สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
1.ประกันชีวิตสมัยก่อน เป็นแบบตายแล้วญาติค่อยได้เงิน เพิ่งมายุคหลังๆ ที่ประกันได้ปรับรูปแบบให้มีความหลากหลาย
...ให้ไปทำประกันของเพื่อน ที่บอกว่า ประกันผู้สูงอายุ ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ...แทนครับ
(ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ... ตกไป)
2.คนที่จะจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ ต้องมีความมั่นคงทางการเงิน ปีนี้จ่ายได้แต่ไม่รู้ว่าปีหน้าจะมีละครรึเปล่า
...งั้นแบบนี้ คนค้าขาย ก็คงจะตกอยู่ในเงื่อนไขเดียวกัน...คนเรา หาเงินมาได้ต้องรู้จักแบ่งใช้ แบ่งเก็บ
(ข้อนี้ก็ฟังไม่ขึ้น...ตกไป)
3.อาชีพดาราค่าเบี้ยสูงมากค่ะ เพราะเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงและมีความเสี่ยงสูง
...คืออะไร ไม่เข้าใจ อาชีพดารา ความเสี่ยงสูง ???? ทำไม ต้องไปปีนตึก 20 ชั้น เช็ดกระจก หรือไงครับ
(ข้อนี้ไร้สาระ...ให้ไปศึกษาใหม่เกี่ยวกับเบี้ยประกัน)
4.ดาราเล่นละครเรื่องนึงใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี เราจะได้เงินหลังถ่ายทำจนเสร็จสิ้น ซึ่งนั่นหมายถึงระหว่างที่ถ่ายละครก็อาศัยกินข้าวกองถ่าย และใช้เงินเก็บจากเรื่องก่อนๆ
...อันนี้ มันก็ต้องแบ่งใช้ แบ่งเก็บ เหมือนข้อ 2
(ฟังไม่ขึ้น .. ตกไป)
5.ดาราที่รวยมีอยู่ไม่กี่คนหรอกนะคะ ลองนึกดีๆ จากจำนวนดารานักร้องทั้งหมด
..แล้วไง คนที่ค้าขาย ก็มีรวย อยู่ไม่กี่คนหรอกนะ จากจำนวนคนค้าขายทั้งหมด...ฟังแล้วดูเหมือนจะบอกว่า ดารา เป็น อภิสิทธิ์ชน
(ไร้สาระ...ตกไป)
6.งานที่ได้เงินดีในวงการ คือ งานโชว์ตัว และงานพรีเซนเตอร์ ซึ่งก็เป็นพวกซุปตาร์หน้าซ้ำๆ ทั้งนั้น ที่ได้เงินตรงนี้ ดารารุ่นพ่อรุ่นแม่รุ่นป้าไม่เคยได้เงินเยอะแบบนี้หรอกค่ะ
...แต่ก็ได้เงินเยอะกว่า คนรุ่นเดียวกัน ที่ทำอาชีพอื่น รึเปล่า ...
(คือ ไม่ต้องรวย แค่รู้จักเก็บ)
7.ภาษีรายบุคคลก็สูง
..เก็บตามฐานรายได้ครับ ...ภาษีสูง แสดงว่า รายได้คุณสูง
(ขัดแย้งกับข้อ 6 ที่บอกว่า รายรับไม่สูง)
8.ดาราไม่มีสมาคมหรือมูลนิธิใดมาคุ้มครองสิทธิดาราอย่างจริงจัง
...คนค้าขาย ก็ไม่มีนะสมาคม อะไรนั่น...แต่ทุกคนมีสิทธิได้รับการปฎิบัติอย่างมนุษย์เท่าเทียมกัน...รู้ยัง
(ข้อนี้ไร้สาระมาก)
9.ดาราไปแย่งใช้30บาทได้ไหม คนจนๆ ชาวบ้านด่าตาย ไปแย่งคิวพวกเค้าทำไม
...แย่งใช้ ??? ทำไมต้องแย่งใช้ ....ไม่มีใครแย่งใช้หรอก ไปใช้เถอะ .. สิทธิ์นี้ ดีจะตาย ดีสำหรับทุกคน ทั้งคนค้าขาย และ ดารา
10.ข้อสุดท้าย คุณอาไพโรจน์ ใจสิงห์ นักแสดงอาวุโส ไม่ได้ขอเงินฟรีๆ ขอทำงานแลก และชื่อเสียงที่แกมี จะใช้เพื่อตัวเองและครอบครัว ตราบที่ยังประคองลมหายใจอยู่ แล้วทำไมเราจะช่วยๆ กันอุดหนุนแกไม่ได้บ้าง จริงไหม (ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ)
...ข้อนี้ดีครับ ... เป็นดาราก็น่าจะมีแฟนคลับ คนชื่นชอบอยู่ไม่น้อย นับว่า ต้นทุนสูงกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว จะทำอะไร ก็มีคนมาสนใจไม่ยาก ก็ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป
(ทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวเช่นกัน....)
...ให้ไปทำประกันของเพื่อน ที่บอกว่า ประกันผู้สูงอายุ ไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ ไม่ต้องตรวจสุขภาพ...แทนครับ
(ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ... ตกไป)
2.คนที่จะจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ ต้องมีความมั่นคงทางการเงิน ปีนี้จ่ายได้แต่ไม่รู้ว่าปีหน้าจะมีละครรึเปล่า
...งั้นแบบนี้ คนค้าขาย ก็คงจะตกอยู่ในเงื่อนไขเดียวกัน...คนเรา หาเงินมาได้ต้องรู้จักแบ่งใช้ แบ่งเก็บ
(ข้อนี้ก็ฟังไม่ขึ้น...ตกไป)
3.อาชีพดาราค่าเบี้ยสูงมากค่ะ เพราะเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงและมีความเสี่ยงสูง
...คืออะไร ไม่เข้าใจ อาชีพดารา ความเสี่ยงสูง ???? ทำไม ต้องไปปีนตึก 20 ชั้น เช็ดกระจก หรือไงครับ
(ข้อนี้ไร้สาระ...ให้ไปศึกษาใหม่เกี่ยวกับเบี้ยประกัน)
4.ดาราเล่นละครเรื่องนึงใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี เราจะได้เงินหลังถ่ายทำจนเสร็จสิ้น ซึ่งนั่นหมายถึงระหว่างที่ถ่ายละครก็อาศัยกินข้าวกองถ่าย และใช้เงินเก็บจากเรื่องก่อนๆ
...อันนี้ มันก็ต้องแบ่งใช้ แบ่งเก็บ เหมือนข้อ 2
(ฟังไม่ขึ้น .. ตกไป)
5.ดาราที่รวยมีอยู่ไม่กี่คนหรอกนะคะ ลองนึกดีๆ จากจำนวนดารานักร้องทั้งหมด
..แล้วไง คนที่ค้าขาย ก็มีรวย อยู่ไม่กี่คนหรอกนะ จากจำนวนคนค้าขายทั้งหมด...ฟังแล้วดูเหมือนจะบอกว่า ดารา เป็น อภิสิทธิ์ชน
(ไร้สาระ...ตกไป)
6.งานที่ได้เงินดีในวงการ คือ งานโชว์ตัว และงานพรีเซนเตอร์ ซึ่งก็เป็นพวกซุปตาร์หน้าซ้ำๆ ทั้งนั้น ที่ได้เงินตรงนี้ ดารารุ่นพ่อรุ่นแม่รุ่นป้าไม่เคยได้เงินเยอะแบบนี้หรอกค่ะ
...แต่ก็ได้เงินเยอะกว่า คนรุ่นเดียวกัน ที่ทำอาชีพอื่น รึเปล่า ...
(คือ ไม่ต้องรวย แค่รู้จักเก็บ)
7.ภาษีรายบุคคลก็สูง
..เก็บตามฐานรายได้ครับ ...ภาษีสูง แสดงว่า รายได้คุณสูง
(ขัดแย้งกับข้อ 6 ที่บอกว่า รายรับไม่สูง)
8.ดาราไม่มีสมาคมหรือมูลนิธิใดมาคุ้มครองสิทธิดาราอย่างจริงจัง
...คนค้าขาย ก็ไม่มีนะสมาคม อะไรนั่น...แต่ทุกคนมีสิทธิได้รับการปฎิบัติอย่างมนุษย์เท่าเทียมกัน...รู้ยัง
(ข้อนี้ไร้สาระมาก)
9.ดาราไปแย่งใช้30บาทได้ไหม คนจนๆ ชาวบ้านด่าตาย ไปแย่งคิวพวกเค้าทำไม
...แย่งใช้ ??? ทำไมต้องแย่งใช้ ....ไม่มีใครแย่งใช้หรอก ไปใช้เถอะ .. สิทธิ์นี้ ดีจะตาย ดีสำหรับทุกคน ทั้งคนค้าขาย และ ดารา
10.ข้อสุดท้าย คุณอาไพโรจน์ ใจสิงห์ นักแสดงอาวุโส ไม่ได้ขอเงินฟรีๆ ขอทำงานแลก และชื่อเสียงที่แกมี จะใช้เพื่อตัวเองและครอบครัว ตราบที่ยังประคองลมหายใจอยู่ แล้วทำไมเราจะช่วยๆ กันอุดหนุนแกไม่ได้บ้าง จริงไหม (ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ)
...ข้อนี้ดีครับ ... เป็นดาราก็น่าจะมีแฟนคลับ คนชื่นชอบอยู่ไม่น้อย นับว่า ต้นทุนสูงกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว จะทำอะไร ก็มีคนมาสนใจไม่ยาก ก็ขอเป็นกำลังใจให้สู้ต่อไป
(ทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวเช่นกัน....)
ความคิดเห็นที่ 14
ถามกลับ ถ้าเป็นคนอื่น จะมีพื้นที่ให้ออกสือแบบนี้ บ้างไหม จะมีคนเห็นใจบ้างไหม
ที่พูดๆมาหลายข้อนะ ผมว่าเป็น ข้อเท็จจริง แต่ไม่ใช่เป็นเห็นผลที่ว่า จะมาขอให้คนอื่นช่วย
ปัญหามันอยู่ที่ว่า เงินทองที่ทำมา เอาไปทำอะไรหมด
ดารา ถึงบอกเงินน้อย นานกว่าจะได้เงิน แต่มีอย่างหนึ่งแน่ๆ คือดารา ได้เงินดีกว่าคนทั่วไปแน่ๆ
แล้วจากข่าว ผมดูข่าวแล้ว ขอบอกว่า ไม่น่าสงสารเลย
บอกว่า มีรายจ่ายต่อเดือน แสนกว่าบาท ขอโทษ รายจ่ายขนาดนี้ มันเวอร์ไปไหม
บอกเป็นค่ากิน ค่าอยู่ ค่าดูแล ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ 3 เดือนไปหาหมอทีหนึ่ง
แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าพอลำบาก แต่ไม่ยอมเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตเลย
จากเช่าบ้านเดือนละ 3 หมื่น ไปหาหออยู่เดือนละ 5 พันได้ไหม ห้องแอร์เหมือนกัน
จากทำกำข้าวมือละพัน เหลือกินข้าวราดแกง ทั่วไป มื้อละ 50 ได้ไหม คนป่วย กินโจ๊กอาหารอ่อนธรรมดาอยู่แล้ว
ถ้าปรับตัวเอง จากเดือนละ แสนกว่า จะเหลือเดือนละไม่กี่หมื่น
ผมเห็นดารา ตกอับแต่ละคนแล้วบอกเลย ว่าไม่เคยสงสาร
ตอนมีเงินมีทองใช้เงินอย่างกะเบี้ย พอตอนไม่มี ออกมาร้องห่มร้องไห้
อย่างกรณี สีดา อรุณภาวิไล และอีกหลายๆคน คือใช้เงินเกินตัว
ที่พูดๆมาหลายข้อนะ ผมว่าเป็น ข้อเท็จจริง แต่ไม่ใช่เป็นเห็นผลที่ว่า จะมาขอให้คนอื่นช่วย
ปัญหามันอยู่ที่ว่า เงินทองที่ทำมา เอาไปทำอะไรหมด
ดารา ถึงบอกเงินน้อย นานกว่าจะได้เงิน แต่มีอย่างหนึ่งแน่ๆ คือดารา ได้เงินดีกว่าคนทั่วไปแน่ๆ
แล้วจากข่าว ผมดูข่าวแล้ว ขอบอกว่า ไม่น่าสงสารเลย
บอกว่า มีรายจ่ายต่อเดือน แสนกว่าบาท ขอโทษ รายจ่ายขนาดนี้ มันเวอร์ไปไหม
บอกเป็นค่ากิน ค่าอยู่ ค่าดูแล ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ 3 เดือนไปหาหมอทีหนึ่ง
แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าพอลำบาก แต่ไม่ยอมเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตเลย
จากเช่าบ้านเดือนละ 3 หมื่น ไปหาหออยู่เดือนละ 5 พันได้ไหม ห้องแอร์เหมือนกัน
จากทำกำข้าวมือละพัน เหลือกินข้าวราดแกง ทั่วไป มื้อละ 50 ได้ไหม คนป่วย กินโจ๊กอาหารอ่อนธรรมดาอยู่แล้ว
ถ้าปรับตัวเอง จากเดือนละ แสนกว่า จะเหลือเดือนละไม่กี่หมื่น
ผมเห็นดารา ตกอับแต่ละคนแล้วบอกเลย ว่าไม่เคยสงสาร
ตอนมีเงินมีทองใช้เงินอย่างกะเบี้ย พอตอนไม่มี ออกมาร้องห่มร้องไห้
อย่างกรณี สีดา อรุณภาวิไล และอีกหลายๆคน คือใช้เงินเกินตัว
ความคิดเห็นที่ 15
บุ๋มพูดก็มีส่วนถูก
แต่บุ๋มอาจจะลืมไปว่า คนเรา ควรใช้จ่ายสมฐานะ
เราเชื่อว่า ดาราหลายคน พอมีรายได้เยอะ ก็ใช้จ่ายเยอะ หลายคนก็ฟุ้งเฟ้อ
เราจำได้ว่า พี่แด๊กซ์ ลิขิต เคยให้สัมภาษณ์ในรายการสี่ทุ่มแสควร์เรื่องที่เขารับละครแค่ปีละเรื่อง
พี่แด๊กซ์บอกว่า ถ้ารู้จักใช้จ่าย รายได้จากละครหนึ่งเรื่อง ก็ทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นปีเลย
อีกอย่าง อาชีพดารา ทำอะไรก็เหมือนจะมีสิทธิพิเศษกว่าเราชาวบ้านอยู่เสมอ
รายได้ก็มากกว่า
พอมีอาชีพเสริม ก็มีช่องทางมากกว่า
แถมพอป่วยก็ยังดูน่าสงสารกว่าอีก??
ครั้งนี้ไม่ค่อยเห็นด้วยกับบุ๋มนะคะ
มันแก้ต่างแบบไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่
บุ๋มคิดว่า มนุษย์เงินเดือนมั่นคงกว่าดาราเหรอคะ
วันดีคืนดี บริษัทเลิกจ้างก็มีเยอะแยะ
เจ็บป่วยก็รักษาเอง
ดาราน่ะ กว่าจะะอยู่ในช่วงขาลง หรืองานหด ก็น่าจะเก็บเงินได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือนทั่วไปนะ
แต่บุ๋มอาจจะลืมไปว่า คนเรา ควรใช้จ่ายสมฐานะ
เราเชื่อว่า ดาราหลายคน พอมีรายได้เยอะ ก็ใช้จ่ายเยอะ หลายคนก็ฟุ้งเฟ้อ
เราจำได้ว่า พี่แด๊กซ์ ลิขิต เคยให้สัมภาษณ์ในรายการสี่ทุ่มแสควร์เรื่องที่เขารับละครแค่ปีละเรื่อง
พี่แด๊กซ์บอกว่า ถ้ารู้จักใช้จ่าย รายได้จากละครหนึ่งเรื่อง ก็ทำให้ดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นปีเลย
อีกอย่าง อาชีพดารา ทำอะไรก็เหมือนจะมีสิทธิพิเศษกว่าเราชาวบ้านอยู่เสมอ
รายได้ก็มากกว่า
พอมีอาชีพเสริม ก็มีช่องทางมากกว่า
แถมพอป่วยก็ยังดูน่าสงสารกว่าอีก??
ครั้งนี้ไม่ค่อยเห็นด้วยกับบุ๋มนะคะ
มันแก้ต่างแบบไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่
บุ๋มคิดว่า มนุษย์เงินเดือนมั่นคงกว่าดาราเหรอคะ
วันดีคืนดี บริษัทเลิกจ้างก็มีเยอะแยะ
เจ็บป่วยก็รักษาเอง
ดาราน่ะ กว่าจะะอยู่ในช่วงขาลง หรืองานหด ก็น่าจะเก็บเงินได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือนทั่วไปนะ
ความคิดเห็นที่ 6
ข้อ 1 กับ 2 ประกันสุขภาพปีละ 7-8 พัน
ข้อ 3-6 ทุกอาชีพมันก็เสี่ยงทั้งนั้นแหละคุณ แต่ดาราดีอยู่อย่าง เล่นหนัง เล่นละครดี อย่างระดับนี้คงได้ 6 หลัก ได้ยินข้าวกองถ่ายก็มี
ยังไม่นับรวมโฆษณา พิธีกร ออกงานอีเว้นท์ อีก ถ้าไม่ฟุ้งเฟื้อคงอยู่ได้สบาย ได้เงินก้อนมา ฝาก ลงทุน เอาปันผลดอกเบี้ย ได้เท่าไหร่
ที่มันไม่พอ เพราะไปกู้ซื้อบ้าน 10 ล้าน รถอีกคันละ 5 ล้าน คูณดอกเอา มันพอที่ไหน
7 เรื่องภาษี จ่ายเท่ากัน แต่เด๋วนี้เห็นดารา เปิดเป็นบริษัทกันเยอะ จ่ายภาษีก็น้อยลง อย่างพลอย เชอ
8-9 อาชีพอื่นๆก็ไม่มีมูลนิธิอะไรใดๆมาคุ้มครองเหมือนกัน ดาราก็คนครับ ใช้ 30 บาท ไม่มีใครเค้าด่าหรอกครับ คิดไปเอง มันเป็นสิทธิของคุณ คุณไม่ใช้จะโทษใคร อยากได้ความสะดวก หมอพูดดีๆ ไม่ต้องรอคิว ก็ต้องรวยครับ
10 การที่คุณออกมาพูดแบบนี้ ยิ่งทำให้คนเค้าไม่สงสารน่ะ เรื่องการทำบุญ ทำทาน มันบังคับกันได้ด้วยเหรอ อยู่วงการมานานน่าจะรู้มันย่อมมีกระแสต่อต้านอยู่แล้ว น่าจะเงียบๆดีกว่า คนจะได้ช่วยซื้อเยอะๆ
ข้อ 3-6 ทุกอาชีพมันก็เสี่ยงทั้งนั้นแหละคุณ แต่ดาราดีอยู่อย่าง เล่นหนัง เล่นละครดี อย่างระดับนี้คงได้ 6 หลัก ได้ยินข้าวกองถ่ายก็มี
ยังไม่นับรวมโฆษณา พิธีกร ออกงานอีเว้นท์ อีก ถ้าไม่ฟุ้งเฟื้อคงอยู่ได้สบาย ได้เงินก้อนมา ฝาก ลงทุน เอาปันผลดอกเบี้ย ได้เท่าไหร่
ที่มันไม่พอ เพราะไปกู้ซื้อบ้าน 10 ล้าน รถอีกคันละ 5 ล้าน คูณดอกเอา มันพอที่ไหน
7 เรื่องภาษี จ่ายเท่ากัน แต่เด๋วนี้เห็นดารา เปิดเป็นบริษัทกันเยอะ จ่ายภาษีก็น้อยลง อย่างพลอย เชอ
8-9 อาชีพอื่นๆก็ไม่มีมูลนิธิอะไรใดๆมาคุ้มครองเหมือนกัน ดาราก็คนครับ ใช้ 30 บาท ไม่มีใครเค้าด่าหรอกครับ คิดไปเอง มันเป็นสิทธิของคุณ คุณไม่ใช้จะโทษใคร อยากได้ความสะดวก หมอพูดดีๆ ไม่ต้องรอคิว ก็ต้องรวยครับ
10 การที่คุณออกมาพูดแบบนี้ ยิ่งทำให้คนเค้าไม่สงสารน่ะ เรื่องการทำบุญ ทำทาน มันบังคับกันได้ด้วยเหรอ อยู่วงการมานานน่าจะรู้มันย่อมมีกระแสต่อต้านอยู่แล้ว น่าจะเงียบๆดีกว่า คนจะได้ช่วยซื้อเยอะๆ
ความคิดเห็นที่ 16
เรื่องดาราป่วยแล้วต้องมาโอดครวญ ที่เห็นเป็นข่าวบ่อยๆ
อย่าหาว่าใจแคบเลย เราไม่เคยคิดสงสาร
ตามข้อขี้แจงที่คุณบุ๋มบอก ฟังไม่ขึ้นไม่สมเหตุสมผล
ถ้าเป็นดารามันไม่ดีจริงๆ ทุกวันนี้เห็นดารานักร้องผุดเป็นดอกเห็ด
ดารา นักร้อง เป็นอาชีพที่รายเมือเทียบกับอาชีพอื่น
ถึงมันจะเป็นโอกาสสั้นๆไม่ยืนยาว แต่โอกาสตรงนี้
ถ้ารู้จักเก็บออมอย่างดี ตอนแก่ไม่ลำบากแน่นอน
ดาราหลายคนเวลาออกรายการ เลี้ยงทั้งบ้านด้วยซ้ำ
หลายคนเรียนจบป.ตรี ป.โท ก็มาเป็นดารา
อาชีพนี้มันต่อยอดชีวิตได้ดีหลายด้าน
คนที่ลำบากจริงๆกว่าดารา มีเยอะมากในประเทศไทย
อย่าหาว่าใจแคบเลย เราไม่เคยคิดสงสาร
ตามข้อขี้แจงที่คุณบุ๋มบอก ฟังไม่ขึ้นไม่สมเหตุสมผล
ถ้าเป็นดารามันไม่ดีจริงๆ ทุกวันนี้เห็นดารานักร้องผุดเป็นดอกเห็ด
ดารา นักร้อง เป็นอาชีพที่รายเมือเทียบกับอาชีพอื่น
ถึงมันจะเป็นโอกาสสั้นๆไม่ยืนยาว แต่โอกาสตรงนี้
ถ้ารู้จักเก็บออมอย่างดี ตอนแก่ไม่ลำบากแน่นอน
ดาราหลายคนเวลาออกรายการ เลี้ยงทั้งบ้านด้วยซ้ำ
หลายคนเรียนจบป.ตรี ป.โท ก็มาเป็นดารา
อาชีพนี้มันต่อยอดชีวิตได้ดีหลายด้าน
คนที่ลำบากจริงๆกว่าดารา มีเยอะมากในประเทศไทย
แสดงความคิดเห็น
"บุ๋ม ปนัดดา"โพสต์ตอบคำถาม 10 ข้อกรณีนักแสดงอาวุโส"ไพโรจน์ ใจสิงห์"ป่วย-ยากจนไม่มีเงินเก็บ
http://bit.ly/1EoIIOI
10 พฤษภาคม 2558 เวลา 16:25 น.
หลังจากกระแสข่าวการเจ็บไข้ได้ป่วยรุมเร้านักแสดงอาวุโส "ไพโรจน์ ใจสิงห์" ส่งผลให้ทางครอบครัวต้องเผชิญกับปัญหาค่าใช้จ่ายอันหนักอึ้งตกเดือนละกว่าแสนบาท จนทนไม่ไหวต้องออกมาขอความช่วยเหลือให้แฟนๆช่วยอุดหนุนธุรกิจชุดสังฆภัณฑ์ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ขณะเดียวกันก็มีการตั้งคำถามในโลกออนไลน์ว่าอาชีพดารานักแสดงถือเป็นอาชีพที่มีรายได้สูง แต่เหตุใดถึงไม่มีเงินเก็บ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ตอบข้อสงสัยดังกล่าวผ่านอินสตาแกรม "@boompanadda" ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
1.ประกันชีวิตสมัยก่อน เป็นแบบตายแล้วญาติค่อยได้เงิน เพิ่งมายุคหลังๆ ที่ประกันได้ปรับรูปแบบให้มีความหลากหลาย
2.คนที่จะจ่ายค่าเบี้ยประกันได้ ต้องมีความมั่นคงทางการเงิน ปีนี้จ่ายได้แต่ไม่รู้ว่าปีหน้าจะมีละครรึเปล่า
3.อาชีพดาราค่าเบี้ยสูงมากค่ะ เพราะเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงและมีความเสี่ยงสูง
4.ดาราเล่นละครเรื่องนึงใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี เราจะได้เงินหลังถ่ายทำจนเสร็จสิ้น ซึ่งนั่นหมายถึงระหว่างที่ถ่ายละครก็อาศัยกินข้าวกองถ่าย และใช้เงินเก็บจากเรื่องก่อนๆ
5.ดาราที่รวยมีอยู่ไม่กี่คนหรอกนะคะ ลองนึกดีๆ จากจำนวนดารานักร้องทั้งหมด
6.งานที่ได้เงินดีในวงการ คือ งานโชว์ตัว และงานพรีเซนเตอร์ ซึ่งก็เป็นพวกซุปตาร์หน้าซ้ำๆ ทั้งนั้น ที่ได้เงินตรงนี้ ดารารุ่นพ่อรุ่นแม่รุ่นป้าไม่เคยได้เงินเยอะแบบนี้หรอกค่ะ
7.ภาษีรายบุคคลก็สูง
8.ดาราไม่มีสมาคมหรือมูลนิธิใดมาคุ้มครองสิทธิดาราอย่างจริงจัง
9.ดาราไปแย่งใช้30บาทได้ไหม คนจนๆ ชาวบ้านด่าตาย ไปแย่งคิวพวกเค้าทำไม
10.ข้อสุดท้าย คุณอาไพโรจน์ ใจสิงห์ นักแสดงอาวุโส ไม่ได้ขอเงินฟรีๆ ขอทำงานแลก และชื่อเสียงที่แกมี จะใช้เพื่อตัวเองและครอบครัว ตราบที่ยังประคองลมหายใจอยู่ แล้วทำไมเราจะช่วยๆ กันอุดหนุนแกไม่ได้บ้าง จริงไหม (ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ)