สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ
ชื่อปู อายุ 34 ปี ค่า
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ตั้งเองครั้งแรกในชีวิตเลย ผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้า แหะ แหะ
ปกติก็ซุ่มอ่านพันทิปมานมนาน ชอบอ่านพวกรีวิวเครื่องสำอางค์มากๆค่ะ เพราะจะได้ช่วยตัดสินใจว่าดีจริงหรือไม่อย่างไร (ไม่ค่อยจะเชื่อคำโฆษณาเนอะ 555)
อยากทำกระทู้รีวิวเป็นของตัวเองมานานแล้วค่ะ เพราะอยากแชร์สิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี มีประโยชน์ให้คนอื่นๆบ้าง กระทู้นี้จึงเลือกเฉพาะสิ่งที่คิดว่าเริ่ศจริง เพราะซื้อซ้ำๆๆ มาตลอดโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
ราคาส่วนใหญ่ก็อยู่ในช่วงที่รับได้ค่ะ ไม่ถูกหรือแพงเว่อ อย่างน้อยก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นตัวช่วยตัดสินใจให้คนที่กำลังสนใจผลิตภัณฑ์แนวนี้นะคะ อิอิ
ปล.อาการแพ้เป็นอาการส่วนบุคคลนะตัวเอง เกิดลองซื้อใช้ตามแล้วแพ้ อย่าวอแวใส่พี่นะจ๊ะ อิอิ
โฉมหน้าพระ-นาง ทั้งหมด
ขอเริ่มจากการล้างเครื่องสำอางค์ก่อนนะคะ
1.Bifiesta Cleansing Express รุ่น Bright Up
ส่วนผสมนะคะ
ความรู้สึก เมื่อก่อนใช้ Bioderma ค่ะ หลังๆรู้สึกว่าแพงเกินไป เลยหาตัวตายตัวแทนที่ถูกกว่า ก่อนหน้าลอง Pure Vivi ขวดขาวๆใสๆ โลโก้แดงๆ ก็ยังไม่ถูกใจ แต่มาเจอตัวนี้ กล้าพูดเลยว่าดีกว่า Bioderma ค่ะ (เราใช้ Bioderma สูตรฟ้านะ) คือที่บอกว่าดีกว่าไม่ใช่ว่าช่วยให้หน้าใสหรืออย่างไร แต่คือใช้แล้วก็ล้างได้สะอาดเหมือนกันเด๊ะ คือสำลีประมาณ 2 แผ่น ที่บอกว่าดีกว่าก็เพราะว่าเมื่อเทียบค่าตัวและปริมาณที่ถูกกว่า ประมาณ 2-3 เท่า ก็ไม่รู้จะใช้ของแพงกว่าทำไมเนาะ 555 (เจ้านี่ขวดละประมาณ 300)
2.Kuron Gentle Brightening Cleansing Mouse + แปรง 5D
ส่วนผสมหาไม่เจออ่ะ แหะแหะ
ความรู้สึก เคยลองมาหมดแล้ว โฟมล้างหน้าของเค้าเตอร์แบรนด์อ่ะ เชื่อมั้ยว่าก็งั้นๆ และไม่รู้ว่าแค่ล้างหน้าจะใช้ของแพงไปทำไม เพราะไม่ได้ช่วยบำรุงอะไรอยู่แล้ว ขอแค่ล้างสะอาด อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิวเป็นพอ ซึ่งเจ้าตัวนี้มีคุณสมบัติครบทุกประการจ้าา ซื้อในวัตสันพร้อมแปรงลดแล้ว 1390.- ค่ะ ถ้าเฉพาะตัวโฟมก็ 2 ร้อยกว่าๆ ถามว่าดียังไงคือล้างแล้วสะอาดจริง ใช้ต่อจากการล้างเครื่องสำอางค์ ใช้เดี่ยวๆตอนเช้าก็บางเบา สบายผิว ไม่แห้งตึง กลิ่นออกยาๆ นิดหน่อย ให้ฟีลลิ่งเหมือนหมอกำลังรักษาหน้าตัวเอง 5555
ส่วนแปรงรุ่นนี้เป็นอะไรที่ไม่ได้ใช้คู่กันทุกวัน คือนานๆที อาทิตย์ละครั้งไรงี้ ก็ใช้ดีนะสำหรับแปรง รีวิวไรมากไม่ได้เพราะไม่เคยใช้แปรงของยี่ห้ออื่น
3.Biotherm Life Plankton และ Neo-Tec Brightening and Soothing Toner
ส่วนผสมของเจ้า Neo-Tec
ส่วนผสมของ Life Plankton คือทำกล่องหายอ่ะ แหะ แหะ อิอิ คุคิ หาอ่านเอาเองเนอะ
ความรู้สึก หลังล้างหน้าเสร็จก็เช็ดหน้าด้วย Toner และบำรุงด้วยเอสเซ้นกันก่อน สำหรับ Life Plankton นั้นขอไม่พูดอะไรมากเพราะคนรีวิวเยอะแล้ว ยกมาให้ดูเพราะซื้อซ้ำจริงๆ ขวด 3 แล้ว ก็กลายเป็นยาสามัญประจำบ้านไปซะ เอาไว้ต่อกรกับสิวอักเสบต่างๆ ส่วนเจ้า toner ของ Neo-Tec เชื่อว่า 99.99% ที่มาอ่านกระทู้งงว่าคืออะไร ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็แน่ล่ะ มันไม่มีขายในเมืองไทย มันเป็นของไต้หวัน ดิชั้นต้องรบกวนญาติที่นู่นซื้อและส่งมาให้ทุกๆ 3 เดือน ถามว่ามันดียังไง เอาเป็นว่ามันเบียด toner ป้าพอลล่าที่เคยลองทั้งสองสูตรตกกระป๋อง กลายเป็นไอเท็มประจำของดิชั้นไปแล้วค่ะ อิอิ เนื้อสัมผัสชนะเลิศ ผลลัพท์ก็เช่นกัน ใช้แล้วหน้าใสขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ราคาตีเป็นเงินไทยก็ 700 กว่าๆ ใช้ได้ประมาณ 3 เดือน (เช้า เย็น) ใครไปไต้หวัน ไปหามาใข้ซะ
4.Paula's Choice 2% BHA Liquid
ส่วนผสมหายไปอีกแล้ว!! หาตามกูเกิลเอานะ หาไม่ยากหรอก
ความรู้สึก ถึงดิชั้นจะเขี่ย toner ของป้าไปแล้ว แต่เจ้าตัวนี้ทำยังไงก็ไม่สามารถเขี่ยได้ เอาเป็นว่าไม่มี bha ยี่ห้อไหนล้มป้าเค้าได้แหละ อันนี้ยอมแกจริงๆ เนื้อสัมผัสเมื่อใช้กับสำลีเช็ดจะบางเบา ทิ้งความเงาๆ บนหน้าซักพัก และก็จะซึมหายไป กลิ่นออกเปรี้ยวๆหน่อยๆ ไม่ว่ากันจุดนี้ แต่ผลลัพท์นี่สิ สิวดิชั้นแทบไม่ขึ้นมาอีก (อาจเป็นเพราะอาหารเสริมที่ทานด้วย กำลังจะรีวิวในข้อต่อๆไป) หน้ามันน้อยลง ข้อเสียประการเดียวก็คือใช้นานๆ หน้าอาจจะแอบลอกนิดๆ ซึ่งต้องหาตัวช่วยเอานะ ค่าเสียหายประมาณพันนึง + - นิดหน่อย
5.Sulwhasoo First Care Activating Serum + Ipsa ME Moist 3
ของ First Care
ของ ipsa รูปเล็กนิดนึงนะ
ความรู้สึก ตัว Sulwhasoo ก็นะ ดีงาม ซึมง่าย รู้สึกผิวแข็งแรง ขวดนี้ขวดที่ 3 แล้ว วันไหนไม่ใช้เหมือนขาดอะไรไป วิธีใช้เจ้านี่ตอนแรกไม่รู้ บีบมาหลังมือแล้วก็ปาดๆ ทาๆ ปรากฏไปเจอวิธีในยูทูป เค้าบอกว่าต้องบีบใส่ฝ่ามือ 2-3 ปั๊ม แล้ววอร์มให้ทั่วฝ่ามือและประคบลงบนหน้า ลองทำตามแล้วฟินนนน คือมันหอมอ่ะ อิอิ อยากจะบอกว่าชั้นไม่เชื่อ BA หรอก นางบอกต้องใช้เจ้านี่แรกสุดหลังล้างหน้า แล้วต้องใช้เซรั่มอีกตัวตั้งเกือบ 4 พันตาม คือสิ่งนี้คุณสามารถใช้เป็นเซรั่มตามปกติได้เลย ไม่จำเป็นต้องเป็น pre เซร่งเซรั่มหรอก^^ ส่วนเจ้า ipsa ตัวนี้ได้ยินมาว่าเคยเป็นตัวดังในห้องแป้ง ขวดนี่เพิ่งขวดแรกแต่ที่เอามาลงเพราะบอกเลยว่าซื้อซ้ำแน่นอน 100000% เพราะมันดีอ่ะเทอว์ ใช้แทน moisturizer สำหรับช่วงพระอาทิตย์อยู่หน้าบ้านแบบนี้ได้ดีมาก เนื้อสัมผัสชนะเลิศ ไม่เน้นบำรุง เน้นเติมความชุ่มชื้นเป็นหลักนะสำหรับตัวนี้ ค่าเสียหายทั้งสองตัวก็ Sulwhasoo เราซื้อร้านตัวแทนเหลือ 1800 เอง ส่วน ipsa ซื้อมาจากเค้าเตอร์ลด 20% เพราะ BA ผู้แสนใจดีไปรวมบิลกับพี่คนนึงให้ครบ 15000 เลยลด 20% จ้า (สาขาพารากอน ^^)
6.Goodskin Lab True Hydration 24H
ส่วมผสมนะ
ความรู้สึก เนื้อสัมผัสชนะเลิศ ดีงามที่สุดใน 3 โลก เคยไปลองที่เค้าเตอร์มาแล้วแต่ไม่ได้ซื้อหรอกเพราะนางแพง 1500 แน่ะ เสียดายตัง แต่แม่คุณนางมาอยู่ที่งาน Elca Sale ที่ผ่านมา นางเหลือ 625 บาท
เลยลากนางกลับมา 3 ชีวิต อิอิ พอใช้ไปอีกนาน จนงานครั้งหน้าแหละ 555 สำหรับสิ่งนี้เหมาะกับผิวหน้าเรามากๆ คือผิวมันแต่ขาดความชุ่มชื่น ใช้แล้วหน้ามันน้อยลง หน้านิ่มๆ ดี แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับ moisturizer ตัวนึง หน้าที่บำรุงปล่อยเป็นหน้าที่ของเซรั่มไปเนอะ
ต่อกันที่อาหารเสริมบ้าง คือเคยเจอหมอท่านนึงบอกว่าพวกครีมเนี่ยต่อให้ราคาเป็นหมื่นๆ ก็ไม่สามารถลงไปบำรุงถึงหนังชั้น dermis มันอยู่ได้แค่หนังชั้นนอกเท่านั้นแหละ (ผิวหนังมี 3 ชั้นนะตัวเอง ^^) การจะบำรุงข้างในต้องอาศัยการทานอาหารเสริมและวิตามินค่ะ (เชื่อหมอๆ รู้สึกว่าหมอจะขายอาหารเสริมด้วย ถ้าจำไม่ผิด 555)
7.Lady Macaron ProCollagen Signature
ส่วนผสม
ความรู้สึก ทานมาปีนึงแล้วนะคะ ตัวนี้ ไม่ได้นับกล่องแล้ว ค่ือตอนแรกเลยนางไม่ใช้สูตรนี้ค่ะ เป็นสูตรถั่วเหลือง 250 มก. เราติดใจตรงนั้นมาก ก็ซื้อทานเรื่อยๆ ปรากฏว่าปีนี้นางเปลี่ยนสูตรใหม่แล้วเราไม่รู้ ก็ซื้อสูตรใหม่กินมาทั้งที่ไม่รู้ๆ 3 กล่องแล้ว พลิกมาดูนางมีคอลลาเจนจากปลาทะเลโผล่มาค่ะ >_< คือเราจะเบื่อพวกคอลลาเจนมากๆๆ คือเบื่อตรงที่เค้าชอบเอามาหลอกคนว่าคอลลาเจนกินแล้วสวยกินแล้วใส แต่นางผู้นี้คอนเซปเค้าคือกินแล้วไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้เอง แถมเราแพ้อาหารทะเลด้วยเลยตกใจ โทรไปถามบริษัทบอกว่าสกัดฮิสตามีนและไคตินออกไปหมดแล้ว คนแพ้อาหารทะเลก็ทานได้ อืมมก็คงจริงนะ เพราะเราเองแพ้อาหารทะเลก็ทานได้ไม่เป็นไร สำหรับสูตรใหม่นี้ทำไปทำมาเราว่าชนะเลิศสูตรเดิม เน้นสมุนไพรมากขึ้น ยังคงคอนเซปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลเจนเองอยู่และช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย (ปัญหาผิวทั้งหลายส่วนมากเกิดจากฮอร์โมนเสียสมดุลนะตัวเอง เผื่อใครยังไม่รู้) คือบอกเลยว่านางเริ่ศจริง ทานมา 1 ปี ผิวแข็งแรงมากๆ และปวดประจำเดือนน้อยลงเยอะค่ะ ช่วงปีที่แล้วทำ Fractional Co2 ที่พฤกษาคลีนิค รอยแดงหลังจากทำหายเร็วมาก เวลาเป็นสิวอักเสบหรือบีบสิวก็หายเร็ว คือเข้าใจว่าที่หมอบอกภานในแข็งแรงมันเป็นยังไงเลย ชนะเลิศค่ะ ค่าตัวนาง ก็พันกว่าบาท นางมักซื้อ 1 แถม 1 บ่อยๆ แหละ ซื้อทีทานได้ 2 เดือน ก็โอเคอ่ะนะ สำหรับเรา
8.Blackmore วิตามินรวม
ส่วนผสมนาง
ความรู้สึก เป็นโรคจิตว่าต้องกินวิตามินรวมหลังจากอ่านหนังสือวิตามิน ไบเบิล ของหมอต่างประเทศ จึงรีบตรงไปบูทไปจัดนางมา 1 ชุด ทานหลังอาหารเช้า 1 เม็ด ส่วน ProCollagen ทานก่อนนอน ลืมบอกไป ก็โอเคมากๆเลยนะ ไม่ค่อยเป็นหวัด เป็นก็ไม่หนัก แปบเดียวหาย รู้สึกเพลียน้อยลง ไม่รู้คิดไปเองป่าว 555 แต่ก็รู้สึก secure ว่าแบบชั้นทานวิตามินรวมแล้วนะ ไรงี้ อิอิ เอาเป็นว่าฟินนนค่ะสรุป
ก็จบแล้วนะคะ สำหรับรีวิวแรกในชีวิต ผิดพลาดหรืองงตรงไหนก็ขออภัยนะคะ แหะ แหะ ถ้าชอบกัน เดี๋ยวจะทำรีวิว Make Up เริ่ศๆ ต่อนะคะ
[CR] รีวิวสรรพสิ่งที่ต้องซื้อซ้ำๆๆๆ เพราะขาดเทอไม่ได้ ! ฉบับ Skincare
ชื่อปู อายุ 34 ปี ค่า
กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ตั้งเองครั้งแรกในชีวิตเลย ผิดพลาดประการใด ขออภัยล่วงหน้า แหะ แหะ ปกติก็ซุ่มอ่านพันทิปมานมนาน ชอบอ่านพวกรีวิวเครื่องสำอางค์มากๆค่ะ เพราะจะได้ช่วยตัดสินใจว่าดีจริงหรือไม่อย่างไร (ไม่ค่อยจะเชื่อคำโฆษณาเนอะ 555)
อยากทำกระทู้รีวิวเป็นของตัวเองมานานแล้วค่ะ เพราะอยากแชร์สิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี มีประโยชน์ให้คนอื่นๆบ้าง กระทู้นี้จึงเลือกเฉพาะสิ่งที่คิดว่าเริ่ศจริง เพราะซื้อซ้ำๆๆ มาตลอดโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ราคาส่วนใหญ่ก็อยู่ในช่วงที่รับได้ค่ะ ไม่ถูกหรือแพงเว่อ อย่างน้อยก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นตัวช่วยตัดสินใจให้คนที่กำลังสนใจผลิตภัณฑ์แนวนี้นะคะ อิอิ
ปล.อาการแพ้เป็นอาการส่วนบุคคลนะตัวเอง เกิดลองซื้อใช้ตามแล้วแพ้ อย่าวอแวใส่พี่นะจ๊ะ อิอิ
โฉมหน้าพระ-นาง ทั้งหมด
ขอเริ่มจากการล้างเครื่องสำอางค์ก่อนนะคะ
1.Bifiesta Cleansing Express รุ่น Bright Up
ส่วนผสมนะคะ
ความรู้สึก เมื่อก่อนใช้ Bioderma ค่ะ หลังๆรู้สึกว่าแพงเกินไป เลยหาตัวตายตัวแทนที่ถูกกว่า ก่อนหน้าลอง Pure Vivi ขวดขาวๆใสๆ โลโก้แดงๆ ก็ยังไม่ถูกใจ แต่มาเจอตัวนี้ กล้าพูดเลยว่าดีกว่า Bioderma ค่ะ (เราใช้ Bioderma สูตรฟ้านะ) คือที่บอกว่าดีกว่าไม่ใช่ว่าช่วยให้หน้าใสหรืออย่างไร แต่คือใช้แล้วก็ล้างได้สะอาดเหมือนกันเด๊ะ คือสำลีประมาณ 2 แผ่น ที่บอกว่าดีกว่าก็เพราะว่าเมื่อเทียบค่าตัวและปริมาณที่ถูกกว่า ประมาณ 2-3 เท่า ก็ไม่รู้จะใช้ของแพงกว่าทำไมเนาะ 555 (เจ้านี่ขวดละประมาณ 300)
2.Kuron Gentle Brightening Cleansing Mouse + แปรง 5D
ส่วนผสมหาไม่เจออ่ะ แหะแหะ
ความรู้สึก เคยลองมาหมดแล้ว โฟมล้างหน้าของเค้าเตอร์แบรนด์อ่ะ เชื่อมั้ยว่าก็งั้นๆ และไม่รู้ว่าแค่ล้างหน้าจะใช้ของแพงไปทำไม เพราะไม่ได้ช่วยบำรุงอะไรอยู่แล้ว ขอแค่ล้างสะอาด อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิวเป็นพอ ซึ่งเจ้าตัวนี้มีคุณสมบัติครบทุกประการจ้าา ซื้อในวัตสันพร้อมแปรงลดแล้ว 1390.- ค่ะ ถ้าเฉพาะตัวโฟมก็ 2 ร้อยกว่าๆ ถามว่าดียังไงคือล้างแล้วสะอาดจริง ใช้ต่อจากการล้างเครื่องสำอางค์ ใช้เดี่ยวๆตอนเช้าก็บางเบา สบายผิว ไม่แห้งตึง กลิ่นออกยาๆ นิดหน่อย ให้ฟีลลิ่งเหมือนหมอกำลังรักษาหน้าตัวเอง 5555 ส่วนแปรงรุ่นนี้เป็นอะไรที่ไม่ได้ใช้คู่กันทุกวัน คือนานๆที อาทิตย์ละครั้งไรงี้ ก็ใช้ดีนะสำหรับแปรง รีวิวไรมากไม่ได้เพราะไม่เคยใช้แปรงของยี่ห้ออื่น
3.Biotherm Life Plankton และ Neo-Tec Brightening and Soothing Toner
ส่วนผสมของเจ้า Neo-Tec
ส่วนผสมของ Life Plankton คือทำกล่องหายอ่ะ แหะ แหะ อิอิ คุคิ หาอ่านเอาเองเนอะ
ความรู้สึก หลังล้างหน้าเสร็จก็เช็ดหน้าด้วย Toner และบำรุงด้วยเอสเซ้นกันก่อน สำหรับ Life Plankton นั้นขอไม่พูดอะไรมากเพราะคนรีวิวเยอะแล้ว ยกมาให้ดูเพราะซื้อซ้ำจริงๆ ขวด 3 แล้ว ก็กลายเป็นยาสามัญประจำบ้านไปซะ เอาไว้ต่อกรกับสิวอักเสบต่างๆ ส่วนเจ้า toner ของ Neo-Tec เชื่อว่า 99.99% ที่มาอ่านกระทู้งงว่าคืออะไร ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็แน่ล่ะ มันไม่มีขายในเมืองไทย มันเป็นของไต้หวัน ดิชั้นต้องรบกวนญาติที่นู่นซื้อและส่งมาให้ทุกๆ 3 เดือน ถามว่ามันดียังไง เอาเป็นว่ามันเบียด toner ป้าพอลล่าที่เคยลองทั้งสองสูตรตกกระป๋อง กลายเป็นไอเท็มประจำของดิชั้นไปแล้วค่ะ อิอิ เนื้อสัมผัสชนะเลิศ ผลลัพท์ก็เช่นกัน ใช้แล้วหน้าใสขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด ราคาตีเป็นเงินไทยก็ 700 กว่าๆ ใช้ได้ประมาณ 3 เดือน (เช้า เย็น) ใครไปไต้หวัน ไปหามาใข้ซะ
4.Paula's Choice 2% BHA Liquid
ส่วนผสมหายไปอีกแล้ว!! หาตามกูเกิลเอานะ หาไม่ยากหรอก
ความรู้สึก ถึงดิชั้นจะเขี่ย toner ของป้าไปแล้ว แต่เจ้าตัวนี้ทำยังไงก็ไม่สามารถเขี่ยได้ เอาเป็นว่าไม่มี bha ยี่ห้อไหนล้มป้าเค้าได้แหละ อันนี้ยอมแกจริงๆ เนื้อสัมผัสเมื่อใช้กับสำลีเช็ดจะบางเบา ทิ้งความเงาๆ บนหน้าซักพัก และก็จะซึมหายไป กลิ่นออกเปรี้ยวๆหน่อยๆ ไม่ว่ากันจุดนี้ แต่ผลลัพท์นี่สิ สิวดิชั้นแทบไม่ขึ้นมาอีก (อาจเป็นเพราะอาหารเสริมที่ทานด้วย กำลังจะรีวิวในข้อต่อๆไป) หน้ามันน้อยลง ข้อเสียประการเดียวก็คือใช้นานๆ หน้าอาจจะแอบลอกนิดๆ ซึ่งต้องหาตัวช่วยเอานะ ค่าเสียหายประมาณพันนึง + - นิดหน่อย
5.Sulwhasoo First Care Activating Serum + Ipsa ME Moist 3
ของ First Care
ของ ipsa รูปเล็กนิดนึงนะ
ความรู้สึก ตัว Sulwhasoo ก็นะ ดีงาม ซึมง่าย รู้สึกผิวแข็งแรง ขวดนี้ขวดที่ 3 แล้ว วันไหนไม่ใช้เหมือนขาดอะไรไป วิธีใช้เจ้านี่ตอนแรกไม่รู้ บีบมาหลังมือแล้วก็ปาดๆ ทาๆ ปรากฏไปเจอวิธีในยูทูป เค้าบอกว่าต้องบีบใส่ฝ่ามือ 2-3 ปั๊ม แล้ววอร์มให้ทั่วฝ่ามือและประคบลงบนหน้า ลองทำตามแล้วฟินนนน คือมันหอมอ่ะ อิอิ อยากจะบอกว่าชั้นไม่เชื่อ BA หรอก นางบอกต้องใช้เจ้านี่แรกสุดหลังล้างหน้า แล้วต้องใช้เซรั่มอีกตัวตั้งเกือบ 4 พันตาม คือสิ่งนี้คุณสามารถใช้เป็นเซรั่มตามปกติได้เลย ไม่จำเป็นต้องเป็น pre เซร่งเซรั่มหรอก^^ ส่วนเจ้า ipsa ตัวนี้ได้ยินมาว่าเคยเป็นตัวดังในห้องแป้ง ขวดนี่เพิ่งขวดแรกแต่ที่เอามาลงเพราะบอกเลยว่าซื้อซ้ำแน่นอน 100000% เพราะมันดีอ่ะเทอว์ ใช้แทน moisturizer สำหรับช่วงพระอาทิตย์อยู่หน้าบ้านแบบนี้ได้ดีมาก เนื้อสัมผัสชนะเลิศ ไม่เน้นบำรุง เน้นเติมความชุ่มชื้นเป็นหลักนะสำหรับตัวนี้ ค่าเสียหายทั้งสองตัวก็ Sulwhasoo เราซื้อร้านตัวแทนเหลือ 1800 เอง ส่วน ipsa ซื้อมาจากเค้าเตอร์ลด 20% เพราะ BA ผู้แสนใจดีไปรวมบิลกับพี่คนนึงให้ครบ 15000 เลยลด 20% จ้า (สาขาพารากอน ^^)
6.Goodskin Lab True Hydration 24H
ส่วมผสมนะ
ความรู้สึก เนื้อสัมผัสชนะเลิศ ดีงามที่สุดใน 3 โลก เคยไปลองที่เค้าเตอร์มาแล้วแต่ไม่ได้ซื้อหรอกเพราะนางแพง 1500 แน่ะ เสียดายตัง แต่แม่คุณนางมาอยู่ที่งาน Elca Sale ที่ผ่านมา นางเหลือ 625 บาท เลยลากนางกลับมา 3 ชีวิต อิอิ พอใช้ไปอีกนาน จนงานครั้งหน้าแหละ 555 สำหรับสิ่งนี้เหมาะกับผิวหน้าเรามากๆ คือผิวมันแต่ขาดความชุ่มชื่น ใช้แล้วหน้ามันน้อยลง หน้านิ่มๆ ดี แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับ moisturizer ตัวนึง หน้าที่บำรุงปล่อยเป็นหน้าที่ของเซรั่มไปเนอะ
ต่อกันที่อาหารเสริมบ้าง คือเคยเจอหมอท่านนึงบอกว่าพวกครีมเนี่ยต่อให้ราคาเป็นหมื่นๆ ก็ไม่สามารถลงไปบำรุงถึงหนังชั้น dermis มันอยู่ได้แค่หนังชั้นนอกเท่านั้นแหละ (ผิวหนังมี 3 ชั้นนะตัวเอง ^^) การจะบำรุงข้างในต้องอาศัยการทานอาหารเสริมและวิตามินค่ะ (เชื่อหมอๆ รู้สึกว่าหมอจะขายอาหารเสริมด้วย ถ้าจำไม่ผิด 555)
7.Lady Macaron ProCollagen Signature
ส่วนผสม
ความรู้สึก ทานมาปีนึงแล้วนะคะ ตัวนี้ ไม่ได้นับกล่องแล้ว ค่ือตอนแรกเลยนางไม่ใช้สูตรนี้ค่ะ เป็นสูตรถั่วเหลือง 250 มก. เราติดใจตรงนั้นมาก ก็ซื้อทานเรื่อยๆ ปรากฏว่าปีนี้นางเปลี่ยนสูตรใหม่แล้วเราไม่รู้ ก็ซื้อสูตรใหม่กินมาทั้งที่ไม่รู้ๆ 3 กล่องแล้ว พลิกมาดูนางมีคอลลาเจนจากปลาทะเลโผล่มาค่ะ >_< คือเราจะเบื่อพวกคอลลาเจนมากๆๆ คือเบื่อตรงที่เค้าชอบเอามาหลอกคนว่าคอลลาเจนกินแล้วสวยกินแล้วใส แต่นางผู้นี้คอนเซปเค้าคือกินแล้วไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้เอง แถมเราแพ้อาหารทะเลด้วยเลยตกใจ โทรไปถามบริษัทบอกว่าสกัดฮิสตามีนและไคตินออกไปหมดแล้ว คนแพ้อาหารทะเลก็ทานได้ อืมมก็คงจริงนะ เพราะเราเองแพ้อาหารทะเลก็ทานได้ไม่เป็นไร สำหรับสูตรใหม่นี้ทำไปทำมาเราว่าชนะเลิศสูตรเดิม เน้นสมุนไพรมากขึ้น ยังคงคอนเซปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลเจนเองอยู่และช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย (ปัญหาผิวทั้งหลายส่วนมากเกิดจากฮอร์โมนเสียสมดุลนะตัวเอง เผื่อใครยังไม่รู้) คือบอกเลยว่านางเริ่ศจริง ทานมา 1 ปี ผิวแข็งแรงมากๆ และปวดประจำเดือนน้อยลงเยอะค่ะ ช่วงปีที่แล้วทำ Fractional Co2 ที่พฤกษาคลีนิค รอยแดงหลังจากทำหายเร็วมาก เวลาเป็นสิวอักเสบหรือบีบสิวก็หายเร็ว คือเข้าใจว่าที่หมอบอกภานในแข็งแรงมันเป็นยังไงเลย ชนะเลิศค่ะ ค่าตัวนาง ก็พันกว่าบาท นางมักซื้อ 1 แถม 1 บ่อยๆ แหละ ซื้อทีทานได้ 2 เดือน ก็โอเคอ่ะนะ สำหรับเรา
8.Blackmore วิตามินรวม
ส่วนผสมนาง
ความรู้สึก เป็นโรคจิตว่าต้องกินวิตามินรวมหลังจากอ่านหนังสือวิตามิน ไบเบิล ของหมอต่างประเทศ จึงรีบตรงไปบูทไปจัดนางมา 1 ชุด ทานหลังอาหารเช้า 1 เม็ด ส่วน ProCollagen ทานก่อนนอน ลืมบอกไป ก็โอเคมากๆเลยนะ ไม่ค่อยเป็นหวัด เป็นก็ไม่หนัก แปบเดียวหาย รู้สึกเพลียน้อยลง ไม่รู้คิดไปเองป่าว 555 แต่ก็รู้สึก secure ว่าแบบชั้นทานวิตามินรวมแล้วนะ ไรงี้ อิอิ เอาเป็นว่าฟินนนค่ะสรุป
ก็จบแล้วนะคะ สำหรับรีวิวแรกในชีวิต ผิดพลาดหรืองงตรงไหนก็ขออภัยนะคะ แหะ แหะ ถ้าชอบกัน เดี๋ยวจะทำรีวิว Make Up เริ่ศๆ ต่อนะคะ