ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่าเป็นกระตู้แรกของ จขกท. ปกติได้แต่อ่านของคนอื่น 555 (ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยนะคะ) ยืม ID เพื่อนมาลงนะคะ
ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อนว่าเราเคยคบกับผช.คนนี้ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ม.6 ขอใช้ชื่อแทนเค้าว่า N แล้วกัน ซึ่ง Nเป็นผู้ชายเรียนเก่งเป็นคนชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมาก ลักษณะเป็นคนเรียบร้อยเป็นผู้ชายผิวเข้ม พูดน้อย นิสัยดีมากกก ส่วนจขกท.เป็นคนร่าเริงพูดเก่ง เคยมีแฟนมาแล้ว จะว่าไปก็ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่และนี่ก็คงเป็นจุดเริ่มต้น เราจำไม่ได้ว่าเราเริ่มคบกันได้ยังไง แต่จำได้ว่าตลอดเวลาที่คบกันเป็นความรักที่น่ารักๆวัยมอปลายคือ ทุกวันหลังเลิกเรียน N จะมาติวหนังสือให้เราโดยเฉพาะวิชาคณิตศาตร์จนทำให้เราได้เกรดวิชาคณิต 3.5 (ปกติแล้วเราอ่อนคณิตมาก) และเราก็สอบติดธุรกิจการบินอินเตอร์ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง เราเรียนวิทย์-คณิตทั้งคู่เคยเรียนห้องเดียวสมัยมอต้น และช่วงที่คบกันเราก็ไปเรียนพิเศษด้วยกัน แต่เราเรียนคนละวิชาซึ่งวันไหนที่เราเลิกเรียนช้า N ก็จะมารอเราเพื่อส่งเรากลับบ้าน N จะเป็นคนพาเราไปเที่ยวซึ่งเราจำได้ทุกที่ๆเคยไปด้วยกัน มี่อยู่ครั้งนึงเราไปจตุจักรด้วยกันเป็นการไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรกแล้วเรากับ N ก็ยืนชมวิวรอ BTS เพื่อกลับบ้านอยู่ข้างบน จำได้ว่าเป็นเวลาตอนเย็นๆบรรยากาศดีมาก อยู่ๆ N ก็จับมือเราแล้วก็ไม่พูดอะไร เราก็ตกใจนิดนึงเพราะเป็นการจับมือกันครั้งแรก เราก็คบกันมาสักพัก ยังจำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึงขณะนั่งรถเราก็หลับพอตื่นมา N ก็เล่นทีเผลอจะหอมแก้มเราแต่เราหลบทันเรยไม่โดนหอมแก้ม (ได้แต่นึกในใจว่าร้ายกาจมาก) ก็คงเป็นการคบกันแบบเด็กมอปลายทั่วๆไป
แต่เวลาผ่านไปไม่รู้เพราะอะไรจึงทำให้เรารู้สึกเบื่อ N และเราก็ตีตัวออกห่างจาก N ไม่ใช่เพราะเรามีคนอื่นแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเราก็หาคำตอบไม่เจอ จึงทำให้เราห่างกันไม่ได้คุยโทรศัพท์กันและความสัมพันธ์ก็ไม่เหมือนเดิม เราไม่ได้บอกเลิกกัน เราก็ไม่ได้มีคนอื่นระหว่างที่ห่างกันส่วน N ก็ไม่ได้มีใคร แต่เราเรียนที่เดียวกัน ห้องเรียนไกล้กันจึงทำให้เห็นหน้ากันประจำ จนเวลาผ่านไปไกล้จบม.6 มันต้องจัดงานกีฬาสีซึ่งห้องเรากับห้อง N ก็ต้องจัดงานร่วมกันเพราะอยู่สีเดียวกัน ระหว่างนั้นมันต้องมีประชุมร่วมกับห้อง N แน่นอนว่าเราได้ทำงานร่วมกันพูดคุยกัน จนเพื่อนๆก็แซวว่าถ่านไฟเก่ามันร้อน (เวลาเพื่อนแซวเราแอบสังเกตเห็นว่า N จะยิ้มและไม่พูดอะไร) ตั้งแต่เราเลิกกันไปเวลาเจอกันจะยิ้มให้กันตลอด และนี่ก็ทำให้เราสองคนกลับมาคบกันอีกครั้งก็คบกันทุกอย่างยังเหมือนเดิม N ยังเป็นน่ารัก เรียบร้อยเหมือนเดิม จนถึงวันวาเลนไทน์ N ก็ซื้อตุ๊กตาให้เราเป็นตัวแมวน้ำเล็กๆน่ารักมาก N บอกว่าเหมือนเราดี ทุกวันนี้เราก็ยังเก็บมันไว้ แต่สุดท้ายเวลาผ่านมามีคนมาจีบเราซึ่งเป็นรุ่นน้องต่างโรงเรียน ไม่รู้ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่แต่เราก็คุยกับคนไหม่ด้วยและคุยกับ N ด้วย เวลาผ่านไปด้วยความโง่ของเราเองเรากับเลือกรุ่นน้องคนนั้นเพราะเท่ห์ มีรถมารับเรากลับบ้าน N ไม่ได้ทำอะไรผิดเรยเราผิดเอง และผ่านไปไม่นานเราก็คิดได้ว่าเราเลือกผิดจริงๆเราอยากกลับไปคบกับ N เราเรยอยากทำตัวเองให้มีค่าอยากเรียนมหาลัยชื่อดังคณะดังๆเพราะ N เป็นคนเรียนเก่งมาก เพราะคิดว่าเราอาจจะได้กลับมาคบกันอีก แบบคิดเองเออเอง
เวลาผ่านไปเราก็จบม.6 และสอบติดคณะพยาบาลศาสตร์มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่ง N ก็มาแสดงความยินดีกับเรา ส่วน N ก็ไปเรียนวิศวะที่มหาลัยไกล้ๆจตุจักร 555 แต่เรากับ N ก็คุยกันบ้างและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน บางที่ N ก็จะทักแชทเฟสมาหรือเราทักไปบ้าง โทหากันบ้าง และไม่เคยเจอกันเรย มีอยู่วันนึงเรากลับบ้านก็ต้องนั่งรถตู้กลับเราเหลือบไปเห็นว่า N ก็กลับคันเดียวกับเราด้วยตอนนั้นเรารู้สึกดีใจมาก แบบบอกไม่ถูกเรย วันนั้นมันมืดแล้วเราต้องรอคนที่บ้านมารับ N ก็เรยอาสารอเป็นเพื่อนและก็ได้คุยกันถามทุกข์สุข และแลกเบอร์กันไว้ ตอนนั้นเราเรียนอยู่ปี 2 ถ้าจำไม่ผิด แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเรย ตอนนี้เรากำลังจะจบปี 3 แล้ว เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาเราไปกลางคืนเที่ยวแถวข้าวสารและโพสรูปลงเฟส N ก็ทักแชทมาว่าไม่ชวนๆ แซวว่าเดี๋ยวนี้เที่ยวบ่อยจัง เราก็เรยบอกว่าคราวหน้านะจะชวน ชวนแล้วต้องมานะ จนถึงวันเรียนวันสุดท้ายของปี 3 เราไปเที่ยวกับเพื่อนที่เจเจกรีน ว่าจะไปเดินเล่นและก็หาร้านชิลๆนั่ง เราเรยทักแชทไปหา N ว่าเรามาเจเจกรีนว่าจะนั่งร้านออกมาหาเราไหมอยากเจอ N ตอบแชททันทีบอกว่ากำลังทำโปรเจคงานอยู่คงเสร็จดึกๆรีบกลีบไหม อยากเจอเหมือนกันเดี๋ยวออกมาหา เรานี่แบบดีใจมากไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งๆที่เราก็มีแฟนไหม่แล้วแต่ไม่ใช่รุ่นน้องคนนั้นนะ ส่วน N ก็มีแฟนไหม่แล้วเป็นรุ่นน้องเรียนบริหารที่มอเดียวกัน ประมาณห้าทุ่ม N ก็มาเจอเราความรู้สึกตอนนั้น ณ
บอกไม่ถูกเรย เขินด้วยแบบว่าไม่เจอกันนาน เราได้คุยกันหลายเรื่องและเราเห็นว่าเค้าดูเหมือนปวดหลังก็เรยบอกวิธีการดูแลตัวเองเรารู้สึกเป็นห่วง ได้ถ่ายรูปด้วยกันมันก็รู้สึกดี เราก็แปลกใจว่าเค้ากล้ามาได้ไงคนเดียวเพราะเรานั่งโต๊ะกันเพื่อนเราเกือบสิบ แววตา N ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง และเมื่อถึงเวลากลับ N ก็ไปส่งเราขึ้นรถระหว่างทางเดินมันเป็นทางต่างระดับซึ่งเราใส่ส้นสูงเราไม่คิดว่า N จะยื่นมือมาให้เราจับเพื่อก้าวลงจากริมฟุตบาท เราตกใจมากทำไมเค้าเป็นคนดีจัง เราก็จับมือ N แล้วก้าวลงแล้วเราก็รีบปล่อยมือ ความรู้สึกแบบเผลอใจมากตอนนั้นอยากจะแกล้งเมาแต่เราไม่กล้า ได้แต่นึกไว้ในใจว่าเรามีแฟนแล้ว เค้ามีแฟนแล้ว พอถึงห้องก็โทบอกกันว่าถึงแล้วนะ นอนแล้ว
เรากลับมาห้องคืนนั้นนอนไม่หลับเรยเพราะคิดว่าทำไมตอนนั้นไม่เลือก N ไม่น่าเลิกกันเรย ทำไมเราโง่ขนาดนี้ อาจเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเราเลือกคบคนที่หน้าตาและความเท่ห์ แต่พอโตมาแล้วมันทำให้เรารู้ว่ามันไม่ใช่เราอยากได้คนดีต่างหาก (คิดได้ในวันที่สายไปแล้วจริงๆ) ตอนนี้ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกเรยเราควรทำยังไงกับตัวเองดี ตั้งแต่เราเลิกกันมาเราไม่เคยขอโทด N เรยเพราะเราเป็นคนปากแข็งมากเราจึงเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเผื่อ N มาเห็นกระทู้นี้จะได้รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร อยากขอโทด N ถ้าย้อนเวลาได้เราอยากจะเป็นแฟน N จนถึงทุกวันนี้ อยากบอกว่าเธอเป็นอดีตที่น่าจดจำที่สุด เราขอโทดนะ จริงๆอยากกลับไปคบกันนะ ได้แต่คิดเพราะมันเป็นไปไม่ได้สายไปแล้วจริงๆ...
คนที่ไม่เคยลืม .....
ก่อนอื่นต้องท้าวความก่อนว่าเราเคยคบกับผช.คนนี้ตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ม.6 ขอใช้ชื่อแทนเค้าว่า N แล้วกัน ซึ่ง Nเป็นผู้ชายเรียนเก่งเป็นคนชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมาก ลักษณะเป็นคนเรียบร้อยเป็นผู้ชายผิวเข้ม พูดน้อย นิสัยดีมากกก ส่วนจขกท.เป็นคนร่าเริงพูดเก่ง เคยมีแฟนมาแล้ว จะว่าไปก็ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่และนี่ก็คงเป็นจุดเริ่มต้น เราจำไม่ได้ว่าเราเริ่มคบกันได้ยังไง แต่จำได้ว่าตลอดเวลาที่คบกันเป็นความรักที่น่ารักๆวัยมอปลายคือ ทุกวันหลังเลิกเรียน N จะมาติวหนังสือให้เราโดยเฉพาะวิชาคณิตศาตร์จนทำให้เราได้เกรดวิชาคณิต 3.5 (ปกติแล้วเราอ่อนคณิตมาก) และเราก็สอบติดธุรกิจการบินอินเตอร์ที่มหาลัยแห่งหนึ่ง เราเรียนวิทย์-คณิตทั้งคู่เคยเรียนห้องเดียวสมัยมอต้น และช่วงที่คบกันเราก็ไปเรียนพิเศษด้วยกัน แต่เราเรียนคนละวิชาซึ่งวันไหนที่เราเลิกเรียนช้า N ก็จะมารอเราเพื่อส่งเรากลับบ้าน N จะเป็นคนพาเราไปเที่ยวซึ่งเราจำได้ทุกที่ๆเคยไปด้วยกัน มี่อยู่ครั้งนึงเราไปจตุจักรด้วยกันเป็นการไปเที่ยวด้วยกันครั้งแรกแล้วเรากับ N ก็ยืนชมวิวรอ BTS เพื่อกลับบ้านอยู่ข้างบน จำได้ว่าเป็นเวลาตอนเย็นๆบรรยากาศดีมาก อยู่ๆ N ก็จับมือเราแล้วก็ไม่พูดอะไร เราก็ตกใจนิดนึงเพราะเป็นการจับมือกันครั้งแรก เราก็คบกันมาสักพัก ยังจำได้ว่ามีอยู่ครั้งนึงขณะนั่งรถเราก็หลับพอตื่นมา N ก็เล่นทีเผลอจะหอมแก้มเราแต่เราหลบทันเรยไม่โดนหอมแก้ม (ได้แต่นึกในใจว่าร้ายกาจมาก) ก็คงเป็นการคบกันแบบเด็กมอปลายทั่วๆไป
แต่เวลาผ่านไปไม่รู้เพราะอะไรจึงทำให้เรารู้สึกเบื่อ N และเราก็ตีตัวออกห่างจาก N ไม่ใช่เพราะเรามีคนอื่นแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเราก็หาคำตอบไม่เจอ จึงทำให้เราห่างกันไม่ได้คุยโทรศัพท์กันและความสัมพันธ์ก็ไม่เหมือนเดิม เราไม่ได้บอกเลิกกัน เราก็ไม่ได้มีคนอื่นระหว่างที่ห่างกันส่วน N ก็ไม่ได้มีใคร แต่เราเรียนที่เดียวกัน ห้องเรียนไกล้กันจึงทำให้เห็นหน้ากันประจำ จนเวลาผ่านไปไกล้จบม.6 มันต้องจัดงานกีฬาสีซึ่งห้องเรากับห้อง N ก็ต้องจัดงานร่วมกันเพราะอยู่สีเดียวกัน ระหว่างนั้นมันต้องมีประชุมร่วมกับห้อง N แน่นอนว่าเราได้ทำงานร่วมกันพูดคุยกัน จนเพื่อนๆก็แซวว่าถ่านไฟเก่ามันร้อน (เวลาเพื่อนแซวเราแอบสังเกตเห็นว่า N จะยิ้มและไม่พูดอะไร) ตั้งแต่เราเลิกกันไปเวลาเจอกันจะยิ้มให้กันตลอด และนี่ก็ทำให้เราสองคนกลับมาคบกันอีกครั้งก็คบกันทุกอย่างยังเหมือนเดิม N ยังเป็นน่ารัก เรียบร้อยเหมือนเดิม จนถึงวันวาเลนไทน์ N ก็ซื้อตุ๊กตาให้เราเป็นตัวแมวน้ำเล็กๆน่ารักมาก N บอกว่าเหมือนเราดี ทุกวันนี้เราก็ยังเก็บมันไว้ แต่สุดท้ายเวลาผ่านมามีคนมาจีบเราซึ่งเป็นรุ่นน้องต่างโรงเรียน ไม่รู้ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่แต่เราก็คุยกับคนไหม่ด้วยและคุยกับ N ด้วย เวลาผ่านไปด้วยความโง่ของเราเองเรากับเลือกรุ่นน้องคนนั้นเพราะเท่ห์ มีรถมารับเรากลับบ้าน N ไม่ได้ทำอะไรผิดเรยเราผิดเอง และผ่านไปไม่นานเราก็คิดได้ว่าเราเลือกผิดจริงๆเราอยากกลับไปคบกับ N เราเรยอยากทำตัวเองให้มีค่าอยากเรียนมหาลัยชื่อดังคณะดังๆเพราะ N เป็นคนเรียนเก่งมาก เพราะคิดว่าเราอาจจะได้กลับมาคบกันอีก แบบคิดเองเออเอง
เวลาผ่านไปเราก็จบม.6 และสอบติดคณะพยาบาลศาสตร์มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่ง N ก็มาแสดงความยินดีกับเรา ส่วน N ก็ไปเรียนวิศวะที่มหาลัยไกล้ๆจตุจักร 555 แต่เรากับ N ก็คุยกันบ้างและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน บางที่ N ก็จะทักแชทเฟสมาหรือเราทักไปบ้าง โทหากันบ้าง และไม่เคยเจอกันเรย มีอยู่วันนึงเรากลับบ้านก็ต้องนั่งรถตู้กลับเราเหลือบไปเห็นว่า N ก็กลับคันเดียวกับเราด้วยตอนนั้นเรารู้สึกดีใจมาก แบบบอกไม่ถูกเรย วันนั้นมันมืดแล้วเราต้องรอคนที่บ้านมารับ N ก็เรยอาสารอเป็นเพื่อนและก็ได้คุยกันถามทุกข์สุข และแลกเบอร์กันไว้ ตอนนั้นเราเรียนอยู่ปี 2 ถ้าจำไม่ผิด แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเรย ตอนนี้เรากำลังจะจบปี 3 แล้ว เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาเราไปกลางคืนเที่ยวแถวข้าวสารและโพสรูปลงเฟส N ก็ทักแชทมาว่าไม่ชวนๆ แซวว่าเดี๋ยวนี้เที่ยวบ่อยจัง เราก็เรยบอกว่าคราวหน้านะจะชวน ชวนแล้วต้องมานะ จนถึงวันเรียนวันสุดท้ายของปี 3 เราไปเที่ยวกับเพื่อนที่เจเจกรีน ว่าจะไปเดินเล่นและก็หาร้านชิลๆนั่ง เราเรยทักแชทไปหา N ว่าเรามาเจเจกรีนว่าจะนั่งร้านออกมาหาเราไหมอยากเจอ N ตอบแชททันทีบอกว่ากำลังทำโปรเจคงานอยู่คงเสร็จดึกๆรีบกลีบไหม อยากเจอเหมือนกันเดี๋ยวออกมาหา เรานี่แบบดีใจมากไม่รู้ว่าเพราะอะไรทั้งๆที่เราก็มีแฟนไหม่แล้วแต่ไม่ใช่รุ่นน้องคนนั้นนะ ส่วน N ก็มีแฟนไหม่แล้วเป็นรุ่นน้องเรียนบริหารที่มอเดียวกัน ประมาณห้าทุ่ม N ก็มาเจอเราความรู้สึกตอนนั้น ณ บอกไม่ถูกเรย เขินด้วยแบบว่าไม่เจอกันนาน เราได้คุยกันหลายเรื่องและเราเห็นว่าเค้าดูเหมือนปวดหลังก็เรยบอกวิธีการดูแลตัวเองเรารู้สึกเป็นห่วง ได้ถ่ายรูปด้วยกันมันก็รู้สึกดี เราก็แปลกใจว่าเค้ากล้ามาได้ไงคนเดียวเพราะเรานั่งโต๊ะกันเพื่อนเราเกือบสิบ แววตา N ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง และเมื่อถึงเวลากลับ N ก็ไปส่งเราขึ้นรถระหว่างทางเดินมันเป็นทางต่างระดับซึ่งเราใส่ส้นสูงเราไม่คิดว่า N จะยื่นมือมาให้เราจับเพื่อก้าวลงจากริมฟุตบาท เราตกใจมากทำไมเค้าเป็นคนดีจัง เราก็จับมือ N แล้วก้าวลงแล้วเราก็รีบปล่อยมือ ความรู้สึกแบบเผลอใจมากตอนนั้นอยากจะแกล้งเมาแต่เราไม่กล้า ได้แต่นึกไว้ในใจว่าเรามีแฟนแล้ว เค้ามีแฟนแล้ว พอถึงห้องก็โทบอกกันว่าถึงแล้วนะ นอนแล้ว
เรากลับมาห้องคืนนั้นนอนไม่หลับเรยเพราะคิดว่าทำไมตอนนั้นไม่เลือก N ไม่น่าเลิกกันเรย ทำไมเราโง่ขนาดนี้ อาจเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเราเลือกคบคนที่หน้าตาและความเท่ห์ แต่พอโตมาแล้วมันทำให้เรารู้ว่ามันไม่ใช่เราอยากได้คนดีต่างหาก (คิดได้ในวันที่สายไปแล้วจริงๆ) ตอนนี้ความรู้สึกมันบอกไม่ถูกเรยเราควรทำยังไงกับตัวเองดี ตั้งแต่เราเลิกกันมาเราไม่เคยขอโทด N เรยเพราะเราเป็นคนปากแข็งมากเราจึงเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเผื่อ N มาเห็นกระทู้นี้จะได้รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร อยากขอโทด N ถ้าย้อนเวลาได้เราอยากจะเป็นแฟน N จนถึงทุกวันนี้ อยากบอกว่าเธอเป็นอดีตที่น่าจดจำที่สุด เราขอโทดนะ จริงๆอยากกลับไปคบกันนะ ได้แต่คิดเพราะมันเป็นไปไม่ได้สายไปแล้วจริงๆ...