
ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
(credit : news.tlcthai.com)
"
เฮ้ยย .. ฟุตบอลหญิงไทย ได้ไปบอลหญิงโลกวะ" น้ำเสียงตกใจของน้องชายผมที่นั่งกินข้าวอยู่หน้าจอโทรทัศน์
"
จะบ้าเหรอ ประเทศนี้มีทีมฟุตบอลหญิงด้วยเหรอวะ?" ผมสวนกลับทันควันด้วยน้ำเสียงเชิงเหน็บแนม
ต้องยอมรับโดยสดุดีเลยว่า ผมไม่เคยรู้เลยว่าประเทศไทยมีทีมฟุตบอลหญิงอยู่ด้วย จนถึงตอนที่พวกเธอได้ผ่านเข้าไปสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แคนาดา ปี 2016 โดยการเอาชนะทีมฟุตบอลหญิงเวียดนาม คาถิ่น ด้วยสกอร์ 2-1 คว้าอันดับที่ 5 ในการแข่งขัน
ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเซีย หรือ
AFC Women's Asian Cup 2014 มาได้สำเร็จ
หากย้อนไปดูทีมฟุตบอลหญิงบนโลกหล้านี้เท่าที่ผมเคยได้ยิน ก็จะมีแต่ ฟุตบอลหญิงทีมชาติเยอรมัน, ฟุตบอลหญิงทีมชาติอเมริกา, ฟุตบอลหญิงทีมชาติฝรั่งเศส นอกนั้นผมแทบจะไม่เคยรู้เลยว่าในหลาย ๆ ประเทศก็มีนักฟุตบอลหญิงที่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก อาทิ ฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น ที่ปัจจุบัน ครองอันดับ 5 ของโลก โดยการจัดอันดับของ Fifa และรั้งอันดับ 1 ของเอเซียอีกด้วย

ฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น
นาเดชิโกะเจแปน : ดอกหญ้าแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
(credit : news.com.au)
ย้อนกลับมาอีกครั้งเพื่อมาทำความรู้จักกับทัพ "
แม่เนื้ออ่อน" ทีมชาติไทยกันดูบ้าง (ใครเป็นคนตั้งฉายาเนี่ย - -") ว่ากว่าที่พวกเธอจะมายืนในระดับนี้ พวกเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง โดยถ้าไปดูในตัวผลงานโดยไม่นับผลงานล่าสุดที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกหญิง 2016 แล้ว ผลงานที่เด่นชัดที่สุดก็คือ การเป็นแชมป์ฟุตบอลหญิงเอเชียนคัพ ในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) และได้รองแชมป์อีก 3 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518), 1977 (พ.ศ. 2520) และ 1981 (พ.ศ. 2524) ก่อนที่ดัชนีความสำเร็จจะดิ่งลงเหวและแทบจะไร้ตัวตนในเวทีระดับเอเซียอีกเลย
ส่วนในระดับซีเกมส์ พวกเธอก็คว้าเหรียญทองมาครองได้ 5 ครั้ง ได้แก่ ซีเกมส์ครั้งที่ 13/พ.ศ. 2528 (ไทย), ครั้งที่ 18/พ.ศ. 2538 (ไทย), ครั้งที่ 19/พ.ศ. 2540 (อินโดนีเซีย), ครั้งที่ 24/พ.ศ. 2550 (ไทย) และ ครั้งที่ 27 (เมียนมาร์)

ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยกับเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 27
(credit : siamsport.co.th)
ในส่วนของสถิติ ถ้านับผลงานที่พวกเธอ "
ชนะมากที่สุด" ก็คือการถล่ม ฟุตบอลหญิงทีมชาติลาวไปอย่าง "
ถล่มทลาย" ที่นครโฮจิมินห์ พ.ศ. 2555 ด้วยสกอร์ 14-1 นับเป็นสถิติการชนะมากที่สุดตั้งแต่มีฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมา
ส่วนการ "
แพ้มากที่สุด" ของพวกเธอ คือการโดนฟุตบอลหญิงเกาหลีเหนือ บุกมาถล่มคากรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2541 ด้วยสกอร์ 15-0 นับเป็นการพ่ายแพ้ที่ "
ยับเยิน" ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลหญิงไทย
พร้อมทั้งอันดับ FIFA Women ณ ปัจจุบันของพวกเธอ คือ
อันดับ 29 ของโลก (ห๊ะ!!) ซึ่งนับเป็นอันดับ 5 ของเอเซีย เป็นรองแค่ ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ, จีน, เกาหลีใต้ เท่านั้น
เอาละพอจะเห็นภาพคร่าว ๆ แล้วว่าพวกเธอเจอะเจออะไรมาบ้าง งั้นเรามาดูนักเตะหญิงที่น่าจับตามองของทัพฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยกันดีกว่าครับ

นภัทร สีเสริม
(credit : siamsport.co.th)
นภัทร สีเสริม : จอมทัพหญิง ผู้คุมเกมส์แดนกลางของทัพช้างศึกหญิง สังกัดสโมสรสเปรันซาโอซาก้า-ทสึกิ ในแอลลีก, ญี่ปุ่น คนที่ได้รับการยกย่องจากสื่อในย่านอาเซียนอย่างสูงในซีเกมส์ครั้งที่ 27 ว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการพาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยคว้าเหรียญทอง และน่าจะเป็นตัวหลักในการสู้ศึกฟุตบอลโลก

อลิษา รักพินิจ
(credit : siamsprot.co.th)
อลิษา รักพินิจ : ศูนย์หน้าดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย โดยล่าสุดเพิ่งระเบิดฟอร์มยิงคนเดียว 5 ประตู พาทีมชาติไทยชนะทีมชาติลาวไปอย่างขาดลอย 12-0 ในรายการฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน นับเป็นสายเลือดใหม่ของทัพช้างศึกหญิงที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

นิสา ร่มเย็น
(credit : siamsport.co.th)
นิสา ร่มเย็น : ศูนย์หน้าตัวความหวังของทัพช้างศึกหญิง สังกัดสโมสรมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ผู้เล่นที่ได้รับการยกย่องว่า "
มีสัญชาติญาณในการถล่มประตูที่น่ากลัว" คนนึงในประเทศไทย และน่าจะเป็นแกนหลักในการพาทีมช้างศึกหญิงไปสู่ระดับโลกที่จะถึงนี้

วราภรณ์ บุญสิงห์
(credit : siamsport.co.th)
วราภรณ์ บุญสิงห์ : ผู้รักษาประตูช้างศึกหญิงที่ได้รับการยกย่องในวงการฟุตบอลหญิงว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ "
ครบเครื่อง" ที่สุดเท่าที่ทีมชาติ ไทยเคยมีมา ปัจจุบันสังกัดสโมสรวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย อีกทั้งเธอยังเป็นตัวหลักในการพาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 27 อีกด้วย

ดวงนภา ศรีตะลา
(credit : siamsport.co.th)
ดวงนภา ศรีตะลา : กัปตันทีมช้างศึกหญิงชุดปัจจุบัน อีกทั้งเธอยังเป็น "
หัวใจในแนวรับ" ด้วยสไตล์การเข้าบอลที่ดุดัน, แม่นยำ และความสามารถในการอ่านเกมส์ที่เด็ดขาด ทำให้เธอเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ทีมช้างศึกหญิงต้องหยิบไปด้วยอย่างเสียไม่ได้ ปัจจุบัน สังกัดสโมสรกรุงเทพธนบุรี

สุนิสา สร้างไธสง
(credit : siamsport.co.th)
สุนิสา สร้างไธสง : ถ้าจะให้พูดถึงเรื่อง "
ใจ" ต้องบอกว่า "แนน" สุนิสา สร้างไธสง นับเป็นนักเตะอีกรายที่มีเลือดนักสู้อย่างสูงที่สุดคนนึง โดยฉายา "
ซ้ายสั่งตาย" และ "
แม่สาวกระดูกเหล็ก" ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย วีรกรรม "
ถอดเฝือกลงมาเตะ" แม้มันจะดูอันตรายเกินไปสำหรับนักเตะ แต่ "
หัวใจ" ที่อยากจะโลดแล่นบนฝืนหญ้าของเธอ มันช่างเร้าร้อน เร่งเร้าให้ไฟในตัวนักเตะทีมชาติทุกคนลุกขึ้นสู้จริง ๆ ปัจจุบันเธอสังกัดสโมสรวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย

หนึ่งฤทัย สระทองเวียน
(credit : ballthaifc.com)
หนึ่งฤทัย สระทองเวียน : เฮดโค้ชหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อดีตศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เข้ามารับบทบาทต่อจาก จตุพร ประมลบาล ที่ประกาศลาออก และเธอก็สามารถพาทีมช้างศึกหญิงไปสู่ระดับโลกได้สำเร็จตามที่วางเป้าหมายไว้

นวลพรรณ ล่ำซ่ำ
(credit : ballthaifc.com)
นวลพรรณ ล่ำซ่ำ : "
มาดามแป้ง" ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยคนปัจจุบัน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทัพช้างศึกหญิง จนได้รับฉายาว่า "
นางฟ้าแห่งวงการฟุตบอลหญิงไทย" ด้วยการสนับสนุนด้านทุนทรัพย์ และ การทำงานด้านบริหารอย่างหนักเพื่อผลักดันทีมชาติหญิงไทยไปสู่ระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการดุแลนักฟุตบอลหญิงทีมชาติ ที่ต่างได้รับการสรรเสริญจากตัวนักเตะว่า "
ยอดเยี่ยม" จงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่พาทีมชาติหญิงให้ประสบความสำเร็จ
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จริง ๆ แล้วนักฟุตบอลทุกคน รวมถึงทีมงานสต๊าฟโค้ช ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนเป็นเหมือนฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน และพากันไปสู่ความสำเร็จที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
และวันนี้จะเป็นอีกวันที่พวกเธอต้องพบกับคู่แข่งระดับอาเซียนที่ถือว่าเป็น "
คู่รักคู่แค้น" อย่าง ฟุตบอลหญิงทีมชาติเวียดนาม ซึ่งระดับฝีเท้าไม่ได้ต่างกับเรามากมาย ในรองรองชนะเลิศ ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม โดยนัดนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าพวกเธอ "
มีดีพอ" ที่จะก้าวข้ามระดับอาเซียน ไปสู่ในระดับที่สูงกว่าหรือไม่
เอาใจช่วยครับ .. แม้ว่าผมจะไม่ค่อยรู้จักพวกเธอสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ .. หัวค่ำนี้ ผมจะนั่งดูเธอหน้าจอคอมพิวเตอร์ (หากมีถ่ายทอด) .. เอาสิ! พิสูจน์ให้ผมเห็นหน่อยว่า "
พวกคุณก็มีดีพอที่จะไปสู่ระดับเวิลด์คลาส" และแสดงให้เห็น "
ฝีเท้าอันดับ 5 ของเอเซีย" ให้ผมชมหน่อยครับ ผมจะคอยสนับสนุนพวกคุณ เอาใจช่วยพวกคุณ เหมือนที่ผมได้ให้ใจกับฟุตบอลชายทีมชาติไทย และ ลบคำเหน็บแนมของผมในข้างต้นที่ว่า "
ประเทศนี้มีทีมฟุตบอลหญิงด้วยเหรอวะ?"
รบกวนมา "
กระชากใจ" ผมไปที ..
แม่เนื้ออ่อนทีมชาติไทย
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
คุยกันนิดนึง : อาจจะมีคำผิดพลาด หรือ ใช้คำเชื่อมสิ้นเปลือง พอดีผมรีบพิมพ์ก่อนเข้าห้องประชุม (ฮ่าๆๆ) เด๊วมาตามแก้ไขให้ทีหลังครับ และที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะคิดอยากจะเขียนถึงตั้งนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้สืบค้นข้อมูลหรือนั่งดูจริง ๆ จัง ๆ พอดีเมื่อวานได้นั่งดูคลิปนิด ๆ หน่อย ๆ อาจจะเขียนออกมาแบบไม่ค่อยจะเต็มสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือซะว่า เอาไว้อ่านขำ ๆ เพลิน ๆ ระหว่างรอชมการแข่งขันละกันนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านครับ
ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย : เส้นทางสายใหม่ในเวทีระดับโลก
ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย
(credit : news.tlcthai.com)
"เฮ้ยย .. ฟุตบอลหญิงไทย ได้ไปบอลหญิงโลกวะ" น้ำเสียงตกใจของน้องชายผมที่นั่งกินข้าวอยู่หน้าจอโทรทัศน์
"จะบ้าเหรอ ประเทศนี้มีทีมฟุตบอลหญิงด้วยเหรอวะ?" ผมสวนกลับทันควันด้วยน้ำเสียงเชิงเหน็บแนม
ต้องยอมรับโดยสดุดีเลยว่า ผมไม่เคยรู้เลยว่าประเทศไทยมีทีมฟุตบอลหญิงอยู่ด้วย จนถึงตอนที่พวกเธอได้ผ่านเข้าไปสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แคนาดา ปี 2016 โดยการเอาชนะทีมฟุตบอลหญิงเวียดนาม คาถิ่น ด้วยสกอร์ 2-1 คว้าอันดับที่ 5 ในการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเซีย หรือ AFC Women's Asian Cup 2014 มาได้สำเร็จ
หากย้อนไปดูทีมฟุตบอลหญิงบนโลกหล้านี้เท่าที่ผมเคยได้ยิน ก็จะมีแต่ ฟุตบอลหญิงทีมชาติเยอรมัน, ฟุตบอลหญิงทีมชาติอเมริกา, ฟุตบอลหญิงทีมชาติฝรั่งเศส นอกนั้นผมแทบจะไม่เคยรู้เลยว่าในหลาย ๆ ประเทศก็มีนักฟุตบอลหญิงที่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก อาทิ ฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น ที่ปัจจุบัน ครองอันดับ 5 ของโลก โดยการจัดอันดับของ Fifa และรั้งอันดับ 1 ของเอเซียอีกด้วย
ฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่น
นาเดชิโกะเจแปน : ดอกหญ้าแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
(credit : news.com.au)
ย้อนกลับมาอีกครั้งเพื่อมาทำความรู้จักกับทัพ "แม่เนื้ออ่อน" ทีมชาติไทยกันดูบ้าง (ใครเป็นคนตั้งฉายาเนี่ย - -") ว่ากว่าที่พวกเธอจะมายืนในระดับนี้ พวกเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง โดยถ้าไปดูในตัวผลงานโดยไม่นับผลงานล่าสุดที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกหญิง 2016 แล้ว ผลงานที่เด่นชัดที่สุดก็คือ การเป็นแชมป์ฟุตบอลหญิงเอเชียนคัพ ในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) และได้รองแชมป์อีก 3 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518), 1977 (พ.ศ. 2520) และ 1981 (พ.ศ. 2524) ก่อนที่ดัชนีความสำเร็จจะดิ่งลงเหวและแทบจะไร้ตัวตนในเวทีระดับเอเซียอีกเลย
ส่วนในระดับซีเกมส์ พวกเธอก็คว้าเหรียญทองมาครองได้ 5 ครั้ง ได้แก่ ซีเกมส์ครั้งที่ 13/พ.ศ. 2528 (ไทย), ครั้งที่ 18/พ.ศ. 2538 (ไทย), ครั้งที่ 19/พ.ศ. 2540 (อินโดนีเซีย), ครั้งที่ 24/พ.ศ. 2550 (ไทย) และ ครั้งที่ 27 (เมียนมาร์)
ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยกับเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 27
(credit : siamsport.co.th)
ในส่วนของสถิติ ถ้านับผลงานที่พวกเธอ "ชนะมากที่สุด" ก็คือการถล่ม ฟุตบอลหญิงทีมชาติลาวไปอย่าง "ถล่มทลาย" ที่นครโฮจิมินห์ พ.ศ. 2555 ด้วยสกอร์ 14-1 นับเป็นสถิติการชนะมากที่สุดตั้งแต่มีฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมา
ส่วนการ "แพ้มากที่สุด" ของพวกเธอ คือการโดนฟุตบอลหญิงเกาหลีเหนือ บุกมาถล่มคากรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2541 ด้วยสกอร์ 15-0 นับเป็นการพ่ายแพ้ที่ "ยับเยิน" ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลหญิงไทย
พร้อมทั้งอันดับ FIFA Women ณ ปัจจุบันของพวกเธอ คืออันดับ 29 ของโลก (ห๊ะ!!) ซึ่งนับเป็นอันดับ 5 ของเอเซีย เป็นรองแค่ ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ, จีน, เกาหลีใต้ เท่านั้น
เอาละพอจะเห็นภาพคร่าว ๆ แล้วว่าพวกเธอเจอะเจออะไรมาบ้าง งั้นเรามาดูนักเตะหญิงที่น่าจับตามองของทัพฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยกันดีกว่าครับ
นภัทร สีเสริม
(credit : siamsport.co.th)
นภัทร สีเสริม : จอมทัพหญิง ผู้คุมเกมส์แดนกลางของทัพช้างศึกหญิง สังกัดสโมสรสเปรันซาโอซาก้า-ทสึกิ ในแอลลีก, ญี่ปุ่น คนที่ได้รับการยกย่องจากสื่อในย่านอาเซียนอย่างสูงในซีเกมส์ครั้งที่ 27 ว่าเป็นตัวแปรสำคัญในการพาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยคว้าเหรียญทอง และน่าจะเป็นตัวหลักในการสู้ศึกฟุตบอลโลก
อลิษา รักพินิจ
(credit : siamsprot.co.th)
อลิษา รักพินิจ : ศูนย์หน้าดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย โดยล่าสุดเพิ่งระเบิดฟอร์มยิงคนเดียว 5 ประตู พาทีมชาติไทยชนะทีมชาติลาวไปอย่างขาดลอย 12-0 ในรายการฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน นับเป็นสายเลือดใหม่ของทัพช้างศึกหญิงที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
นิสา ร่มเย็น
(credit : siamsport.co.th)
นิสา ร่มเย็น : ศูนย์หน้าตัวความหวังของทัพช้างศึกหญิง สังกัดสโมสรมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ผู้เล่นที่ได้รับการยกย่องว่า "มีสัญชาติญาณในการถล่มประตูที่น่ากลัว" คนนึงในประเทศไทย และน่าจะเป็นแกนหลักในการพาทีมช้างศึกหญิงไปสู่ระดับโลกที่จะถึงนี้
วราภรณ์ บุญสิงห์
(credit : siamsport.co.th)
วราภรณ์ บุญสิงห์ : ผู้รักษาประตูช้างศึกหญิงที่ได้รับการยกย่องในวงการฟุตบอลหญิงว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ "ครบเครื่อง" ที่สุดเท่าที่ทีมชาติ ไทยเคยมีมา ปัจจุบันสังกัดสโมสรวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย อีกทั้งเธอยังเป็นตัวหลักในการพาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ครั้งที่ 27 อีกด้วย
ดวงนภา ศรีตะลา
(credit : siamsport.co.th)
ดวงนภา ศรีตะลา : กัปตันทีมช้างศึกหญิงชุดปัจจุบัน อีกทั้งเธอยังเป็น "หัวใจในแนวรับ" ด้วยสไตล์การเข้าบอลที่ดุดัน, แม่นยำ และความสามารถในการอ่านเกมส์ที่เด็ดขาด ทำให้เธอเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ทีมช้างศึกหญิงต้องหยิบไปด้วยอย่างเสียไม่ได้ ปัจจุบัน สังกัดสโมสรกรุงเทพธนบุรี
สุนิสา สร้างไธสง
(credit : siamsport.co.th)
สุนิสา สร้างไธสง : ถ้าจะให้พูดถึงเรื่อง "ใจ" ต้องบอกว่า "แนน" สุนิสา สร้างไธสง นับเป็นนักเตะอีกรายที่มีเลือดนักสู้อย่างสูงที่สุดคนนึง โดยฉายา "ซ้ายสั่งตาย" และ "แม่สาวกระดูกเหล็ก" ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย วีรกรรม "ถอดเฝือกลงมาเตะ" แม้มันจะดูอันตรายเกินไปสำหรับนักเตะ แต่ "หัวใจ" ที่อยากจะโลดแล่นบนฝืนหญ้าของเธอ มันช่างเร้าร้อน เร่งเร้าให้ไฟในตัวนักเตะทีมชาติทุกคนลุกขึ้นสู้จริง ๆ ปัจจุบันเธอสังกัดสโมสรวิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย
หนึ่งฤทัย สระทองเวียน
(credit : ballthaifc.com)
หนึ่งฤทัย สระทองเวียน : เฮดโค้ชหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อดีตศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เข้ามารับบทบาทต่อจาก จตุพร ประมลบาล ที่ประกาศลาออก และเธอก็สามารถพาทีมช้างศึกหญิงไปสู่ระดับโลกได้สำเร็จตามที่วางเป้าหมายไว้
นวลพรรณ ล่ำซ่ำ
(credit : ballthaifc.com)
นวลพรรณ ล่ำซ่ำ : "มาดามแป้ง" ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยคนปัจจุบัน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทัพช้างศึกหญิง จนได้รับฉายาว่า "นางฟ้าแห่งวงการฟุตบอลหญิงไทย" ด้วยการสนับสนุนด้านทุนทรัพย์ และ การทำงานด้านบริหารอย่างหนักเพื่อผลักดันทีมชาติหญิงไทยไปสู่ระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการดุแลนักฟุตบอลหญิงทีมชาติ ที่ต่างได้รับการสรรเสริญจากตัวนักเตะว่า "ยอดเยี่ยม" จงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่พาทีมชาติหญิงให้ประสบความสำเร็จ
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น จริง ๆ แล้วนักฟุตบอลทุกคน รวมถึงทีมงานสต๊าฟโค้ช ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนเป็นเหมือนฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน และพากันไปสู่ความสำเร็จที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
และวันนี้จะเป็นอีกวันที่พวกเธอต้องพบกับคู่แข่งระดับอาเซียนที่ถือว่าเป็น "คู่รักคู่แค้น" อย่าง ฟุตบอลหญิงทีมชาติเวียดนาม ซึ่งระดับฝีเท้าไม่ได้ต่างกับเรามากมาย ในรองรองชนะเลิศ ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศเวียดนาม โดยนัดนี้จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าพวกเธอ "มีดีพอ" ที่จะก้าวข้ามระดับอาเซียน ไปสู่ในระดับที่สูงกว่าหรือไม่
เอาใจช่วยครับ .. แม้ว่าผมจะไม่ค่อยรู้จักพวกเธอสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ .. หัวค่ำนี้ ผมจะนั่งดูเธอหน้าจอคอมพิวเตอร์ (หากมีถ่ายทอด) .. เอาสิ! พิสูจน์ให้ผมเห็นหน่อยว่า "พวกคุณก็มีดีพอที่จะไปสู่ระดับเวิลด์คลาส" และแสดงให้เห็น "ฝีเท้าอันดับ 5 ของเอเซีย" ให้ผมชมหน่อยครับ ผมจะคอยสนับสนุนพวกคุณ เอาใจช่วยพวกคุณ เหมือนที่ผมได้ให้ใจกับฟุตบอลชายทีมชาติไทย และ ลบคำเหน็บแนมของผมในข้างต้นที่ว่า "ประเทศนี้มีทีมฟุตบอลหญิงด้วยเหรอวะ?"
รบกวนมา "กระชากใจ" ผมไปที .. แม่เนื้ออ่อนทีมชาติไทย
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้
ปอปฏิเวธ
คุยกันนิดนึง : อาจจะมีคำผิดพลาด หรือ ใช้คำเชื่อมสิ้นเปลือง พอดีผมรีบพิมพ์ก่อนเข้าห้องประชุม (ฮ่าๆๆ) เด๊วมาตามแก้ไขให้ทีหลังครับ และที่เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะคิดอยากจะเขียนถึงตั้งนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้สืบค้นข้อมูลหรือนั่งดูจริง ๆ จัง ๆ พอดีเมื่อวานได้นั่งดูคลิปนิด ๆ หน่อย ๆ อาจจะเขียนออกมาแบบไม่ค่อยจะเต็มสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือซะว่า เอาไว้อ่านขำ ๆ เพลิน ๆ ระหว่างรอชมการแข่งขันละกันนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านครับ