Preamble

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Pantip ครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรกของผมใน Pantip ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด ผมขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
สาเหตุที่ผมอยากทำรีวิวนี้ เพราะว่าตอนที่ผมจะซื้อ Pomade อยากรู้ว่าตัวไหนดี ใน Pantip ดันไม่มีสักกระทู้ เลยอยากลองรีวิวดู
เผื่อจะมีประโยชน์กับท่านอื่นที่เจอสถานการณ์เดียวกันนะครับ

---

เข้าเรื่อง

สำหรับคุณผู้ชายที่กำลังอยากเกาะกระแส Vintage วันนี้ เราจะมาพูดถึง Pomade กันครับ

Pomade คือ ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันตั้งแต่ช่วงสงครามจนถึงช่วง 1960 (เอลวิสกะลังดัง วินเทจปะล่ะ)
นิยมใช้ในการจัดแต่งแนววิทเทจ เรียบๆ เงาๆ เฟี้ยวๆ ซึ่งนั่นทำให้ Pomade กลับมา Boom อีกครั้งตามกระแสแฟชั่น Vintage ที่กำลัง Boom นั่นเองครับ

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Pomade ซึ่งเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นได้แก่
- Slickness  หมายถึงความเรียบ + ความเงา นั่นเอง ครับ
- Restyleability  หมายถึงความสามารถในการหวีซ้ำ จัดทรงซ้ำได้
  (สำหรับ Oil-Based Pomade จะหวีซ้ำได้ทั้งวัน / Water Badsed ก็หวีซ้ำได้ แต่หวีบ่อยๆพลังการจัดทรงก็จะหายไปด้วยครับ)

ต้องมีสองสิ่งนี้ คุณถึงจะได้ทรงผมสุดเนี๊ยบในลุค Vintage แบบนี้


สำหรับ Pomade ที่จะรีวิวในวันนี้คือ คือ คือ.......

JS Sloane Heavyweigth Brillaintine



Presentation

Pomade ตัวนี้ผมได้มาจากร้านตัดผมแนววินเทจแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ในราคา 7xx บาท (จะเรียก Pomade ก็ไม่ถูกนัก เพราะมันก็บอกอยู่
ว่าเป็น Brillaintine (อย่าถามว่าคืออะไร...ไม่รู้)

Pomade ตัวนี้มาในกระปุกพาสติกสีน้ำตาล ฝาเงินตามรูปข้างบนนะครับ ดูสวยและวินเทจมากทีเดียว เปิดฝากระปุกออกมา จะพบเนื้อ Pomade สีชมพู แถมมีประกายมุกด้วย ทำไมมันดูไม่แมนเลยว๊าาา




Performance
(หากใครเคยดูรีวิวของ The pomp เค้าจะมี Criteria อยู่ 7-8 ข้อ ผมจะล้อตามนั้นนะครับ)

ก่อนอื่นต้องพูดถึงสภาพผมของผมกันก่อน เพราะสภาพผม (และการตัด) ค่อนข้างมีผลมาก กับ Performance
ของ Pomade เพราะฉะนั้นผมขอเน้นว่า Pomade ที่ผมบอกว่าดี อาจจะแย่กับคนที่สภาพผมต่างจากผมก็ได้นะคับ

ผมเป็นคนที่มีผมเส้นใหญ่ หนา หยาบ แห้ง และอินดี้มีทรงเป็นของตัวเอง (จัดทรงยากนั่นแหละครับ) ครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Scent (กลิ่น) 10 (+1) /10
กลิ่นของ JS ตัวนี้หอมมากครับ เป็นกลิ่นแนวๆเดียวกับผลิตภัณฑ์ในซาลอน (เค้าบอกว่าเป็นกลิ่นแนว Floral)
มีความหอมหวานแต่ดมแล้วสดชื่น ผมโคตรรรรรรรรรชอบ จนบางวันนั่งอยู่บ้านต้องเปิดมาดมเล่น (คนอื่นนึกว่าตรูดมกาว)

Applicability (ความยากง่ายในการใช้งาน) 6/10
หลังจากเปิดฝามาแล้ว ผมก็ทำการจกเนื้อผลิตภัณฑ์ขึ้นมา 2 ข้อนิ้ว
ซึ่งหนึ่งข้อนิ้วก็คือปริมาณขนาดนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จากนั้นก็ละเลงให้ทั่วมือทั้งสองข้าง ความรู้สึกตอนที่ละเลงนั้นพบว่าเนื้อ Pomade มีความเหนียวแต่ลื่น (อย่าทะลี่ง!!!!)
ขยายความก็คือมันเหนียวแต่สามารถเกลี่ยให้ทั่วมือได้ง่ายมาก

หลังจากนั้นก็ละเลงลงบนหัว (ผมชื้นนิดๆ) ให้ทั่ว ซึ่งเนื้อ Pomade ก็สามารถกระจายเข้าไปอยู่ในเส้นผมได้ง่ายดี ทำให้ไม่ต้องควัก
Pomade ขึ้นมาเยอะเท่าไหร่ (ถ้า Pomade มันเข้าไปในผมได้ไม่ดี คุณจะต้องควักเยอะเพื่อให้มันทั่วผม และพอล้างมือคุณจะพบว่ามันค้างอยู่ที่มือคุณเยอะมาก)
แต่!!!!!!!!! มันก็มีข้อเสีย

คือ Pomade ตัวนี้ แมร่งแห้งเร็วมาก (ยิ่งถ้าคุณใช้กับผมแห้ง มันจะแห้งเร็วขึ้นไปอีก) เพราะฉะนั้นถ้ามือคุณไม่เร็วพอ Pomade มันจะแข็งตัวก่อนไปก่อนที่คุณจะหวีเสร็จ ทีนีผมคุณก็จะค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น จะหวีต่อก็กระอักกระอ่วน จะหยุดเซ็ตแล้วเดินออกไปทั้งอย่างนั้นก็คงตลกพิลึก (คือผมอาจจะยังเซ็ตไม่เก่งด้วยแหละ แต่มันใช้ยากอะครับ)  
พอมันแข็งตัวแล้ว ทีนี้ล่ะ แก้ยากเลย

Hold (ความอยู่ทรง) 8/10
Hold ในความคิดผมหมายถึง ความสามารถในการคงรูปร่างโดยรวมของทรงผมหลังจากที่ Pomade เซ็ตตัวแล้ว

Pomade ตัวนี้มีพลังการจัดทรงสูงมากนะครับ สามารถอยู่ทรงได้ทั้งวัน ลมพัดไม่กระดิกอะ แข็งเป๊ก
(แต่ผมข้างๆ ที่สั้นๆมันเอาไม่อยู่นะ แต่ผมเชื่อว่าสำหรับผมคงไม่มีตัวไหนเอาอยู่หรอก 555+ )
(ดูรูปหัวข้อถัดไปประกอบนะครับ)

Slickness (ความเรียบ) 6/10
Slickness ผมหมายถึง ความสามารถในการเก็บเส้นผมทั้งหมดให้อยู่ในทรง ถ้า Slickness มาก จะไม่มีค่อยมีผมโดดๆ ลุ่ยๆออกมาจากทรง ถ้า Slickness น้อย จะมีผมที่ลุ่ยๆออกมาเยอะ

ถึงพลังการจัดทรงจะสูงมาก แต่ Slickness นี่ไม่ดีเท่าทีคิดไว้เลยครับ จริงๆอยู่ที่ตอนหวีเสร็จใหม่ๆ มันเก็บผมได้หมดจริง
แต่พอมันแห้งเท่านั้นแหละ จะมีเส้นผมที่โดด ลุ่ยออกมาทันที ซึ่งถ้าคุณไมได้คิดอะไรมาก มันก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณเป็นคนบ้าแบบผม
คุณจะหัวเสียเอามากๆเลยล่ะ

นี่คือตอนเสร็จเสร็จหมาดๆ


เก็บผมได้ดีพอสมควร (พอดีรีบๆด้วยครับ เลยเซ็ตไม่เรียบร้อยเท่าไหร่)

นี่คือรูปหลังจากเซ็ต แล้วขับรถไปห้าง ถ่ายที่ห้าง


จะเห็นว่ามีผลเด้งออกมา ผมข้างหลังเริ่มบิดไปบิดมา ต่างกันพอสมควร

Shine (ความเงา) 6/10
ตัวนี้เงาระดับพอสมควรครับ ถ้าคุณกลัวคนจะมองว่าหัวเยิ้ม ความเงาระดับนี้สามารถใช้ได้ครับ

Restyelability (ความสามารถในการจัดทรงใหม่) 3/10
อันนี้เป็นจุดแย่สุดของ Pomade ตัวนี้เลยครับ คือมันแทบจะหวีซ้ำไม่ได้เลย...อย่าเรียกว่าแทบ เรียกว่าไม่ได้เลยดีกว่า
- ถ้าคุณเอาหวีทาน้ำแล้วมาหวี พลังการจัดทรงของมันก็จะลดลงอย่างมากพอควร
- ถ้าคุณจะลองของโดยการหวีแห้ง หนึ่งคือคุณจะเจ็บหัว สองคือผมมันจะแตกและโดดออกมา (เหมือนเสาอากาศโคนันอะครับ) และสาม
พลังการจัดทรงก็ลดลงไปอยู่ดี

สรูปโดยรวม
ข้อดี : กลิ่น, เกลี่ยง่าย, Packaging สวยงาม
ข้อเสีย : เซตยาก(สำหรับมือใหม่อย่างผม), แห้งไวเกิ๊น, Slickness ต่ำ และหวีจัดทรงใหม่ไม่ได้

ความคุ้มค่า: 5/10

จะซื้อซ้ำหรือไม่ : คิดว่าคงไม่

---

วันนี้ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะครับ ยาวหน่อยเพราะมีการเกริ่นเรื่อง Pomade ด้วย คราวหน้ายังไงคงกระชับกว่านี้แน่ครับ
ถ้ามีอะไรไม่ชอบไม่พอใจ หรือมีอะไรอยากจะถาม สามารถอินบ็อกซ์มาก็ได้ครับ
และอย่าลืมว่านี่เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้น ควรใช้วิจารณญาณ นะครับผม

ปล. ขออนุญาตแท็กมอเตอร์ไซค์เพราะผู้ชายเยอะครับ ถ้าไม่เหมาะสมลบแท็กได้ครับ