สวัสดีค่ะ เป็นน้องใหม่สำหรับธุรกิจค่ะ ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรมากมาย แค่อยากเล่าให้อ่านกันเกี่ยวกับสิ่งที่เจอ หลังจากขายกาแฟบนรถมาครึ่งปี หรือหกเดือนกว่า(ไม่นานเท่าไรขออภัย) ซึ่งในที่นี้จะเล่าถึงการขายของแบบรถเคลื่อนที่นะคะ (จากที่เจอมา) อยากเล่าเพราะอยากช่วยเป็นอีกหนึ่งข้อมูลสำหรับใครที่อยากจะทำ แต่จะไม่ขอลงรายละเอียดของกาแฟนะคะ (เพราะกาแฟน้ันลึกซึ้งมาก ยังไม่เก่งพอ)
การทำรถขายของเคลื่อนที่นั้นถ้าไม่พูดถึงการทำรถ ซึ่งต้องแคร์ช่างแล้ว พอทำรถเสร็จก็ถึงเวลาออกตัวเปิดขายจริงจัง สิ่งที่ต้องจัดการเกี่ยวกับรถขายของเคลื่อนที่คือ "ข้อจำกัด"
ข้อจำกัดของรถขายของเคลื่อนที่ ที่มาพร้อมกับข้อได้เปรียบเรื่องการเคลื่อนย้าย ทำให้เราต้องใส่ใจและแคร์กันหลายๆ อย่าง ซึ่งจะยกตัวอย่างดังนี้
- แคร์พื้นที่ใช้สอย โดยเฉพาะรถขายของกินที่ต้องประกอบอาหารบนรถ จะมีปัญหามากค่ะ เช่นเราที่ขายกาแฟ ทั้งเครื่องชง อุปกรณ์ เครื่องปรุง ถังน้ำแข็ง ร่มเก้าอี้ฯลฯ ทั้งนี้ถ้าจะให้ดีต้องเขียนอุกรณ์ของเราออกมา ว่าส่วนไหนวางยังไง ขนาดเท่าไร ต้องตั้งร้านจะถนัดมั้ย อันนี้ต้องให้คนทำขายจริงๆ วางแบบ จะเห็นภาพมากสุด ถนัดซ้ายขวา (แต่เอาเข้าจริงๆ ทำไปเดี๋ยวก็ชินเอง) จากนั้นก็ต้องบอกใช้ช่างเข้าใจเหมือนคนออกแบบคิดค่ะ ซึ่งถ้ามีรูปด้วยจะช่วยได้มาก (บางที่เค้าใหัช่างทำมาเลยแล้วเราก็วางแบบของที่จะใช้ทีหลัง อันนี้ไม่ว่ากัน)
- แคร์วัสดุอุปกรณ์ เนื่องจากเราต้องขับรถไปมาบ่อยๆ การกระทบกระเทือนเกิดขึ้นแน่ อุปกรณ์ควรเป็นอะไรที่ทนทาน แตกหักยาก (เราทำบิกเกอร์ชงแตกไป3 อันแล้ว ใบละสองร้อยกว่า T_T ตอนนี้ใช้พลาสติก) ที่สำคัญควรน้ำหนักเบา เพราะของในรถเรามักจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ (เชื่อได้เลยขายไปเรื่อยๆจะอยากได้นั่นนี่มาเพิ่ม) เพราะต้องมีอุปกรณ์เสริมเพื่อแก้ไขปัญหาเสมอ
- แคร์ของวัตถุดิบ การออกไปนอกสถานที่เราต้องรอบคอบเรื่องวัตถุดิบให้เพียงพอ เพราะถ้าเอาไปน้อยเกินได้ก็ของขาด เอาไปเยอะเกินก็หนักรถ จะไปหาซื้อดาบหน้าก็กลัวไม่มี (อันนี้โดนมาแล้ว เตรียมไปให้พอดีดีที่สุด) แม้แต่น้ำแข็งใช่ว่าทุกที่จะมี (เคยไปลองขายตลาดนัด น้ำแข็งหลอดเล็กไม่มีเลยต้องใช้แบบอื่น)
- แคร์แหล่งพลังงาน ถ้าเราต้องใช้ไฟอันนี้เป็นปัญหาอยู่ อาจต้องต่อไฟตรงจากสถานที่ที่เราจอด หรือถ้าใช้ไฟไม่มากก็อาจใช้อุปกรณ์ปั่นไฟน่นนี้ช่วยได้ แหล่งนำ้ก็สำคัญ ถ้าไม่มีล้างของก็ยุ่งอีก อย่างว่าเตรียมไปเองดีสุดค่ะ
- แคร์ทำเล อันนี้เป็นเรื่องปกติที่ทำธุรกิจ ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่งเนาะ ขายของบนรถต้องแคร์ทำเลเช่นกัน แต่ดีกว่าหน่อยที่ย้ายที่ได้ ปรับมุมน่นนี่ ถ้าเป็นร้านจะย้ายก็ยากแต่ถ้าเป็นรถก็เก็บๆ ไปตั้งเลย จะได้เปรียบตรงนี้ แต่อย่าลืมนึกถึงว่าถ้าย้ายบ่อยเกินลูกค้าก็จะหาเราไม่เจออีก ต้องระวังและกระจายข่าวให้ดีนะคะ
- แคร์ลมฟ้าอากาศ อันนี้ปัญหาใหญ่สุด ไม่รู้จะแก้ยังไง ได้แต่ป้องกันเป็นเคสๆไป ถ้าฝนตกปักตะไคร้ก็แล้ว ทำตุ๊กตาไล่ฝนก็แล้ว สุดท้ายถ้ามาหนักๆ ก็ต้องเก็บค่ะ แดดจัดก็ร้อน พัดลมก็เอาไม่อยู่ค่ะ หาร่มมาเพิ่มก็พอช่วยได้นึดนึง แต่พอลมมาแรงๆก็ต้องหาที่ยึดดีๆค่ะ เสียวๆ ทุกวัน อันนี้ต้องทำใจรับ
จบแล้วค่ะ ที่มาเล่านี่ออกแนวบ่นๆ แต่ก็อยากให้ข้อมูลกับใครก็ตามที่กำลังอยากทำรถขายของ เผื่อพอจะช่วยในการรับมือและการตัดสินใจต่างๆได้ง่ายขึ้น (ไม่รู้ช่วยได้เปล่า)
ส่วนใครที่กำลังมีคำถามว่า ทำแล้วจะรอดมั้ย ขายดีหรือเปล่านั้น มันอยู่ที่ตัวเราและสิ่งต่างๆ ที่เล่ามาค่ะ (เพราะงี้ถึงต้องหาทางหนีทีไล่ไว้)
ทำอะไรอย่ากลัวค่ะ ศึกษาข้อมูลดีๆ รักมันมากๆ *สร้างสรรค์สไตล์ของเรา* ทุ่มเทและรักษาคุณภาพ รับรองไม่เจ๊งแน่ค่ะ แต่อาจจะเหนื่อยมากหน่อยเพราะไม่มีอะไรเรียบรื่นเสมอค่ะ ถ้าผ่านได้ก็วิน! ถ้าผ่านไม่ได้ก็วูบ! แค่นั้น แม้ว่าที่ทำอยู่นี่ก็ยังพูดว่าประสบณ์ความสำเร็จไม่ได้ แต่ก็พร้อมจะลุยให้ถึงที่สุด (มันไม่มีอะไรง่าย ต้องเข้าใจจุดนี้) แม้มันจะเหนื่อยกว่าที่เคย แต่ก็สนุกกว่าที่คิดนะคะ
ปล.ท่านใดมีคำแนะนำเพิ่มเติม แนะนำได้เลยค่ะ อยากได้คำแนะนำจากผู้รู้มากๆ ยินดีมากๆ
ขอบคุณค่ะ
ทำร้านกาแฟบนรถ ใครบอกว่าไม่ต้องแคร์อะไร มาดูกันว่าต้องแคร์อะไรบ้าง
การทำรถขายของเคลื่อนที่นั้นถ้าไม่พูดถึงการทำรถ ซึ่งต้องแคร์ช่างแล้ว พอทำรถเสร็จก็ถึงเวลาออกตัวเปิดขายจริงจัง สิ่งที่ต้องจัดการเกี่ยวกับรถขายของเคลื่อนที่คือ "ข้อจำกัด"
ข้อจำกัดของรถขายของเคลื่อนที่ ที่มาพร้อมกับข้อได้เปรียบเรื่องการเคลื่อนย้าย ทำให้เราต้องใส่ใจและแคร์กันหลายๆ อย่าง ซึ่งจะยกตัวอย่างดังนี้
- แคร์พื้นที่ใช้สอย โดยเฉพาะรถขายของกินที่ต้องประกอบอาหารบนรถ จะมีปัญหามากค่ะ เช่นเราที่ขายกาแฟ ทั้งเครื่องชง อุปกรณ์ เครื่องปรุง ถังน้ำแข็ง ร่มเก้าอี้ฯลฯ ทั้งนี้ถ้าจะให้ดีต้องเขียนอุกรณ์ของเราออกมา ว่าส่วนไหนวางยังไง ขนาดเท่าไร ต้องตั้งร้านจะถนัดมั้ย อันนี้ต้องให้คนทำขายจริงๆ วางแบบ จะเห็นภาพมากสุด ถนัดซ้ายขวา (แต่เอาเข้าจริงๆ ทำไปเดี๋ยวก็ชินเอง) จากนั้นก็ต้องบอกใช้ช่างเข้าใจเหมือนคนออกแบบคิดค่ะ ซึ่งถ้ามีรูปด้วยจะช่วยได้มาก (บางที่เค้าใหัช่างทำมาเลยแล้วเราก็วางแบบของที่จะใช้ทีหลัง อันนี้ไม่ว่ากัน)
- แคร์วัสดุอุปกรณ์ เนื่องจากเราต้องขับรถไปมาบ่อยๆ การกระทบกระเทือนเกิดขึ้นแน่ อุปกรณ์ควรเป็นอะไรที่ทนทาน แตกหักยาก (เราทำบิกเกอร์ชงแตกไป3 อันแล้ว ใบละสองร้อยกว่า T_T ตอนนี้ใช้พลาสติก) ที่สำคัญควรน้ำหนักเบา เพราะของในรถเรามักจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ (เชื่อได้เลยขายไปเรื่อยๆจะอยากได้นั่นนี่มาเพิ่ม) เพราะต้องมีอุปกรณ์เสริมเพื่อแก้ไขปัญหาเสมอ
- แคร์ของวัตถุดิบ การออกไปนอกสถานที่เราต้องรอบคอบเรื่องวัตถุดิบให้เพียงพอ เพราะถ้าเอาไปน้อยเกินได้ก็ของขาด เอาไปเยอะเกินก็หนักรถ จะไปหาซื้อดาบหน้าก็กลัวไม่มี (อันนี้โดนมาแล้ว เตรียมไปให้พอดีดีที่สุด) แม้แต่น้ำแข็งใช่ว่าทุกที่จะมี (เคยไปลองขายตลาดนัด น้ำแข็งหลอดเล็กไม่มีเลยต้องใช้แบบอื่น)
- แคร์แหล่งพลังงาน ถ้าเราต้องใช้ไฟอันนี้เป็นปัญหาอยู่ อาจต้องต่อไฟตรงจากสถานที่ที่เราจอด หรือถ้าใช้ไฟไม่มากก็อาจใช้อุปกรณ์ปั่นไฟน่นนี้ช่วยได้ แหล่งนำ้ก็สำคัญ ถ้าไม่มีล้างของก็ยุ่งอีก อย่างว่าเตรียมไปเองดีสุดค่ะ
- แคร์ทำเล อันนี้เป็นเรื่องปกติที่ทำธุรกิจ ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่งเนาะ ขายของบนรถต้องแคร์ทำเลเช่นกัน แต่ดีกว่าหน่อยที่ย้ายที่ได้ ปรับมุมน่นนี่ ถ้าเป็นร้านจะย้ายก็ยากแต่ถ้าเป็นรถก็เก็บๆ ไปตั้งเลย จะได้เปรียบตรงนี้ แต่อย่าลืมนึกถึงว่าถ้าย้ายบ่อยเกินลูกค้าก็จะหาเราไม่เจออีก ต้องระวังและกระจายข่าวให้ดีนะคะ
- แคร์ลมฟ้าอากาศ อันนี้ปัญหาใหญ่สุด ไม่รู้จะแก้ยังไง ได้แต่ป้องกันเป็นเคสๆไป ถ้าฝนตกปักตะไคร้ก็แล้ว ทำตุ๊กตาไล่ฝนก็แล้ว สุดท้ายถ้ามาหนักๆ ก็ต้องเก็บค่ะ แดดจัดก็ร้อน พัดลมก็เอาไม่อยู่ค่ะ หาร่มมาเพิ่มก็พอช่วยได้นึดนึง แต่พอลมมาแรงๆก็ต้องหาที่ยึดดีๆค่ะ เสียวๆ ทุกวัน อันนี้ต้องทำใจรับ
จบแล้วค่ะ ที่มาเล่านี่ออกแนวบ่นๆ แต่ก็อยากให้ข้อมูลกับใครก็ตามที่กำลังอยากทำรถขายของ เผื่อพอจะช่วยในการรับมือและการตัดสินใจต่างๆได้ง่ายขึ้น (ไม่รู้ช่วยได้เปล่า)
ส่วนใครที่กำลังมีคำถามว่า ทำแล้วจะรอดมั้ย ขายดีหรือเปล่านั้น มันอยู่ที่ตัวเราและสิ่งต่างๆ ที่เล่ามาค่ะ (เพราะงี้ถึงต้องหาทางหนีทีไล่ไว้)
ทำอะไรอย่ากลัวค่ะ ศึกษาข้อมูลดีๆ รักมันมากๆ *สร้างสรรค์สไตล์ของเรา* ทุ่มเทและรักษาคุณภาพ รับรองไม่เจ๊งแน่ค่ะ แต่อาจจะเหนื่อยมากหน่อยเพราะไม่มีอะไรเรียบรื่นเสมอค่ะ ถ้าผ่านได้ก็วิน! ถ้าผ่านไม่ได้ก็วูบ! แค่นั้น แม้ว่าที่ทำอยู่นี่ก็ยังพูดว่าประสบณ์ความสำเร็จไม่ได้ แต่ก็พร้อมจะลุยให้ถึงที่สุด (มันไม่มีอะไรง่าย ต้องเข้าใจจุดนี้) แม้มันจะเหนื่อยกว่าที่เคย แต่ก็สนุกกว่าที่คิดนะคะ
ปล.ท่านใดมีคำแนะนำเพิ่มเติม แนะนำได้เลยค่ะ อยากได้คำแนะนำจากผู้รู้มากๆ ยินดีมากๆ
ขอบคุณค่ะ