1) จริงๆหนังน่าจะดีนะ คอนเซ็ปต์การเดินเรื่องน่าสนใจ แต่น่าเสียดาย ผู้กำกับกลับเอาไม่อยู่ กลับกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำร้ายหนังจุดใหญ่ที่สุดไปซะได้
2) ร้องเพลงทั้งเรื่องครับ ประมาณมิวสิกคัลรัชดาลัย ทำนองเพลงก็ประมาณเพลงละครเวที ใครไม่ชินกับแนวนี้ก็อาจรำคาญพอควรเลย
และที่น่าเสียดายสุดๆ คือเพลงที่ร้องออกมา อารมณ์มัน "แห้งๆ" ชอบกล ถ้าใครที่เคยดูละครเวที จะรู้ว่าอารมณ์ที่ส่งถึงคนดู อารมณ์ของเสียงมันจะเป็นอีกแบบนึงครับ
3) หนังพยายามมีฉากเซ็กซ์ ฉากโชว์อก (ทั้งหญิงและชาย) ใส่ กกน. โชว์ก็เยอะอยู่ แต่ไม่รู้ทำไม...มันไม่ชวนให้ติดตามเลย มันเหมือนขาดเสน่ห์ยังไงไม่รู้เหมือนกัน
4) เนื้อเรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็เป็นไปตามคาด นึกว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไร ตามสูตรเรียบง่ายเกินคาด ในแง่เหตุผลของการดำเนินชีวิต ก็งั้นๆ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวละครมีมิติหรือเหตุผลอะไรมากมาย
5) นักแสดง หล่อสวยประมาณนึง (อาจจะเป็นคอนเซปต์หนังว่าเป็นคนธรรมดามั้ง แต่มันไม่ขายฝันอย่างที่อยากให้เป็นนะ) พระเอกมี "บางมุม" ที่พอเท่หล่อดี ส่วนนางเอกเธอก็พอสวยด้วยเครื่องสำอาง (ขนาดฉากตอนตื่นนอนยังต้องทาขอบตาซะดำปื้อ) แต่ก็น่ารักดูเพลินๆ
6) นักแสดงชายได้เปรียบกว่านางเอกเยอะ เพราะเล่าเรื่องจากหน้าไปหลัง แถมมีฉากโชว์เพลงดีๆยาวๆเยอะ อารมณ์พรุ่งพร่านกว่าแยะ ส่วนนางเอกต้องเล่าเริ่มจากอกหัก ย้อนกลับมาเริ่มรักกันใหม่ๆ ทำให้เห็นฝีมือการแสดงที่ถดถอยลงชัดเจนอยู่ น่าเห็นใจนางเอกจริงๆ (อย่างว่า เวลาหนังถ่ายจริง ก็คงถ่ายจากหน้าไปหลังแหละ แล้วเอามาตัดต่ออีกที)
แต่ยอมรับอย่าง ฉากที่ดีที่สุดของนางเอก คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฉากคัดตัวบนเวที เธอร้องได้ดีมาก (แต่ฉากที่เธอต้องประกบเกย์แมน 4 คน เธอโดนขโมยซีนดับอนาถจริงๆ)
7) ไม่ชอบที่สุดคือ การเล่าเรื่อง จากฝั่งนางเอกที่เล่าตอนเลิกรา กับพระเอกที่เริ่มเล่าจากตอนเริ่มคบ แล้วค่อยๆสวนทางกัน ชวนงงมากๆ ไม่ได้ทำให้หนังรู้สึกตราตรึงใจอะไรเลย ชวนปวดหัวและลดเหตุผลลงไปซะมากกว่า (ทั้งๆที่บางฉากก็ทำดีแท้ๆ)
จริงๆก็รู้ว่าอยากโชว์เพลงจบ ที่ร้องสวนทางกันระหว่างพระเอกกับนางเอก ซึ่งก็โอเค แต่ถ้าอยากโชว์ก็ได้ แต่ระหว่างทางเล่าแบบปกติจะชวนซึ้งโรแมนติกมากกว่านี้เยอะ
8) เสียดาย ถ้ามีฉากแถมอีกนิด ให้เนื้อเรื่องเดินหน้ามากกว่าเพลงตอนเริ่มแรกคือแค่เลิกลา หนังจะพอดูสมบูรณ์น่าติดตามขึ้นกว่านี้เยอะเลย
9) สรรสาระ..."ผู้หญิง อย่างเยอะเกิ๊น" จากสถิติพบว่า สาวๆมักบอกเลิกกับแฟนในวันสำคัญต่างๆ เช่น วันวาเลนไทน์ วันเกิด เยอะที่สุด เพราะผู้หญิงมักจะคาดหวังไว้สูงเกิน พอไม่ได้ดั่งใจจึงพาลโกรธโมโห พูดไม่คิดเสมอๆ (ทำให้เวลาดูหนัง เลยแอบรำคาญนางเอกชอบกล)
10) สรุป...จริงๆฉากดีๆ เพลงดีๆ อินเนอร์แรงๆ เรื่องนี้มีหลายฉากที่ดีเลยนะครับ แต่พอโดนการเล่าเรื่องแบบสปอยตอนจบไป เลยทำให้ไม่น่าติดตามเท่าที่ควร
ปล. ซับไตเติ้ล แบบว่า...แนะนำให้ฟังภาษาอังกฤษร่วมไปด้วย จะเสริมความเข้าใจที่ตรงกับภาพที่หนังอยากจะสื่อได้มากยิ่งขึ้น
อีกอย่าง เคยอ่านเจอว่าเวลาแปล ถ้านักแปลสามารถแปลจำนวนพยางค์ได้เท่ากับที่ตัวละครพูดจะดีมาก พอมาเจอมิวสิคเคิ้ลร้องเพลงและอ่านซับตาม รู้เลยว่าบางประโยคเพลงร้องย๊าวยาว แต่แปลมา 5 คำ หรือบางประโยคเพลงร้องแค่ 2 พยางค์ แต่แปลอธิบายยาวเหยียด แถมเพลงใช้คำพ้องเสียงซะเยอะ ในขณะที่คำแปลไม่ได้แคร์เลย เวลาดูหนังจึงรู้สึกสะดุดแปลกๆตลอดๆครับ ต้องพยายามคิดตาม ฟังตามเพลงตลอดเลย ก็ดีไปอีกแบบเหมือนกัน
ปล.2 ถ้าดูเป็นดีวีดี แล้วกด next ขึ้นหน้าลงหลัง เรียงลำดับใหม่เอง อาจจะดูสนุกขึ้นนะ ฉากที่ดีๆก็มีอยู่นะครับ ไม่ถึงขั้นไม่มีที่ดีนะเออ
******************************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ
https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผม จะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่
https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ
http://goo.gl/yDRPd7
[CR] THE LAST FIVE YEARS ร้องให้รู้ว่าโลกรัก : วิเคราะห์เล่นๆว่า...ทำไมหนังจึงไม่สนุกเท่าที่ควรนะ
2) ร้องเพลงทั้งเรื่องครับ ประมาณมิวสิกคัลรัชดาลัย ทำนองเพลงก็ประมาณเพลงละครเวที ใครไม่ชินกับแนวนี้ก็อาจรำคาญพอควรเลย
และที่น่าเสียดายสุดๆ คือเพลงที่ร้องออกมา อารมณ์มัน "แห้งๆ" ชอบกล ถ้าใครที่เคยดูละครเวที จะรู้ว่าอารมณ์ที่ส่งถึงคนดู อารมณ์ของเสียงมันจะเป็นอีกแบบนึงครับ
3) หนังพยายามมีฉากเซ็กซ์ ฉากโชว์อก (ทั้งหญิงและชาย) ใส่ กกน. โชว์ก็เยอะอยู่ แต่ไม่รู้ทำไม...มันไม่ชวนให้ติดตามเลย มันเหมือนขาดเสน่ห์ยังไงไม่รู้เหมือนกัน
4) เนื้อเรื่อง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5) นักแสดง หล่อสวยประมาณนึง (อาจจะเป็นคอนเซปต์หนังว่าเป็นคนธรรมดามั้ง แต่มันไม่ขายฝันอย่างที่อยากให้เป็นนะ) พระเอกมี "บางมุม" ที่พอเท่หล่อดี ส่วนนางเอกเธอก็พอสวยด้วยเครื่องสำอาง (ขนาดฉากตอนตื่นนอนยังต้องทาขอบตาซะดำปื้อ) แต่ก็น่ารักดูเพลินๆ
6) นักแสดงชายได้เปรียบกว่านางเอกเยอะ เพราะเล่าเรื่องจากหน้าไปหลัง แถมมีฉากโชว์เพลงดีๆยาวๆเยอะ อารมณ์พรุ่งพร่านกว่าแยะ ส่วนนางเอกต้องเล่าเริ่มจากอกหัก ย้อนกลับมาเริ่มรักกันใหม่ๆ ทำให้เห็นฝีมือการแสดงที่ถดถอยลงชัดเจนอยู่ น่าเห็นใจนางเอกจริงๆ (อย่างว่า เวลาหนังถ่ายจริง ก็คงถ่ายจากหน้าไปหลังแหละ แล้วเอามาตัดต่ออีกที)
แต่ยอมรับอย่าง ฉากที่ดีที่สุดของนางเอก คือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
10) สรุป...จริงๆฉากดีๆ เพลงดีๆ อินเนอร์แรงๆ เรื่องนี้มีหลายฉากที่ดีเลยนะครับ แต่พอโดนการเล่าเรื่องแบบสปอยตอนจบไป เลยทำให้ไม่น่าติดตามเท่าที่ควร
ปล. ซับไตเติ้ล แบบว่า...แนะนำให้ฟังภาษาอังกฤษร่วมไปด้วย จะเสริมความเข้าใจที่ตรงกับภาพที่หนังอยากจะสื่อได้มากยิ่งขึ้น
อีกอย่าง เคยอ่านเจอว่าเวลาแปล ถ้านักแปลสามารถแปลจำนวนพยางค์ได้เท่ากับที่ตัวละครพูดจะดีมาก พอมาเจอมิวสิคเคิ้ลร้องเพลงและอ่านซับตาม รู้เลยว่าบางประโยคเพลงร้องย๊าวยาว แต่แปลมา 5 คำ หรือบางประโยคเพลงร้องแค่ 2 พยางค์ แต่แปลอธิบายยาวเหยียด แถมเพลงใช้คำพ้องเสียงซะเยอะ ในขณะที่คำแปลไม่ได้แคร์เลย เวลาดูหนังจึงรู้สึกสะดุดแปลกๆตลอดๆครับ ต้องพยายามคิดตาม ฟังตามเพลงตลอดเลย ก็ดีไปอีกแบบเหมือนกัน
ปล.2 ถ้าดูเป็นดีวีดี แล้วกด next ขึ้นหน้าลงหลัง เรียงลำดับใหม่เอง อาจจะดูสนุกขึ้นนะ ฉากที่ดีๆก็มีอยู่นะครับ ไม่ถึงขั้นไม่มีที่ดีนะเออ
******************************
สงสัยหรืออยากพูดคุยทักทาย เจอะกันได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/choord.k
หรือจะเข้าไปกด like แล้วกด get notification ที่เพจของผม จะเป็นกำลังใจให้ผมได้มากเลยครับที่ https://www.facebook.com/tomyumtumnoir
ลิงค์นี้รวบรวมรีวิวหนังที่เคยเขียนมาแล้วครับ http://goo.gl/yDRPd7