สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่าเลิฟๆ ทุกท่านที่ติดตามกันมาโดยตลอด ช่วงนี้ก็เป็นซัมเมอร์ซีซั่นอ่ะเนอะ อากาศก็ร้อนลื้มมมมมม แถมมีพายุฤดูร้อนพัดลมพัดฝนมาเดี๋ยวครึ้ม เดี๋ยวตก เดี๋ยวร้อนสลับไปมาอยู่แบบนี้ ร่างกายปรับตัวไม่ทันก็ป่วยสิคะคุณณณณ หลายๆ คนรอบตัวแจ๊คก็ป่วยกันเยอะ ร้อนก็ร้อนเหงื่อก็ไหลไคลย้อย ไหนจะไอ มีน้ำมูกน้ำหูน้ำตาไหลรวมกันไปหม๊ดดดด อย่างไรก็ดี ช่วยดูแลเทคแคร์สุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน
เอาล่ะมาเข้าเรื่องของรีวิวนี้ได้แล้วล่ะเนอะ หลักจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ฮ่าๆๆ คือโปรดักส์ที่เราจะพูดถึงในรีวิวนี้ก็เดาได้ไม่ยาก เพราะรูปเปิดมันใหญ่ตำตามาก ฮ่าๆ อย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ฤดูรัก(?) แล้วแบบอากาศเมืองไทยร้อนวัวตายควายล้มมากกกกกก ฟิลลิ่งแบบตื่นมาเห็นแสงแดดแล้วอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย 55555 ฉะนั้น เราจะถือโอกาสมาทำมหากาพย์รีวิวครีมกันแดดที่ไว้ใช้ทาผิวหน้า (ย้ำว่าทาหน้านะคะ แต่เอาไปทาตัวก็ได้ เอาที่สบายใจจจจ) ซึ่งการรีวิวครั้งนี้นั้นยิ่งใหญ่มหาศาลมาก เพราะแจ๊คคัดสรรครีมกันแดดมารีวิวกว่า 15 ตัว พร้อมทั้งรีวิวครอบคลุมจักรวาล ตั้งแต่เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ ทดสอบความมันส่วนเกิน ทดสอบความเหนียวเหนอะหนะ ทดสอบความเป็นคราบเป็นขุยทั้งหลาย และมากกว่านั้น เพื่อที่จะให้การรีวิวกันแดดครั้งนี้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น แจ๊คจึงต้องลงทุนสลัดผ้าแพรผืนน้อย พลีกาย เปลือยผิวอาบแดดตาก UV เพื่อทดสอบการป้องกันแดดและรังสีสารพัด UV ค่าาาาา ลงทุนปิ้งย่างตัวเองขนาดนี้ ถ้าปราณีก็ช่วยอ่านรีวิวของคุณเจ้ให้จบด้วยนะฮ้าาา แต่บอกก่อนว่าวันที่เราเทสนั้นแดดอ่อนแรงมาก เนื่องจากพายุฤดูร้อนที่ทำให้ฟ้ามันสลัวๆ แบบแดดดำที่เราเข้าใจกันอ่ะ ดูเหมือนไม่ค่อยมีแสงเปรี้ยงๆ แต่ก็ทำให้รู้สึกถึงคำว่า แสบ จนต้องขอยอมยุติการปิ้งไว้ที่เวลารวมประมาณ 2 ชั่วโมง ต้องขอโทษด้วยตลอดจนปัจจัยหลายๆอย่างที่อาจทำให้การทดสอบนั้นไม่สมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดคือ รีวิวในความคิดเห็นของตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถพูดถึงส่วนผสมอะไรให้ลึกมากมายได้ ถ้าได้ขนาดนั้นแม่ไม่มานั่งเขียนรีวิวอยู่นี่หรอกเนาะ คงไปเปิดคลินิกแล้วจ้า สุดท้ายอยากบอกว่าไม่มีเจตนาที่จะให้ร้ายโปรดักส์หรือเชียร์ตัวใดตัวหนึ่งค่ะ โปรดักส์บางส่วนแบรนด์ส่งมาให้ใช้บ้าง ซึ่งส่วนมากในนี้จะซื้อเองด้วยความอยากรู้อยากลอง
กันแดดที่นำมาก็มีตั้งแต่เลขSPF30ขึ้นไปนะคะ หลายคนบอกว่าแล้วSPF30ประสิทธิภาพมันจะสู้SPF50ได้หรือคะขุ่นเจ้ ...ถ้าจะย้อนความไปถึงเรื่องค่าSPFแล้ว จริงๆเลขของSPFนั่นคือระยะเวลาในการกันแดดนั่นเอง
จากกราฟที่เคยอ่านตามเนต ปริมาณการดูดซับรังสียูวีบี พบว่า เมื่อSPFตั้งแต่30ขึ้นไป เมื่อเพิ่มขึ้นประสิทธิภาพในการดูดซับแทบไม่แตกต่างกันเลย สรุปคือปริมาณดูดซับรังสีหรือประสิทธิภาพของมันใกล้เคียงกันมาก ต่างกันก็แค่เรื่องระยะเวลาในการดูดซับนั่นเอง ไม่อยากเขียนอิงถึงตรงนี้เยอะ มันจะดูทางการไม่เหมาะกับหน้าแบ้วๆของเราใครอยากรู้ไปสืบค้นดูนะจ้ะ
พักความลำไยหลายสิบโลแล้วมาเปิดมหากาพย์ของเรากันดีกว่า ซึ่งแจ็คจะเรียงลำดับเลข 1-15 เพื่อให้อ่านและจำกันได้ง่ายๆ ไม่สับสนด้วยเนอะ เริ่มจากเนื้อผลิตภัณฑ์ดังนี้....
จากภาพปลากรอบด้านบน จะสังเกตุได้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ตัวนี้นางมีเนื้อสัมผัสเป็นแบบชนิดน้ำ มีความข้น ความหนืดที่แตกต่างกันไป ในดูจากการไหลย้อยนั้นเลยจ้ะ แต่ข้อดีของกันแดดเนื้อน้ำคือมีความซึมซาบไว ทิ้งความเหนอะหนะไว้น้อย (แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะคะ)
มาต่อกันด้วยกันแดด 6, 7, 8 , 9, 10 ชื่อก็เรียงตามนั้นเลยค่ะ กันแดด 5 ตัวนี้ มีเนื้อสัมผัสเป็นแบบครีม ซึ่งบางตัวจะมีเนื้อหนืด เกลี่ยยากหน่อย แต่บางตัวกลับเป็นเนื้อครีมที่เกลี่ยง่ายซึมไวอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนบางตัวก็เป็นกันแดดมีสี ทาแล้วขาวลอยบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง แล้วแต่สีผิวของแต่ละคน ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นในส่วนถัดไปว่าตัวไหนที่ทาแล้วขาวบ้าง
ต่อเนื่องด้วยตัวที่ 11-15 อย่างที่เห็นในภาพเลย คือสี่ตัวแรกจะมีเนื้อสัมผัสเป็นครีม แต่ตัวสุดท้ายคือ fracora PLACENTA ตามที่บอกไปข้างต้นว่านางเป็นเนื้อสเปรย์แบบฉีด รู้สึกร้อนๆ เบื่อๆ ผิวไหม้ก็ฉีดแล้วทาๆ ได้เลย ถ้าความสะดวกนี้ก็ถือว่ายกให้นางไป
ส่วนที่สองมารู้จักกับหน้าตาและข้อมูลทั่วไปของผลิตภัณฑ์ทั้ง 15 ตัวกันดีกว่าเนอะ
1. Neutrogena Ultra Sheer Complete UV Waterlight Lotion SPF50+ PA+++ ราคา 380 บาท
นางเคลมตัวเองว่า มีเนื้อสัมผัสที่เบาสบาย ซึมซาบได้เร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ไม่เพียงแค่นางมีค่า SPF และ PA สูงไว้สวยๆ นะคะ นางมีออปชั่นเสริมคือเทคโนโลยี helioplex เพื่อป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีได้เต็มที่แม้จะตากแดดยาวนาน หรือจะโดนปิ้งย่างแบบเจ้นางก็คงไม่หวั่น (อ๊ะ! เดี๋ยวรู้กัน)
ส่วนเรื่องของสีของกันแดดนั้น รุ่นนี้มีให้เลือกสาวสี ได้แก่ สีขาว ม่วง และชมพู คือนางทำเป็นคล้ายๆ กับเบสเมคอัพอ่ะแหล่ะ แต่บางมากๆๆๆๆ บางแบบไม่ทำให้หน้าคนเอเชียอย่างเราหน้าม่วงหน้าเทาแน่นอน
ความรู้สึกจริงหลังใช้: เนื้อฟลูอิดแบบน้ำ สัมผัสบางเบา ทาแล้วไม่เหนียวข้น ไม่วอก แต่ไม่คุมมันเลย คือระหว่างวันรู้สึกเหนียวหน้านิดๆคือส่องกระจกระหว่างวันทีไรจะพบว่าหน้ามันตลอด กลิ่นเปรี้ยวแบบกันแดด หลังปิ้งแล้วกันแดดได้ดีในระดับปานกลาง สีผิวเข้มขึ้นเล็กน้อย ไม่มากเท่าเพื่อนตัวข้าง เอาเป็นว่ามันเป็นกันแดดกลางๆที่ใช้ได้สำหรับทาทั่วไปแบบอยู่บ้านหรือเจอแสงแดดน้อยๆและคนที่ไม่มีความกังวลเรื่องความมันของผิว ให้นาง7/10
2. Biore UV Tint Milk SPF30 PA++ ราคา 325 บาท
ลูกสาวคนนี้นางดูมีทรวดทรงองค์เอว นางก็เคลมความดีงามของตัวเองมาว่ามีเนื้อสัมผัสเป็นเสมือนโลชั่นน้ำนมสำหรับผิวหน้า เสมือนรองพื้นที่บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่เป็นคราบ ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอพร้อมทั้งให้การปกป้องสูงในขั้นตอนเดียว
พูดภาษาบ้านๆ แบบที่เข้าใจกันง่ายๆ นางก็คงเป็นกันแดดเนื้อโลชั่นที่ผสมรองพื้นเบาๆ นั้นแหล่ะ โดยตัวเนื้อนางจะมีให้เลือก 2 เฉดสี อันได้แก่ Light Tone และ Natural Tone ส่วนควรจะเลือกสีไหนนั้น แจ๊คแนะนำว่า... ให้ประเมินสีผิวตัวเองแล้วหยิบไปจ่ายเงินโลด แต่จะให้ชัวร์ มีให้เทสก็เทสก่อนซื้อค่ะ 555555
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : สีที่แจ๊คใช้คือสีLight ชอบฟีลนางนะ คือบางเบาจริง ทาแล้วไม่มัน มีสีอ่อนๆทาแล้วผิวดูดีขึ้น1เฉด ผิวดูเรียบเนียนขึ้นจริง เหมือนแต่งหน้าลง tinted moisturizer เนื้อดีทาไปผิวจะแมทท์ ไม่มันหยอง แต่!....ถ้าสังเกตที่แผ่นหลังหลังจากปิ้งแดดแล้ว จะพบว่าอีจุดหมายเลขที่2นี่แอบมีความเกรียมในระดับสูงกว่าเพื่อนบ้านเค้า เอาง่ายๆคือแกคือกันแดดจริงๆหรอ ขอให้คะแนนนาง 4/10 อย่าว่าใจร้ายเลยเนาะ
3.Boots Dermocare Suncare Facial Sun Protective Light Fluid SPF50 ราคา (จำไม่ได้ ลดบ่อย)
หน้าตานางก็ตามภาพเลยค่ะ หลายคนคงไม่คุ้นกับนางเท่าไหร่ เพราะนางคือผลิตภัณฑ์จาก Boots (นางโมเดลมีสังกัดอ่ะโน้ะ) ซึ่งตัวนางนั้นก็ได้เคลมความสามารถตัวเองว่า เป็นเนื้อโลชั่น บางเบา ซึมลงผิวได้เร็ว ผ่านการทดสอบเรื่องการระคายเคืองมาอย่างดี และปราศจากน้ำหอมจ้าาาา ความจริงนางมีหลายรุ่น แต่รุ่นนี้คือเนื้อฟลูอิดสำหรับผิวมัน นางเคาะบอกไว้เลยว่าตัวเองนั้นเป็นกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวมันและผิวแพ้ง่าย (ฟิลลิ่งเป็นเวชสำอาง) ควบคุมความมัน เมื่อทาแล้วจะไม่ทำให้ผิวหน้ามันเงาแน่นอน เคลมตัวเองมาสวยใสบริสุทธิ์ขนาดนี้ เดี๋ยวต้องเจอเจ้สกัดดาวรุ่งหน่อย!
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : เนื้อฟลูอิดเหลวมากๆๆๆๆ เกลี่ยง่าย กลิ่นเปรี้ยวอ่อนๆเหมือนกลิ่นส้มไรงี้ ฟีลหลังทาทันทีคือหน้าลอยปานกลาง ผ่านไปซักพักใหญ่จึงรู้สึกเข้าที่ และเมื่อผ่านไปซัก10นาที คือแทบไม่มันเลย ผลการทดสอบการปิ้ง พบว่าส่วนที่ทายังคงขาวเนียนผ่องไม่มีการไหม้ ตกใจนิดนึงว่าประสิทธิภาพนางดีเกินราคานะ ให้คะแนนไปเลย10/10 เอาจริงๆเมื่อก่อนไม่กล้าใช้ของนางนะ มองว่าโปรดักส์มันดูก้องๆ แก้งๆ แต่หลังจากนี้ต้องหันมามองบ้างละ
4. Soap & Glory Sunshield Superfluid SPF50+ (ราคาจำไม่ได้แล้วจัดโปรอยู่)
หน้าตานางนางดูดีทีเดียว แต่ปกติถ้าไปซื้อนี่นางจะมีกล้องห่อหุ้มอยู่นะคะ เป็นแบรนด์ที่ไม่คุ้นกันอีกล้าวละเส่ ฮ่าๆ นางไม่ใช้แบรนด์ที่มีในท้องตลาดทั่วไปอีกแล้วค่ะ ก็ปกตินางจะตั้งเซลล์ตัวเองอยู่ที่ร้าน Boots ส่วนในเรื่องของการทำงาน นางก็เคลมตัวเองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปกป้องแสงแดด เนื้อบางเบา ช่วยปกป้องผิวทั้งจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบีในระดับที่มี SPF50+ เลยนะเออออออ ด้วยความที่เนื้อกันแดดของนางนั้นทำมาจากผงแป้งอนุภาคอนาดเล็กมั่กๆ จึงทำให้ช่วยดูดซับความมันจากใบหน้าได้ดี สีผิวสม่ำเสมอ และไม่เป็นคราบระหว่างวันแน่นอนจ้าาา (ว่าไปนู้น)
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : ไหนคืออนุภาคแป้งคะ หรือมันอาจเล็กมากจนตามองไม่เห็นสินะ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้รู้วึกว่ามีอนุภาคแป้งดูดซับความมันตามเคลม เนื้อสัมผัสหลังทาชุ่มชื้นเหมือนทาEmultionบำรุง หนึบๆนิดนึง เนื้อดีตรงที่ไม่ขาวลอย เกลี่ยง่ายไม่ข้น มีกลิ่นหอมแนวสาวหวาน(น้ำหอม) ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับคนผิวธรรมดาถึงแห้งนะ คือไม่คุมมันอะไรใดๆทั้งนั้นค่ะอออกจะเพิ่มความมันด้วยมะ สำหรับประสิทธิภาพจากการปิ้งในช่องหมายเลข4 ค้นพบว่ามันคือจุดที่แดงที่สุดบนแผ่นหลังอีกตัวนึง จบข่าวค่ะ แยกย้าย
5. Shiseido Anessa Perfect UV Sunscreen SPF50 PA++++ ราคา 1,300 บาท
กันแดดขวดสีทองผ่องอำไพอันเลื่องชื่อของแบรนด์จากแดนปลาดิบอย่าง Shisedo ตัวนี้ไม่ต้องพูดถึงเยอะ เพราะคุ้นหน้าตากันดีมาก เรียกว่าใครๆก็ใช้ เป็นไอเท็มแรกๆเวลาที่เพื่อนหรือญาติโกโหติกาไปญี่ปุ่นแล้วต้องฝากซื้อจนร้านDrugstoreต่างๆในญี่ปุ่นให้นางเป็นRankต้นๆ ตัวนี้นางได้เคลมตัวเองไว้อย่างสวยหรูว่า ทั้งกันเหงื่อ และกันน้ำ เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและในน้ำ ตัวนางนั้นเคลมว่ากันแดดได้ดีไม่มีตกเป็นไคลย้อยไปตามน้ำ แถมยังป้องกันได้ทุกยูวี เนื้อครีมซึมซาบไว ไร้สีไร้กลิ่น ไม่เหนียวหน้าอีกต่างหาก โอ้โหววว
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : เท็กเจอร์บางเบาตามคำบอกเล่า ทาแล้วกลืนหายไปกับผิว ไม่เหนียว ไม่มัน ไม่ข้น ไม่ลอย ไม่หนึบ เนื้อสัมผัสดูเป็นครีมกันแดดในอุดมคติ คราวนี้ถ้ามาดูหลังปิ้งย่าง ก็จะเห็นว่ารอยไหม้แดงในระดับปานกลางเลยนะฮะ ต้องมาย้อนคิดละว่าจะทาต่อไปดีมั้ย หรือทาแค่วันที่เราไม่ได้ไปออกแดดจัดพอ ให้นาง8/10 คะแนนสูงนิดเพราะเท็กเจอร์นางดีและราคาเมื่อเทียบกับปริมาณ60mlซึ่งถือว่าเยอะ และเทียบกับเค้าเตอร์แบรนด์อื่นๆถือว่ารับได้ (โดยเฉพาะร้านหิ้วหรือสอยจากญี่ปุ่น)
***มีต่อค่ะ***
[CR][SR] พลีชีพปิ้งย่างหลังกับมหากาพย์รีวิวครีมกันแดดทั้งหมด 15 แบรนด์!!!!!!!!!!!!!!!!!!
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่น่าเลิฟๆ ทุกท่านที่ติดตามกันมาโดยตลอด ช่วงนี้ก็เป็นซัมเมอร์ซีซั่นอ่ะเนอะ อากาศก็ร้อนลื้มมมมมม แถมมีพายุฤดูร้อนพัดลมพัดฝนมาเดี๋ยวครึ้ม เดี๋ยวตก เดี๋ยวร้อนสลับไปมาอยู่แบบนี้ ร่างกายปรับตัวไม่ทันก็ป่วยสิคะคุณณณณ หลายๆ คนรอบตัวแจ๊คก็ป่วยกันเยอะ ร้อนก็ร้อนเหงื่อก็ไหลไคลย้อย ไหนจะไอ มีน้ำมูกน้ำหูน้ำตาไหลรวมกันไปหม๊ดดดด อย่างไรก็ดี ช่วยดูแลเทคแคร์สุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน
เอาล่ะมาเข้าเรื่องของรีวิวนี้ได้แล้วล่ะเนอะ หลักจากทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ฮ่าๆๆ คือโปรดักส์ที่เราจะพูดถึงในรีวิวนี้ก็เดาได้ไม่ยาก เพราะรูปเปิดมันใหญ่ตำตามาก ฮ่าๆ อย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ฤดูรัก(?) แล้วแบบอากาศเมืองไทยร้อนวัวตายควายล้มมากกกกกก ฟิลลิ่งแบบตื่นมาเห็นแสงแดดแล้วอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย 55555 ฉะนั้น เราจะถือโอกาสมาทำมหากาพย์รีวิวครีมกันแดดที่ไว้ใช้ทาผิวหน้า (ย้ำว่าทาหน้านะคะ แต่เอาไปทาตัวก็ได้ เอาที่สบายใจจจจ) ซึ่งการรีวิวครั้งนี้นั้นยิ่งใหญ่มหาศาลมาก เพราะแจ๊คคัดสรรครีมกันแดดมารีวิวกว่า 15 ตัว พร้อมทั้งรีวิวครอบคลุมจักรวาล ตั้งแต่เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ ทดสอบความมันส่วนเกิน ทดสอบความเหนียวเหนอะหนะ ทดสอบความเป็นคราบเป็นขุยทั้งหลาย และมากกว่านั้น เพื่อที่จะให้การรีวิวกันแดดครั้งนี้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น แจ๊คจึงต้องลงทุนสลัดผ้าแพรผืนน้อย พลีกาย เปลือยผิวอาบแดดตาก UV เพื่อทดสอบการป้องกันแดดและรังสีสารพัด UV ค่าาาาา ลงทุนปิ้งย่างตัวเองขนาดนี้ ถ้าปราณีก็ช่วยอ่านรีวิวของคุณเจ้ให้จบด้วยนะฮ้าาา แต่บอกก่อนว่าวันที่เราเทสนั้นแดดอ่อนแรงมาก เนื่องจากพายุฤดูร้อนที่ทำให้ฟ้ามันสลัวๆ แบบแดดดำที่เราเข้าใจกันอ่ะ ดูเหมือนไม่ค่อยมีแสงเปรี้ยงๆ แต่ก็ทำให้รู้สึกถึงคำว่า แสบ จนต้องขอยอมยุติการปิ้งไว้ที่เวลารวมประมาณ 2 ชั่วโมง ต้องขอโทษด้วยตลอดจนปัจจัยหลายๆอย่างที่อาจทำให้การทดสอบนั้นไม่สมบูรณ์ และที่สำคัญที่สุดคือ รีวิวในความคิดเห็นของตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถพูดถึงส่วนผสมอะไรให้ลึกมากมายได้ ถ้าได้ขนาดนั้นแม่ไม่มานั่งเขียนรีวิวอยู่นี่หรอกเนาะ คงไปเปิดคลินิกแล้วจ้า สุดท้ายอยากบอกว่าไม่มีเจตนาที่จะให้ร้ายโปรดักส์หรือเชียร์ตัวใดตัวหนึ่งค่ะ โปรดักส์บางส่วนแบรนด์ส่งมาให้ใช้บ้าง ซึ่งส่วนมากในนี้จะซื้อเองด้วยความอยากรู้อยากลอง
กันแดดที่นำมาก็มีตั้งแต่เลขSPF30ขึ้นไปนะคะ หลายคนบอกว่าแล้วSPF30ประสิทธิภาพมันจะสู้SPF50ได้หรือคะขุ่นเจ้ ...ถ้าจะย้อนความไปถึงเรื่องค่าSPFแล้ว จริงๆเลขของSPFนั่นคือระยะเวลาในการกันแดดนั่นเอง
จากกราฟที่เคยอ่านตามเนต ปริมาณการดูดซับรังสียูวีบี พบว่า เมื่อSPFตั้งแต่30ขึ้นไป เมื่อเพิ่มขึ้นประสิทธิภาพในการดูดซับแทบไม่แตกต่างกันเลย สรุปคือปริมาณดูดซับรังสีหรือประสิทธิภาพของมันใกล้เคียงกันมาก ต่างกันก็แค่เรื่องระยะเวลาในการดูดซับนั่นเอง ไม่อยากเขียนอิงถึงตรงนี้เยอะ มันจะดูทางการไม่เหมาะกับหน้าแบ้วๆของเราใครอยากรู้ไปสืบค้นดูนะจ้ะ
พักความลำไยหลายสิบโลแล้วมาเปิดมหากาพย์ของเรากันดีกว่า ซึ่งแจ็คจะเรียงลำดับเลข 1-15 เพื่อให้อ่านและจำกันได้ง่ายๆ ไม่สับสนด้วยเนอะ เริ่มจากเนื้อผลิตภัณฑ์ดังนี้....
จากภาพปลากรอบด้านบน จะสังเกตุได้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ตัวนี้นางมีเนื้อสัมผัสเป็นแบบชนิดน้ำ มีความข้น ความหนืดที่แตกต่างกันไป ในดูจากการไหลย้อยนั้นเลยจ้ะ แต่ข้อดีของกันแดดเนื้อน้ำคือมีความซึมซาบไว ทิ้งความเหนอะหนะไว้น้อย (แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะคะ)
มาต่อกันด้วยกันแดด 6, 7, 8 , 9, 10 ชื่อก็เรียงตามนั้นเลยค่ะ กันแดด 5 ตัวนี้ มีเนื้อสัมผัสเป็นแบบครีม ซึ่งบางตัวจะมีเนื้อหนืด เกลี่ยยากหน่อย แต่บางตัวกลับเป็นเนื้อครีมที่เกลี่ยง่ายซึมไวอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนบางตัวก็เป็นกันแดดมีสี ทาแล้วขาวลอยบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง แล้วแต่สีผิวของแต่ละคน ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นในส่วนถัดไปว่าตัวไหนที่ทาแล้วขาวบ้าง
ต่อเนื่องด้วยตัวที่ 11-15 อย่างที่เห็นในภาพเลย คือสี่ตัวแรกจะมีเนื้อสัมผัสเป็นครีม แต่ตัวสุดท้ายคือ fracora PLACENTA ตามที่บอกไปข้างต้นว่านางเป็นเนื้อสเปรย์แบบฉีด รู้สึกร้อนๆ เบื่อๆ ผิวไหม้ก็ฉีดแล้วทาๆ ได้เลย ถ้าความสะดวกนี้ก็ถือว่ายกให้นางไป
ส่วนที่สองมารู้จักกับหน้าตาและข้อมูลทั่วไปของผลิตภัณฑ์ทั้ง 15 ตัวกันดีกว่าเนอะ
1. Neutrogena Ultra Sheer Complete UV Waterlight Lotion SPF50+ PA+++ ราคา 380 บาท
นางเคลมตัวเองว่า มีเนื้อสัมผัสที่เบาสบาย ซึมซาบได้เร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ ไม่เพียงแค่นางมีค่า SPF และ PA สูงไว้สวยๆ นะคะ นางมีออปชั่นเสริมคือเทคโนโลยี helioplex เพื่อป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีได้เต็มที่แม้จะตากแดดยาวนาน หรือจะโดนปิ้งย่างแบบเจ้นางก็คงไม่หวั่น (อ๊ะ! เดี๋ยวรู้กัน)
ส่วนเรื่องของสีของกันแดดนั้น รุ่นนี้มีให้เลือกสาวสี ได้แก่ สีขาว ม่วง และชมพู คือนางทำเป็นคล้ายๆ กับเบสเมคอัพอ่ะแหล่ะ แต่บางมากๆๆๆๆ บางแบบไม่ทำให้หน้าคนเอเชียอย่างเราหน้าม่วงหน้าเทาแน่นอน
ความรู้สึกจริงหลังใช้: เนื้อฟลูอิดแบบน้ำ สัมผัสบางเบา ทาแล้วไม่เหนียวข้น ไม่วอก แต่ไม่คุมมันเลย คือระหว่างวันรู้สึกเหนียวหน้านิดๆคือส่องกระจกระหว่างวันทีไรจะพบว่าหน้ามันตลอด กลิ่นเปรี้ยวแบบกันแดด หลังปิ้งแล้วกันแดดได้ดีในระดับปานกลาง สีผิวเข้มขึ้นเล็กน้อย ไม่มากเท่าเพื่อนตัวข้าง เอาเป็นว่ามันเป็นกันแดดกลางๆที่ใช้ได้สำหรับทาทั่วไปแบบอยู่บ้านหรือเจอแสงแดดน้อยๆและคนที่ไม่มีความกังวลเรื่องความมันของผิว ให้นาง7/10
2. Biore UV Tint Milk SPF30 PA++ ราคา 325 บาท
ลูกสาวคนนี้นางดูมีทรวดทรงองค์เอว นางก็เคลมความดีงามของตัวเองมาว่ามีเนื้อสัมผัสเป็นเสมือนโลชั่นน้ำนมสำหรับผิวหน้า เสมือนรองพื้นที่บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบไว ไม่เป็นคราบ ปรับสีผิวให้เรียบเนียนสม่ำเสมอพร้อมทั้งให้การปกป้องสูงในขั้นตอนเดียว
พูดภาษาบ้านๆ แบบที่เข้าใจกันง่ายๆ นางก็คงเป็นกันแดดเนื้อโลชั่นที่ผสมรองพื้นเบาๆ นั้นแหล่ะ โดยตัวเนื้อนางจะมีให้เลือก 2 เฉดสี อันได้แก่ Light Tone และ Natural Tone ส่วนควรจะเลือกสีไหนนั้น แจ๊คแนะนำว่า... ให้ประเมินสีผิวตัวเองแล้วหยิบไปจ่ายเงินโลด แต่จะให้ชัวร์ มีให้เทสก็เทสก่อนซื้อค่ะ 555555
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : สีที่แจ๊คใช้คือสีLight ชอบฟีลนางนะ คือบางเบาจริง ทาแล้วไม่มัน มีสีอ่อนๆทาแล้วผิวดูดีขึ้น1เฉด ผิวดูเรียบเนียนขึ้นจริง เหมือนแต่งหน้าลง tinted moisturizer เนื้อดีทาไปผิวจะแมทท์ ไม่มันหยอง แต่!....ถ้าสังเกตที่แผ่นหลังหลังจากปิ้งแดดแล้ว จะพบว่าอีจุดหมายเลขที่2นี่แอบมีความเกรียมในระดับสูงกว่าเพื่อนบ้านเค้า เอาง่ายๆคือแกคือกันแดดจริงๆหรอ ขอให้คะแนนนาง 4/10 อย่าว่าใจร้ายเลยเนาะ
3.Boots Dermocare Suncare Facial Sun Protective Light Fluid SPF50 ราคา (จำไม่ได้ ลดบ่อย)
หน้าตานางก็ตามภาพเลยค่ะ หลายคนคงไม่คุ้นกับนางเท่าไหร่ เพราะนางคือผลิตภัณฑ์จาก Boots (นางโมเดลมีสังกัดอ่ะโน้ะ) ซึ่งตัวนางนั้นก็ได้เคลมความสามารถตัวเองว่า เป็นเนื้อโลชั่น บางเบา ซึมลงผิวได้เร็ว ผ่านการทดสอบเรื่องการระคายเคืองมาอย่างดี และปราศจากน้ำหอมจ้าาาา ความจริงนางมีหลายรุ่น แต่รุ่นนี้คือเนื้อฟลูอิดสำหรับผิวมัน นางเคาะบอกไว้เลยว่าตัวเองนั้นเป็นกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวมันและผิวแพ้ง่าย (ฟิลลิ่งเป็นเวชสำอาง) ควบคุมความมัน เมื่อทาแล้วจะไม่ทำให้ผิวหน้ามันเงาแน่นอน เคลมตัวเองมาสวยใสบริสุทธิ์ขนาดนี้ เดี๋ยวต้องเจอเจ้สกัดดาวรุ่งหน่อย!
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : เนื้อฟลูอิดเหลวมากๆๆๆๆ เกลี่ยง่าย กลิ่นเปรี้ยวอ่อนๆเหมือนกลิ่นส้มไรงี้ ฟีลหลังทาทันทีคือหน้าลอยปานกลาง ผ่านไปซักพักใหญ่จึงรู้สึกเข้าที่ และเมื่อผ่านไปซัก10นาที คือแทบไม่มันเลย ผลการทดสอบการปิ้ง พบว่าส่วนที่ทายังคงขาวเนียนผ่องไม่มีการไหม้ ตกใจนิดนึงว่าประสิทธิภาพนางดีเกินราคานะ ให้คะแนนไปเลย10/10 เอาจริงๆเมื่อก่อนไม่กล้าใช้ของนางนะ มองว่าโปรดักส์มันดูก้องๆ แก้งๆ แต่หลังจากนี้ต้องหันมามองบ้างละ
4. Soap & Glory Sunshield Superfluid SPF50+ (ราคาจำไม่ได้แล้วจัดโปรอยู่)
หน้าตานางนางดูดีทีเดียว แต่ปกติถ้าไปซื้อนี่นางจะมีกล้องห่อหุ้มอยู่นะคะ เป็นแบรนด์ที่ไม่คุ้นกันอีกล้าวละเส่ ฮ่าๆ นางไม่ใช้แบรนด์ที่มีในท้องตลาดทั่วไปอีกแล้วค่ะ ก็ปกตินางจะตั้งเซลล์ตัวเองอยู่ที่ร้าน Boots ส่วนในเรื่องของการทำงาน นางก็เคลมตัวเองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปกป้องแสงแดด เนื้อบางเบา ช่วยปกป้องผิวทั้งจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบีในระดับที่มี SPF50+ เลยนะเออออออ ด้วยความที่เนื้อกันแดดของนางนั้นทำมาจากผงแป้งอนุภาคอนาดเล็กมั่กๆ จึงทำให้ช่วยดูดซับความมันจากใบหน้าได้ดี สีผิวสม่ำเสมอ และไม่เป็นคราบระหว่างวันแน่นอนจ้าาา (ว่าไปนู้น)
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : ไหนคืออนุภาคแป้งคะ หรือมันอาจเล็กมากจนตามองไม่เห็นสินะ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้รู้วึกว่ามีอนุภาคแป้งดูดซับความมันตามเคลม เนื้อสัมผัสหลังทาชุ่มชื้นเหมือนทาEmultionบำรุง หนึบๆนิดนึง เนื้อดีตรงที่ไม่ขาวลอย เกลี่ยง่ายไม่ข้น มีกลิ่นหอมแนวสาวหวาน(น้ำหอม) ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับคนผิวธรรมดาถึงแห้งนะ คือไม่คุมมันอะไรใดๆทั้งนั้นค่ะอออกจะเพิ่มความมันด้วยมะ สำหรับประสิทธิภาพจากการปิ้งในช่องหมายเลข4 ค้นพบว่ามันคือจุดที่แดงที่สุดบนแผ่นหลังอีกตัวนึง จบข่าวค่ะ แยกย้าย
5. Shiseido Anessa Perfect UV Sunscreen SPF50 PA++++ ราคา 1,300 บาท
กันแดดขวดสีทองผ่องอำไพอันเลื่องชื่อของแบรนด์จากแดนปลาดิบอย่าง Shisedo ตัวนี้ไม่ต้องพูดถึงเยอะ เพราะคุ้นหน้าตากันดีมาก เรียกว่าใครๆก็ใช้ เป็นไอเท็มแรกๆเวลาที่เพื่อนหรือญาติโกโหติกาไปญี่ปุ่นแล้วต้องฝากซื้อจนร้านDrugstoreต่างๆในญี่ปุ่นให้นางเป็นRankต้นๆ ตัวนี้นางได้เคลมตัวเองไว้อย่างสวยหรูว่า ทั้งกันเหงื่อ และกันน้ำ เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งและในน้ำ ตัวนางนั้นเคลมว่ากันแดดได้ดีไม่มีตกเป็นไคลย้อยไปตามน้ำ แถมยังป้องกันได้ทุกยูวี เนื้อครีมซึมซาบไว ไร้สีไร้กลิ่น ไม่เหนียวหน้าอีกต่างหาก โอ้โหววว
ความรู้สึกจริงหลังใช้ : เท็กเจอร์บางเบาตามคำบอกเล่า ทาแล้วกลืนหายไปกับผิว ไม่เหนียว ไม่มัน ไม่ข้น ไม่ลอย ไม่หนึบ เนื้อสัมผัสดูเป็นครีมกันแดดในอุดมคติ คราวนี้ถ้ามาดูหลังปิ้งย่าง ก็จะเห็นว่ารอยไหม้แดงในระดับปานกลางเลยนะฮะ ต้องมาย้อนคิดละว่าจะทาต่อไปดีมั้ย หรือทาแค่วันที่เราไม่ได้ไปออกแดดจัดพอ ให้นาง8/10 คะแนนสูงนิดเพราะเท็กเจอร์นางดีและราคาเมื่อเทียบกับปริมาณ60mlซึ่งถือว่าเยอะ และเทียบกับเค้าเตอร์แบรนด์อื่นๆถือว่ารับได้ (โดยเฉพาะร้านหิ้วหรือสอยจากญี่ปุ่น)
***มีต่อค่ะ***
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว