เมื่อไรสังคมไทยจะเลิก”โลกสวย” แล้วยอมรับ+เปิดกว้างกับการที่ชาย-หญิงแชร์ห้อง/แชร์คอนโด/ แชร์บ้าน กันซักที

ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องที่ผมเสนอเลย ผมมีบ้านอยู่แล้วในกรุงเทพ ไม่ต้องเช่าห้องแชร์กับใคร แล้วก็ยังไม่มีแฟน แล้วก็ไม่ใช่คนหมกหมุ่นกับเรื่องอย่างว่า แต่ที่มาพูดนี่ก็เพราะเบื่อเหลือเกินกับ “ความดัดจ..ต” ของคนไทยในระยะหลังๆที่นับวันๆจะมากขึ้นทุกทีๆ โดยที่ไม่ได้มองว่าสังคมโลกใบนี้เปลี่ยนไปขนาดไหนแล้ว ก่อนจะด่าผม ลองคิดดูว่าที่ผมพูดมามีประเด็นมั๊ย ถ้ามีผู้ชายหรือผู้หญิงคู่นึง แชร์ห้อง แชร์หอ แชร์คอนโด หรือ แชร์บ้านกับเพื่อนต่างเพศ สังคมไทยจะมองอย่างไร?? คนๆนั้นจะกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาคนไม่น้อยเลยทีเดียว ถูกมั๊ยครับ?? คนจำนวนไม่น้อยที่ยังยอมรับไม่ได้กับอะไรแบบนี้

เพราะอะไร เพราะสังคมไทยชอบบอกว่า “เราเป็นสังคมรักนวลสงวนตัว มีวัฒนธรรมอันดีงามมาช้านาน” แล้วมันจริงมั๊ยล่ะครับที่พูดมาน่ะ สมัยก่อนอาจจะใช่ แต่สมัยนี้ล่ะ เอาเข้าจริงเราเองก็ไม่ได้ต่างจากประเทศตะวันตกเค้าซักเท่าไร ลองไปหาแถวย่านสถานบันเทิงดิ one-night stand เพียบ ไหนจะติดท็อปๆประเทศที่เด็กท้องในวัยเรียนมากที่สุดในโลกไหนจะเด็กวัยรุ่นซั่มกันตั้งแต่ม.ต้น ม.ปลาย ไหนจะภาพลักษณ์ประเทศแห่งการค้าโสเภณีในสายตาต่างชาติ ไปๆมาๆประเทศเราก็ไม่ได้คลีนกว่าชาติตะวันตกกันซักเท่าไรนักหรอก เมื่อก่อนตอนสมัยเรียนมหาลัย ผมเห็นเพื่อนๆผมที่เป็นนักศึกษาต่างชาติ เค้าก็แชร์ห้องอยู่กัน ช-ญ ก็มีเยอะแยะ พวกนี้ต่างคนต่างมาจากประเทศตัวเอง แต่พอมาเรียนด้วยกันเทอมสองเทอม พอเริ่มสนิทกัน เค้าก็ตกลงปลงใจแชร์ห้องอยู่กันแล้วเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องแบบสูท ที่มีห้องนอนแยก แต่ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัวตรงกลาง (คล้ายๆคอนโดแหละ) ทั้งๆที่เค้าไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่จะมีอะไรกันหรือเปล่าผมไม่ได้ถาม แต่ถึงมี มันก็สิทธิของเค้า ขอแค่มีการป้องกันก็พอและไม่เดือดร้อนใครก็พอ มันจะอะไรกันนักกันหนาครับกับเรื่องชายหญิงอยู่ด้วยกันสำหรับเมืองไทย ดัดจ..ตกันจัง

ที่หลายคนเค้าต้องการเช่าเป็นคอนโดก็เพราะอยากมีห้องรับแขก ห้องครัว ที่กินอาหาร ที่แยกเป็นสัดส่วนด้วย ครั้นจะให้เช่าอยู่คนเดียวก็เดือนละเป็นหมื่นกว่าๆ ไม่ใช่ทุกคนจะรวยหรือเงินเดือนเยอะไปซะทุกคนนี่ครับ เค้าก็ต้องการหาคนมาช่วยๆกันแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้วยกัน ก็แค่นั้น และคนไม่น้อยที่ชินกับการอยู่กับเพื่อนต่างเพศ หรืออาจมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ค่อยจะตรงกันกับเพื่อนเพศเดียวกันซักเท่าไร เช่น ผู้ชายบางคนอาจรักความสะอาด เรียบร้อย ไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบสังสรรค์ หรือ ผู้หญิงบางคนห้าวๆลุยๆ กลัวอยู่กับผู้หญิงแล้วจะจุกจิก เยอะเรื่อง รำคาญ แต่พอใครต่อใครรู้ว่าเป็นต่างเพศแล้วมาแชร์ห้อง/แชร์บ้านอยู่ด้วยกัน นี่ดิ้นพราดๆๆๆๆๆด่าๆๆๆกันใหญ่ ยังกับว่าสองคนนั้นนี่ใจแตก ต้องได้กันแล้วแน่ๆ ไม่รู้จักรักษาขนบธรรมเนียมของไทยๆ บลาๆๆๆ....

ผมว่าเปิดกว้างกันเถอะครับ เลิกกันได้แล้วค่านิยมดัดจ..ตที่มักจะมองไม่ดีเวลาชาย-หญิงที่ไม่ได้เป็นแฟนกันอยู่ด้วยกัน โลกเรามันไปถึงไหนกันแล้ว และอีกอย่างจริงๆประเทศเราก็สีเทาเรื่องเพศไม่ต่างกับบางประเทศแถบตะวันตกอยู่แล้ว จะมาดัดจ..ตกันทำไมไม่เข้าใจ

คิดว่าไงกันครับ???

ป.ล.ขอแท็ก "มนุษย์เงินเดือน" ด้วย เพราะอยากได้ความเห็นจากคนวัยทำงานเยอะๆครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
รอให้ จขกท มีแฟน...แล้วจะไปขอแชร์ห้องด้วย
ความคิดเห็นที่ 5
วุฒิภาวะของไทยกับฝั่งตะวันตกนั้นต่างกัน สุดฟ้าสุดดิน ทั้งสังคม ทั้งการพึ่งพาตัวเอง
ฝั่งนั้น เขาหัดพึ่งพาตัวเองกันมาตั้งแต่เด็กๆ ขณะที่สังคมของเรา เป็นนักเรียน ก็เรียนกันอย่างเดียว
ภาพรวมแล้ว ที่อายุเท่าๆกัน วัยรุ่นเขา แก่วุฒิภาวะกว่าเราหลายปีครับ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร
จะเอาตัวรอด และแก้ปัญหาได้อย่างไร  เด็กจบเกรด 12  ม หก ของเรา ฝั่งตะวันตก ถือว่าเป็นผู้ใหญ่
แล้วนะครับ จะทำงานหรือจะเรียน ต่อ หรือจะพักช่วง ก็ตัดสินใจกันได้เอง
มีโอกาสคุณลองสัมผัส วัยรุ่น ปลายๆของฝรั่งดูซิครับ จะรู้สึกว่าเขาไม่ใช่เด็ก 17-18 ที่เป็นเด็กน้อย
แบบคนไทยเลย

เมื่อสังคมเรายังไม่พร้อม แล้ว ดัดจริต ไปอ้างอิง ทำตามเขา
คิดหรือว่า จะออกมาได้ดีครับ หือ
ความคิดเห็นที่ 4
สมมุติว่า แม่ ของ จขกท. ต้องไปแชร์คอนโดแบบที่ จขกท. ว่ากับชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อของ จขกท.
จขกท. จะกล้าบอกเพื่อนๆ ญาติ หรือ คนรู้จักไหมครับ ลองคิดลึกๆ คิดนานๆ คิดให้ดีครับ
ความคิดเห็นที่ 2
จขกท มีน้องสาว หรือ แฟนสาว สนใจแชร์ห้องอยู่กับผมไหมครับ ผมนี้ไว้ใจได้เลย ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่