กระแสการกลัวทุนใหญ่อย่างเจ้าสัว CP มาแรง กระแสการกลัวทักษินก็ตกไป ความกลัวในมโนภาพคนไทยหลายๆคน กลัวจนขึ้นมองต่อมรักชาติเริ่มทำงานทันที คือกลัวการผูกขาดธุรกิจโดยกลุ่มทุน เพราะมีคนปลุกปั่นให้กลัวทักษินมาก่อน กลัวเค้าจะขายชาติ จริงคนมีทุนมากเท่ากับคนมีโอกาส มีอำนาจมาก ด้วยระบบเศษฐกิจเสรีทุนนิยม ใครใคร่ขาย-ขาย ใครใคร่ซื้อ-ซื้อ โดยตัวระบบมันก็เกื้อหนุนต่อคนที่มีทุนมากอยู่แล้ว ทำให้คนรวยทวีความรวยได้รวดเร็ว ส่วนคนจนรวยขึ้นได้ยาก เชื่อว่าประชากรในประเทศกว่า 80-90% ยังเป็นคนจนและมีรายได้ต่ำ วิธีแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมจึงจำเป็นต้องเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย จึงจะกลายเป็นเสรีทุนนิยม-ประชาธิปไตย ก็เพราะประชาธิปไตยที่เป็นเสียงสะท้อนของคนจำนวนมากของทั้งประเทศ นักการเมืองและข้าราชการควรจะเป็นศรัตรูกับนายทุน เป็นมิตรกับประชาชน เพราะเงินเดือนท่านมาจากภาษีของประชาชน สส.นักการเมืองทำหน้าที่เป็นตัวแทนที่ยึดโยงกับประชาชนเพื่อแก้ไขกฎหมายให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์มากขึ้น มีการศึกษาที่ดี การบริการพื้นฐานที่ดี เข้าถึงทรัพยากรและแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น แต่สถาณการณ์ประเทศไทยตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต่างจากทารกที่ไร้การเหลียวแลจากรัฐที่โอ๋อวยแต่พี่ๆที่ควรดูแลตัวเองได้แล้ว ไม่ต่างจากนายทุนอ้วนฉุแต่รัฐก็ยังอุ้มป้อนนมป้อนข้าวไม่หยุด ประเทศไทยตอนนี้จึงเต็มไปด้วยประชากรทารกที่เลี้ยงไม่เคยโตโดนพี่ๆการศึกษาสูงเป็นคนดีหลายคนด่าอีกว่าเลี้ยงเปลืองนมเป็นคนไร้คุณภาพ รัฐหรือท่านผู้มีอำนาจไม่เคยคิดเลยหรือว่าถ้าเลี้ยงทารกประชาชนคนธรรมดาสามัญเหล่านี้ให้เติบใหญ่เมื่อเค้าสามารถเดินด้วยขาของตัวเองแล้วท่านจะได้พึ่งพาในอนาคต ภาษีที่เก็บได้มากขึ้น กลไกลเศฐศาสตร์การขับเคลื่อนพัฒนาประเทศด้วยประชาธิปไตยมันต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใชที่เป็นอยู่เหมือนทุกวันนี้