เห็นกระแส Mad Max : Fury Road แล้วสงสารหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันที
ดันมาเข้าโรงชนกับหนังดี + กระแสดีอีกเรื่องซะอีก จะรอดไหมเนี่ย...

ทีแรกไม่ได้รู้จักมักจี่หนังเรื่องนี้กับเค้าเล้ยยย เห็นอีกที อ้าว ภาคสองนี่นา... ภาคหนึ่งเป็นไงก็ไม่รู้จัก แถมตัวเองยังไม่ค่อยถูกจริตกับหนังประเภทล่าฝันอะไรแบบนี้ซะอีก (มันจัดเข้าพวกหนังล่าฝันป่าวหว่า แฮะๆ ไอ้เราก็ไม่ใช่นักดูหนังเสียด้วย)

เปิดเรื่องมาด้วยความที่แบบ... เห้ย นี่บทหรือว่าอะไร ความเป็นเหตุเป็นผลอยู่ตรงไหน คิดพล็อตกันง่ายๆ ยังงี้เลยหรอ แต่พอดูๆ ไป ด้วยฝีมือนักแสดง ด้วยจังหวะจะโคน ด้วยมุกตลกที่ใส่เข้ามา (เน้นที่มุกตลก เราชอบมากกก ฮาแบบฮากระจาย) มันทำให้เราลืมไอ้บทที่เราบ่นๆ ในใจไปซะสนิทเลย ยิ่งดูยิ่งสนุก แถมพอไปถึงฉากซึ้งก็ซึ้งใจหายพอให้น้ำตาซึมๆ ได้เหมือนกันนะ

สำหรับเรา เนื้อเรื่องก็งั้นๆ ดูไปจนจบก็ไม่ได้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันมีอะไรให้ลุ้นมากมาย แต่ระหว่างทางนี่ทำให้มีความสุขได้ตลอดทั้งเรื่อง ไม่ทันได้คิดเลยว่าเนื้อเรื่องมันไปถึงไหนแล้ว ใกล้จะพีคหรือยัง เพราะมันดูเพลิน ดูสนุก ขำจนเหนื่อย (บางคนอาจไม่ขำเท่าเราก็ได้นะ 555 พอดีดูในโรงคนเยอะเหมือนกัน แล้วเค้าก็ขำกันทั้งโรง เวลาเราดูหนังที่คนขำทั้งโรงเนี่ย มันทำให้ตลกขึ้นมาได้อีก 45.68% เลย) แล้วอีกอย่างคือเค้าเรียกว่าอะไรนะ performance ปะ (โง่อีกละตรู) พวกการแสดงอะไรแบบนี้ โอยย ดีมากอะ ดูแล้วเพลินสุดๆๆๆ

ไปดูกันเถอะๆ ถ้าคุณอยากผ่อนคลายสมอง ไม่ต้องคิดอะไรมาก แล้วจะรักบาร์เดน เบลล่าส์ แล้วจะรักหนังเรื่องนี้เหมือนเรา

ปล.ที่จริงอยากเชียร์มากกว่านี้เยอะๆ นะ แต่พอดีไปดูแบบ SR มา เดี๋ยวเค้าหาว่าเป็นม้า 5555 ชอบจริงๆ นะเออ
ปล.2 หนังจบแล้วมีฉากพิเศษต่ออีกหน่อยนะคะ อย่าเพิ่งลุกไปไหน ฮากระจายคุ้มที่รอดู