ก่อนอื่น ผมต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกท่านครับ
ตัวผมเองไม่ได้คัดค้านการปรับปรุงกฏหมาย หรือระเบียบวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยนะครับ เพราะตัวผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ใช้ถนนเหมือนกัน
เพียงแต่ ทุกครั้งที่ผมออกรถ ผมก็สำนึกเสมอ ว่าผมอาจไม่ถึงที่หมายได้ และมักล้อเล่นกับภรรยาทีเล่นทีจริงเสมอ เพราะผมรู้ครับ ว่าตัวผมเองกำลังเสี่ยงอันตรายอยู่ (ที่ทำงาน กับบ้านผม อยู่ไกลกันประมาณ 70 กิโลเมตร ต้องขับรถไปกลับทุกวัน) และทุกวันผมก็จะเห็นขีดสีขาวบนถนนเสมอ ย้ำนะครับ
"ทุกวัน"
ถนนบ้านเราอันตรายยิ่งกว่า คุณไปยืนที่อิรักซะอีกครับ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์
ผมเข้าใจว่าช่วงนี้ความสูญเสียของผู้ขับขี่จักรยานกำลังเป็นกระแส แต่หากดูจากอัตราส่วนแล้ว ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซด์) ปีนึงสูญเสียมากกว่าเท่าไหร่ หรือผู้ใช้พาหนะอื่นๆ ผมก็เชื่อว่าคงสูญเสียไม่น้อยกว่าเช่นกัน. ถ้าคิดเป็นสัดส่วนความเสียหาย กับปริมาณผู้ขับขี่พาหนะนั้นๆ ทั้งหมด จะแปลว่า
จักรยาน เป็นพาหนะที่ได้รับความเกรงใจมากกว่าพาหนะอื่นๆ อยู่แล้ว ได้หรือไม่ครับ
สุดท้ายนี้ ผมเห็นด้วยกับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อส่วนรวมครับ และอยากให้ผู้ขับขี่จักรยานทุกคนเป็นส่วนนึงบนท้องถนนร่วมกัน ด้วยสามัญสำนึกเดียวกัน ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ระวังตัว และน้อมรับความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนๆ กัน
"ถนนไม่ปลอดภัย ไม่ว่าสำหรับใตรครับ และ
ไม่มีวัน แต่ที่เราใช้เพราะมันจำเป็น และระลึกเสมอ ถึงอันตรายของมัน"
ผมไม่เห็นด้วยกับทางจักรยาน ในกรุงเทพฯ ครับ และไม่เห็นด้วยกับ ข้ออ้าง เพื่อการกระตุ้นให้คนหันมาใช้จักรยานมากขึ้น เพราะผมไม่ได้โลกสวย มันเป็นการลงุทนที่ไม่คุ้มค่าครับ
ผมไม่เห็นด้วยกับคนเมาแล้วขับ แซงซ้าย ไม่มีมารยาท หรือวินัยบนท้องถนน
ผมเห็นด้วยกับการปรับบทลงโทษ และกวดขันวินัยจราจร
และเราควรอยู่ร่วมกันบนถนนให้ได้ในแบบเราๆ เพราะมันเป็นความจริงแบบนั้นครับ
ถ้าทุกคนคิดเหมือนกัน "การไปถึงที่หมายโดยปลอดภัย ถือเป็นโชคดีอย่างหนึ่งของชีวิต" ก็ขอให้ทุกคน โชคดี สำหรับวันนี้ และทุกๆ วันครับ
การปั่นจักรยานบนท้องถนน จำเป็นต้องปลอดภัยกว่าพาหนะโดยสารอื่นๆ หรือไม่
ตัวผมเองไม่ได้คัดค้านการปรับปรุงกฏหมาย หรือระเบียบวินัยจราจร เพื่อความปลอดภัยนะครับ เพราะตัวผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ใช้ถนนเหมือนกัน
เพียงแต่ ทุกครั้งที่ผมออกรถ ผมก็สำนึกเสมอ ว่าผมอาจไม่ถึงที่หมายได้ และมักล้อเล่นกับภรรยาทีเล่นทีจริงเสมอ เพราะผมรู้ครับ ว่าตัวผมเองกำลังเสี่ยงอันตรายอยู่ (ที่ทำงาน กับบ้านผม อยู่ไกลกันประมาณ 70 กิโลเมตร ต้องขับรถไปกลับทุกวัน) และทุกวันผมก็จะเห็นขีดสีขาวบนถนนเสมอ ย้ำนะครับ "ทุกวัน"
ถนนบ้านเราอันตรายยิ่งกว่า คุณไปยืนที่อิรักซะอีกครับ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์
ผมเข้าใจว่าช่วงนี้ความสูญเสียของผู้ขับขี่จักรยานกำลังเป็นกระแส แต่หากดูจากอัตราส่วนแล้ว ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซด์) ปีนึงสูญเสียมากกว่าเท่าไหร่ หรือผู้ใช้พาหนะอื่นๆ ผมก็เชื่อว่าคงสูญเสียไม่น้อยกว่าเช่นกัน. ถ้าคิดเป็นสัดส่วนความเสียหาย กับปริมาณผู้ขับขี่พาหนะนั้นๆ ทั้งหมด จะแปลว่าจักรยาน เป็นพาหนะที่ได้รับความเกรงใจมากกว่าพาหนะอื่นๆ อยู่แล้ว ได้หรือไม่ครับ
สุดท้ายนี้ ผมเห็นด้วยกับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อส่วนรวมครับ และอยากให้ผู้ขับขี่จักรยานทุกคนเป็นส่วนนึงบนท้องถนนร่วมกัน ด้วยสามัญสำนึกเดียวกัน ไม่มีใครสำคัญกว่าใคร ระวังตัว และน้อมรับความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนๆ กัน
"ถนนไม่ปลอดภัย ไม่ว่าสำหรับใตรครับ และไม่มีวัน แต่ที่เราใช้เพราะมันจำเป็น และระลึกเสมอ ถึงอันตรายของมัน"
ผมไม่เห็นด้วยกับทางจักรยาน ในกรุงเทพฯ ครับ และไม่เห็นด้วยกับ ข้ออ้าง เพื่อการกระตุ้นให้คนหันมาใช้จักรยานมากขึ้น เพราะผมไม่ได้โลกสวย มันเป็นการลงุทนที่ไม่คุ้มค่าครับ
ผมไม่เห็นด้วยกับคนเมาแล้วขับ แซงซ้าย ไม่มีมารยาท หรือวินัยบนท้องถนน
ผมเห็นด้วยกับการปรับบทลงโทษ และกวดขันวินัยจราจร
และเราควรอยู่ร่วมกันบนถนนให้ได้ในแบบเราๆ เพราะมันเป็นความจริงแบบนั้นครับ
ถ้าทุกคนคิดเหมือนกัน "การไปถึงที่หมายโดยปลอดภัย ถือเป็นโชคดีอย่างหนึ่งของชีวิต" ก็ขอให้ทุกคน โชคดี สำหรับวันนี้ และทุกๆ วันครับ