สวัสดีครับ
ขณะนี้ผมอยู่ที่หมอชิต2 วันนี้9พค58เป็นวันที่แย่มากๆสำหรับผมแต่หากย้อนกลับไปวันที่4พค58ที่ผ่านมา มันคือวันที่ผมประทับใจมากๆ เนื่องจากผมได้โดยสารรถทัวร์ของนครชัยแอร์ไปสกลนครค่ารถ561บาท ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ผมมีเพื่อนร่วมทาง1คนครับ ตอนจองตั๋วเราสามารถเลือกที่นั่งได้เองด้วยคล้ายๆโรงหนัง ผมนั่งรถทัวร์จากบริษัทนครชัยแอร์รถออก8.45 ขณะที่ขึ้นไปบนรถผมเห็นบรรยากาศภายในรถทัวร์ที่เหมือนอยู่บนเครื่องบินเพราะตั๋วที่ผมจองเป็นแบบGoldFirstclass มันหรูมากอีกทั้งยังมีแอร์โฮสเตสเสมิอนอยู่บนเครื่องบินจริงๆ โดยเบาะของรถโดยสารมีจำนวน32ที่นั่ง ซึ่งไม่ชิดกันมากนั่ง-นอนได้สบายไม่ต้องห่วงว่าจะโดนคนข้างหลังหรือคนข้างหน้าจะเอนลงมาโดนเรา ที่สำคัญการบริการของเขามีอาหารให้รับประทาน1มื้อและอาหารว่าง2มื้อ ที่เก้าอี้มีจอทีวีและสามารถฟังเพลงหรือดูหนังได้ อีกทั้งแอร์บนรถเย็นมากๆจนหนาวเลย การบริการบนรถพนักงานก็มีการสอบถามลูกค้าว่าจะลงตรงไหนเพื่อไม่ให้ลูกค้าเสียเวลาและให้บริการด้วยรอยยิ้มแจ่มใสและเรื่องความปลอดภัยเขาใส่ใจลูกค้าที่สุดเพราะตลอดการเดินทางเขาไม่มีการรับผู้โดยสารรายทางแม้แต่คนเดียว ผมชอบและประทับใจมากที่สุดที่เคยนั่งรถทัวร์ตั้งแต่เกิดเลยครับ แต่การเดินทางในครั้งนี้ก็ยังไม่จบในช่วงต้นที่กล่าวไว้ว่าผมโดยสารรถทัวร์ของบริษัทเชิดชัยทัวร์ในราคา 510 บาทเป็นรถที่มาจากจังหวัดอุดรฯเข้ากรุงเทพฯ ขึ้นรถจากอำเภอส่องดาวแต่ไม่ใช่สถานีขนส่งเป็นหน้าตลาดแถวอำเภอ ซึ่งการเดินทางกลับในตั๋วเขียนว่าขึ้นรถเวลา18.30 แต่รถมาถึงเวลา19.25 พอผมขึ้นไปบนรถผมเห็นคนนั่งอยู่เต็มคันมีที่นั่งว่างเพียงไม่กี่ที่ถ้ารวมกับคนที่ขึ้นมาใหม่มันก็เกินจำนวนเบาะที่มีอยู่จริงผมเลยคิดในใจว่าคนขับจะทำอย่างไรผ่านไปสักพักคนขับรถได้มีการโยกย้ายเบาะเก้าอี้ให้ผู้โดยสารที่มาคนเดียวและลงโคราชมายืนอยู่ตรงกลางทางเดินบนรถซึ่งเด็กรถได้นำเก้าอี้พลาสติกเสริมมาไว้ตรงกลางและให้ผู้โดยสารที่มาคนเดียวนั่งตรงกลางทางเดิน และผู้โดยสารเหล่านั้นก็อารมณ์เสียเพราะเขาจ่ายเงินเท่ากันหมดแต่กลับต้องนั่งเก้าอี้เสริมที่ไม่ใช่เบาะรถ จะนอนก็ไม่ได้นอนจะเอนไปข้างหลังก็ทำไม่ได้ ผมก็ได้แต่คิดในใจว่าการกระทำแบบนี้คนขับรถหรือทางบริษัทเขาจะรับรู้หรือไม่ว่ามันผิดกฎหมาย ซึ่งผมก็ได้แต่สงสารและเห็นใจ เพื่อนผมก็โมโหกับการจัดระบบการเดินรถของที่นี้ พอขึ้นรถเสร็จผมก็เดินทางต่อไป ขณะเดินทางเขาก็จอดรถรับผู้โดยสารตามทางไปเรื่อยๆจนแทบจะเต็มช่องทางเดินตรงกลางรถ และมีอยู่ช่วงนึงคนขับรถจอดรถโดยที่สองฝั่งไม่มีผู้โดยสาร ผมก็สงสัยว่าจอดทำไม จอดนานด้วย เลยชะโงกหน้าไปดูเห็นคนขับกำลังสูบบุหรี่ เป็นการกระทำที่ไม่มีความจรรยาบรรณของตนขับรถแม้แต่น้อย ซึ่งผมก็ได้แต่คิดในใจและระบายกับเพื่อนร่วมทาง พอเดินทางไปเรื่อยๆก็เกือบจะเช้าประมาณตี5กว่าๆ ผมเดินทางเข้าตัวกรุงเทพมารถก็ไม่ค่อยเยอะ การจราจรคล่องตัวสะดวกอยู่ โดยรถทัวร์คันนี้วิ่งบนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้ามันก็จะผ่านสนามบินดอนเมือง (บ้านผมอยู่ดอนเมือง) ผมจึงเดินไปขอให้คนขับจอดรถตรงป้ายรถเมล์หน่อยได้มั้ย (ผมเคยนั่งรถทัวร์สายอื่นเขาก็จะจอดให้เพราะกระเป๋าผมก็ติดตัวไม่ได้อยู่ใต้รถ) คนขับบอกกับผมว่าไม่จอดครับจอดแต่หมอชิตอย่างเดียว (ผมโมโหมากๆและเดินกลับไปนั่ง) ทั้งๆที่แค่จอดไม่ถึงนาทีให้ผมลง รถก็ไม่ได้เยอะ พอถึงป้ายรถเมล์ มันก็ขับผ่านป้ายรถเมล์ไปอย่างสบายใจ พอลงจากขนส่งหมอชิต2 ถึงที่นี้ประมาณ6.40 ผมเดินออกไปด้วยความโมโหและเดินไปหาแท็กซี่หน้าสถานีขนส่งตรงสะพานลอย ก็จะมีแท็กซี่จอดรอรับอยู่ผมถามแท็กซี่ไปสนามบินดอนเมืองมั้ยครับ แท็กซี่ตอบว่า350บาทไปมั้ย? ผมโคตรจะงงว่าทำไมแท็กซี่ไม่วิ่งตามมิเตอร์ และปฏิเสธแท็กซี่กลุ่มนั้นไป (ด้วยความโมโหผมเดินแยกกับเพื่อนแบบไม่คิดอะไรไปตรงอู่รถเมล์) และนั่งรถเมล์ฟรีสาย26 อ้อมไปลงbtsราชเทวี แล้วนั่งรถเมล์สาย29 ค่าโดยสาร8.50 มาลงดอนเมือง ถึงบ้านเวลา 8.22
การเดินทางในครั้งนี้ทำให้ผมเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับการขนส่งคมนาคมของประเทศไทยที่มีทั้งด้านดีและไม่ดี ผมเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์นี้กับทุกๆคน และขออภัยหากอ้างถึงชื่อบริษัทโดยตรง ผมรู้ว่าคนขับรถแต่ละคนไม่เหมือนกัน และเจตนาของผมคืออยากให้ทำการแก้ไข ไม่ใช่มาฟ้องร้องหรือเรียกค่าเสียหายใดๆ ผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และผมยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกๆคน เช่นกันครับ เพื่อประเทศไทยของเรา : )
ประสบการณ์จากการนั่งรถทัวร์ที่จะไม่มีวันลืม
ขณะนี้ผมอยู่ที่หมอชิต2 วันนี้9พค58เป็นวันที่แย่มากๆสำหรับผมแต่หากย้อนกลับไปวันที่4พค58ที่ผ่านมา มันคือวันที่ผมประทับใจมากๆ เนื่องจากผมได้โดยสารรถทัวร์ของนครชัยแอร์ไปสกลนครค่ารถ561บาท ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ผมมีเพื่อนร่วมทาง1คนครับ ตอนจองตั๋วเราสามารถเลือกที่นั่งได้เองด้วยคล้ายๆโรงหนัง ผมนั่งรถทัวร์จากบริษัทนครชัยแอร์รถออก8.45 ขณะที่ขึ้นไปบนรถผมเห็นบรรยากาศภายในรถทัวร์ที่เหมือนอยู่บนเครื่องบินเพราะตั๋วที่ผมจองเป็นแบบGoldFirstclass มันหรูมากอีกทั้งยังมีแอร์โฮสเตสเสมิอนอยู่บนเครื่องบินจริงๆ โดยเบาะของรถโดยสารมีจำนวน32ที่นั่ง ซึ่งไม่ชิดกันมากนั่ง-นอนได้สบายไม่ต้องห่วงว่าจะโดนคนข้างหลังหรือคนข้างหน้าจะเอนลงมาโดนเรา ที่สำคัญการบริการของเขามีอาหารให้รับประทาน1มื้อและอาหารว่าง2มื้อ ที่เก้าอี้มีจอทีวีและสามารถฟังเพลงหรือดูหนังได้ อีกทั้งแอร์บนรถเย็นมากๆจนหนาวเลย การบริการบนรถพนักงานก็มีการสอบถามลูกค้าว่าจะลงตรงไหนเพื่อไม่ให้ลูกค้าเสียเวลาและให้บริการด้วยรอยยิ้มแจ่มใสและเรื่องความปลอดภัยเขาใส่ใจลูกค้าที่สุดเพราะตลอดการเดินทางเขาไม่มีการรับผู้โดยสารรายทางแม้แต่คนเดียว ผมชอบและประทับใจมากที่สุดที่เคยนั่งรถทัวร์ตั้งแต่เกิดเลยครับ แต่การเดินทางในครั้งนี้ก็ยังไม่จบในช่วงต้นที่กล่าวไว้ว่าผมโดยสารรถทัวร์ของบริษัทเชิดชัยทัวร์ในราคา 510 บาทเป็นรถที่มาจากจังหวัดอุดรฯเข้ากรุงเทพฯ ขึ้นรถจากอำเภอส่องดาวแต่ไม่ใช่สถานีขนส่งเป็นหน้าตลาดแถวอำเภอ ซึ่งการเดินทางกลับในตั๋วเขียนว่าขึ้นรถเวลา18.30 แต่รถมาถึงเวลา19.25 พอผมขึ้นไปบนรถผมเห็นคนนั่งอยู่เต็มคันมีที่นั่งว่างเพียงไม่กี่ที่ถ้ารวมกับคนที่ขึ้นมาใหม่มันก็เกินจำนวนเบาะที่มีอยู่จริงผมเลยคิดในใจว่าคนขับจะทำอย่างไรผ่านไปสักพักคนขับรถได้มีการโยกย้ายเบาะเก้าอี้ให้ผู้โดยสารที่มาคนเดียวและลงโคราชมายืนอยู่ตรงกลางทางเดินบนรถซึ่งเด็กรถได้นำเก้าอี้พลาสติกเสริมมาไว้ตรงกลางและให้ผู้โดยสารที่มาคนเดียวนั่งตรงกลางทางเดิน และผู้โดยสารเหล่านั้นก็อารมณ์เสียเพราะเขาจ่ายเงินเท่ากันหมดแต่กลับต้องนั่งเก้าอี้เสริมที่ไม่ใช่เบาะรถ จะนอนก็ไม่ได้นอนจะเอนไปข้างหลังก็ทำไม่ได้ ผมก็ได้แต่คิดในใจว่าการกระทำแบบนี้คนขับรถหรือทางบริษัทเขาจะรับรู้หรือไม่ว่ามันผิดกฎหมาย ซึ่งผมก็ได้แต่สงสารและเห็นใจ เพื่อนผมก็โมโหกับการจัดระบบการเดินรถของที่นี้ พอขึ้นรถเสร็จผมก็เดินทางต่อไป ขณะเดินทางเขาก็จอดรถรับผู้โดยสารตามทางไปเรื่อยๆจนแทบจะเต็มช่องทางเดินตรงกลางรถ และมีอยู่ช่วงนึงคนขับรถจอดรถโดยที่สองฝั่งไม่มีผู้โดยสาร ผมก็สงสัยว่าจอดทำไม จอดนานด้วย เลยชะโงกหน้าไปดูเห็นคนขับกำลังสูบบุหรี่ เป็นการกระทำที่ไม่มีความจรรยาบรรณของตนขับรถแม้แต่น้อย ซึ่งผมก็ได้แต่คิดในใจและระบายกับเพื่อนร่วมทาง พอเดินทางไปเรื่อยๆก็เกือบจะเช้าประมาณตี5กว่าๆ ผมเดินทางเข้าตัวกรุงเทพมารถก็ไม่ค่อยเยอะ การจราจรคล่องตัวสะดวกอยู่ โดยรถทัวร์คันนี้วิ่งบนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้ามันก็จะผ่านสนามบินดอนเมือง (บ้านผมอยู่ดอนเมือง) ผมจึงเดินไปขอให้คนขับจอดรถตรงป้ายรถเมล์หน่อยได้มั้ย (ผมเคยนั่งรถทัวร์สายอื่นเขาก็จะจอดให้เพราะกระเป๋าผมก็ติดตัวไม่ได้อยู่ใต้รถ) คนขับบอกกับผมว่าไม่จอดครับจอดแต่หมอชิตอย่างเดียว (ผมโมโหมากๆและเดินกลับไปนั่ง) ทั้งๆที่แค่จอดไม่ถึงนาทีให้ผมลง รถก็ไม่ได้เยอะ พอถึงป้ายรถเมล์ มันก็ขับผ่านป้ายรถเมล์ไปอย่างสบายใจ พอลงจากขนส่งหมอชิต2 ถึงที่นี้ประมาณ6.40 ผมเดินออกไปด้วยความโมโหและเดินไปหาแท็กซี่หน้าสถานีขนส่งตรงสะพานลอย ก็จะมีแท็กซี่จอดรอรับอยู่ผมถามแท็กซี่ไปสนามบินดอนเมืองมั้ยครับ แท็กซี่ตอบว่า350บาทไปมั้ย? ผมโคตรจะงงว่าทำไมแท็กซี่ไม่วิ่งตามมิเตอร์ และปฏิเสธแท็กซี่กลุ่มนั้นไป (ด้วยความโมโหผมเดินแยกกับเพื่อนแบบไม่คิดอะไรไปตรงอู่รถเมล์) และนั่งรถเมล์ฟรีสาย26 อ้อมไปลงbtsราชเทวี แล้วนั่งรถเมล์สาย29 ค่าโดยสาร8.50 มาลงดอนเมือง ถึงบ้านเวลา 8.22
การเดินทางในครั้งนี้ทำให้ผมเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับการขนส่งคมนาคมของประเทศไทยที่มีทั้งด้านดีและไม่ดี ผมเลยอยากจะแชร์ประสบการณ์นี้กับทุกๆคน และขออภัยหากอ้างถึงชื่อบริษัทโดยตรง ผมรู้ว่าคนขับรถแต่ละคนไม่เหมือนกัน และเจตนาของผมคืออยากให้ทำการแก้ไข ไม่ใช่มาฟ้องร้องหรือเรียกค่าเสียหายใดๆ ผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และผมยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกๆคน เช่นกันครับ เพื่อประเทศไทยของเรา : )