บางทีผมก็ไม่เข้าใจความคิดของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการจราจร หรือบางทีสมองผมอาจจะผิดเพี้นก็ได้นะครับ แต่สิ่งที่ผมเห็นมันก็แปลกๆ เช่น

- ช่วงนี้มีอุบัติเหตุใหญ่ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่าง จักรยาน กับรถยนต์หลายครั้ง สร้างความสูญเสียก็มาก แต่ ข่าวที่ผมได้รับกลับมีแต่มาตรการใหม่ๆ ในการควบคุมการใช้จักรยาน เช่น ทำใบขับขี่ ห้ามเด็กอายุ 13 ขี่จักรยาน ล่าสุดก็ให้กวดขันจับกุมจักรยาน ที่ใส่เครื่องป้องกันไม่ครบ (ผมไม่รู้ว่าจักรยานมีกฏหมายว่าด้วยเรื่องหมวกกันน็อคด้วยหรือเปล่า) ส่วนควบไม่ครบ ขับขี่ไม่ชิดซ้าย  มันทำให้ผมงง และสับสนพอสมควร เพรราะจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมา จักรยานที่ได้รับผลกระทบล้วนแต่ ขี่ชิดซ้าย อยู่เลนซ้าย แล้วก็โดนรถยนต์ที่แซงซ้ายบนไหล่ทางชนบ้าง เมาแล้วขับชนบ้าง ขับแล้วโทรชนบ้าง  คือ ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำใมตำรวจไม่เข้มงวดกวดขันรถยนต์บ้าง อย่างพวกแซงไหล่ทางนี่ เยอะจนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการขับรถของคนไทย ที่ไหล่ทางซ้ายว่างเมื่อไหร่เป็นต้องแซง การเมาแล้วขับ ก็มีด่านตรวจน้อยมาก ขับแล้วโทร ก็ไม่เห็นจะจับกันแล้ว

- เรื่องการขับขี่ตามกฏจาจร อย่างที่ว่า ผมไม่ค่อยเห็นด่านไหนจะเรียกจับรถยนต์สักเท่าไหร่ เห็นเรียกแต่มอเตอร์ไซค์ กับกระบะบรรทุกของ ทุกๆ วันที่ผมออกจากบ้านต้องเจอรถยนต์ เปิดเลนพิเศษวิ่งไหล่ทาง รอปาดรอเบียดตรงทางแยก เลี้ยวทั้งๆ ที่อยู่เลนตรง คือเจอเป็นเรื่องปกติเลย ตำรวจก็อยู่แต่ไม่เคยเห็นจับ ไม่สนใจ พักหลังๆ ก็เห็นมอไซค์ผ่าไฟแดงกันมากขึ้น ก็ไม่เห็นมีใครใส่ใจ สรุปว่าบ้านเมืองนี้ยังมีกฏจราจรกันอยู่ไหม บางทีผมก็งง

- เรื่องที่ผมเห็นว่าน่าตลกอีกเรื่องก็คือ ป้ายเตือนว่ามีกล้องจับความเร็ว  ผมก็สงสัยว่าทำใมต้องมี อะไรจะต้องปกป้องกันขนาดต้องมีป้ายเตือนกันเลยเหรอว่าข้างหน้ามีกล้อง ไหนๆ ก็จะจับคนที่ขับรถเร็วแล้ว ทำใมต้องชี้โพรงกันด้วยครับ ทีด่านคอยจับมอไซค์ จับรถบรรทุก ไม่เห็นมีป้ายเตือนกันบ้างว่าข้างหน้ามีด่านนะ ชิดซ้ายกันนะ

หรือว่าผมคิดไปเองครับ