เนื่องจากรัฐบาลประกาศวันหยุดเพิ่ม เราก็เลยมีโอกาสได้หาทริปเที่ยวคลายร้อนกัน มาลงตัวที่ลี่เจียงเพราะเห็นกระทู้รีวิวในห้องบลู เนี่ยแหล่ะว่าวิวภูเขาหิมะจากในเมืองมันสวยมาก

สายการบิน
เนื่องจากจขกท.อยู่ภาคเหนือดังนั้น จึงเริ่มทริปจากเชียงใหม่เหมือนเคย โดยจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Cheaptickets.com หลังจากจองตั๋วไปแล้ว มาเจอข้อมูลว่าวันแรงงานเป็นวันหยุดยาวของคนจีน ดังนั้นคนจีนปริมาณมหาศาลจะออกมาเที่ยว เลยจากตอนแรกกะว่าอาจไปเดินเลือกหาที่พักตอนไปถึงเลยต้องจองล่วงหน้า กลัวไม่มีที่นอน แต่พอไปถึงที่จริงๆ คนไม่เยอะเหมือนที่คิดไว้ แถมออกแนวคนน้อยด้วยซ้ำไป

ถึงจะจองผ่านบุ๊คกิ้งเดียวกัน แต่เราต้องรับกระเป๋าแล้วเอามาแสกน ปริ้นท์ตั๋ว เช็คอินอีกรอบเอง โหลดกระเป๋าใหม่อีกทีที่คุณหมิง

ขนมที่แจกบนเครื่อง ไม่อร่อยซักติ๊ด แถมเที่ยวกลับจากคุณหมิงมาเชียงใหม่ดีเลย์ไปเกือบ2 ชม. อยู่ๆไม่แจกขนม แจกน้ำขวดเดียว


ที่พักชื่อ October inn
จองผ่าน booking.com คะแนนรีวิวใน tripadvisor ดีมาก ราคาโอเค ห้อง 2 คนห้องน้ำในตัว ราคา 480 หยวน/3คืน หลังจากจอง เจ้าของชื่อ Tom จะส่งอีเมลการเดินทางไปที่พักทั้งจากสถานีรถบัส สถานีรถไฟ สนามบินและที่อยู่ภาษาจีนไว้ให้เราใช้เรียกแท็กซี่ได้ เจ้าของเป็นอาเฮียที่มาพร้อมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ใส่เสื้อเชิ้ตเปลี่ยนสีไปแต่ละวันเหมือนใส่เครื่องแบบ ให้คำแนะนำดีมาก มีอะไรสงสัยแผนเที่ยวการเดินทางถามได้หมด ส่วนมากแขกที่มาพักจะเป็นฝรั่งเพราะเจ้าของพูดภาษาอังกฤษได้ดี ทุกวันศุกร์จะมีอาหารเย็นเลี้ยงด้วย แต่เราไปไม่ตรงวันศุกร์อดกิน

เราถามหากุญแจล็อกห้อง เฮียบอกว่าไม่มีหร้อก ที่นี่เราเชื่อใจว่าทุกคนเป็นคนดี (แต่ตอนเช็คอิน จ่ายตังค์อย่างเดียว พาสปอร์ต เฮียแกยังไม่ดูเลย)
ทีพักจะห่างจากกังหันเดินประมาณ 15 นาที ถึง อยู่นอกเขตประตูเมืองเก่าไม่วุ่นวาย มีวิวหลังคาระหว่างทางเดินให้ดูฟรี ไม่ต้องจ่ายตังค์เข้าว่านกู่โหลอีก 50 หยวน



อันนี้ห้องที่เราจอง


การแลกเงิน
แลกล่วงหน้าจากที่เชียงใหม่ได้อัตรา 1 หยวน = 5.1บาท
การทำวีซ่า
มีคนรีวิวเอกสารหลายกระทู้แล้ว ค่าทำ 1,000 บาท เราฝากเพื่อนร่วมทริปยื่น เพื่อนบอกที่เชียงใหม่คิวไม่เยอะ ไปยื่น 10นาทีเสร็จ อีก3วันไปเอาได้
ภาษา
ความรู้ภาษาจีน จขกท.กับเพื่อนได้แค่ หนีห่าว กับ เซี่ยๆ แค่นี้จริงๆ ที่เหลือภาษากายช่วยเราได้
การใช้อินเตอร์เนต
เราซื้อซิม 12call ของ AISเปิดโรมมิ่ง เพราะอยากใช้ Line,Facebook,Google ถ้าเลือกแบบใช้เครือข่ายไหนก็ได้ที่เมืองจีน เรากะซื้อ 3 วัน 1,300 บาท เติมเงินไป 1,400 บาทจากเมืองไทย ปรากฏว่าโทรศัพท์เปิดเครื่องตอนไหนไม่รู้ พอถึงที่สนามบินคุณหมิงได้ประมาณ 30 นาทีจะสมัครแพคเกจ  หยิบโทรศัพท์มาดูปรากฏว่าเงินเหลือ 0 บาท ซีดเลย มันรับส่งข้อมูลไปเรียบร้อยระหว่างเราไม่รู้ตัว กว่าจะใช้งานได้อีกทีคือเข้าที่พัก แล้วใช้ wifi ของโฮสเทลส่งอีเมลมาให้น้องที่เมืองไทยเติมเงินให้
วิธีสั่งอาหาร โบกแท็กซี่ ซื้อของ
อาหารแนะนำร้านที่มีรูป ถ้าไม่มีรูปเข้าร้านที่มีคนนั่งแล้วลอกเมนูโต๊ะข้างเคียง ส่วนพวกผักแล้วชี้เลยแล้ว เราทำท่าผัดให้เค้าดู สั่งเสร็จให้มานั่งลุ้นต่อว่าจะได้อะไรมากิน ราคาอาหารที่นี่ไม่ถูกเหมือนที่คิดแต่ชามใหญ่กินไม่หมด ปริมาณเยอะมาก ราคาอาหารตก 20-30 หยวนต่อจาน
การขึ้นรถประจำทาง เราถามสายรถเมล์จากที่พัก เจ้าของโฮสเทล เขียนกระดาษโน้ตป้ายรถที่ต้องลงให้เรายื่นให้คนขับรถประจำทาง พอถึงที่เค้าจะบอกให้เราลงเอง
การเรียกรถแท็กซี่( ที่ลี่เจียงเราไม่เจอแท็กซี่มิเตอร์นะมีแต่เหมา)หรือรถมินิแวน ให้บอกชื่อสถานที่ที่จะไป หรือยื่นรูปหรือที่อยู่ให้คนขับ แล้วยื่นเครื่องคิดเลขให้คนขับ เราไม่ได้เอาไปก็ยื่นมือถือเปิดแอปเครื่องคิดเลข ให้เค้ากดราคา ถ้าต้องการต่อรอง ก็ลบแล้วจิ้มราคาที่เราพอใจยื่นกลับให้คนขับดู
การซื้อของ ก็คล้ายๆเรียกรถแท็กซี่ใช้เครื่องคิดเลขเอา
แต่แนะนำให้หัดพูดคำว่า ตั้วฉ่าว  (ลองพิมพ์How muchแล้วเปิด google translate ฟังเสียงไปล่วงหน้าก็ได้)  สะดวกขึ้นเยอะ พูดเสร็จค่อยยื่นเครื่องคิดเลขไปให้เค้า
การป้องกันอาการเวียนศีรษะ ปวดหัวจากการขึ้นที่สูง (Acute mountain sickness)
เนื่องจากการขึ้น ภูเขาหิมะมังกรหยก เป็นที่สูงมาก เราเตรียมกินยา Acetazolamide 250 mg โดยกิน 0.5-1 เม็ด หลังอาหาร เช้า-เย็น ปกติแนะนำให้กินล่วงหน้า 24 ชม.ก่อนขึ้นที่สูง ผลข้างเคียงจะทำให้เหมือนเหน็บชาที่ปลายมือปลายเท้า เรากินล่วงหน้าตั้งแต่คืนวันที่ 1 เลย เพราะโปรแกรมยังไม่แน่นอนไปดูอากาศอีกทีว่าจะขึ้นภูเขาวันไหน
สนามบินคุณหมิง

เนื่องจากเรามาถึงดึก อย่างแรกคือหาที่นอน สนามบินคุณหมิงมีเขียนไว้ในเวปว่ามีเล้าจน์ แต่ไม่มีรายละเอียด เราเลยกะลองมาสำรวจก่อน เล้าจ์จะอยู่หลังจากขาเข้าฝั่ง อินเตอร์ ออกมาปุ๊บด้านซ้ายจะเจอลิฟท์ให้กดไปชั้น 2 ราคา 87 หยวนต่อชม.ต่อคน อาบน้ำได้ เห็นราคาแล้วช็อค แพงมาก
ที่นอนที่แรกที่เราไปนอนกันคือ ชั้น 3 ขาออก(ใช้รวมกันทั้ง domestic และinternational flight) แถวหน้าเค้าเตอร์เช็คอินจะมีม้านั่งยาว เป็นไม้ ข้อดีคือคนนอนเยอะไม่เปลี่ยว ห้องน้ำไม่ไกล แต่ม้านั่งมันแข็งมาก ถ้าซักตีสองกว่าๆนี่เต็มหมดแล้ว เพื่อนเราตื่นมาเจอว่าเท้าจ่ออยู่ที่หัวเลย

เราเลยออกเดินสำรวจรอบดึก
ที่นอนแนะนำต่อไป
สตาร์บัคอยู่ชั้นB2 เบาะนิ่ม ไฟไม่สว่างมาก คนไม่พลุกพล่านแต่มีรปภ.เดินผ่านเป็นระยะ มีห้องน้ำอยู่หน้าร้านเลย เรานอนจนตีห้ากว่าๆ ยังเงียบอยู่เลย ร้านน่าจะเปิดสายๆ

อันนี้เป็นอินเตอร์เนตคาเฟ่อยู่ชั้นเดียวกับสตาร์บัค ตรงบันไดเลื่อนขึ้นชั้น 2 เลย เคยอ่านมีฝรั่งรีวิว ว่ามีราคาเหมานอนค้างคืน+คูปองอาหารเช้าแต่ต้องไปกินที่ร้านอื่น เราไม่ได้ถามราคามานะ ดูคุณฝรั่งรีวิวไว้ไม่ค่อยดี

ห้องน้ำที่สนามบินคุณหมิง
เวลาบอกใครว่าจะไปจีน สิ่งแรกที่ทุกคนถามคือห้องน้ำจะไหวเหรอ? มาดูกันห้องน้ำที่สนามบินคุณหมิง ฝั่งอินเตอร์นี่สะอาดกว่าที่สนามบินเชียงใหม่อีกอ่ะ ประทับใจ ฝั่งภายในประเทศก็ไม่เลวร้าย กลางคืนทิชชู่อาจหมด เค้ายังไม่ทันเติม

ตู้กดน้ำ
มีตู้กดน้ำบริการฟรีทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น มีแก้วกระดาษให้ด้วย

ร้านค้า
มีร้านอาหารหลายร้านเลย ทั้งแบบ ฟาสฟู้ด สโลว์ฟู้ดมีหมด KFC,Mc ก็มี ไม่ต้องกลัวอด มีร้านเปิด 24 hr ด้วย
Wifi สนามบิน มี free wifi แต่ต่อเล่นไม่ได้ เคยอ่านรีวิวเค้าบอกว่าต้องมีซิมเบอร์จีนไว้ลงทะเบียนก่อนใช้งาน
ปลั๊กไฟ เราเจอแต่แถวหน้าเกทนะ ส่วนด้านนอกไม่เห็น


สนามบินลี่เจียง

ขาเข้าอยู่ชั้น 1 จะดูเล็กๆ มีร้าน Discos เป็นร้านคล้ายๆ KFC ขายไก่ทอด เบอร์เกอร์รสชาติดี ราคาถูกกว่าเมนู KFC ที่ขายที่จีน เมนูละ 1-2 หยวน(ที่นู่นราคา KFC เทียบกะบ้านเราบ้านเราถูกกว่า อย่างไก่วิงค์แซ่บที่นู่นเกือบๆ 50 บ้านเรา 29หรือ 39บาท รึป่าว?)

chicken stick รสยี่หร่า เมนูแปลก หอมๆ อร่อยดี

ส่วนชั้นสองเป็นขาออก คึกคักเลยทีเดียว แต่ร้านค้าไม่เยอะ เหมือนมีร้านขายของฝาก 1 ร้าน ขายข้าว 1 ร้าน

พอเข้าโซนเกท ก็จะมีตู้กดน้ำ ที่ชาร์จไฟ และไวฟายให้ใช้เหมือนที่คุณหมิง เหมือนเดิมเราเล่นไม่ได้