✿ ปิดตำนาน “มอปลาย่าง” ร้านอาหารชื่อดังริมเขื่อนลำตะคอง เพราะ... ภาคต่อเนื่อง ✿

ฟามเดิมตอนที่แล้ว...
http://ppantip.com/topic/33626338



มอปลาย่าง ร้านอาหารชื่อดังริมเขื่อนลำตะคอง จนท.สนธิกำลังกว่า 1,700 นาย ลุยรื้อร้านอาหารมอปลาย่าง หวิดเกิดเรื่อง เมื่อป้า เป็นแม่ยาย ผญบ.เจ้าของร้านที่เป็นแกนนำต่อต้านโมโห คว้าขวดน้ำขว้างแตกกระจาย แต่สุดท้ายต้องยอม...  

จากปฏิบัติการ "วันดีเดย์" รื้อร้านอาหารมอปลาย่าง ริมถนนมิตรภาพ กม.79-85 หมู่ 12 บ้านเขาน้อย ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ที่ปลูกสร้างบุกรุกที่ดินราชพัสดุ เมื่อช่วงเช้า เวลา 07.30 น. วันที่ 8 พ.ค. 58 นำโดย นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา นายวินัย วิทยานุกูล รอง ผวจ.นครราชสีมา นายประภาส รักษาทรัพย์ ปลัดจังหวัด นายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว นายอำเภอปากช่อง พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และ พ.อ.ปฏิกรณ์ เอี่ยมละออ เสนาธิการ มทบ.21



โดยมีการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองท้องถิ่น ทั้ง อบจ.นครราชสีมา เทศบาล และ อบต. จากหลายอำเภอ จำนวน 31 แห่ง แห่งละ 30-50 คน รวมกว่า 1 พันคน ณ สถานีวิจัยลำตะคอง ริมถนนมิตรภาพ กม.78 ต.หนองสาหร่าย เพื่อร่วมกันรื้อร้านค้ามอปลาย่าง ริมถนนมิตรภาพ กม.79-85 บ้านเขาน้อย ต.หนองสาหร่าย ที่เป็นปัญหายืดเยื้อมานานนับสิบปี

นอกจากนี้ ยังมีการระดมกำลังตำรวจ 300 นาย ทหาร 300 นาย และ อส.100 นาย รวม 700 นาย ร่วมดูแลรักษาความปลอดภัย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อส. เข้าดูแลประจำร้านที่ทำการรื้อ ร้านละ 6 นาย การรื้อในวันแรก จำนวน 20 ร้าน เป็นร้านที่สมัครใจ 13 ร้าน ส่วนอีก 7 ร้านเป็นร้านที่ไม่สมัครใจ รวมทั้งร้าน ครัวน้องเบนซ์ ของ นายสุเวช จันทร์จันทึก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านเขาน้อย และร้านครัวน้ำหวาน ของ นายสมหวัง ดินขุนทด หรือ อบต.ดำ ที่เป็นแกนนำคัดค้าน



ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเข้าไปที่ร้านครัวน้องเบนซ์ ของ นายสุเวช จันทร์จันทึก ผู้ใหญ่บ้าน หนึ่งในร้านที่จะต้องรื้อถอน แต่ถูกปิดเป็นความลับไว้ ภายในร้านพบ นางสำอาง เลิศสูงเนิน อายุ 67 ปี แม่ยายของ นายสุเวช อ้างว่าเจ้าของร้านไม่อยู่ และไม่ยอมให้รื้อ พร้อมทั้งยกมือไหว้บอกว่า ขอเวลาอีก 2 วัน แต่ทางนายวินัย รอง ผวจ.นครราชสีมา ได้มาสั่งการเอง บอกว่าไม่มีอำนาจต่อรอง ให้รื้อได้เลย ถ้าไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับกุม และถ้าไม่ขนของออกไป เมื่อเจ้าหน้าที่ขนสิ่งของไปเก็บแล้ว จะต้องไปทำเรื่องขอคืน และต้องเสียค่ารื้อถอนด้วย ทำให้นางสำอางจำต้องยินยอม และให้คนในร้านช่วยกันขนของไปกองไว้หลังร้าน พร้อมกับสาปแช่งว่า เจ้าหน้าที่คนไหนเข้ามารื้อ ขอให้มีอันเป็นไป

ขณะนั้น โดยที่ไม่มีใครคาดคิด นางสำอางได้หยิบเอาขวดน้ำแบบแก้ว ขว้างลงพื้นจนแตกกระจาย เกือบโดนนักข่าวที่ยืนถ่ายภาพทำข่าวอยู่ภายในร้าน



ขณะเดียวกัน ก่อนจะเข้ารื้อถอน เจ้าหน้าที่ได้จุดธูป เทียน พร้อมนำดอกไม้ ไปขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง ศาลย่าเที่ยงที่อยู่หลังร้าน จากนั้นได้รื้อหลังคาร้านออก ส่วนร้านค้าอื่นๆ ก็มีขัดขวางบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือด้วยดี และในวันที่ 15 พ.ค. 58 นี้ จะเป็นการรื้อครั้งที่ 2 อีกกว่า 20 ร้าน ซึ่งทั้งหมดเป็นร้านค้าที่ไม่ยินยอม ส่วนสิ่งของที่รื้อไปแล้ว ถ้าเป็นร้านค้าที่ยินยอม จะนำไปส่งตามที่ทางร้านร้องขอ หรือนำไปไว้ที่ร้านที่ทางจังหวัดจัดให้ ส่วนร้านค้าที่ไม่ยินยอม จะนำไปไว้ที่อาคารของสถานีวิจัยลำตะคอง และโกดังของเอกชนที่อนุญาตให้นำไปไว้ได้


-----------------------------


มีคนบอกว่า...
เคยเข้าไปกินปลา 2 ตัว ส้มตำ 3 อย่าง น้ำตก 1 จานลาบ 1 จาน ต้ม 1 จาน น้ำดื่มปกติ โดนไปสี่พันกว่า เข็ดจนตาย


หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเจ้าของร้าน เป็นระดับ ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อย่าเห็นว่ากระจอกนะครับตำแหน่งแค่นี้ พวกที่จะมาเป็นได้ต้องเป็นผู้มีฐานะ มีอิทธิพลพอสมควรในท้องที่เลยทีเดียว

คนธรรมดาไม่สามารถไปเปิดร้านแถวนั้น แล้วขูดรีดได้หรอกครับ อย่ามองว่าเป็นการรังแกคนทำมาหากิน

ลองถามท่านที่เคยไปทานอาหารดูแล้วกัน


งานนี้หากไม่ใช่ทหารก็จัดการลำบากครับ ขนาดเป็นทหารยังต้องปิดเป็นความลับ เพราะไม่งั้นพวกเข็นลูกบ้านมาปิดถนนประท้วงก่อนแน่ และจะวุ่นวายมากกว่านี้อีก


งานนี้ผมเชัยร์ทหารครับ!!



นี่คือ มุมดำมืด ของเมืองไทย อีกส่วนหนึ่ง ถามว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรู้ไหม ตอบว่า "รู้" เพียงแต่ผลประโยชน์มันบังตา


อยากให้ทุกรัฐบาลที่จะมาทำหน้าที่ต่อไป เลือกกลัวการ "ลูบหน้าปะจมูก" กันสักที หากผิดก็ว่ากันไปตามผิด ไม่ว่าจะพวกใคร สีไหน...


ที่ต่อไป อยากให้ทหารลุย "เขาแพง" ครัช หัวเราะ



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่