พลีชีพ...ระเบียบวินัยการใช้ถนน สะพานลอย เมืองไทย ทำไมถึงป่วยขนาดนี้คะ

หลายครั้งแล้วคะที่คิดจะตั้งกระทู้ในพันทิพแล้วก็ล้มเลิกไป เพราะคิดว่าคงไม่มีประโยชน์
แต่วันนี้คือมันจุกอก เก็บกดไม่ไหวแล้ว ถ้าจะต้องโดนว่าก็เอา ว่าก็ว่า ขอได้แสดงความคิดเห็นในมุมของตัวเองบ้าง

ดิฉันขับรถมาสองปีแล้ว แต่ยังมีภาวะตื่นกลัวกับท้องถนนได้อยู่ตลอด
เมื่อเช้านี้ดิฉันขับรถมาเส้นถนนติวานนท์ ผ่านแถวหน้าซอยเรวดี ปรกติเป็นคนขับรถไม่เร็วอยู่แล้ว
แล้วดิฉันก็เจอเลยค่ะ คนสองฝากถนน พร้อมใจกันเดินข้ามมา ชนิดที่ว่ามั่นใจราวมานั่งในใจดิฉันว่า"แกเหยียบเบรคทันแน่นอน"
ความรู้สึกของดิฉันตอนนั้น นอกจากต้องตั้งสติกระทืบเบรคแล้ว ยังอยากเปิดกระจกลงไปกรี้ดดดดดดดใส่ (ไม่คิดจะพูดอะไรนะคะอยากจะกรี้ดเฉยๆ)

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดิฉันเจอเหตุการณ์แบบนี้และไม่ใช่ที่แรก ดิฉันพอเข้าใจได้นะคะหากแถวนั้นไม่มีสะพานลอยเลย หรือว่าคนที่ข้ามๆกันเป็นคนสูงอายุหรือกระทั่งว่าร่างกายไม่พร้อมที่จะเดินขึ้นสะพานลอย นี่เต็มใจหยุดให้จริงๆค่ะ แต่ทุกคนดูปรกติ และ สะพานลอยอยู่ถัดไปไม่ถึง 50 เมตร บางที สะพานลอยอยู่บนหัวก็มี ทำไมคะๆๆๆๆๆๆๆ ออกกำลังกายนิดหน่อยไม่ได้เลยหรอคะ ไม่รักชีวิต ไม่ต้องการเซฟตี้ให้ชีวิตกันเลยหรอคะ เกิดโดนรถชนขึ้นมา ใครผิดคะ ดิฉันผิดหรือคุณคะ ที่สำคัญ ถ้าถึงจุดนั้นแล้วมันคุ้มมั้ยคะกับการที่จะมาถามหาว่าใครผิด?? คุณเจ็บตัวหรืออาจตาย นอกเหนือจากความผิดทางกฏหมายที่ดิฉันอาจต้องแบกรับมันยังมีความผิดทางจิตใจด้วยนะคะที่ดิฉันต้องชนใคร ก่อนที่คุณจะหันมาว่ารถว่าขับเห้ มองตัวเองก่อนมั้ยคะ
ในขนะที่ประเทศไทยยังไม่มีเซฟตี้ที่ดี เราหรือป่าวคะที่ต้องเซฟตี้ตัวเองให้ดีที่สุด
นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุดที่ดิฉันเคยเจอ แย่กว่านี้ที่เจอคือ ชะนี้นางนึงเดินข้ามถนนโดยที่ก้มหน้ากดมือถือไม่มองรถ รถทุกคันที่วิ่งมาต้องเบรคให้นาง คือแบบอะไร ชะนีนี่คืออะไร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

รัฐบาลคะ ดิฉันจะมีโอกาสได้เห็นในชาตินี้มั้ยคะ กับการทำทางม้าลายที่มากกว่านี้ ทางม้าลายที่ไม่ได้ขี้ดไว้แต่เส้นแต่มีสัญญาณห้ามรถให้คนข้ามที่มากกว่านี้

จักรยานที่เป็นประเด็นกันตอนนี้ก็เหมือนกันค่ะ แต่กรณีทีเ่ป็นข่าวอยู่นี้ ยังไงน้องที่เมาแล้วขับก็ทำไม่สมควรค่ะ แต่ขอแสดงความคิดเห็นจากประสบการณ์ที่เคยเจอนักปั่นมา นักปั่นที่ดีที่พยายามปั่นให้ชิดซ้ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็มีค่ะ อันนี้ดิฉันชื่นชมและขอบคุณมาก แต่... นักปั่นที่ออกมาปั่นแทบจะกลางเลนซ้าย หรือว่า เขยิบขวาออกมาอีกหนึ่งเลนส์ ดิฉันขอร้องละค่ะ แค่ดิฉันต้องสังเกตุมอไซต์ที่ไม่รู้จะปาดมาทางไหน ระวังรถเปลี่ยนเลนส์ไม่เปิดไฟ หลบรถใหญ่ที่คิดจะเบียดก็เบียด ยังต้องมาระวังจักรยานอีก สงสารกันนิดนะคะ แล้วดิฉันจะพยายามไม่เบียดเบียนคุณตอนคุณปั่นอยู่เลนส์ซ้ายสุดๆเหมือนกันค่ะ T^T

รัฐบาลคะ ขายของริมฟุตบาทก็เริ่มจัดระเบียบแล้ว เมื่อไหร่จะออกมาจัดเลนส์จักรยานคะ รณรงค์ให้ปั่นแล้วไหนคะเลนส์ ไหนสิ่งที่จะซัพพอตค่ะ ถ้ามีแล้วช่วยเร่งขยายผลด้วยค่ะ มันสำคัญพอๆกับรถไฟฟ้าสายต่างๆนั่นแหละค่ะ

สุดท้าย ณ แยกแคลายจากทางเรวดี เส้นที่จะตรงไปปากเกร็ดมีประมาณสามถึงสี่เลนส์ ดิฉันอยู่เลนส์ที่สองจากซ้าย ซึ่งเป็นเลนส์ตรงไป(แต่รวมเลี้ยวขวามั้ยไม่แน่ใจ ปรกติถ้าจะเลี้ยวก็จะชิดขวาสุดเลย) มีรถบัสอยู่เลสน์ทางซ้ายของดิฉัน เป็นเลนส์ตรงแน่นอน พอไฟเขียว นางไม่ตรง นางเลี้ยวขวา ตัดหน้ารถอีกสามเลนส์ที่เหลือ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ดิฉันเบรคหน้าทิ่มหน้าตำ คันข้างหลังบีบแตร (ไม่รู้บีบด่ารถบัสหรือด่าดิฉัน แต่ดิฉันไปไม่ได้จริงๆ) คือ กราบกรานนะคะใครมีเพื่อน มีคนรุ้จักทำงานเกี่ยวกับคนขับรถใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถเมย์ รถบัสนำเที่ยว รถหกล้อ สิบล้อ ยี่สิบสี่ล้อ ช่วยบอก ช่วยเตือนกันต่อๆที อย่าทำแบบนี้บ่อยๆ สงสารคนใช้ถนนคนอื่นๆบ้าง

ดิฉันเองก็อาจมีบางครั้งที่พลาดพลั้งทำผิดกฏจราจรไปบ้าง ต้องเองก็ไม่ได้ถูกทุกเรื่อง แต่เรื่องบนท้องถนนมันเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
ดังนั้นดิฉันจึงอยากให้เราช่วยกันค่ะ เตือนคนในครอบครัว เตือนคนรอบข้าง สอนลูกสอนหลานให้ใช้สะพานลอย ใช้ทางข้ามที่ถูกต้อง
มีน้ำใจให้คนร่วมถนนคนอื่นๆ ไม่ขับรถเร็ว ถ้ามีนัดควรออกแต่เช้า อย่าลดเวลาด้วยการทำความเร็วบนท้องถนน คุณปาดซ้ายขวา แซงไปมาสุดท้ายคุณก็ต้องไปติดแหงกที่สี่แยกไฟแดงหน้าด้วยกันกับคันอื่นๆอยู่ดี

ได้ระบายแล้วค่อยโล่งอกขึ้นหน่อย นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว เป็นอีกแง่มุมนึงของคนขับรถที่อยากบอกในแง่มุมตัวเอง
เกี่ยวกับคนที่ใช้ถนนร่วมกันนะคะ

เพิ่มเติม

ความคิดเห็นที่ 11
ขับช้า
เว้นระยะห่างจากคันหน้ามาก
ชะลอแต่ไม่อยากเบรก (เดาว่าเหยียบคันเร่งส่งด้วยแหละ แต่มันไม่ทันแล้ว )
*** คนข้ามสองฝั่งเลย แสดงว่ามันว่างจริงๆ แต่จหกท. ขับช้าแต่ไม่อยากเบรค สุดท้ายต้องมาเบรกหัวทิ่ม ***
ขับแบบนี้ ยังไงก็เจอแบบนี้ละครับ

ต้องขอบคุณความคิดเห็นที่ 11 ด้วยนะคะ อ่านแล้วก็ฉุกคิดว่า เบรคเลยไม่ต้องลุ้นว่าเค้าจะข้ามต่อหรือเค้าจะหยุดให้รถไปก่อนก็ดี
อันนี้อาจเป็นความผิดของดิฉันเอง แต่ดิฉันก็ยังยืนยันความเห็นบางส่วนเรื่องการใช้สะพานลอย ดิฉันเคยไปประเทศเดียวคือ ญี่ปุ่น
อาศัยที่เซนได้อยู่ 6 เดือน ไม่มีความทรงจำเกี๋ยวกับสะพานลอยเลย เว้นแต่ในสถานีรถไฟฟ้าของเค้า (ข้ามที่ๆเป็นรางรถไฟ) ส่วนมากที่ได้ใช้
จริงๆคือ ทางม้าลาย ที่มีไฟจราจรแจ้งการหยุดรถ และปุ่มสัญญากดเพื่อขอทางจากคนข้ามถนน ซึ่งบ้านเรามีน้อยมาก (จะได้เห็นในชาตินี้หรือป่าวดิฉันยังไม่แน่ใจ) ดังนั้น การเซฟตี้ด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ดิฉันคิดว่าสำคัญ มีสะพานลอยก็ควรใช้ (ยกเว้นในกรณีที่ร่างกายคุยไม่อำนวยกับการใช้จริงๆ ไม่ใช่ขี้เกียจ) คุณอาจไม่เจอคนที่ขับรถดี ขับรถช้า คนที่เบรคให้คุณทัน เช่น คนเมา เมื่อเกิดเรื่องการถามหาคนผิด หรือการดำเนินคดีทางกฏหมายมันไม่คุ้มค่าต่อความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างจะได้รับเลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่