สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้มาแชร์ความเริ่ดของอายแชโดว์ที่ตามหามานานมากกกกกก ที่เรียกได้ว่าจากประสบการณ์ที่เราเคยใช้อายแชโดว์มาหลายยี่ห้อทั้งMAC, NAKED, BB, Shu, Sleek, Lunasol, Revlonขอยกความดีงามให้กับแบรนด์ที่จะมารีวิววันนี้ นั่นก็คืออายแชโดว์จากแบรนด์
KIKO Milano เป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์สัญชาติอิตาลีค่ะ ความเทพของเจ้าKIKOนี่สามารถขึ้นแท่นกลายมาเป็นลูกรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
ขอเท้าความซักเล็กน้อย.....เราเป็นคนหน้ามัน มันมากกก เปลือกตาไม่ต้องพูดถึงค่ะ แต่งหน้าได้ไม่กี่ชม. อายแชโดว์ก็จับตัวเป็นก้อน บางแบรนด์ที่เม็ดสีไม่แน่นถึงขั้นทาไม่ค่อยติดและเลือนง่ายไปเลยก็เคยเจอมาแล้ว
รูปลักษณ์
มาในพาเลตที่มีความแข็งแรงพร้อมกระจก แพ็คเกจดูดี ไม่ก๊องแก๊งค่ะ
พาเลตที่มีในครอบครองตอนนี้คือ เบอร์01 มีด้วยกันทั้งหมด5สี คือ สีดำ น้ำตาลเข้ม ม่วงเข้ม น้ำเงิน และสีเขียวค่ะ ทุกสีจะมีกลิตเตอร์เบาๆยกเว้นสีดำที่กลิตเตอร์จะน้อยกว่าเพื่อน(เกือบจะแมท) กลิตเตอร์ประมาณนี้ส่วนตัวคิดว่ากำลังดีเลย เพราะทำให้เห็นสีชัดและทำให้ตาดู สว่าง วิ้งๆ ดูเซ็กซี่ดี อิอิ
จุดเด่น
- เป็นได้ทั้งeyeshadow และ eyeliner
- ใช้แบบ wet หรือ dry ก็ได้ ให้ลุคที่แตกต่างกันออกไป (อันนี้น่าสนมากๆ เดี๋ยวไปลองทำดูแล้วจะมาบอกนะคะ)
- เม็ดสีแน่นมากๆๆๆๆ เกลี่ยง่ายแตะนิดเดียวก็เข้มแล้ว
- เม็ดสีไม่ค่อยตกเป็นผงๆระหว่างแต่งหน้าและระหว่างวัน
- สีไม่ดรอป ไม่เลือน
ทีนี้มาพูดถึงความติดทนกันบ้างนะคะ
เปลือกตา
แนะนำให้ทาprimerหรือeyeshadow baseก่อน เราใช้ของessence รับรองว่าอยู่ยงคงกระพันค่ะ 555555 นานสุดที่เราเคยนับไว้คือสิบกว่าชม.ค่ะเมื่อวานนี้เอง สดๆร้อนๆ คือแต่งหน้าตอนอากาศร้อนด้วย เหงื่อเยิ้มจนรองพื้นไม่ค่อยอยากจะติดหน้า แถมไปเต้นแร้งเต้นกาอีก ก็ไม่ได้สนใจตาตัวเอง แต่พอกลับมาถึงบ้าน ทุกอย่างยังอยู่ครบค่ะ!!!! สีไม่มีดรอปลงเลยจริงๆ ปลื้มปริ่มมากๆ
ให้คะแนน 8.5/10 เนื่องจากเคยปาดแต่อายแชโดว์ล้วนในวันที่ร้อนๆโดยไม่มีเบสยังจับกันเป็นก้อนอยู่ค่ะแต่อยู่ได้หลายชั่วโมงเหมือนกัน
ใต้ตา
สำหรับใต้ตาเป็นอีกจุดนึงที่เคยลองสารพัดมาเขียน ก็เอาไม่อยู่ เยิ้ม แพนด้า แต่KIKOนางปราบเซียนจริงๆค่ะ ไม่หลุด ไม่เลือน ไม่เป็นผง ไม่ไหล ไม่เป็นคราบ ไม่แพนด้า ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้นค่ะ!! เคยลองขยี้ตาเบาๆไม่มีสะทกสะท้านค่ะ แถมยังเกลี่ยง่ายมากๆ แต่ก่อนใช้ไลน์เนอร์เวลาเขียนใต้ตาแล้วได้น้ำตาทุกที T_____T
เราจะใช้สีน้ำตาลแต่งขอบตาล่างแค่ครึ่งนึง swatchฟุ้งๆ เบาๆ ให้ลุคธรรมชาติสุดๆไปเลย~~~~
ให้คะแนน 10/10 เกินคำบรรยายค่ะ ^^
10ปากว่าไม่เท่าตาเห็น เห็น เห็น....เพราะงั้นเราจะมาสวอชให้ดูค่ะ เปรียบเทียบระหว่างอายแชโดว์อย่างเดียว กับ มีeyeshadow base เช็ดออกด้วย Biodermaค่ะ ปล.รูปภาพไม่ค่อยชัดขออภัยค่าาาา
สีสวยถูกใจมั้ยค๊าาาา??
ปาดด้วยBioderma ครั้งที่1
ปาดด้วยBioderma ครั้งที่2
ต่อกันที่อายเบส+อายแชโดว์
ปาดด้วยBioderma ครั้งที่1
ปาดด้วยBioderma ครั้งที่2
ปาดด้วยBioderma ครั้งที่3
ใช่ว่าติดทนแล้วจะไม่มีข้อเสียนะคะ แต่เป็นในระดับที่รับได้ค่ะ
- กลิ่น : คือกลิ่นนี้ไม่รู้ว่าเรียกฉุน หรือ เหม็นเหมือนกัน แต่ไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้จากคสอ.ที่เคยใช้มาทั้งหมด
- ล้างออกยาก : ตอนล้างออกนี่นึกว่ากำลังล้างเจลไลเนอร์อยู่แน่ๆ เราต้องใช้Biodermaเช็ดออกหลายรอบกว่าจะหลุด บางวันเหนื่อยๆ ท้อกับการเช็ดนางออกจากตาก็เอาเท่าที่ได้ ตื่นมาแพนด้าจ้าาาาา
- หาซื้อยาก : ในเมืองไทยเท่าที่หาดูตอนนี้ยังไม่เจอร้านขายนะคะ ถ้าใครพอรู้แหล่งบอกด้วยนะคะ จะไปลองกวาดตัวอื่นมาใช้ค่ะ อิอิ
http://www.kikocosmetics.co.uk/make-up/eyes/eyeshadows/Street-Glam-Eyeshadow-%26-Eyeliner-Palette/p-KM00309002
Edit เพิ่มเติมจุดเด่นของอายแชโดว์ค่าาา
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ มือใหม่หัดรีวิว ติชมกันได้ค่ะ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านกันนะคะ
[CR] [รีวิว] สวอชกันชัดๆ อายแชโดว์ที่ติดทน ไม่หลุด/เลือน/ไหล/แพนด้า ทาใต้ตา/หนังตามัน เอาอยู่...สุดยอดความประทับใจ
วันนี้มาแชร์ความเริ่ดของอายแชโดว์ที่ตามหามานานมากกกกกก ที่เรียกได้ว่าจากประสบการณ์ที่เราเคยใช้อายแชโดว์มาหลายยี่ห้อทั้งMAC, NAKED, BB, Shu, Sleek, Lunasol, Revlonขอยกความดีงามให้กับแบรนด์ที่จะมารีวิววันนี้ นั่นก็คืออายแชโดว์จากแบรนด์KIKO Milano เป็นแบรนด์เครื่องสำอางค์สัญชาติอิตาลีค่ะ ความเทพของเจ้าKIKOนี่สามารถขึ้นแท่นกลายมาเป็นลูกรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
ขอเท้าความซักเล็กน้อย.....เราเป็นคนหน้ามัน มันมากกก เปลือกตาไม่ต้องพูดถึงค่ะ แต่งหน้าได้ไม่กี่ชม. อายแชโดว์ก็จับตัวเป็นก้อน บางแบรนด์ที่เม็ดสีไม่แน่นถึงขั้นทาไม่ค่อยติดและเลือนง่ายไปเลยก็เคยเจอมาแล้ว
รูปลักษณ์
มาในพาเลตที่มีความแข็งแรงพร้อมกระจก แพ็คเกจดูดี ไม่ก๊องแก๊งค่ะ
พาเลตที่มีในครอบครองตอนนี้คือ เบอร์01 มีด้วยกันทั้งหมด5สี คือ สีดำ น้ำตาลเข้ม ม่วงเข้ม น้ำเงิน และสีเขียวค่ะ ทุกสีจะมีกลิตเตอร์เบาๆยกเว้นสีดำที่กลิตเตอร์จะน้อยกว่าเพื่อน(เกือบจะแมท) กลิตเตอร์ประมาณนี้ส่วนตัวคิดว่ากำลังดีเลย เพราะทำให้เห็นสีชัดและทำให้ตาดู สว่าง วิ้งๆ ดูเซ็กซี่ดี อิอิ
จุดเด่น
- เป็นได้ทั้งeyeshadow และ eyeliner
- ใช้แบบ wet หรือ dry ก็ได้ ให้ลุคที่แตกต่างกันออกไป (อันนี้น่าสนมากๆ เดี๋ยวไปลองทำดูแล้วจะมาบอกนะคะ)
- เม็ดสีแน่นมากๆๆๆๆ เกลี่ยง่ายแตะนิดเดียวก็เข้มแล้ว
- เม็ดสีไม่ค่อยตกเป็นผงๆระหว่างแต่งหน้าและระหว่างวัน
- สีไม่ดรอป ไม่เลือน
ทีนี้มาพูดถึงความติดทนกันบ้างนะคะ
เปลือกตา
แนะนำให้ทาprimerหรือeyeshadow baseก่อน เราใช้ของessence รับรองว่าอยู่ยงคงกระพันค่ะ 555555 นานสุดที่เราเคยนับไว้คือสิบกว่าชม.ค่ะเมื่อวานนี้เอง สดๆร้อนๆ คือแต่งหน้าตอนอากาศร้อนด้วย เหงื่อเยิ้มจนรองพื้นไม่ค่อยอยากจะติดหน้า แถมไปเต้นแร้งเต้นกาอีก ก็ไม่ได้สนใจตาตัวเอง แต่พอกลับมาถึงบ้าน ทุกอย่างยังอยู่ครบค่ะ!!!! สีไม่มีดรอปลงเลยจริงๆ ปลื้มปริ่มมากๆ
ให้คะแนน 8.5/10 เนื่องจากเคยปาดแต่อายแชโดว์ล้วนในวันที่ร้อนๆโดยไม่มีเบสยังจับกันเป็นก้อนอยู่ค่ะแต่อยู่ได้หลายชั่วโมงเหมือนกัน
ใต้ตา
สำหรับใต้ตาเป็นอีกจุดนึงที่เคยลองสารพัดมาเขียน ก็เอาไม่อยู่ เยิ้ม แพนด้า แต่KIKOนางปราบเซียนจริงๆค่ะ ไม่หลุด ไม่เลือน ไม่เป็นผง ไม่ไหล ไม่เป็นคราบ ไม่แพนด้า ไม่เป็นอะไรทั้งสิ้นค่ะ!! เคยลองขยี้ตาเบาๆไม่มีสะทกสะท้านค่ะ แถมยังเกลี่ยง่ายมากๆ แต่ก่อนใช้ไลน์เนอร์เวลาเขียนใต้ตาแล้วได้น้ำตาทุกที T_____T
เราจะใช้สีน้ำตาลแต่งขอบตาล่างแค่ครึ่งนึง swatchฟุ้งๆ เบาๆ ให้ลุคธรรมชาติสุดๆไปเลย~~~~
ให้คะแนน 10/10 เกินคำบรรยายค่ะ ^^
ใช่ว่าติดทนแล้วจะไม่มีข้อเสียนะคะ แต่เป็นในระดับที่รับได้ค่ะ
- กลิ่น : คือกลิ่นนี้ไม่รู้ว่าเรียกฉุน หรือ เหม็นเหมือนกัน แต่ไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้จากคสอ.ที่เคยใช้มาทั้งหมด
- ล้างออกยาก : ตอนล้างออกนี่นึกว่ากำลังล้างเจลไลเนอร์อยู่แน่ๆ เราต้องใช้Biodermaเช็ดออกหลายรอบกว่าจะหลุด บางวันเหนื่อยๆ ท้อกับการเช็ดนางออกจากตาก็เอาเท่าที่ได้ ตื่นมาแพนด้าจ้าาาาา
- หาซื้อยาก : ในเมืองไทยเท่าที่หาดูตอนนี้ยังไม่เจอร้านขายนะคะ ถ้าใครพอรู้แหล่งบอกด้วยนะคะ จะไปลองกวาดตัวอื่นมาใช้ค่ะ อิอิ
http://www.kikocosmetics.co.uk/make-up/eyes/eyeshadows/Street-Glam-Eyeshadow-%26-Eyeliner-Palette/p-KM00309002
Edit เพิ่มเติมจุดเด่นของอายแชโดว์ค่าาา
ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ มือใหม่หัดรีวิว ติชมกันได้ค่ะ ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านกันนะคะ