สวัสดีคร้าบบบ กระทู้นี้เป็นรีวิวแรกของผม ไม่รู้รูปใหญ่ไปรึป่าวนะครับย่อยังไม่ค่อยเป็น5555
มีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ^^
(ถ้ารูปใหญ่ไปอ่านไม่ถนัดลองกด Crtl กับเครื่องหมายลบดูนะครับ)

ปกติก็ได้แต่อ่านกระทู้คนอื่นเขา แต่ห้องบลูนี่แหละครับที่เป็นinspirationให้ผมอยากออกเดินทาง....
ทริปนี้เป็นทริปไปกับครอบครัวครับ จากที่ไม่ได้เที่ยวนานเพราะต้องอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย
พอสอบได้เลยจัดไปหลายทริปเลยครับ แต่เห็นทริปนี้เป็นจังหวัดที่ยังไม่ค่อยมีคนรีวิวเลยและยังเป็น
อะไรที่อันซีนสุดๆสำหรับผม ไม่น่าเชื่อว่าจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวโด่งดังอย่างชุมพร จะมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ครับ
(ทริปนี้ไปแค่ตอนเหนือๆของจังหวัดแค่บางส่วนคือ อ.ปะทิว และอ.เมือง จริงๆชุมพรยังมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหาครับ)
อาจจะเขียนไม่ค่อยเยอะ แต่ให้รูปช่วยพูดแทนละกันนะครับผม
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
DAY 1
ขาไปเดินทางไปด้วยเครื่องบิน แต่ไฟลท์ไปที่นู่นไม่เช้าตรู่ ก็ดึกเลยครับ วันนี้เลยต้องตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่งไปสนามบิน
เป็นไฟลท์Domesticที่ตื่นเช้าที่สุดสำหรับผมเลยนะนั่น5555

วันนี้ได้นั่งนกอันนา HS-DQA - Bombadiar Dash8 Q400 เลยเป็นBus gateเพราะนั่งเครื่องเล็กครับ
DD7610 DMK - CJM

เจอน้องนกสกู๊ต โอเรียลไทย ละก็น้องสิงโตจอดอยู่ก่อนขึ้นเครื่องครับ
เที่ยวบินนี้บินไม่สูงมาก เลยได้เห็นทัศนียภาพเบื้องล่างของด้ามขวานตอนบน
เป็นเที่ยวบินที่ประทับใจมากจริงๆครับ
ในที่สุดน้องนกอันนาก็พาเรามาถึงท่าอากาศยานชุมพร(CJM) ครับ

Tag กระเป๋าไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไรสำหรับIATA codeสนามบินนี้
จากนั้นก็นั่งรถเข้าที่พัก เป็นรถกระบะครับ ผมนั่งตรงกระบะ
อากาศช่วงเช้าเย็นสบายมากครับ อากาศดีสุดๆ
และที่สำคัญทิวทัศน์2ข้างทางร่มรื่นมากๆครับ
จากนั้นถึงโรงแรมที่พักบริเวณหาดทุ่งวัวแล่น ก็ไปกินอาหารเช้าครับ
ตอนเช้าร้านแถวนั้นส่วนมากยังไม่เปิดแต่มีร้านนึงชื่อร้างบังดอน เป็นเพลิงเล็กๆเปิดอยู่
อาหารก็พอใช้ได้ แต่บังใจดีมากๆเลยครับ วันกลับไปอุดหนุนอีกบังให้สับปะรดจากสวนบังมาตั้ง3ลูก55555+
ใครไปฝากอุดหนุนบังด้วยนะคร้าบบบ
หาดทุ่งวัวแล่นเคยเป็นจุดยกพลขึ้นบกของทหารญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมาถ้าอยากทราบดูได้จากลิ้งนี้ครับ -->
http://chumphontrip.com/thung-wua-laen-beach.html
จากนั้นก็ไปยังจุดชมวิวเขามัทรีครับ
(แรกๆยังไม่ค่อยunseenเท่าไรเพราะยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เดี๋ยววันต่อๆไปจะพาไปสถานที่ที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวครับ)

บนเขาเราจะเห็นวิวด้านหนึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงบริเวณปากน้ำชุมพร

ส่วนอีกฝั่งถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวิวของหาดทรายรีครับ
ลงจากเขามัทรีก็เดินทางต่อไปยังศาลกรมหลวงชุมพรบริเวณหาดทรายรีเนื่องจากบริเวณดังกล่าว
เป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ของท่านครับ

(รูปนี้ยืมมาจากอินเตอร์เนต เครดิตตามในภาพะครับ)
หลังจากไหว้ท่านเสร็จแล้วเราไปดูทิวทัศน์บริเวณหาดทรายรีกันดีกว่าครับ
สวยไม่แพ้ทะเลอันดามันเลยครับ

จากนั้นก็กลับโรงแรมที่ทุ่งวัวแล่น เดินเล่นถ่ายรูปริมหาดครับ
DAY 2
วันนี้จะไม่ค่อยมีรูปนะครับ เพราะวันนี้ไปดำน้ำที่เกาะง่ามเล็ก-ใหญ่ (คนละ1000) ทะเลที่นี่ใสมากครับ ปลาชุกชุมสุดๆ
ตอนไปเราก็จะผ่านเกาะสัมปทานรังนกหลายเกาะเลยทีเดียว ใต้ทะเลที่นี่สวยไม่แพ้อันดามันอีกเหมือนกันแหละครับ5555

วันนี้กลับมาถึงฝั่งก็4โมงเย็นละครับ เลยมาเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เล่น
ละค่อยคืน4โมงวันถัดไปครับ (200บาท/24ชม.ไม่รวมน้ำมัน)
การเช่ามอเตอร์ไซค์นี่แหละครับ ที่เป็นจุดเริ่มต้นไปยังสถานที่Unseenในวันถัดไป
แต่วันนี้เย็นแล้วขี่รถเล่นแถวๆโรงแรมเลียบหาดทุ่งวัวแล่นไปก่อนละกันนะครับ

วันนี้พระจันทร์เต็มดวงพอดีครับ

ขอพาโนรามาอีกสักรูป
DAY 3
วันนี่มีมอเตอร์ไซค์เลยรีบตื่นแต่เช้าพาแม่ไปตลาดครับ
เป็นตลาดเล็กๆตั้งอยู่ในตัวตำบลสะพลี

ของในตลาดก็คล้ายๆใน กทม. นี่แหละครับ แต่จะมีที่ต่างก็คือที่นี่จะขายส้มจี๊ดเยอะมาก
ใช้ปรุงอาหารแทนมะนาวในหน้ามะนาวแพงครับ
หลังจากนั้นวันนี้ยังไม่มีโปรแกรมไปไหน ผมเลยลองเปิดgoogle mapมั่วๆว่ามีที่ไหนที่ขับมอไซไปได้บ้าง
ละไปเจอที่ๆนึงเลยจากที่พักไปประมาณ10กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นอ่าวเกือบจะเป็นวงกลม
ผมเลยคิดว่ามันน่าจะสวย ด้วยความชอบผจญภัยไปในที่แปลกๆของผมเลยชวนพ่อแว๊นซ์ไปกันครับ

เป็นอ่าวที่ชื่อว่า "อ่าวพนังตัก"
ไฮไลท์อยู่ตรงนี้แหละครับบบ Unseenจริงๆ
จากกูเกิลแมพก็ขี่มอไซไปเรื่อยๆตามทางหลวงชนบทสาย4008
จนไปเจอป้ายเล็กๆผุๆเขียนว่า ทางลงอ่าวพนังตัก
รอช้าทำไมล่ะครับ ผมเลี้ยวลงไปในทันที5555
นี่คือภาพแรกที่เห็นครับ

ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากครับมีปูเสฉวนเป็นฝูง ไม่ได้เวอร์นะครับ555
(แต่ภาพข้างล่างเป็นแค่เปลือกหอย ดงปูเสฉวนมันอยู่ในแอ่งน้ำถ่ายไม่ค่อยชัดครับ)
ต่อไปก็เป็นบรรยากาศโดยรอบครับ

ที่นี่จะเป็นทะเลโคลน โคลนดูดด้วยครับ ควรถอดรองเท้าเดินและเดินอย่างระวัง5555
จากนั้นก็ขี่มอไซต่อไปเรื่อยๆบนถนน4008 จนเจอทางลงอีกทาง ข้างบนนี่เด็กๆไปเลย
ผ่านดงปาล์มไปประมาณ800เมตร....ก็เจอสิ่งเหล่านี้....

มีชาวบ้านเก็บหอยไปดองครับ

เป็นlandscapeที่สุดยอดมากครับ ลืมบอก..รูปแรกสุดของกระทู้ก็ถ่ายที่นี่แหละครับ
จากนั้นขี่มอไซกลับกันดีกว่า
ก่อนกลับก็แวะสะพานปลาครับ เข้าไปในหมู่บ้านชาวประมง
อันนี้เป็นกรงดักปูครับ จะโยนไปใต้ท้องทะเลลึกละก็มาเก็บทีหลัง

ช่วงนี้เรือเต็มหมู่บ้านไม่ออกทะเลเพราะอยู่ในช่วงปิดอ่าวไทย

จากนั้นก็กลับที่พัก คืนมอเตอร์ไซค์ครับ
ตกดึกก็ออกทะเลไปไดหมึก (500บาท/คน)
รูปไม่ค่อยมีเพราะมัวแต่ตกหมึกและกิน5555
DAY 4
วันนี้กลับ กทม.ละคร้าบบบ
BYE BYEชุมพร
ขากลับนั่งรถไฟด่วนพิเศษกลับ(สปินเตอร์) ขบวนที่40
โดยต้องไปขึ้นที่สถานีประทิวอยู่ในตัวอ.ประทิวครับ
เนื่องจากขบวนนี้จะจอดแค่สถานีใหญ่ๆเท่านั้น

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งรถไฟตอนกลางวัน (ปกตินั่งแต่รถนอน5555)
ทำให้ผมหลงใหลการเดินทางวิธีนี้มากครับ
การนั่งเครื่องบินก็เหมือนการบินข้ามหลายๆสิ่งไปโดยสนในเพียงจุดหมายปลายทาง
แต่ความงามส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางเสมอไป เพราะความสวยงามของการเดินทาง
ย่อมอยู่ที่ระหว่างทางด้วย เป็นการนั่งรถไฟสายใต้ครั้งแรกที่ประทับใจมากครับ

เสียดาย รฟท. ไม่ค่อยล้างกระจก แหะๆ
จบละครับสำหรับรีวิวแรกของผม ไม่ดีตรงไหนติชมกันได้นะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า
"เมืองไทยของเรายังมีอะไรอีกมากมายให้เราค้นหาครับ

"
[[UNSEEN]] "..ชุมพร.." เมืองที่ถูกใครหลายคนมองข้ามไป
มีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ^^
(ถ้ารูปใหญ่ไปอ่านไม่ถนัดลองกด Crtl กับเครื่องหมายลบดูนะครับ)
ปกติก็ได้แต่อ่านกระทู้คนอื่นเขา แต่ห้องบลูนี่แหละครับที่เป็นinspirationให้ผมอยากออกเดินทาง....
ทริปนี้เป็นทริปไปกับครอบครัวครับ จากที่ไม่ได้เที่ยวนานเพราะต้องอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย
พอสอบได้เลยจัดไปหลายทริปเลยครับ แต่เห็นทริปนี้เป็นจังหวัดที่ยังไม่ค่อยมีคนรีวิวเลยและยังเป็น
อะไรที่อันซีนสุดๆสำหรับผม ไม่น่าเชื่อว่าจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวโด่งดังอย่างชุมพร จะมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ครับ
(ทริปนี้ไปแค่ตอนเหนือๆของจังหวัดแค่บางส่วนคือ อ.ปะทิว และอ.เมือง จริงๆชุมพรยังมีอะไรอีกมากมายให้ค้นหาครับ)
อาจจะเขียนไม่ค่อยเยอะ แต่ให้รูปช่วยพูดแทนละกันนะครับผม
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
DAY 1
ขาไปเดินทางไปด้วยเครื่องบิน แต่ไฟลท์ไปที่นู่นไม่เช้าตรู่ ก็ดึกเลยครับ วันนี้เลยต้องตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่งไปสนามบิน
เป็นไฟลท์Domesticที่ตื่นเช้าที่สุดสำหรับผมเลยนะนั่น5555
วันนี้ได้นั่งนกอันนา HS-DQA - Bombadiar Dash8 Q400 เลยเป็นBus gateเพราะนั่งเครื่องเล็กครับ
DD7610 DMK - CJM
เจอน้องนกสกู๊ต โอเรียลไทย ละก็น้องสิงโตจอดอยู่ก่อนขึ้นเครื่องครับ
เที่ยวบินนี้บินไม่สูงมาก เลยได้เห็นทัศนียภาพเบื้องล่างของด้ามขวานตอนบน
เป็นเที่ยวบินที่ประทับใจมากจริงๆครับ
ในที่สุดน้องนกอันนาก็พาเรามาถึงท่าอากาศยานชุมพร(CJM) ครับ
Tag กระเป๋าไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไรสำหรับIATA codeสนามบินนี้
จากนั้นก็นั่งรถเข้าที่พัก เป็นรถกระบะครับ ผมนั่งตรงกระบะ
อากาศช่วงเช้าเย็นสบายมากครับ อากาศดีสุดๆ
และที่สำคัญทิวทัศน์2ข้างทางร่มรื่นมากๆครับ
จากนั้นถึงโรงแรมที่พักบริเวณหาดทุ่งวัวแล่น ก็ไปกินอาหารเช้าครับ
ตอนเช้าร้านแถวนั้นส่วนมากยังไม่เปิดแต่มีร้านนึงชื่อร้างบังดอน เป็นเพลิงเล็กๆเปิดอยู่
อาหารก็พอใช้ได้ แต่บังใจดีมากๆเลยครับ วันกลับไปอุดหนุนอีกบังให้สับปะรดจากสวนบังมาตั้ง3ลูก55555+
ใครไปฝากอุดหนุนบังด้วยนะคร้าบบบ
หาดทุ่งวัวแล่นเคยเป็นจุดยกพลขึ้นบกของทหารญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมาถ้าอยากทราบดูได้จากลิ้งนี้ครับ --> http://chumphontrip.com/thung-wua-laen-beach.html
จากนั้นก็ไปยังจุดชมวิวเขามัทรีครับ
(แรกๆยังไม่ค่อยunseenเท่าไรเพราะยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เดี๋ยววันต่อๆไปจะพาไปสถานที่ที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวครับ)
บนเขาเราจะเห็นวิวด้านหนึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงบริเวณปากน้ำชุมพร
ส่วนอีกฝั่งถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวิวของหาดทรายรีครับ
ลงจากเขามัทรีก็เดินทางต่อไปยังศาลกรมหลวงชุมพรบริเวณหาดทรายรีเนื่องจากบริเวณดังกล่าว
เป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ของท่านครับ
(รูปนี้ยืมมาจากอินเตอร์เนต เครดิตตามในภาพะครับ)
หลังจากไหว้ท่านเสร็จแล้วเราไปดูทิวทัศน์บริเวณหาดทรายรีกันดีกว่าครับ
สวยไม่แพ้ทะเลอันดามันเลยครับ
จากนั้นก็กลับโรงแรมที่ทุ่งวัวแล่น เดินเล่นถ่ายรูปริมหาดครับ
DAY 2
วันนี้จะไม่ค่อยมีรูปนะครับ เพราะวันนี้ไปดำน้ำที่เกาะง่ามเล็ก-ใหญ่ (คนละ1000) ทะเลที่นี่ใสมากครับ ปลาชุกชุมสุดๆ
ตอนไปเราก็จะผ่านเกาะสัมปทานรังนกหลายเกาะเลยทีเดียว ใต้ทะเลที่นี่สวยไม่แพ้อันดามันอีกเหมือนกันแหละครับ5555
วันนี้กลับมาถึงฝั่งก็4โมงเย็นละครับ เลยมาเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เล่น
ละค่อยคืน4โมงวันถัดไปครับ (200บาท/24ชม.ไม่รวมน้ำมัน)
การเช่ามอเตอร์ไซค์นี่แหละครับ ที่เป็นจุดเริ่มต้นไปยังสถานที่Unseenในวันถัดไป
แต่วันนี้เย็นแล้วขี่รถเล่นแถวๆโรงแรมเลียบหาดทุ่งวัวแล่นไปก่อนละกันนะครับ
วันนี้พระจันทร์เต็มดวงพอดีครับ
ขอพาโนรามาอีกสักรูป
DAY 3
วันนี่มีมอเตอร์ไซค์เลยรีบตื่นแต่เช้าพาแม่ไปตลาดครับ
เป็นตลาดเล็กๆตั้งอยู่ในตัวตำบลสะพลี
ของในตลาดก็คล้ายๆใน กทม. นี่แหละครับ แต่จะมีที่ต่างก็คือที่นี่จะขายส้มจี๊ดเยอะมาก
ใช้ปรุงอาหารแทนมะนาวในหน้ามะนาวแพงครับ
หลังจากนั้นวันนี้ยังไม่มีโปรแกรมไปไหน ผมเลยลองเปิดgoogle mapมั่วๆว่ามีที่ไหนที่ขับมอไซไปได้บ้าง
ละไปเจอที่ๆนึงเลยจากที่พักไปประมาณ10กิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นอ่าวเกือบจะเป็นวงกลม
ผมเลยคิดว่ามันน่าจะสวย ด้วยความชอบผจญภัยไปในที่แปลกๆของผมเลยชวนพ่อแว๊นซ์ไปกันครับ
เป็นอ่าวที่ชื่อว่า "อ่าวพนังตัก"
ไฮไลท์อยู่ตรงนี้แหละครับบบ Unseenจริงๆ
จากกูเกิลแมพก็ขี่มอไซไปเรื่อยๆตามทางหลวงชนบทสาย4008
จนไปเจอป้ายเล็กๆผุๆเขียนว่า ทางลงอ่าวพนังตัก
รอช้าทำไมล่ะครับ ผมเลี้ยวลงไปในทันที5555
นี่คือภาพแรกที่เห็นครับ
ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์มากครับมีปูเสฉวนเป็นฝูง ไม่ได้เวอร์นะครับ555
(แต่ภาพข้างล่างเป็นแค่เปลือกหอย ดงปูเสฉวนมันอยู่ในแอ่งน้ำถ่ายไม่ค่อยชัดครับ)
ต่อไปก็เป็นบรรยากาศโดยรอบครับ
ที่นี่จะเป็นทะเลโคลน โคลนดูดด้วยครับ ควรถอดรองเท้าเดินและเดินอย่างระวัง5555
จากนั้นก็ขี่มอไซต่อไปเรื่อยๆบนถนน4008 จนเจอทางลงอีกทาง ข้างบนนี่เด็กๆไปเลย
ผ่านดงปาล์มไปประมาณ800เมตร....ก็เจอสิ่งเหล่านี้....
มีชาวบ้านเก็บหอยไปดองครับ
เป็นlandscapeที่สุดยอดมากครับ ลืมบอก..รูปแรกสุดของกระทู้ก็ถ่ายที่นี่แหละครับ
จากนั้นขี่มอไซกลับกันดีกว่า
ก่อนกลับก็แวะสะพานปลาครับ เข้าไปในหมู่บ้านชาวประมง
อันนี้เป็นกรงดักปูครับ จะโยนไปใต้ท้องทะเลลึกละก็มาเก็บทีหลัง
ช่วงนี้เรือเต็มหมู่บ้านไม่ออกทะเลเพราะอยู่ในช่วงปิดอ่าวไทย
จากนั้นก็กลับที่พัก คืนมอเตอร์ไซค์ครับ
ตกดึกก็ออกทะเลไปไดหมึก (500บาท/คน)
รูปไม่ค่อยมีเพราะมัวแต่ตกหมึกและกิน5555
DAY 4
วันนี้กลับ กทม.ละคร้าบบบ
BYE BYEชุมพร
ขากลับนั่งรถไฟด่วนพิเศษกลับ(สปินเตอร์) ขบวนที่40
โดยต้องไปขึ้นที่สถานีประทิวอยู่ในตัวอ.ประทิวครับ
เนื่องจากขบวนนี้จะจอดแค่สถานีใหญ่ๆเท่านั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งรถไฟตอนกลางวัน (ปกตินั่งแต่รถนอน5555)
ทำให้ผมหลงใหลการเดินทางวิธีนี้มากครับ
การนั่งเครื่องบินก็เหมือนการบินข้ามหลายๆสิ่งไปโดยสนในเพียงจุดหมายปลายทาง
แต่ความงามส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางเสมอไป เพราะความสวยงามของการเดินทาง
ย่อมอยู่ที่ระหว่างทางด้วย เป็นการนั่งรถไฟสายใต้ครั้งแรกที่ประทับใจมากครับ
เสียดาย รฟท. ไม่ค่อยล้างกระจก แหะๆ
จบละครับสำหรับรีวิวแรกของผม ไม่ดีตรงไหนติชมกันได้นะครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า
"เมืองไทยของเรายังมีอะไรอีกมากมายให้เราค้นหาครับ