Amy was born in Muslim family in Syria. At age of 18, her family moved to Egypt. She went to school in Europe. She renounced her faith when she moved to Egypt. She'd never had peace in her heart until she saw Jesus in her vision at the moment she was planed to do surgery next day. Amy could found peace and love in Jesus Christ
ฉันละอายที่เกิดมาเป็นผู้หญิง
เธอกล่าวว่า พระเจ้าผิดพลาดที่สร้างเธอมาเป็นผู้หญิง เพราะแท้จริง เธออยากจะเป็นผู้ชาย
Amy เกิดในครอบครัวมุสลิม ประเทศซีเรีย ที่เคร่งมาก เธอถูกสอนว่าผู้หญิงไม่มีค่าเทียบเท่ากับผู้ชาย ตลอดเวลาเธอถูกตี เพราะถามคำถาม ทำไมพระเจ้าสร้างฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่สะอาด ทำไมพระเจ้าสร้างฉันไม่ให้ฉลาด ทำไมผู้ชายถึงมีอำนาจมากกว่าฉัน ทำไม .. ทำไม...?
จากคำสอน ที่เธอถูกสอนมา ผู้หญิงไม่การันตีว่า จะได้รับชีวิตนิรันดร์ แม้เธอจะดำเนินชีวิตที่ดี เป็นคนดี และ รักษาชีวิตอย่างเคร่งครัดตามหลักคำสอน
ไม่มีคำว่า พระคุณ ในความเชื่อของอิสลาม ดังนั้น ในวัฒนธรรมของอิสลาม ผู้หญิงต้องทำตัวให้ดีที่สุด พยายามอย่างหนักเพื่อที่กระทำดี
แต่ผู้หญิงมุสลิมมักพบแต่ความหมดหวัง และ สิ้นหวัง ไม่มีหวังในพระเจ้า
ซึ่งได้แต่หวังใจว่าทุกสิ่งที่เรากระทำจะสร้างความพอใจให้กับ Allah และ Allah ยอมรับให้พวกเราเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์
ในอิสลาม ฉันไม่เคยพบสันติสุขเลย เมื่อฉันอ่าน Koran เหมือนมีวิญญาณชั่วร้าย หรือ ใครบางคน มาบีบคอฉัน และ เขย่าๆ ตัวฉัน
ทำให้ฉันตกใจกลัว เมื่อเธออายุ ได้ 18 ปี เธอและครอบครัวย้ายจากซีเรีย ไปอยู่ที่อียิปต์ เธอเลิกปฏิบัติ สิ่งต่างๆเกี่ยวกับ
อิสลาม ไม่ว่าจะเป็นการละหมาด การอดอาหาร พิธีการต่างๆเกี่ยวกับอิสลาม
จากนั้น เธอเข้ามหาวิทยาลัย(เรียนภาษาอังกฤษด้วย) และ ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่อเมริกา
พบกับสามี America Muslim doctor และได้แต่งงานกันที่นั่น
จากนั้น สามีได้เริ่ม ด่าทอ ข่มเหง ไม่ให้เกียรติเธอ ตลอด 6 เดือนตั้งแต่ แต่งงานกัน ซึ่งสามีเธอเป็นคนที่เคร่งมาก ซึ่งความคิดอ่าน
ได้สืบทอด มาจาก Mohammad ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมให้ผู้หญิงอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจตน ในทางวาจา และ การกระทำ
ฉันถูกกระทำเช่นนั้นมาโดยตลอด ซึ่งมันเลวร้ายมากๆสำหรับฉัน
หลังจากแต่งงานได้เกือบ 3 ปี ฉันจึงหย่า ฉันรู้สึกล้มเหลว ล้มเหลวในทุกๆเรื่องทุกอย่างในชีวิต ฉันสูญเสียการควบคุม คิดอะไรม่ออก
เหมือนพบทางตัน ฉันคิดว่าฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ฉันจะอยู่หรือฉันจะไปดี
ไอเดีย แนวคิด อิสลามได้สร้างปัญหาให้กับฉัน เหมือนตกนรกทั้งเป็น ฉันรู้สึกเหมือนคนกำลังจะตาย พระเจ้าคงส่งฑูตสวรรค์มาทรมานฉัน
ฉันนอนไม่หลับตลอดทุกคืน ความรู้สึกกดดันในชีวิตกำลังฆ่าฉัน
ไม่มีใครอยากจะเป็นเพื่อนกับฉัน หน้าตาของฉันแสดงถึง คนไม่มีความสุขตลอดเวลา อมทุกข์ ความขมขื่นใจที่แสดงออกมาภายนอก
จนคนรอบข้างรู้สึกได้ ทุกสิ่งเป็นแง่ลบไปหมด คนรอบข้างกลายเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ที่มาพบเจอฉัน
ฉันรู้สึกถ้าฉันมีความกล้ามากพอ ฉันคงจะฆ่าตัวตายไปนานแล้ว
เมื่อเพื่อนร่วมงานเธอได้ชวนเธอไปโบสถ์ เธอก็ไม่ปฏิเสธ แต่เธอไม่อยากเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ ทรงเป็นพระเจ้า
เป็นบุตรของพระเจ้า และได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์บนโลกนี้
เธอกล่าวกับพระเจ้าที่โบสถ์ว่า พระองค์ ....เจ้าข้า ...ถ้าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตร ของพระองค์ ทรงเป็นพระเจ้า
ทรงวายพระชนน์ที่กางเขนเพื่อลูก ยกโทษบาป ไถ่บาปให้กับลูก ได้โปรดพิสูจน์ และ แสดงให้ลูกเห็น เพราะลูกเองไม่อยากถูกหลอก
ไม่กี่เดือนต่อมา เธอป่วย เป็นนิ่ว ขณะที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัด เธอได้เรียกหาพระเยซูคริสต์ และกล่าวว่า.....
พระองค์ลูกได้ยินว่า พระองค์ทรงรักษาคนเจ็บ คนป่วยอย่างมากมาย ได้โปรดเสด็จมา รักษาลูกด้วยเถิด ถ้าพระองค์มีจริง.....
ตอนนี้ลูกลำบากมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน ไม่มีเงิน ตัวคนเดียว โดดเดี่ยว ไม่มีคนคอยดูแล ห่วงใย ให้ความช่วยเหลือ ลูกเองเผชิญสิ่งนี้ตัวคนเดียวไม่ได้.. (แล้วเธอก็ร้องไห้)
หลังจากเธอ อธิษฐานเสร็จ เธอพบว่า ในห้องของเธอเต็มไปด้วยแสงสว่างที่จ้ามาก ส่องสว่างไปทั่วห้อง เธอพบกับพระเยซู
พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเธอที่นั่น พระองค์ยืนมือ ไปยังเตียงที่เธอนอนอยู่ แล้วตรัสว่า บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา
และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข เป็น ข้อพระคัมภีร์ใน มัทธิว 11.28-30
11:29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเรามีใจอ่อนสุภาพและถ่อมลง และท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน
11:30 ด้วยว่าแอกของเราก็แบกง่าย และภาระของเราก็เบา”
ซึ่งเธอเองไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ในข้อนี้มาก่อน
เธอพบพระเยซูคริสต์สวมฉลองพระองค์ยาวสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งใครพบพระองค์แบบฉัน คงจะปฏิเสธไม่ว่า
พระองค์ไม่ใช่พระเจ้า ในเวลานั้นฉันรู้สึกสกปรก เต็มไปด้วยความบาป พระองค์บริสุทธิ์ ทรงเที่ยงธรรม
ยุติธรรม พระองค์ทรงงดงามยิ่งนัก (เธอเล่าด้วยน้ำตาไหล อย่างซายซึ้งใจ)
ตอนเช้าหมอที่จะผ่าตัดนิ่วของเธอ(ทำการสแกน) แจ้งว่าไม่พบก้อนนิ่วนั้นแล้ว เธอไม่ต้องผ่าตัดแต่อย่างใด
ขอบคุณพระเยซูที่ทรงรักษาฉัน ฉันกลับบ้านได้ ฉันเริ่มอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เข้าโบสถ์
พระองค์ได้รักษาหัวใจที่ชอกช้ำของฉัน ฉันเข้าสนิท และ พันธ์ผูกกับพระองค์ และ สารภาพ
ว่าฉันเป็นคริสเตียน ฉันเชื่อในพระเยซูคริสต์ ทุกอย่างเปลี่ยนไปในชีวิตของฉัน ฉันถูกสร้างขึ้นใหม่
จากนั้น เธอรับบัพติศมา ความสัมพันธ์ของเธอกับพระคริสต์ได้ปลดปล่อยเธอจากอดีต สมัยเด็กที่เธอถูกสอนมา เธอเป็นไทในพระองค์
พระองค์มอบชีวิตนิรันดร์ให้กับฉัน เป็นการการันตี(เธอพูดด้วยความมั่นใจ) ฉันอยู่เพื่อพระเจ้า
ฉันเป็นอิสระ ฉันรับการถูกสร้างขึ้นใหม่ มีชีวิตใหม่ในพระองค์
ในพระเยซูคริสต์ ผู้หญิงไม่ได้ถูกสร้างให้ฉลาดน้อย หรือ ให้สิทธิ์ผู้ชายมีอำนาจมากกว่า อำนาจของผู้ชายที่มีมากกว่า ฉันไม่พบอีกต่อไป
ฉันรับสิทธิอำนาจในการเดินร่วมกับพระองค์ทุกวัน ฉันไม่ต้องกลับไปตกนรกอีก นรกไม่ได้มีไว้สำหรับฉันอีกต่อไป มันออกไปจากชีวิตของฉันแล้ว
ฉันรู้ว่า ฉันได้รับชีวิตนิรันดร์ ร่วมกับองค์พระเยซูคริสต์ แล้วฉันก็จะอยู่กับพระองค์ที่นั่น
คำพยาน - Amy Ghazal
Amy was born in Muslim family in Syria. At age of 18, her family moved to Egypt. She went to school in Europe. She renounced her faith when she moved to Egypt. She'd never had peace in her heart until she saw Jesus in her vision at the moment she was planed to do surgery next day. Amy could found peace and love in Jesus Christ
ฉันละอายที่เกิดมาเป็นผู้หญิง
เธอกล่าวว่า พระเจ้าผิดพลาดที่สร้างเธอมาเป็นผู้หญิง เพราะแท้จริง เธออยากจะเป็นผู้ชาย
Amy เกิดในครอบครัวมุสลิม ประเทศซีเรีย ที่เคร่งมาก เธอถูกสอนว่าผู้หญิงไม่มีค่าเทียบเท่ากับผู้ชาย ตลอดเวลาเธอถูกตี เพราะถามคำถาม ทำไมพระเจ้าสร้างฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่สะอาด ทำไมพระเจ้าสร้างฉันไม่ให้ฉลาด ทำไมผู้ชายถึงมีอำนาจมากกว่าฉัน ทำไม .. ทำไม...?
จากคำสอน ที่เธอถูกสอนมา ผู้หญิงไม่การันตีว่า จะได้รับชีวิตนิรันดร์ แม้เธอจะดำเนินชีวิตที่ดี เป็นคนดี และ รักษาชีวิตอย่างเคร่งครัดตามหลักคำสอน
ไม่มีคำว่า พระคุณ ในความเชื่อของอิสลาม ดังนั้น ในวัฒนธรรมของอิสลาม ผู้หญิงต้องทำตัวให้ดีที่สุด พยายามอย่างหนักเพื่อที่กระทำดี
แต่ผู้หญิงมุสลิมมักพบแต่ความหมดหวัง และ สิ้นหวัง ไม่มีหวังในพระเจ้า
ซึ่งได้แต่หวังใจว่าทุกสิ่งที่เรากระทำจะสร้างความพอใจให้กับ Allah และ Allah ยอมรับให้พวกเราเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์
ในอิสลาม ฉันไม่เคยพบสันติสุขเลย เมื่อฉันอ่าน Koran เหมือนมีวิญญาณชั่วร้าย หรือ ใครบางคน มาบีบคอฉัน และ เขย่าๆ ตัวฉัน
ทำให้ฉันตกใจกลัว เมื่อเธออายุ ได้ 18 ปี เธอและครอบครัวย้ายจากซีเรีย ไปอยู่ที่อียิปต์ เธอเลิกปฏิบัติ สิ่งต่างๆเกี่ยวกับ
อิสลาม ไม่ว่าจะเป็นการละหมาด การอดอาหาร พิธีการต่างๆเกี่ยวกับอิสลาม
จากนั้น เธอเข้ามหาวิทยาลัย(เรียนภาษาอังกฤษด้วย) และ ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่อเมริกา
พบกับสามี America Muslim doctor และได้แต่งงานกันที่นั่น
จากนั้น สามีได้เริ่ม ด่าทอ ข่มเหง ไม่ให้เกียรติเธอ ตลอด 6 เดือนตั้งแต่ แต่งงานกัน ซึ่งสามีเธอเป็นคนที่เคร่งมาก ซึ่งความคิดอ่าน
ได้สืบทอด มาจาก Mohammad ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมให้ผู้หญิงอยู่ภายใต้สิทธิอำนาจตน ในทางวาจา และ การกระทำ
ฉันถูกกระทำเช่นนั้นมาโดยตลอด ซึ่งมันเลวร้ายมากๆสำหรับฉัน
หลังจากแต่งงานได้เกือบ 3 ปี ฉันจึงหย่า ฉันรู้สึกล้มเหลว ล้มเหลวในทุกๆเรื่องทุกอย่างในชีวิต ฉันสูญเสียการควบคุม คิดอะไรม่ออก
เหมือนพบทางตัน ฉันคิดว่าฉันมาทำอะไรอยู่ที่นี่ ฉันจะอยู่หรือฉันจะไปดี
ไอเดีย แนวคิด อิสลามได้สร้างปัญหาให้กับฉัน เหมือนตกนรกทั้งเป็น ฉันรู้สึกเหมือนคนกำลังจะตาย พระเจ้าคงส่งฑูตสวรรค์มาทรมานฉัน
ฉันนอนไม่หลับตลอดทุกคืน ความรู้สึกกดดันในชีวิตกำลังฆ่าฉัน
ไม่มีใครอยากจะเป็นเพื่อนกับฉัน หน้าตาของฉันแสดงถึง คนไม่มีความสุขตลอดเวลา อมทุกข์ ความขมขื่นใจที่แสดงออกมาภายนอก
จนคนรอบข้างรู้สึกได้ ทุกสิ่งเป็นแง่ลบไปหมด คนรอบข้างกลายเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ที่มาพบเจอฉัน
ฉันรู้สึกถ้าฉันมีความกล้ามากพอ ฉันคงจะฆ่าตัวตายไปนานแล้ว
เมื่อเพื่อนร่วมงานเธอได้ชวนเธอไปโบสถ์ เธอก็ไม่ปฏิเสธ แต่เธอไม่อยากเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ ทรงเป็นพระเจ้า
เป็นบุตรของพระเจ้า และได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์บนโลกนี้
เธอกล่าวกับพระเจ้าที่โบสถ์ว่า พระองค์ ....เจ้าข้า ...ถ้าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตร ของพระองค์ ทรงเป็นพระเจ้า
ทรงวายพระชนน์ที่กางเขนเพื่อลูก ยกโทษบาป ไถ่บาปให้กับลูก ได้โปรดพิสูจน์ และ แสดงให้ลูกเห็น เพราะลูกเองไม่อยากถูกหลอก
ไม่กี่เดือนต่อมา เธอป่วย เป็นนิ่ว ขณะที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัด เธอได้เรียกหาพระเยซูคริสต์ และกล่าวว่า.....
พระองค์ลูกได้ยินว่า พระองค์ทรงรักษาคนเจ็บ คนป่วยอย่างมากมาย ได้โปรดเสด็จมา รักษาลูกด้วยเถิด ถ้าพระองค์มีจริง.....
ตอนนี้ลูกลำบากมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน ไม่มีเงิน ตัวคนเดียว โดดเดี่ยว ไม่มีคนคอยดูแล ห่วงใย ให้ความช่วยเหลือ ลูกเองเผชิญสิ่งนี้ตัวคนเดียวไม่ได้.. (แล้วเธอก็ร้องไห้)
หลังจากเธอ อธิษฐานเสร็จ เธอพบว่า ในห้องของเธอเต็มไปด้วยแสงสว่างที่จ้ามาก ส่องสว่างไปทั่วห้อง เธอพบกับพระเยซู
พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเธอที่นั่น พระองค์ยืนมือ ไปยังเตียงที่เธอนอนอยู่ แล้วตรัสว่า บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา
และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข เป็น ข้อพระคัมภีร์ใน มัทธิว 11.28-30
11:29 จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเรามีใจอ่อนสุภาพและถ่อมลง และท่านทั้งหลายจะพบที่สงบสุขในใจของตน
11:30 ด้วยว่าแอกของเราก็แบกง่าย และภาระของเราก็เบา”
ซึ่งเธอเองไม่เคยอ่านพระคัมภีร์ในข้อนี้มาก่อน
เธอพบพระเยซูคริสต์สวมฉลองพระองค์ยาวสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งใครพบพระองค์แบบฉัน คงจะปฏิเสธไม่ว่า
พระองค์ไม่ใช่พระเจ้า ในเวลานั้นฉันรู้สึกสกปรก เต็มไปด้วยความบาป พระองค์บริสุทธิ์ ทรงเที่ยงธรรม
ยุติธรรม พระองค์ทรงงดงามยิ่งนัก (เธอเล่าด้วยน้ำตาไหล อย่างซายซึ้งใจ)
ตอนเช้าหมอที่จะผ่าตัดนิ่วของเธอ(ทำการสแกน) แจ้งว่าไม่พบก้อนนิ่วนั้นแล้ว เธอไม่ต้องผ่าตัดแต่อย่างใด
ขอบคุณพระเยซูที่ทรงรักษาฉัน ฉันกลับบ้านได้ ฉันเริ่มอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เข้าโบสถ์
พระองค์ได้รักษาหัวใจที่ชอกช้ำของฉัน ฉันเข้าสนิท และ พันธ์ผูกกับพระองค์ และ สารภาพ
ว่าฉันเป็นคริสเตียน ฉันเชื่อในพระเยซูคริสต์ ทุกอย่างเปลี่ยนไปในชีวิตของฉัน ฉันถูกสร้างขึ้นใหม่
จากนั้น เธอรับบัพติศมา ความสัมพันธ์ของเธอกับพระคริสต์ได้ปลดปล่อยเธอจากอดีต สมัยเด็กที่เธอถูกสอนมา เธอเป็นไทในพระองค์
พระองค์มอบชีวิตนิรันดร์ให้กับฉัน เป็นการการันตี(เธอพูดด้วยความมั่นใจ) ฉันอยู่เพื่อพระเจ้า
ฉันเป็นอิสระ ฉันรับการถูกสร้างขึ้นใหม่ มีชีวิตใหม่ในพระองค์
ในพระเยซูคริสต์ ผู้หญิงไม่ได้ถูกสร้างให้ฉลาดน้อย หรือ ให้สิทธิ์ผู้ชายมีอำนาจมากกว่า อำนาจของผู้ชายที่มีมากกว่า ฉันไม่พบอีกต่อไป
ฉันรับสิทธิอำนาจในการเดินร่วมกับพระองค์ทุกวัน ฉันไม่ต้องกลับไปตกนรกอีก นรกไม่ได้มีไว้สำหรับฉันอีกต่อไป มันออกไปจากชีวิตของฉันแล้ว
ฉันรู้ว่า ฉันได้รับชีวิตนิรันดร์ ร่วมกับองค์พระเยซูคริสต์ แล้วฉันก็จะอยู่กับพระองค์ที่นั่น