สวัสดีค่ะ เกริ่นก่อนนะคะ เรามีโรคประจำตัวเป็นโรค SLE ตั้งแต่อายุ 19 ปี
ปัจจุบันอายุ 23 ตอนเป็นหนักๆต้องแอดมิดรพ.เกือบเดือนคือขาบวม ตัวบวมมาก
ต้องทานยาเพรดนิโซโลนวันละ 12 เม็ด หลังจากนั้นเมื่ออาการดีขึ้นคุณหมอก็ปรับยาลดลง
จนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไปพบหมอตามนัด คุณหมอก็ให้หยุดยาเพรดนิโซโลน แต่ก็มียาตัวใหม่มาแทน
ช่วงแรกๆที่หยุดยาก็รู้สึกมีอาการปวดเนื้อปวดตัวนิดหน่อย หลังๆมาก็ดีขึ้นจนเป็นปกติ
(ก็นะ.. ทานยาเพรดนิโซโลนมาตั้งแต่ 19 จน 23 ร่วมๆก็ 5 ปีกว่า)

สัก 1-2 วันมานี้ก็มีผื่นคันขึ้นที่หน้า แถวหน้าผาก ใต้คิ้ว บนเปลือกตา คล้ายๆสิวแต่ไม่แดง
ยิ่งเวลาเจอเหงื่อยิ่งคันมาก มันจะแบบแสบๆร้อนๆหน้า แล้วก็คันมาก
อยากทราบว่ามันเป็นอาการของผิวหน้าติดสเตียรอยด์ หรือว่าเป็นผื่นคันหน้าร้อนธรรมดาคะ
รบกวนผู้ที่เคยทานยาเพรดแต่หยุดแล้ว หรือผู้รู้ แนะนำทีนะคะ ขอบคุณค่ะ

ปล. จขกท จะไปหาหมอวันจันทร์นี้ดูค่ะ แต่ลองเอามาปรึกษาเพื่อนๆก่อน