การต่อสู้ระหว่าง อึ้งเซียะกับต๊กโกวคิ้วป้าย

กระทู้คำถาม
เรื่องตามด้านล่างมีจริงหรือครับ ปรากฎในนวนิยายเล่มไหนครับ ผมดีผมไปเห็นในวิกิมาครับ





การต่อสู้ระหว่าง อึ้งเซียะกับต๊กโกวคิ้วป้าย[แก้]
ท่านกิมย้งได้แต่งเนื้อเรื่องต่อเติมภายหลังอย่างออกรสออกชาติในตอน อึ้งเซียง Vs ต๊กโกวคิ้วป้าย โดยมีใจความตอนหนึ่งได้บรรยายถึงการสู้กันของทั้ง 2 ว่า

ต๊กโก "ท่านคืออึ้งเซียง?"
อึ้งเซียะ "ท่านต้องการอะไร?"
ต๊กโกว "ประลองกับท่าน"
กล่าวจบบุรุษผู้นั้นก็ชักกระบี่อ่อนประกายสีม่วงที่พันไว้รอบเอวออกมา เพียงสะบัดจู่โจม1กระบวนท่า นอกจากจะคุกคามให้อึ้งเซียงถอยไปได้แล้ว ตัวกระบี่ยังเลื้อยเลี้ยวราวกับมังกรที่มีชีวิต กระแทกทำลายดาบของเหล่าทหารนับสิบที่อยู่รอบๆจนหักสะบั้น พลังที่แฝงมาในกระบี่ยังทำให้ทหารทั้งหมดสิ้นสติไปพร้อมกันในพริบตา อึ้งเซียงถึงกับตื่นตกใจระคนเลื่อมใส เพราะนับตั้งแต่เขาเรียบเรียงศึกษาคัมภีร์เต๋ากว่า5พันเล่มทั่วทั้งแผ่นดิน จนสามารถคิดค้นและสำเร็จยอดวิชามีพลังภายในภายนอกแกร่งกร้าวสุดสูง ไม่เคยมีใครใช้เพียงกระบวนท่าเดียวคุกคามเขาได้เช่นนี้ อึ้งเซียงจึงร้องถามนามกรของอีกฝ่ายทันที

"คนในยุทธภพเรียกขานเราว่า เกี้ยมม้อ(มารกระบี่) แต่เราพอใจเรียกตัวเองว่า ต๊กโกวคิ้วป้าย(ต๊กโกวแสวงพ่าย)!"

กล่าวเพียงเท่านี้ การประลองยุทธที่ดุเดือดที่สุดในยุทธจักรก็อุบัติขึ้นโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ การรุกรับหักล้างกันของทั้งสองดำเนินไปติดต่อกันถึง3วัน3คืน เปลี่ยนจากถนนสายนี้ไปสู่ป่าทึบ หุบเขาสูง และทุ่งหญ้ากินอาณาเขตบริเวณหลายสิบลี้ ท่ามกลางเวลาที่ผ่านไปรวดเร็วราวกับติดปีก ทั้งสองคนต่างก็นึกเลื่อมใสอีกฝ่ายจากใจจริง อึ้งเซียงนับถือในกระบวนท่ากระบี่อันล้ำลึกไร้ขอบเขตของต๊กโกวคิ้วป่าย ในขณะที่ต๊กโกวก็นึกชื่นชมในพลังปราณที่เข้มแข็งสมบูรณ์ของอึ้งเซียง จนต่างคนต่างมั่นใจแล้วว่าหากหักล้างเช่นนี้สืบไป ผลแพ้ชนะคงไม่อาจตัดสินได้แน่ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บกันไม่น้อย จึงพลันหยุดมือพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย อึ้งเซียงประสานมือคำนับแล้วกล่าวว่า

"เพลงกระบี่ของพี่ต๊กโกว ลึกล้ำสูงส่งยิ่งนัก ข้าพเจ้านับถือยิ่ง"

"พลังภายในของเจ้าก็กร้าวแกร่งหนักแน่น นับเป็นหนึ่งในแผ่นดินได้โดยแท้ นับตั้งแต่ข้าท่องยุทธภพมา มีเจ้าเป็นคนแรกที่รับมือ8กระบี่ต๊กโกวได้ถึงเพียงนี้ เสียดายแต่ว่าเจ้ามีพลังภายในยอดเยี่ยม แต่กลับมีกระบวนท่าเรียบง่ายไม่เพียงพอต่อการฉกฉวยโอกาส มิเช่นนั้นความหวังที่จะพ่ายแพ้ของข้า คงพอจะมีอยู่บ้างแล้ว"

หากวัดกันตามนี้ ก็ต้องถือว่าอึ้งเซียะ คือผู้เป็นที่สุดแห่งยุคอีกคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะเป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถทัดเทียมต๊กโกวผู้แสวงพ่ายได้ แม้ไม่อาจชนะแต่ก็มิปราชัยเช่นเดียวกัน และนี่ยังนับว่าเป็นความอัจฉริยะในแบบฉบับของท่านกิมย้งที่ต้องการให้ผู้อ่านได้ไปจิตนการต่อกันเองว่า สายลมปราณหรือกระบี่ ใครคือผู้เป็นที่สุดแห่งยุคสมัย โดยผ่านตัวละครที่เป็นตำนานทั้ง 2 ท่าน หนึ่งคือผู้เดียวดายแสวงหาความพ่ายแพ้ อีกหนึ่งก็คือผู้มีพลังลมปราณเกรี้ยวกราดที่สุดในแผ่นดิน

จุดประกายสุดยอดวิชา และสหายผู้เป็นตำนาน[แก้]
หลังจากอึ้งเซียงได้ยินต๊กโกวพูดดังนี้ ก็คล้ายดั่งมีประกายสายฟ้าแวบขึ้นในหัว ที่ผ่านมาเขาสะดุดใจกับปัญหาข้อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่น้อยครั้งจะได้ประมือกับยอดฝีมือเนื่องเพราะเขาเป็นขุนนางมิใช่ชาวยุทธ อีกทั้งยังเชื่อมั่นในพลังภายในของตัวเองว่าเพียงพอต่อการสยบผู้คนแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจต่อท่าร่างมากนัก คำพูดของต๊กโกวในครั้งนี้ ช่วยให้เขาเห็นทางสว่างได้เด่นชัด แม้ทั้งคู่จะพึ่งพบหน้ากันได้ไม่นาน แต่หลังจากประมือและพูดคุยกัน ในใจของทั้งสองก็คล้ายดั่งรู้จักสนิทสนมกับอีกฝ่ายมาหลายสิบปี ทั้งสองจึงตัดสินใจคบหาเป็นสหายกัน อึ้งเซียงเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่ตนเองมีวรยุทธจากการเรียบเรียงตำราลัทธิเต๋าให้ฮ่องเต้ โดยไม่มีใครสอนสั่ง ทำให้ต๊กโกวยิ่งชื่นชมภูมิปัญญาที่หลักแหลมของอึ้งเซียงขึ้นไปอีก ต๊กโกวจึงบอกกับอึ้งเซียงว่า

"แม้ในใจของข้าจะแสวงหาความพ่ายแพ้เพราะไม่อาจพบพานคู่มือที่เปรียบติด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมสยบให้ผู้คนโดยง่าย หลังจากนี้ข้าจะลองคิดค้นกระบวนท่าที่จะทำลายพลังลมปราณของเจ้าดูบ้าง! เมื่อเจ้าคิดค้นกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมได้บ้างแล้ว เราสองจงมาประลองกันอีกครั้ง ดูสิว่าใครจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ฮะๆๆ"

อึ้งเซียงจึงตกลงรับคำ จากนั้นทั้งสองก็แยกจากกันในราตรีของวันที่4 เพราะอึ้งเซียงติดภาระต้องไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เพื่อถวายรายงานผลการปราบปรามนิกายเม้งก่า แม้จะรู้สึกอาลัยที่ต้องจากกับผู้รู้ใจที่เพิ่งคบหาได้ไม่นาน แต่ในใจของต๊กโกวก็อิ่มเอิบยิ่งเนื่องเพราะพบพานผู้ที่จะมามอบความพ่ายแพ้ให้ตนได้แล้ว

แต่หารู้ไม่ว่านั้นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ 2 ยอดคนแห่งยุคจะได้เจอกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่