เมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา วันที่ 1 – 5 พ.ค. 58 เรามีวันพักผ่อนขนาดนี้เลยคิดว่าจะไปไหนดีนะ มีโจทย์ว่าหน้าร้อนก็ต้องเป็นทะเลสินะ หลังจากตกลงกับผู้ร่วมทริปได้ก็เลือกเป้าหมายที่จะไปนั่นคือ ‘ เกาะหมาก ‘ จังหวัดตราดค่า เราเริ่มต้นการเดินทางกันเลยนะคะ ต้นทางจากหมอชิตค่ะ เราจองตั๋วกันผ่านเว็บไวต์ของบขส. ( www.busticket.in.th ) เพราะเรากับแฟนอยู่ต่างจังหวัดแถมอยู่คนละจังหวัดอีกค่ะ จึงเลือกช่องทางนี้สะดวกสุดๆ แต่จองแล้วต้องไปจ่ายเงินค่าตั๋วผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสภายในเวลา 24.00 น.ของวันที่จองนะคะ ไม่งั้นระบบจะไม่ทำการจองให้ค่ะ เราจองกันวันที่ 30 เม.ย. 58 รถออกเวลา 22.00 น. พอเราจ่ายตังค์ค่าตั๋วแล้วจะได้ใบเสร็จมาจากเคาน์เตอร์เซอร์วิส เราจ่ายที่ 7-11 นะคะ และพอมาถึงหมอชิต ก็นำใบเสร็จนั้นไปรับตั๋วที่ประชาสัมพันธ์นะคะ เดินทางกับ บขส.รถ ป.1 ราคาตั๋วคนละ 261 นะคะนั่งสบายค่ะ 38 ที่นั่ง ไม่อึดอัดค่ะ เดินทางปลอดภัยหลับสนิทตลอดคืน ใช้เลาเดินทาง 5 ชม. ถึงสถานีขนส่งตราดเวลา 03.00 น. เป๊ะเลยค่า
แล้วเราก็นั่งรอเวลา กะว่าจะรอเช้าก่อนค่อยไปต่อแต่พอมีคุณลุงเดินมาถามว่าไปเกาะไหน ไปขึ้นเรือที่สะพานแหลมงอบใช่ไหม ค่าโดยสารรถสองแถวคนละ 70 บาท( แต่ปกติราคา 50 บาทนะคะ สงสัยเป็นเวลากลางคืนลุงคิดค่าไฟทางค่า อิอิ ) เราก็ตกลงไปทันทีเลยค่า ใช้เวลาไม่นานค่ะ 30 นาทีเราก็ถึง ท่าเรือกรมหลวงชุมพรค่ะ ( เวลาที่เรามาถึง คือ 04.33 น.)
แต่รีสอทร์ที่เราจะพักจองเรือไว้ให้รอบแรกตอนเวลา 09.00 น. เรา 2 คนเลยต้องรอเวลาให้เช้ากว่านี้และค่อยเดินไปขึ้นเรือสปีดโบ๊ทของลีลาวดี ที่สะพานแหลมงอบนะคะ ระหว่างนี้เราก็ถ่ายรูปเล่นรอเวลาค่ะ
และพอจะเริ่มเช้าเราก็เริ่มจะหิวแล้วค่ะ มื้อแรกของวันก็กินตรงจุดที่เราลงรถโดยสารนี่แหละค่ะ อาหารก็ไม่แพงนะคะ มื้อนี้ กับข้าว 2 อย่าง ข้าวเปล่า 2 จาน และก็มีเบียร์เย็นๆอีก 1 กระป๋องค่ะ รวมแล้วราคา 270 บาทค่ะ อิ่มเลยล่ะ
มีแรงเดินทางต่อค่ะ เดินไปที่สะพานแหลมงอบกันค่ะ ไปนั่งรอเรือดีกว่า ( เวลานี้ 06.30 น. ) ยังเช้าอยู่ดี
และเราก็ได้เวลาทำการของเรือลีลาวดี มีเจ้าหน้าที่มาจัดเตรียมเรียกคิวกับคนที่มายืนรอ ถ้าใครจองมาแล้วก็บอกชื่อกับรีสอร์ทที่พัก และก็จะได้ตั๋วขึ้นเรือพร้อมบัตรคิวเรียกขึ้นเรือนะคะ และถ้าใครอยากติดต่อจองเรือเองหรือสอบถามเที่ยวเรือของลีลาวดีสปีดโบ๊ท โทรไปที่เบอร์ 081-8993006 และ 089-1569648 คุณเก่งนะคะ (ค่าเรือไปกลับคนละ 900 บาทค่ะ)
ใช้เวลาในการเดินทางบนเรือประมาณ 1 ชม.นะคะ และแล้วเราก็มาถึงท่าเรือ ของมะกะธานีรีสอร์ท เป็นจุดจอดเรือให้ทุกคนลงที่นี่ แล้วจะมีคนจากรีสอทร์ที่เราพักมารับค่ะ เราพักที่ เกาะหมากกรีนวิวรีสอทร์ค่ะ
เราใช้เวลาในวันแรกที่มาถึงที่พักคือหลับค่ะ 555 เก็บแรงไว้เล่นน้ำตอนเย็นค่ะ และแล้วเราก็ถึงห้องพักของเรา เราเลือกเป็นห้องพัดลมนะคะ เป็นบังกะโลหลังเล็ก นอนได้ 2 คนพอดีค่ะ จุดเด่นที่พักของ เกาะหมากกรีนวิวรีสอร์ทนี้ เราว่าเป็นที่ๆเหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวาย เงียบสงบมากจริง มีหาดด้านหน้าห้องพักเลย เดินไม่ถึง 2 นาทีก็เล่นน้ำทะเลได้เลยค่ะ แต่ที่เกาะหมากจะมีหินเยอะนะคะ หาดทรายขาวๆไม่มี แต่เรื่องน้ำทะเลใสๆนี่ไม่มีผิดหวังเลยค่ะ
พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้วค่ะ พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาดูชีวิตช้าๆบนเกาะกันนะคะ เราเที่ยวกันแบบโลว์คาร์บอนเลยค่ะ ไร้มลพิษ กิจกรรมของเรา 2 คน ก็มีพายเรือคายัค ดำน้ำตื้น และเดินเล่นบริเวณไม่ไกลจากที่พักมากนะคะ เราอยากมาเที่ยวแบบส่วนตัวกันค่ะ เหมือนทั้งเกาะมีแค่เรา 2 คน แต่จริงๆแล้วคนเยอะแยะเลยค่ะ 55 ( รายละเอียดค่าใช้จ่ายจะอยู่เลื่อนๆไปอยู่ด้านล่างนะคะ ) ดูรูปไปพลางๆ ก่อนนะคะ ส่วนใหญ่ใช้กล้อง Gopro Hero 2 ถ่ายนะคะ แต่จะมีรูปจากกล้องโทรศัพท์ SS บ้างนิดหน่อยค่ะ ถ่ายรูปออกมาอาจไม่สวยมากแต่บอกเลยว่าต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองค่ะจะไม่ผิดหวังเลยจริงๆ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเรา และก็เป็นทริปแรกของเรากับแฟนเลยที่ไปได้เที่ยวทะเลด้วยกันรูปคู่อาจเยอะไปหน่อยนะคะ กำลังมีความรักค่ะ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
วันที่ 2 ของเราบนเกาะหมาก เราเลือกที่จะเดินลุยน้ำทะเลไปรีสอร์ทข้างๆ คือ Cinanmon Resort and spa เดินไปมองน้ำทะเลใสๆไป ถึงแดดจะร้อน น้ำทะเลก้ร้อน แต่ไหนๆก็มาล่ะ ยอมค่ะ
ทางรีสอร์ทที่เราพัก กรีนวิวรีสอร์ท มีเรือคายัค กับแว่นดำน้ำตื้นให้บริการฟรีนะคะ แต่เราพกแว่นตาว่ายน้ำมาเองค่ะ สะดวกดีเหมือนกันค่ะ แต่ถ่ายรูปมาจะเหมือนอยู่ในสระว่ายน้ำแทนที่จะอยู่ทะเลนะคะ 55 และแล้วก็หมดไปอีกวันบนเกาะหมากค่ะ เดินกลับมาถึงกรีนวิวรีสอร์หิ๊วหิวค่ะ กินข้าวกันค่าจะได้ไปนอนพักเอาแรงต่อพรุ่งนี้มีอะไรรอเราอยู่อีกนะ ( อาหารจานเดียวแบบนี้ จานละ 80 บาทนะคะ มื้อนี้ 2 จาน ก็ 160 บาทค่ะ )
จานนี้แนะนำค่ะ เป็นสัปปะรดที่ปลูกบนเกาะหมากนำมาชุบแป้งทอด กินกับน้ำจิ้มบ๊วย แต่เราว่าไม่จิ้มก็อร่อยแล้วค่ะ สัปปะรดหวานมากค่ะ แถมไม่มีคาร์บอนไดออกไซค์เลยชาวบ้านที่นี่ปลูกกันเองค่ะ (จานละ 70 บ.ค่ะ)
ตื่นเร็วววเช้าวันที่3 แล้วค่า เวลาผ่านไปไวมาก วันนี้เราจะทำไรกันดีนะหลังจากกินข้าวเช้าอิ่ม นอนเล่นบนเปลหน้าห้องพัก ลมทะเลพัดเอื่อย ๆ ชวนหลับมาก คิดออกล่ะเดินไปทางซ้ายของรีสอร์ทดีกว่า แอบเห็นมีหาดลิบๆ อยู่จะมีอะไรนะต้องไปดูด้วยตาตัวเอง ดูเวลา 11.00 น. ไม่มีกลัวดำค่ะเดินกันเลย
เจอหาดทรายค่ะ หลังจากที่เดินผ่านดงก้อนหินมา หู้ยยยย .. ดีใจค่ะ มีร่มไม้ให้แวะพักหลบร้อนด้วยนะคะ
พอเหนื่อยเราก็หิวค่ะ กลับรีสอร์ทไปหาข้าวกินดีกว่า รอตอนเย็นออกมานั่งรับลมบนสะพานค่ะ เกือบได้เห็นทะเลตอนฝนตกค่ะ แต่ก็อด ลมแรงพัดฝนไปหมดเลยค่ะ
เวลาแห่งความสุขผ่านไปไวเหลือเกิน เลือกวันอีก 1 วันพรุ่งนี้เรามีภารกิจค่ะ ตามหาเรือแบลคเพิลร์กัน ^^ เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ไปกันเลยค่า คุณแฟนใจดีพาพายเรือคายัคไปแต่เช้า เรากลับไป Cinanmon Resort and spa เพราะเราไปสำรวจมาแล้วรอบนึง เห็นเรือจอดอยู่ลิบๆ แฟนเราเลยอยากจะขึ้นไปถ่ายรูปเท่ห์ๆ ซะหน่อย เลยตั้งชื่อกันว่า เรือแบลคเพิลร์ ^^
Mission Complete
ในที่สุดก็ขึ้นเรือได้สมใจและค่า เจอแต่เรือไม่มีโจรสลัดนะคะ ^^ และทำอะไรต่อดี มองไปทางขวาก็จะเห็นเกาะกระดาดอยู่ไม่ไกลมาก แต่เราไม่ได้ใส่ชูชีพเลยไม่เสี่ยงดีกว่าค่ะ ส่วนใครที่อยากไปเกาะกระดาดจะต้องเสียค่าขึ้นเกาะด้วยนะคะ เพราะเป็นเกาะส่วนตัว ( สอบถามจากรีสอร์ทที่เราพักบอกว่ามีกวางตัวเป็นๆด้วยนะคะ/แต่เราไม่ไปค่ะ555 ) ก็เลยพายเรือไปต่อ น้ำก็เริ่มลึกขึ้น และก็ใสมากเลยค่ะ เราเลยลองดำน้ำแถวนี้ดูเพื่อจะเจอปลาบ้างนะคะ
ได้เจอปลาจริงๆค่ะ กลุ่มปลาน้อย และปลาดาว ตื่นเต้นๆๆ
เห็นหาดลิบ ๆ คุณแฟนอาสาพาไปดูค่า พายเรือไปกันเล๊ยย
แถวนี้น้ำใสมากเลยค่ะ ไม่มีหินเยอะ แถมมีหาดอีกตะหาก ( แต่ก็ไม่ใช่ทรายละเอียดนะคะ )
พระอาทิตย์จะตกแล้ว เราเลยพายเรือกลับ แวะเล่นที่กระโดดและสไดเดอร์กลางน้ำ ตรง Cinnamon Resort ถ่ายรูปอีกล้านแปดค่ะ
สะพานสู่ฝัน ในที่สุดก็ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ทะเลตราดสวยและเงียบสงบดีมากค่ะ เดทแรกของเรากับแฟนมีความสุขมากจริงๆ ลองมาเที่ยวกันนะคะ ทะเลไทยเที่ยวยังไงก็ไม่เบื่อค่ะ
ตื่นเช้ามาเตรียมตัวเดินทางกลับค่ะ ออกจากรีสอร์ทและไปขึ้นเรือให้ทัน รอบ 8.00 น. ที่ท่าเรือมะกะธานี นั่งรถสองแถวจากแหลมงอบไปถึงสถานีขนส่งตราด ขากลับเราซื้อตั๋วของเชิดชัยทัวร์กลับกรุงเทพ เราไม่แนะนำนะคะถ้าใครรีบ เชิดชัยจอดทุกป้ายเลยค่ะ สำหรับเราขึ้นทีเดียวพอค่ะ เรากับแฟนเกือบไม่ทันรถกลับต่างจังหวัดกันเลย เราแนะนำ บขส.นะคะ เวลาเป๊ะ รถใหม่ ไม่มีจอดรายทางค่ะ
สุดท้ายนี้เราอยากขอบคุณ เจ้าของรีสอร์ทที่เราพักค่ะ เกาะหมากกรีนวิวรีสอร์ทค่ะ วันแรกที่เรามาถึงเราเกิดอาการตาแดงอย่างรุนแรง เพราะเราใส่คอนแทคมาทั้งวัน และนอนหลับไปด้วยความเพลีย ตื่นมาเล่นน้ำตาต่อได้เรื่องเลยค่ะ คุณแอม และ คุณแอ๊ด ได้แสดงความน่ารักกับเรามาก ๆ จะพาไปอนามัย แต่เพื่อความสะดวกรวดเร็ว คุณแอ๊ดขับรถออกจากรีสอร์ทพาไปร้านยาเลย โดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเลยด้วยค่ะ ขอบคุณในน้ำใจและความเป็นกันเองที่ดูแลกันเหมือนครอบครัวจริง ๆค่ะ ถ้ามีโอกาสจะแวะไปพักที่ เกาะหมากกรีนวิวอีกแน่นอนค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด 5 วัน 4 คืนนะคะ ( 2 คนนะคะ )
ค่าตั๋วรถจาก หมอชิต – ตราด ไปกลับ 558 , 508 บาท
ค่ารถสองแถว ตราด – แหลมงอบ ไปกลับ 140 ,100 บาท
ค่าเรือสปีดโบ๊ท ไปกลับ 1,800 บาท
ค่าที่พัก 4 คืน 2,000 บาท
ค่าอาหารที่เกาะหมากกรีนวิว 3,000 บาท
ค่าอาหารระหว่างเดินทาง 270 , 90 บาท
( ค่ารถไปหมอชิตของเรากับแฟน 810 บาท )
รวมทั้งหมด 9,276 บาท ( หาร 2 ก็คนละ 4,638 บาท )
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ อย่าลืมหาเวลาให้ตัวเองไปเที่ยวบ้างนะคะ
[CR] ใช้ชีวิตช้าๆที่เกาะหมาก 5 วัน 4 คืน กับงบน่ารักๆ
แล้วเราก็นั่งรอเวลา กะว่าจะรอเช้าก่อนค่อยไปต่อแต่พอมีคุณลุงเดินมาถามว่าไปเกาะไหน ไปขึ้นเรือที่สะพานแหลมงอบใช่ไหม ค่าโดยสารรถสองแถวคนละ 70 บาท( แต่ปกติราคา 50 บาทนะคะ สงสัยเป็นเวลากลางคืนลุงคิดค่าไฟทางค่า อิอิ ) เราก็ตกลงไปทันทีเลยค่า ใช้เวลาไม่นานค่ะ 30 นาทีเราก็ถึง ท่าเรือกรมหลวงชุมพรค่ะ ( เวลาที่เรามาถึง คือ 04.33 น.)
แต่รีสอทร์ที่เราจะพักจองเรือไว้ให้รอบแรกตอนเวลา 09.00 น. เรา 2 คนเลยต้องรอเวลาให้เช้ากว่านี้และค่อยเดินไปขึ้นเรือสปีดโบ๊ทของลีลาวดี ที่สะพานแหลมงอบนะคะ ระหว่างนี้เราก็ถ่ายรูปเล่นรอเวลาค่ะ
และพอจะเริ่มเช้าเราก็เริ่มจะหิวแล้วค่ะ มื้อแรกของวันก็กินตรงจุดที่เราลงรถโดยสารนี่แหละค่ะ อาหารก็ไม่แพงนะคะ มื้อนี้ กับข้าว 2 อย่าง ข้าวเปล่า 2 จาน และก็มีเบียร์เย็นๆอีก 1 กระป๋องค่ะ รวมแล้วราคา 270 บาทค่ะ อิ่มเลยล่ะ
มีแรงเดินทางต่อค่ะ เดินไปที่สะพานแหลมงอบกันค่ะ ไปนั่งรอเรือดีกว่า ( เวลานี้ 06.30 น. ) ยังเช้าอยู่ดี
และเราก็ได้เวลาทำการของเรือลีลาวดี มีเจ้าหน้าที่มาจัดเตรียมเรียกคิวกับคนที่มายืนรอ ถ้าใครจองมาแล้วก็บอกชื่อกับรีสอร์ทที่พัก และก็จะได้ตั๋วขึ้นเรือพร้อมบัตรคิวเรียกขึ้นเรือนะคะ และถ้าใครอยากติดต่อจองเรือเองหรือสอบถามเที่ยวเรือของลีลาวดีสปีดโบ๊ท โทรไปที่เบอร์ 081-8993006 และ 089-1569648 คุณเก่งนะคะ (ค่าเรือไปกลับคนละ 900 บาทค่ะ)
ใช้เวลาในการเดินทางบนเรือประมาณ 1 ชม.นะคะ และแล้วเราก็มาถึงท่าเรือ ของมะกะธานีรีสอร์ท เป็นจุดจอดเรือให้ทุกคนลงที่นี่ แล้วจะมีคนจากรีสอทร์ที่เราพักมารับค่ะ เราพักที่ เกาะหมากกรีนวิวรีสอทร์ค่ะ
เราใช้เวลาในวันแรกที่มาถึงที่พักคือหลับค่ะ 555 เก็บแรงไว้เล่นน้ำตอนเย็นค่ะ และแล้วเราก็ถึงห้องพักของเรา เราเลือกเป็นห้องพัดลมนะคะ เป็นบังกะโลหลังเล็ก นอนได้ 2 คนพอดีค่ะ จุดเด่นที่พักของ เกาะหมากกรีนวิวรีสอร์ทนี้ เราว่าเป็นที่ๆเหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวาย เงียบสงบมากจริง มีหาดด้านหน้าห้องพักเลย เดินไม่ถึง 2 นาทีก็เล่นน้ำทะเลได้เลยค่ะ แต่ที่เกาะหมากจะมีหินเยอะนะคะ หาดทรายขาวๆไม่มี แต่เรื่องน้ำทะเลใสๆนี่ไม่มีผิดหวังเลยค่ะ
พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้วค่ะ พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาดูชีวิตช้าๆบนเกาะกันนะคะ เราเที่ยวกันแบบโลว์คาร์บอนเลยค่ะ ไร้มลพิษ กิจกรรมของเรา 2 คน ก็มีพายเรือคายัค ดำน้ำตื้น และเดินเล่นบริเวณไม่ไกลจากที่พักมากนะคะ เราอยากมาเที่ยวแบบส่วนตัวกันค่ะ เหมือนทั้งเกาะมีแค่เรา 2 คน แต่จริงๆแล้วคนเยอะแยะเลยค่ะ 55 ( รายละเอียดค่าใช้จ่ายจะอยู่เลื่อนๆไปอยู่ด้านล่างนะคะ ) ดูรูปไปพลางๆ ก่อนนะคะ ส่วนใหญ่ใช้กล้อง Gopro Hero 2 ถ่ายนะคะ แต่จะมีรูปจากกล้องโทรศัพท์ SS บ้างนิดหน่อยค่ะ ถ่ายรูปออกมาอาจไม่สวยมากแต่บอกเลยว่าต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองค่ะจะไม่ผิดหวังเลยจริงๆ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของเรา และก็เป็นทริปแรกของเรากับแฟนเลยที่ไปได้เที่ยวทะเลด้วยกันรูปคู่อาจเยอะไปหน่อยนะคะ กำลังมีความรักค่ะ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ
วันที่ 2 ของเราบนเกาะหมาก เราเลือกที่จะเดินลุยน้ำทะเลไปรีสอร์ทข้างๆ คือ Cinanmon Resort and spa เดินไปมองน้ำทะเลใสๆไป ถึงแดดจะร้อน น้ำทะเลก้ร้อน แต่ไหนๆก็มาล่ะ ยอมค่ะ
ทางรีสอร์ทที่เราพัก กรีนวิวรีสอร์ท มีเรือคายัค กับแว่นดำน้ำตื้นให้บริการฟรีนะคะ แต่เราพกแว่นตาว่ายน้ำมาเองค่ะ สะดวกดีเหมือนกันค่ะ แต่ถ่ายรูปมาจะเหมือนอยู่ในสระว่ายน้ำแทนที่จะอยู่ทะเลนะคะ 55 และแล้วก็หมดไปอีกวันบนเกาะหมากค่ะ เดินกลับมาถึงกรีนวิวรีสอร์หิ๊วหิวค่ะ กินข้าวกันค่าจะได้ไปนอนพักเอาแรงต่อพรุ่งนี้มีอะไรรอเราอยู่อีกนะ ( อาหารจานเดียวแบบนี้ จานละ 80 บาทนะคะ มื้อนี้ 2 จาน ก็ 160 บาทค่ะ )
จานนี้แนะนำค่ะ เป็นสัปปะรดที่ปลูกบนเกาะหมากนำมาชุบแป้งทอด กินกับน้ำจิ้มบ๊วย แต่เราว่าไม่จิ้มก็อร่อยแล้วค่ะ สัปปะรดหวานมากค่ะ แถมไม่มีคาร์บอนไดออกไซค์เลยชาวบ้านที่นี่ปลูกกันเองค่ะ (จานละ 70 บ.ค่ะ)
ตื่นเร็วววเช้าวันที่3 แล้วค่า เวลาผ่านไปไวมาก วันนี้เราจะทำไรกันดีนะหลังจากกินข้าวเช้าอิ่ม นอนเล่นบนเปลหน้าห้องพัก ลมทะเลพัดเอื่อย ๆ ชวนหลับมาก คิดออกล่ะเดินไปทางซ้ายของรีสอร์ทดีกว่า แอบเห็นมีหาดลิบๆ อยู่จะมีอะไรนะต้องไปดูด้วยตาตัวเอง ดูเวลา 11.00 น. ไม่มีกลัวดำค่ะเดินกันเลย
เจอหาดทรายค่ะ หลังจากที่เดินผ่านดงก้อนหินมา หู้ยยยย .. ดีใจค่ะ มีร่มไม้ให้แวะพักหลบร้อนด้วยนะคะ
พอเหนื่อยเราก็หิวค่ะ กลับรีสอร์ทไปหาข้าวกินดีกว่า รอตอนเย็นออกมานั่งรับลมบนสะพานค่ะ เกือบได้เห็นทะเลตอนฝนตกค่ะ แต่ก็อด ลมแรงพัดฝนไปหมดเลยค่ะ
เวลาแห่งความสุขผ่านไปไวเหลือเกิน เลือกวันอีก 1 วันพรุ่งนี้เรามีภารกิจค่ะ ตามหาเรือแบลคเพิลร์กัน ^^ เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ไปกันเลยค่า คุณแฟนใจดีพาพายเรือคายัคไปแต่เช้า เรากลับไป Cinanmon Resort and spa เพราะเราไปสำรวจมาแล้วรอบนึง เห็นเรือจอดอยู่ลิบๆ แฟนเราเลยอยากจะขึ้นไปถ่ายรูปเท่ห์ๆ ซะหน่อย เลยตั้งชื่อกันว่า เรือแบลคเพิลร์ ^^
Mission Complete ในที่สุดก็ขึ้นเรือได้สมใจและค่า เจอแต่เรือไม่มีโจรสลัดนะคะ ^^ และทำอะไรต่อดี มองไปทางขวาก็จะเห็นเกาะกระดาดอยู่ไม่ไกลมาก แต่เราไม่ได้ใส่ชูชีพเลยไม่เสี่ยงดีกว่าค่ะ ส่วนใครที่อยากไปเกาะกระดาดจะต้องเสียค่าขึ้นเกาะด้วยนะคะ เพราะเป็นเกาะส่วนตัว ( สอบถามจากรีสอร์ทที่เราพักบอกว่ามีกวางตัวเป็นๆด้วยนะคะ/แต่เราไม่ไปค่ะ555 ) ก็เลยพายเรือไปต่อ น้ำก็เริ่มลึกขึ้น และก็ใสมากเลยค่ะ เราเลยลองดำน้ำแถวนี้ดูเพื่อจะเจอปลาบ้างนะคะ
ได้เจอปลาจริงๆค่ะ กลุ่มปลาน้อย และปลาดาว ตื่นเต้นๆๆ
เห็นหาดลิบ ๆ คุณแฟนอาสาพาไปดูค่า พายเรือไปกันเล๊ยย
แถวนี้น้ำใสมากเลยค่ะ ไม่มีหินเยอะ แถมมีหาดอีกตะหาก ( แต่ก็ไม่ใช่ทรายละเอียดนะคะ )
พระอาทิตย์จะตกแล้ว เราเลยพายเรือกลับ แวะเล่นที่กระโดดและสไดเดอร์กลางน้ำ ตรง Cinnamon Resort ถ่ายรูปอีกล้านแปดค่ะ
สะพานสู่ฝัน ในที่สุดก็ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ทะเลตราดสวยและเงียบสงบดีมากค่ะ เดทแรกของเรากับแฟนมีความสุขมากจริงๆ ลองมาเที่ยวกันนะคะ ทะเลไทยเที่ยวยังไงก็ไม่เบื่อค่ะ
ตื่นเช้ามาเตรียมตัวเดินทางกลับค่ะ ออกจากรีสอร์ทและไปขึ้นเรือให้ทัน รอบ 8.00 น. ที่ท่าเรือมะกะธานี นั่งรถสองแถวจากแหลมงอบไปถึงสถานีขนส่งตราด ขากลับเราซื้อตั๋วของเชิดชัยทัวร์กลับกรุงเทพ เราไม่แนะนำนะคะถ้าใครรีบ เชิดชัยจอดทุกป้ายเลยค่ะ สำหรับเราขึ้นทีเดียวพอค่ะ เรากับแฟนเกือบไม่ทันรถกลับต่างจังหวัดกันเลย เราแนะนำ บขส.นะคะ เวลาเป๊ะ รถใหม่ ไม่มีจอดรายทางค่ะ
สุดท้ายนี้เราอยากขอบคุณ เจ้าของรีสอร์ทที่เราพักค่ะ เกาะหมากกรีนวิวรีสอร์ทค่ะ วันแรกที่เรามาถึงเราเกิดอาการตาแดงอย่างรุนแรง เพราะเราใส่คอนแทคมาทั้งวัน และนอนหลับไปด้วยความเพลีย ตื่นมาเล่นน้ำตาต่อได้เรื่องเลยค่ะ คุณแอม และ คุณแอ๊ด ได้แสดงความน่ารักกับเรามาก ๆ จะพาไปอนามัย แต่เพื่อความสะดวกรวดเร็ว คุณแอ๊ดขับรถออกจากรีสอร์ทพาไปร้านยาเลย โดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเลยด้วยค่ะ ขอบคุณในน้ำใจและความเป็นกันเองที่ดูแลกันเหมือนครอบครัวจริง ๆค่ะ ถ้ามีโอกาสจะแวะไปพักที่ เกาะหมากกรีนวิวอีกแน่นอนค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด 5 วัน 4 คืนนะคะ ( 2 คนนะคะ )
ค่าตั๋วรถจาก หมอชิต – ตราด ไปกลับ 558 , 508 บาท
ค่ารถสองแถว ตราด – แหลมงอบ ไปกลับ 140 ,100 บาท
ค่าเรือสปีดโบ๊ท ไปกลับ 1,800 บาท
ค่าที่พัก 4 คืน 2,000 บาท
ค่าอาหารที่เกาะหมากกรีนวิว 3,000 บาท
ค่าอาหารระหว่างเดินทาง 270 , 90 บาท
( ค่ารถไปหมอชิตของเรากับแฟน 810 บาท )
รวมทั้งหมด 9,276 บาท ( หาร 2 ก็คนละ 4,638 บาท )
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ อย่าลืมหาเวลาให้ตัวเองไปเที่ยวบ้างนะคะ