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากความทุกข์ของมนุษย์ที่พึงมี การเป็นเหมือนกระโถน ให้เขาให้ระบายความคับข้องใจ แล้วเราคอบช่วงรับฟัง และเข้าใจปัญหา พร้อมที่จะแก้ปัญหาไปด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้จากวิชานี้ครับ อีกวิชาที่เป็นเหมือนสมองของคนเรียนครู เลยก็คือ วิชาวิธีวิทยาการในการจัดการเรียนรู้ เรียกกันง่ายๆก็คือ วิชาเขียนแผนการสอน เรียกให้ง่ายไปอีกก็คือ วิชาเขียนแผน ที่แรกตั้งแต่เรียนมา ผมคิดว่า ครูอยากจะสอนอะไรก็สอนไป ให้นักเรียนอ่าน นักเรียนจดไปก็พอ แต่วิชานี้ไม่ได้สอนให้ครูทำแบบนั้น แต่ต้องมีวิธีการที่หลากหลาย ทั้งจับกลุ่ม แบ่งการสอนเป็นขั้นๆ เพื่อให้ได้แผนการสอนที่มีคุณภาพออกมาเป็นหลักฐานในการสอนของเรา เพราะเราไม่สามารถไปสอนลอยๆได้เลย วิชาต่อไปที่มีภาระงานที่หนักคือ วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษารายกรณีเบื้องต้น เรียกกันง่ายๆคือ วิชาทำCase Study เป็นวิชาที่ทำให้ผมได้รู้จักเครื่องมือแบบสอบถาม แบบประเมินต่างๆ ในการใช้กับนักเรียนที่มีปัญหา เพื่อช่วยเหลือนักเรียน วิชานี้อาจารย์ทางภาคให้ลงไปเก็บข้อมูลจากนักเรียนที่มีปัญหาจริงๆ ผ่านการประเมินจากครูประจำชั้นเบื้องต้น แล้วให้นิสิตลงไปทำ สนุกดีครับ ได้เจอนักเรียนได้ช่วยเหลือนักเรียน ปี3 ก็ยังมีวิชาที่ยังต้องเข้าโรงเรียนอยู่ครับ แต่คราวนี้ไม่ได้แค่ทำเหมือนปี 2 แต่เข้าไปเก็บชั่วโมงครับให้ครบ40ชั่วโมง แล้วแต่เลยครับว่างเมื่อไหร่ก็นักอาจารย์เข้าไป เข้าไปทำอะไร เข้าไปสังเกตการสอน ช่วยภาระงานของครูประจำชั้น ประจำวิชา นิสิตฝึกสอน เพื่อให้รู้ว่าภาระงานที่พึงทำในชั้นปีที่5มีอะไรบ้าง
ปีสามก็ผ่านไปครับ หนักขึ้น เข้มข้นขึ้น สนุกม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ช่วงปี4 *ของทั้งสองเทอมนะครับ*
ประกอบด้วย วิชาเอก 9 ตัว วิชาชีพครู 5 ตัว
คราวนี้ไม่ขอบ่นอะไรครับ แต่อยากเดินจากไปอย่างเงียบๆ มากกว่า แต่ทำไม่ได้ครับ ต้องฮึดสู้ต่อไป มาเริ่มที่วิชาเบาๆกันก่อนนะครับ นั่นคือวิชาวิธีวิทยาในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา โอ้ยย ตั้งแต่เรียนมาไม่รู้ว่าโรงเรียนต้องมีหลักสูตรเป็นของตนเองเลย นึกมีมีแค่แกนกลางมาให้แล้วก็เอาไปใช้ ซึ่งต้องช่วยกันภายในกลุ่ม แล้วร่างหลักสูตรเป็นเหมือนหุ่นขึ้นมาส่งเอง สนุกดีครับ วิชาต่อไปคือวิชาการวัดประเมินทางการศึกษา เป็นวิชาที่ช่วยให้ครูอย่างเราๆออกข้อสอบ ส่วนตัวก็คือ เห้ยยย ครูนี่ต้องมีวิธีออกข้อสอบด้วยหรืออ ไม่ใช่สักจะออกอะไรก็ออกใช่ไหม แล้วมันจะยากตรงที่ ข้อสอบแต่ละข้อนั้นนน มีคุณภาพหรือไม่ คือต้องให้ อาจารย์ตรวจสอบและให้คะแนน แล้วเอามาใช้สอบกับเพื่อนในห้อง เพื่อหาคุณภาพ โอ้ยยย กว่าจะได้ข้อสอบแต่ละชุดยากเย็น ในปี4นั้นมีวิจัยที่ต้องทำทั้งหมด 4 เล่ม แบ่งเป็นวิจัยกลุ่มเพื่อจัดสัมนา1เล่ม วิจัยเดี่ยว1เล่ม วิจัยกลุ่มในการวิจัยทางการศึกษาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนอีก2เล่ม สนุกกันไปเลยครับ 555555555555555555 ตอนเรื่องนี่ก็ยากครับไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี พอเริ่มแล้วก็เป็นเลยครับ ต้องมาเรียนเองจะรู้เทคนิคในการเลือกเรื่องที่จะมาทำ ตอนนี้ก็ผ่านมาได้แล้วครับ แล้วยังมีวิชาที่ต้องเข้าโรงเรียนเพื่อสำรวจปัญหาที่เกิดขึ้นจากโรงเรีนยนฝึกสอนของรุ่นพี่ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการเรียนการสอนเมื่อเราอยู๋ปี5ครับผม
วิชาซึ่งถือว่าเป็นชอตเด็ดของการเรียนปี4 เลยก็คือวิชาการสอนกิจกรรมแนะแนวในโรงเรียน ชอตเด็ดอยู่ที่อาจารย์ผู้สอนครับ ถือว่าท่านเป็นอาจารย์ที่เป็นบุคคลากรมือหนึ่งของการแนะแนวที่ผมได้เจอมา ผมขอเรียกอาจารย์ว่า อาจารย์ป้อม นะครับ ^^ ผมได้ยินชื่ออาจารย์มาจากรุ่นพี่หลายรุ่นแล้วครับ ว่าอาจารย์เป็นคนที่เป๊ะ ก็จริงอย่างที่รุ่นพี่ได้บอกกันมาครับ กล่าวคือ วิชาที่เรียนมาตั้งแต่ปี1 จนถึงปี4 อยากกลับไปเรียนใหม่เลยครับ เพราะอาจารย์ให้เขียนแผนการสอนมาส่ง แล้วอาจารย์ก็ให้นำเสนอหน้าห้อง เกือบทุกแผนเขียนได้แต่สอนให้นักเรียนเข้าใจและพัฒนาตนเองไม่ได้เลย (ต้องมาเรียนเองครับแล้วจะรู้ว่า มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ) แต่สุดท้ายแล้ว อาจารย์เป็นคนน่ารักครับ ^^ ปีสี่ผมเพิ่งผ่านไปหมาดๆนี่เองครับ
สุดท้ายนี้ผมกำลังจะขึ้นชั้นปีที่5แล้ว ก็เลยอยากรีวิวการเรียนสายการเรียนนี้บ้าง เพื่อให้บุคคลส่วนใหญ่ได้รู้ว่า เรียนครูไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดกัน
หรือ ให้ครูวิชาอื่นมาสอนแนะแนวก็ได้ ผมว่าแนะแนวมีเอกลักษณ์ในแบบของมัน เหมือนกับวิชาอื่นที่มีเอกลักษณ์ในแบบวิชานั้นๆ
ผมขอเป็นกำลังใจให้ครูแนะแนวที่กำลังฝึกสอนทุกคน ครูแนะแนวทั่วประเทศด้วยนะครับ (ผมเป็นใครเนี่ยยย ให้กำลังใจตัวเองก่อนดีไหม)
ขอบคุณครับผม
*ปล แก้ไขคำผิด