เห็นหลายๆคนหากล้องฟิล์มมาถ่ายมาเล่นกัน เลยเกิดความสงสัยครับ ว่า.... ทำไมถึงสนใจที่จะย้อนกลับไปเล่น ไปใช้กล้องฟิล์มกันอีก?? ในเมื่อระบบกล้องและการใช้งาน การจัดเก็บ มันใช้กระบวนการดิจิตอลไปหมดแล้ว (ยกเว้นฟิล์มขาวดำ ที่ล้างอัดด้วยวิธีการดั้งเดิมในห้องมืดนะครับ)
น้องๆและคนรู้จักหลายๆคน ดิ้นรนไปหากล้องฟิล์มมาใช้ ซื้อฟิล์มมาลองถ่าย วัดแสงกันผิดๆถูกๆ ไปร้านล้างฟิล์ม อัดรูปออกมาดู เสียเงินมากมาย เพื่อจะมารับรู้ว่า วัดแสงผิด ภาพไม่ได้อย่างที่คิด หลายคนลืมคิดไปว่า ถ่ายด้วยฟิล์ม แต่ก่อนที่ร้านจะอัดรูปออกมาใส่อัลบั้มให้ ก็สแกนฟิล์มให้เป็นไฟล์ดิจิตอลก่อน เครื่องปริ๊นท์-อัดรูปก็เป็นระบบดิจิตอล ไม่ใช่อนาล็อกเหมือนเมื่อก่อน ภาพออกมาก็ไม่ใช่สไตล์ฟิล์ม 100% บางร้านอัดออกมาด็กระด้างๆแบบดิจิตอลคอมแพ็คซะด้วยซ้ำ เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายให้ร้านสแกนฟิล์มที่ถ่ายเป็นไฟล์ดิจิตอล เพื่อเอามาอัพรูปอวดเพื่อนในโซเชียล มันเสียความตั้งใจที่อุตส่าห์ยุ่งยาก สิ้นเปลืองด้วยการทำงานแบบอนาล็อก เพื่อมาอาศัยระบบดิจิตอลในครึ่งทางกระบวนการหลังนะ
ผมเลย งงๆ ครับว่า ทำไมไม่ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายไปซะเลย กล้องเดี๋ยวนี้ปรับตั้งค่าต่างๆได้มากมาย เลนส์มือหมุนก็ให้อารมณ์โทนสีหม่นๆย้อนยุคได้ หรือบางคนบอกว่าถ่ายกล้องฟิล์มฝึกสมาธิ พิถีพิถันกว่าดิจิตอล ที่กดๆไปมั่วๆแล้วดูหลังกล้อง เหตุผลนี้ ผมเคยลองเอาสติ๊กเกอร์ปิดจอหลังกล้อง แล้วเอากล้องออกไปใช้งาน ไม่เปิดเช็ครูปที่ถ่าย วัดแสงพิถีพิถันเหมือนใช้กล้องฟิล์ม เที่ยวจบแต่ละจุดค่อยเปิดมาเช็ครูปที่ถ่าย มันก็ได้อารมณ์ลุ้นๆเหมือนการไปล้างอัดรูปเมื่อสมัยก่อนนะครับ ข้อดีคือ ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย มุมไหนถ่ายผิดพลาด ยังพอไปถ่ายแก้ไขใหม่ได้ เรื่องโทนสีที่หม่นๆสไตล์วินเทจก็เอามาปรับแต่งในคอมได้ ปรับพองาม ไม่เว่อร์มากมันก็ได้นะ จะอัพรูปก็สะดวกดี
แต่กรณีนี้ ยกเว้น คนที่ถ่ายฟิล์มขาวดำ เข้าห้องมืด โหลดฟิล์ม ล้างอัด ด้วยวิธีดั้งเดิมนะครับ อันนั้นได้อรรถรสแบบเดิม ไม่ต่างกัน
เพื่อนๆมีความเห็นว่าไงกันบ้างครับ หรือมีแง่มุมไหนที่ผมมองข้ามไปบ้าง...... เผื่อจะมีเหตุผลให้ไปรื้อกล้องฟิล์มเก่าๆในกรุออกมาใช้งานบ้าง
สงสัยเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์ม ในยุคดิจิตอล
น้องๆและคนรู้จักหลายๆคน ดิ้นรนไปหากล้องฟิล์มมาใช้ ซื้อฟิล์มมาลองถ่าย วัดแสงกันผิดๆถูกๆ ไปร้านล้างฟิล์ม อัดรูปออกมาดู เสียเงินมากมาย เพื่อจะมารับรู้ว่า วัดแสงผิด ภาพไม่ได้อย่างที่คิด หลายคนลืมคิดไปว่า ถ่ายด้วยฟิล์ม แต่ก่อนที่ร้านจะอัดรูปออกมาใส่อัลบั้มให้ ก็สแกนฟิล์มให้เป็นไฟล์ดิจิตอลก่อน เครื่องปริ๊นท์-อัดรูปก็เป็นระบบดิจิตอล ไม่ใช่อนาล็อกเหมือนเมื่อก่อน ภาพออกมาก็ไม่ใช่สไตล์ฟิล์ม 100% บางร้านอัดออกมาด็กระด้างๆแบบดิจิตอลคอมแพ็คซะด้วยซ้ำ เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายให้ร้านสแกนฟิล์มที่ถ่ายเป็นไฟล์ดิจิตอล เพื่อเอามาอัพรูปอวดเพื่อนในโซเชียล มันเสียความตั้งใจที่อุตส่าห์ยุ่งยาก สิ้นเปลืองด้วยการทำงานแบบอนาล็อก เพื่อมาอาศัยระบบดิจิตอลในครึ่งทางกระบวนการหลังนะ
ผมเลย งงๆ ครับว่า ทำไมไม่ใช้กล้องดิจิตอลถ่ายไปซะเลย กล้องเดี๋ยวนี้ปรับตั้งค่าต่างๆได้มากมาย เลนส์มือหมุนก็ให้อารมณ์โทนสีหม่นๆย้อนยุคได้ หรือบางคนบอกว่าถ่ายกล้องฟิล์มฝึกสมาธิ พิถีพิถันกว่าดิจิตอล ที่กดๆไปมั่วๆแล้วดูหลังกล้อง เหตุผลนี้ ผมเคยลองเอาสติ๊กเกอร์ปิดจอหลังกล้อง แล้วเอากล้องออกไปใช้งาน ไม่เปิดเช็ครูปที่ถ่าย วัดแสงพิถีพิถันเหมือนใช้กล้องฟิล์ม เที่ยวจบแต่ละจุดค่อยเปิดมาเช็ครูปที่ถ่าย มันก็ได้อารมณ์ลุ้นๆเหมือนการไปล้างอัดรูปเมื่อสมัยก่อนนะครับ ข้อดีคือ ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย มุมไหนถ่ายผิดพลาด ยังพอไปถ่ายแก้ไขใหม่ได้ เรื่องโทนสีที่หม่นๆสไตล์วินเทจก็เอามาปรับแต่งในคอมได้ ปรับพองาม ไม่เว่อร์มากมันก็ได้นะ จะอัพรูปก็สะดวกดี
แต่กรณีนี้ ยกเว้น คนที่ถ่ายฟิล์มขาวดำ เข้าห้องมืด โหลดฟิล์ม ล้างอัด ด้วยวิธีดั้งเดิมนะครับ อันนั้นได้อรรถรสแบบเดิม ไม่ต่างกัน
เพื่อนๆมีความเห็นว่าไงกันบ้างครับ หรือมีแง่มุมไหนที่ผมมองข้ามไปบ้าง...... เผื่อจะมีเหตุผลให้ไปรื้อกล้องฟิล์มเก่าๆในกรุออกมาใช้งานบ้าง