สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
บังคลาเทศมองโรฮิงยาว่าเป็นผู้เข้าเมืองที่ผิดกฎหมาย ในบังคลาเทศมีค่ายผุ้อพยพโรฮิงยาจำนวน ๒ ค่ายซึ่งตั้งห่างจากชายแดนพม่า ๒ กิโลเมตร บริหารโดย UNSCR และรัฐบาลบังคลาเทศ มีจำนวนผู้อพยพที่ลงทะเบียนไว้อย่างเป็นทางการประมาณ 32,355 คน จากจำนวนโรฮิงยาซึ่ง UNSCR คาดการณ์ว่าอยู่ในบังคลาเทศ 200,000 - 500,000 คน โดย UNSCR หยุดรับการลงทะเบียนโรฮิงยาเพิ่มตั้งแต่ปี 1992 ผู้อพยพที่ได้รับการลงทะเบียนจะได้รับความช่วยเหลือจาก UNHCR และรัฐบาลบังคลาเทศ ส่วนพวกที่ไม่ลงทะเบียนจะไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไร นอกจากนั้นรัฐบาลบังคลาเทศก็แบนความช่วยเหลือจากพวกเอ็นจีโอจากต่างชาติตั้งแต่ปี 2012 ด้วย
ชาวบังคลาเทศที่อาศัยอยู่ใกล้ค่ายผู้อพยพโรฮิงยา มีความรู้สึกต่อต้านพวกโรฮิงยาสูงมาก บางครั้งอาจจะด้วยความอิจฉาที่โรฮิงยาได้รับความอาหารและความช่วยเหลือต่าง ๆ นอกจากนั้นคนบังคลาเทศก็ถูกแย่งงานจากโรฮิงยาด้วย ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วบังคลาเทศห้ามจ้างโรฮิงยาทำงาน แต่ว่ามีการแอบจ้างกันด้วยค่าแรงราคาถูก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้คนบังคลาเทศทำร้ายร่างกายด้วย
สำหรับโรฮิงยาที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้อพยพจะพักอาศัยในเพิงชั่วคราวใกล้ ๆ กับค่ายผู้อพยพ ซึ่งพวกนี้ก็เอาหารมาจากค่ายผู้อพยพ ทำให้ขาดอาหารทั้งคู่
บังคลาเทศ พยายามหาทางจำกัดความเคลื่อนไหวของโรฮิงยา เนื่องมาจากความวุ่นวายทีเกิดขึ้นจากพวกโรฮิงยา ได้ทำการโจมตีวัดพุทธ และชุมชนชาวพุทธ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศ
บังคลาเทศออกวีซ่าให้โรฮิงยา เข้าไปในซาอุดิอารเบียเพื่อทำพิธีฮัจย์ และ อุมเราะห์ จำนวนมาก ซึ่งคนเหล่านี้เมื่อครบกำหนดออกจากซาอุแล้ว ก็ไม่ออกเพราะไม่รู้ว่าจะไปไหน กลายเป็นผู้อพยพที่อยู่ในซาอุดิอารเบีย และก่อปัญหาอาชญากรรมให้ท้องถิ่น มีตัวเลขว่ามีโรฮิงยาอยู่ในซาอุดิอารเบียราว 250,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสลัมเมืองเมกกะ (Naqqasha และ Kudai) สำหรับปัจจุบันนี้ซาอุดิอารเบียต้องการให้คนหนุ่มสาวที่ว่างงานทำงานมากขึ้น และต้องการผลักดันแรงงานต่างชาติให้ออกจากประเทศ บรรดาพวกที่ถือวีซ่าบังคลาเทศ ซึ่งรวมทั้งคนบังคลาเทศเอง และโรฮิงยานั้น ก็ได้รับผลกระทบด้วย รัฐบาลบังคลาเทศกำลังปวดหัวกับโรฮิงยาที่ถือวีซ่าบังคลาเทศทีอยู่ในซาอุดิอารเบียมาก เนื่องจากว่ามันแยกไม่ออกว่าเป็นคนบังคลาเทศจริง ๆ หรือว่าโรฮิงยา ต่างกับปากีสถานซึ่งออกวีซ่าให้โรฮิงยาเข้าซาอุดิอารเบีย แต่ออกให้ในนามของพม่าไม่ใช่ประชาชนปากีสถาน
มีมุสลิมโรฮิงยา ราว 3,000 ครอบครัว รอการขับไล่ออกจากซาอุดิอารเบีย
ชาวบังคลาเทศที่อาศัยอยู่ใกล้ค่ายผู้อพยพโรฮิงยา มีความรู้สึกต่อต้านพวกโรฮิงยาสูงมาก บางครั้งอาจจะด้วยความอิจฉาที่โรฮิงยาได้รับความอาหารและความช่วยเหลือต่าง ๆ นอกจากนั้นคนบังคลาเทศก็ถูกแย่งงานจากโรฮิงยาด้วย ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วบังคลาเทศห้ามจ้างโรฮิงยาทำงาน แต่ว่ามีการแอบจ้างกันด้วยค่าแรงราคาถูก ซึ่งก็เป็นเหตุทำให้คนบังคลาเทศทำร้ายร่างกายด้วย
สำหรับโรฮิงยาที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้อพยพจะพักอาศัยในเพิงชั่วคราวใกล้ ๆ กับค่ายผู้อพยพ ซึ่งพวกนี้ก็เอาหารมาจากค่ายผู้อพยพ ทำให้ขาดอาหารทั้งคู่
บังคลาเทศ พยายามหาทางจำกัดความเคลื่อนไหวของโรฮิงยา เนื่องมาจากความวุ่นวายทีเกิดขึ้นจากพวกโรฮิงยา ได้ทำการโจมตีวัดพุทธ และชุมชนชาวพุทธ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังคลาเทศ
บังคลาเทศออกวีซ่าให้โรฮิงยา เข้าไปในซาอุดิอารเบียเพื่อทำพิธีฮัจย์ และ อุมเราะห์ จำนวนมาก ซึ่งคนเหล่านี้เมื่อครบกำหนดออกจากซาอุแล้ว ก็ไม่ออกเพราะไม่รู้ว่าจะไปไหน กลายเป็นผู้อพยพที่อยู่ในซาอุดิอารเบีย และก่อปัญหาอาชญากรรมให้ท้องถิ่น มีตัวเลขว่ามีโรฮิงยาอยู่ในซาอุดิอารเบียราว 250,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสลัมเมืองเมกกะ (Naqqasha และ Kudai) สำหรับปัจจุบันนี้ซาอุดิอารเบียต้องการให้คนหนุ่มสาวที่ว่างงานทำงานมากขึ้น และต้องการผลักดันแรงงานต่างชาติให้ออกจากประเทศ บรรดาพวกที่ถือวีซ่าบังคลาเทศ ซึ่งรวมทั้งคนบังคลาเทศเอง และโรฮิงยานั้น ก็ได้รับผลกระทบด้วย รัฐบาลบังคลาเทศกำลังปวดหัวกับโรฮิงยาที่ถือวีซ่าบังคลาเทศทีอยู่ในซาอุดิอารเบียมาก เนื่องจากว่ามันแยกไม่ออกว่าเป็นคนบังคลาเทศจริง ๆ หรือว่าโรฮิงยา ต่างกับปากีสถานซึ่งออกวีซ่าให้โรฮิงยาเข้าซาอุดิอารเบีย แต่ออกให้ในนามของพม่าไม่ใช่ประชาชนปากีสถาน
มีมุสลิมโรฮิงยา ราว 3,000 ครอบครัว รอการขับไล่ออกจากซาอุดิอารเบีย
ความคิดเห็นที่ 12
ไม่ใช่โรฮิงยาไม่ไปครับ โรฮิงยาเคยอพยพไปบังคลาเทศมาตลอดหลายสิบปีแล้ว ซึ่งแรกๆบังคลาเทศก็เปิดรับชาวโรฮิงยาอย่างดี แต่ดูเหมือนชาวโรฮิงยาจะสร้างประวัติไว้ดีมาก บวกกับอพยพเข้ามามากขึ้นๆไม่มีทีท่าจะหยุด บังคลาเทศเองโดยตัวเองแล้วก็ประเทศเล็ก (พื้นที่เล็กกว่าเนปาล / ประมาณ 2 เท่าของภาคใต้ไทย) ประชากรก็ปาเข้าไป 160 ล้านคน ความหนาแน่นของประชากรก็มากอยู่แล้ว ประเทศก็ยังยากจน แถมโรฮิงยาผลิตประชากรเก่งอีกต่างหาก พม่าไล่ฆ่ามาหลายสิบปียังไม่หมด ยิ่งรับชาวโรฮิงยาเข้ามาก็ยิ่งเพิ่มประชากรเพิ่มปัญหามามากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายบังคลาเทศเลยต้องหยุดรับชาวโรฮิงยา ไม่รับเพิ่มง่ายๆ
ชาวโรฮิงยาพอบังคลาเทศไม่ยอมรับก็เลยเบนเข็มไปประเทศมุสลิมอื่นๆอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสุดยอดแห่งปรารถนาคือไปอยู่ซาอุดิอาระเบีย แต่การเดินทางไปมาเลเซียอินโดนีเซียก็ต้องผ่านไทย เลยมีโรฮิงยาจำนวนไม่น้อยที่หลุดมาเข้าไทย รวมไปถึงพวกที่ค้ามนุษย์และเป็นนายหน้าพาอพยพก็พาเข้ามาในไทยด้วย
แต่หลังๆพอรับโรฮิงยาไปมากๆมาเลเซียกับอินโดนีเซียก็ซาบซึ้งและไม่อยากจะรับเพิ่มแล้ว โลกอิสลามก็พยายามกดดันให้พม่ายอมรับชาวโรฮิงยาเพื่อจะได้ไม่ต้องมารับภาระให้เดือดร้อน แต่พม่าก็ยังคงเฉย
ชาวโรฮิงยาพอบังคลาเทศไม่ยอมรับก็เลยเบนเข็มไปประเทศมุสลิมอื่นๆอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสุดยอดแห่งปรารถนาคือไปอยู่ซาอุดิอาระเบีย แต่การเดินทางไปมาเลเซียอินโดนีเซียก็ต้องผ่านไทย เลยมีโรฮิงยาจำนวนไม่น้อยที่หลุดมาเข้าไทย รวมไปถึงพวกที่ค้ามนุษย์และเป็นนายหน้าพาอพยพก็พาเข้ามาในไทยด้วย
แต่หลังๆพอรับโรฮิงยาไปมากๆมาเลเซียกับอินโดนีเซียก็ซาบซึ้งและไม่อยากจะรับเพิ่มแล้ว โลกอิสลามก็พยายามกดดันให้พม่ายอมรับชาวโรฮิงยาเพื่อจะได้ไม่ต้องมารับภาระให้เดือดร้อน แต่พม่าก็ยังคงเฉย
ความคิดเห็นที่ 17
ส่วนตัวผมต่อต้านพวกโรฮิงญามาตลอด ผมไม่ใช่คนใจดำ ผมไม่ใช่คนจิตใจโหดร้าย
แต่ผมต้องเอาความมั่นคงและสังคมของชาติ เพื่ออนาคตข้างหน้าจะไม่เกิดปัญหาตามมา
คิดดูบังคลาเทศ พม่า เขาไม่ต้อนรับคนพวกนี้ ขับไล่ฆ่าสาระพัด แล้วชาติอื่นแถบอาเซียน
คงไม่ต้องการแน่นอน อย่าลืมว่าปัจจุบันนี้คนไทยยังลำบากยากจนอยู่มากมาย ทำไมเอาพวก
โรฮิงญามาเป็นภาระ พวกนี้เข้ามานั่งกิน นอนกิน ไม่ต้องทำงานอะไรเพราะมีหน่วยงานคอยช่วยเหลือ
แต่ผมต้องเอาความมั่นคงและสังคมของชาติ เพื่ออนาคตข้างหน้าจะไม่เกิดปัญหาตามมา
คิดดูบังคลาเทศ พม่า เขาไม่ต้อนรับคนพวกนี้ ขับไล่ฆ่าสาระพัด แล้วชาติอื่นแถบอาเซียน
คงไม่ต้องการแน่นอน อย่าลืมว่าปัจจุบันนี้คนไทยยังลำบากยากจนอยู่มากมาย ทำไมเอาพวก
โรฮิงญามาเป็นภาระ พวกนี้เข้ามานั่งกิน นอนกิน ไม่ต้องทำงานอะไรเพราะมีหน่วยงานคอยช่วยเหลือ
ความคิดเห็นที่ 14
ถ้ายอมรับการเปลี่ยนแปลง ให้เข้ากับสังคมของประเทศนั้นๆ ก็คงจะดี
แต่นี่ เล่น ไปอยุ่ประเทศเขา แต่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่จะให้สังคมที่ตัวเองอพยพไปอยู่ต้องเปลี่ยนแปลงตามตัวเอง มันไม่ใช่หระ
ยังจำ วันที่ คนไทยช่วยเหลือ แต่ก่อจราจล บอกค่าข้าว คนละ100/1วัน ไม่เพียงพอ เลยก่อจราจล
มันน่าไล่กลับไป พม่าไห้หมด
แต่นี่ เล่น ไปอยุ่ประเทศเขา แต่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่จะให้สังคมที่ตัวเองอพยพไปอยู่ต้องเปลี่ยนแปลงตามตัวเอง มันไม่ใช่หระ
ยังจำ วันที่ คนไทยช่วยเหลือ แต่ก่อจราจล บอกค่าข้าว คนละ100/1วัน ไม่เพียงพอ เลยก่อจราจล
มันน่าไล่กลับไป พม่าไห้หมด
แสดงความคิดเห็น
ทำไมชาวโรฮิงยาไม่หาทางกลับบังกลาเทศดินแดนบรรพบุรุษครับ