วันก่อนมีคนถามเรื่องการเลือกทุเรียน เลยคิดว่าน่าจะเอามาแบ่งปันเพื่อนๆบ้างดีกว่า แต่ครั้นจะมีแต่ทุเรียนอย่างเดียวก็เกรงจะน้อยเกินไป เลยรวบรวมวิธีเลือกผลไม้อย่างอื่นด้วย เท่าที่นึกออกและพอจะทราบวิธีการเลือกนะคะ ไปดูกันค่ะ
วิธีเลือกแตงโม
1.ให้ใช้มือทั้งมือตบที่แตงโม ถ้าเสียงก้องกังวาล เด้งมือดี แสดงว่าใช้ได้ ถ้าตบแล้วตันๆไม่เด้งมือแสดงว่าไส้ล้ม ไม่อร่อย
2. ขั้วต้องสด
วิธีเลือกสับปะรด
1. ควรเลือกสับปะรดที่มียอดๆเดียว ถ้ามียอดหลายยอด แสดงว่าแกนใหญ่
2. ใช้ไม้เคาะ หรือนิ้วดีด
เสียงจะดังแปะๆแสดงว่าเป็นเนื้อ 1 (ฉ่ำ)
- สัปรดเนื้อ 1 จะหวานฉ่ำ เหมาะสำหรับทานสด แต่จะอยู่ได้ไม่นาน
แต่ถ้าปกๆแสดงว่าเป็นเนื้อ 2 ( ไม่ฉ่ำ )
- สัปรดเนื้อ 2 จะไม่ฉ่ำ อยู่ได้นานกว่า
แบบหวาน เหมาะสำหรับทานสด ทำผัดสับปะรด
แบบเปรี้ยว เหมาะสำหรับทำแกงสัปรด แกงเผ็ดเป็ดย่าง
3. ควรเลือกตาใหญ่ ร่องตื้นๆ แสดงว่าสัปรดแก่
4. ดูรอบๆผลสับปะรด อย่าให้มีน้ำซึมออกมาแสดงว่าจุดนั้นเน่าแล้ว
5. ไม่ควรกดแล้วยุบ แสดงว่าเน่าแล้ว
6. ยอดใบและขั้วสดไม่เหี่ยว
ปูลู แต่สำคัญเขาจะฟังที่เสียงค่ะ
วิธีเลือกมังคุด
1. ลูกสีเข้ม
2. บีบแล้วนิ่มทั่วทั้งผล
3. หมวกต้องสีเขียวสด ถ้าหมวกสีแดงเข้มแสดงว่าแก่คาต้น จะเน่าเร็ว บางลูกก็จะเละไม่อร่อย
วิธีเลือก apple
1. แอบดีดดู ( ต้องแอบนะคะ ถ้าแม่ค้ารู้เขาจิด่าเอา >< ) ต้องดังป๊อกๆแสดงว่ากรอบ ถ้าแปะๆแสดงว่าไม่กรอบแล้วค่ะ
2. Apple เขียวรสชาติจะออกเปรี้ยวกว่าแต่จะกรอบกว่า แต่ถ้าเป็นของจีนจะหอมน้อยกว่าบางทีก็ไม่กรอบ
วิธีเลือกเงาะ
1. ขนต้องเป็นสีแดง แสดงว่าเงาะแก่
2. ผลเงาะต้องสด ไม่เหี่ยวแห้ง
วิธีเลือกมะม่วงดิบ
1. ดีดแล้วดังป๊อกๆแสดงว่ากรอบ
2. บีบดูลูกจะแข็ง ถ้าบีบแล้วรู้สึกนิ่มๆนิดๆแสดงว่าเหี่ยว ไม่กรอบ และอาจสุก
3. ถ้าผลแก่จะมีนวล
4. ขั้วสด
วิธีเลือกมะม่วงสุก
จริงๆไม่ควรบ่มแก๊ส แต่สมัยนี้คงหายากมากๆแล้ว เอาเป็นผิวภายนอกไม่มีบุบช้ำ ผิวสดไม่เหี่ยว ถ้าเจอสีไม่สม่ำเสมอกันเตรียมดีใจได้ค่ะ ว่าอาจจะเจอมะม่วงสุกตามธรรมชาติ
ข้อดีของมะม่วงบ่มแก๊ส คือผิวภายนอกจะสวย ส่วนข้อเสีย อร่อยน้อยกว่าสุกธรรมชาติ อยู่ได้ไม่นานจะเน่าเร็วกว่า
วิธีเลือกมะละกอ
ตอนแรกว่าจะไม่เขียนเพราะ คงต้องอาศัยความคุ้นเคยกับร้านขาย ต้อมไปซื้อที่ตลาดไท ไปเจ้าประจำ เขาจะเลือกลูกที่เหลืองมาจากสวน พวกนี้เขาจะไม่บ่ม อยู่ได้นานกว่าบ่มมาก เอาเป็นว่าเลือกลูกสวยๆผิวสดๆไม่มีรอยช้ำนะคะ
วิธีเลือกทุเรียน
1. ให้ดูที่ปากปลิง ( เพิ่งจะทราบว่าเขาเรียกว่าอะไรตอนจะหารูปมาให้ดูอ่ะค่ะ 555) ถ้าอ้วนๆบวมๆตรงข้อแสดงว่าเป็นทุเรียนแก่
( ภาพจากเน็ทนะคะ )
2. ถ้าเป็นทุเรียนเปลือกหนา เช่น ชะนี ต้องเคาะแล้วกลวง ( หลวมพลูแสดงว่าสุกแล้ว ) และที่สำคัญคือต้องไม่มีกลิ่น ถ้ามีกลิ่นแสดงว่าปลาร้าแล้วค่ะ ( เพิ่งจะรู้ว่าถ้าเลือกเป็น ชะนีเป็นทุเรียนพันธุ์ที่อร่อยมากจริงๆค่ะ )
3. ทุเรียนหมอนทองถ้าจะให้อร่อย อย่าเลือกที่พลูขนาดเท่ากันทุกพลู ( เต็มพลู ) ลูกนั้นจะไม่อร่อย
4. ถ้าเป็นทุเรียนหมอนทอง ต้องหลวมพลูและมีกลิ่น กลิ่นจะแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับสุกมากน้อย ( ต่างกับชะนีนะคะ ) และเขาว่าก้นแตกนิดหน่อยก็ยังพอทานได้นะคะ
5. ถ้าทุเรียนแก่ร่องน้ำ ( รอยแยกระหว่างหนามทุเรียนระหว่างขั้วและปลายผลทุเรียน จะอยู่กลางพลูใหญ่ๆ) จะชัดมาก ถ้าอ่อนร่องน้ำไหลจะไม่ชัดเจน
ปูลู 1. ความรู้เล็กๆ ชะนีจะสุกก่อนหมอนทอง ช่วงต้นๆฤดูทุเรียนให้ทานชะนีก่อน ถัดจากนั้นค่อยทานหมอนทอง ( ถ้าต้นฤดูรีบซื้อหมอนทองถ้าเลือกไม่เก่งอาจเจอทุเรียนอ่อนได้ ตอนนี้หมอนแก่แล้วทานได้แล้วค่ะ ) จะได้ทานทุเรียนอร่อยๆ แต่ถ้าฝนตกไปแล้วอาจต้องเสี่ยงกับไส้ซึม อันนี้ดูไม่เป็นค่ะ รู้แต่ว่าถ้าฝนเริ่มมาก็จะไม่ซื้อทุเรียนทาน นอกจากแกะให้เห็นๆ
ปูลู 2. ปลาร้า กับสุกกำลังดี เสียงจะหลวมพลูเหมือนกันนะคะ ต้องอาศัยดมช่วย ถ้ากลิ่นแรงแสดงว่าาาาเละ ต้องหอมเบาๆอ่อนๆจะสุกกำลังดีค่ะ
วิธีเลือกกล้วยน้ำว้า
1. ให้เลือกลูกกลมๆไม่มีเหลี่ยม หรือ มีเหลี่ยมน้อยที่สุด
2. ถ้าปลูกเอง ให้สุกคาเครือจะอร่อยกว่า
วิธีเลือกกล้วยหอม
1. เลือกลูกผอมๆยาวๆ แต่เหลี่ยมน้อยๆลูกไม่ต้องใหญ่มาก จะอร่อยกว่า เนื้อจะแข็งแน่นกว่า
2. ถ้าไม่บ่มจะอร่อยและอยู่ได้นานกว่าแต่เดี๋ยวนี้หายาก เพราะเขาชุบน้ำยาเร่งสุกตั้งแต่ที่สวนกล้วยแล้ว และจะไปซ้ำอีกทีที่ตลาดขายส่ง ดังนั้นกว่าจะถึงมือเราก็หลายชุบแล้วหล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าอยากได้กล้วยไม่ชุบน้ำยาต้องไปหาซื้อที่สวนกล้วยก่อนที่เขาจะชุบน้ำยา ถ้าโชคดีจะมีกล้วยตีนเต่า ( กล้วยปลายเครือ ) จะเป็นกล้วยไม่ได้ขนาด ขายไม่ได้ เจ้าของสวนจะเก็บไว้ทานเอง ไม่ชุบน้ำยา กล้วยแบบนี้อร่อยมาก เนื้อจะแน่น หอมหวาน และเพราะไม่ชุบน้ำยา จะอยู่ได้นานกว่า ต้อมจะไปหาสวนกล้วยแถวๆรังสิตคลอง 13 แต่จะปลูกกล้วยตลอดไม่ได้ ต้องสลับปลูกพืชอย่างอื่นเพื่อพักดินด้วย ดังนั้นจะบอกพิกัดแน่นอนไม่ได้ ต้องลองขับรถหาๆดูอ่ะค่ะ
ส่วนวิธีดูกล้วยหอมที่ไม่บ่ม ผลกล้วยจะสุกไม่พร้อมกัน ผลจะแข็งกว่า
วิธีเลือกส้มโอ
เลือกลูกหนักๆ นิยมผึ่งไว้ระยะหนึ่ง ไม่กินทันทีที่เก็บมาจากต้น ลายจุดสีจะเข้มๆ
ขนุน
ต้องเลือกลูกที่ช่องระหว่างหนามห่างชัดเจน แสดงว่าแก่จัด
ลองกอง
1. เลือกลูกยาวๆจะหวานอร่อยกว่า
2. สีเหลืองสวย อย่าให้ติดสีเขียว แสดงว่าอ่อน
ส้มสายน้ำผึ้ง
1. ผิวเหลืองหรืออมเหลือง
2. รอยขั้วสดไม่แห้ง
3. ผิวไม่เหี่ยว ( สมัยนี้ส่วนใหญ่จะเคลือบแวกซ์ เพื่อทำให้อยู่ได้นานขึ้น )
4. ถ้าชิมดูจะไม่เหม็นโอ่ ( บอกไม่ถูกค่ะ ต้องชิมบ่อยๆจะทราบ เหมือนเหม็นลม แสดงว่าเป็นส้มค้าง ไม่สด ) รสชาติหอมหวาน
ปูลู ถ้าจะเอามาคั้น ควรเลือกส้มเบอร์ 3 จะดีกว่า เพราะเปลือกจะไม่ล่อน และรสชาติจัดกว่าลูกใหญ่ แต่ถ้าเอามาทานเลย เลือกเบอร์ 5 ขึ้นไปถึงจะดี
วิธีเลือกละมุด
เลือกผิวสีน้ำตาลอ่อนอมแดง ผิวตึง จับแล้วไม่เละ แสดงว่าแก่จากต้น
( ขอบคุณภาพจากเน็ทนะคะ )
Gismonoy แบ่งปัน # วิธีการเลือกซื้อผลไม้ # ^^
วิธีเลือกแตงโม
1.ให้ใช้มือทั้งมือตบที่แตงโม ถ้าเสียงก้องกังวาล เด้งมือดี แสดงว่าใช้ได้ ถ้าตบแล้วตันๆไม่เด้งมือแสดงว่าไส้ล้ม ไม่อร่อย
2. ขั้วต้องสด
วิธีเลือกสับปะรด
1. ควรเลือกสับปะรดที่มียอดๆเดียว ถ้ามียอดหลายยอด แสดงว่าแกนใหญ่
2. ใช้ไม้เคาะ หรือนิ้วดีด
เสียงจะดังแปะๆแสดงว่าเป็นเนื้อ 1 (ฉ่ำ)
- สัปรดเนื้อ 1 จะหวานฉ่ำ เหมาะสำหรับทานสด แต่จะอยู่ได้ไม่นาน
แต่ถ้าปกๆแสดงว่าเป็นเนื้อ 2 ( ไม่ฉ่ำ )
- สัปรดเนื้อ 2 จะไม่ฉ่ำ อยู่ได้นานกว่า
แบบหวาน เหมาะสำหรับทานสด ทำผัดสับปะรด
แบบเปรี้ยว เหมาะสำหรับทำแกงสัปรด แกงเผ็ดเป็ดย่าง
3. ควรเลือกตาใหญ่ ร่องตื้นๆ แสดงว่าสัปรดแก่
4. ดูรอบๆผลสับปะรด อย่าให้มีน้ำซึมออกมาแสดงว่าจุดนั้นเน่าแล้ว
5. ไม่ควรกดแล้วยุบ แสดงว่าเน่าแล้ว
6. ยอดใบและขั้วสดไม่เหี่ยว
ปูลู แต่สำคัญเขาจะฟังที่เสียงค่ะ
วิธีเลือกมังคุด
1. ลูกสีเข้ม
2. บีบแล้วนิ่มทั่วทั้งผล
3. หมวกต้องสีเขียวสด ถ้าหมวกสีแดงเข้มแสดงว่าแก่คาต้น จะเน่าเร็ว บางลูกก็จะเละไม่อร่อย
วิธีเลือก apple
1. แอบดีดดู ( ต้องแอบนะคะ ถ้าแม่ค้ารู้เขาจิด่าเอา >< ) ต้องดังป๊อกๆแสดงว่ากรอบ ถ้าแปะๆแสดงว่าไม่กรอบแล้วค่ะ
2. Apple เขียวรสชาติจะออกเปรี้ยวกว่าแต่จะกรอบกว่า แต่ถ้าเป็นของจีนจะหอมน้อยกว่าบางทีก็ไม่กรอบ
วิธีเลือกเงาะ
1. ขนต้องเป็นสีแดง แสดงว่าเงาะแก่
2. ผลเงาะต้องสด ไม่เหี่ยวแห้ง
วิธีเลือกมะม่วงดิบ
1. ดีดแล้วดังป๊อกๆแสดงว่ากรอบ
2. บีบดูลูกจะแข็ง ถ้าบีบแล้วรู้สึกนิ่มๆนิดๆแสดงว่าเหี่ยว ไม่กรอบ และอาจสุก
3. ถ้าผลแก่จะมีนวล
4. ขั้วสด
วิธีเลือกมะม่วงสุก
จริงๆไม่ควรบ่มแก๊ส แต่สมัยนี้คงหายากมากๆแล้ว เอาเป็นผิวภายนอกไม่มีบุบช้ำ ผิวสดไม่เหี่ยว ถ้าเจอสีไม่สม่ำเสมอกันเตรียมดีใจได้ค่ะ ว่าอาจจะเจอมะม่วงสุกตามธรรมชาติ
ข้อดีของมะม่วงบ่มแก๊ส คือผิวภายนอกจะสวย ส่วนข้อเสีย อร่อยน้อยกว่าสุกธรรมชาติ อยู่ได้ไม่นานจะเน่าเร็วกว่า
วิธีเลือกมะละกอ
ตอนแรกว่าจะไม่เขียนเพราะ คงต้องอาศัยความคุ้นเคยกับร้านขาย ต้อมไปซื้อที่ตลาดไท ไปเจ้าประจำ เขาจะเลือกลูกที่เหลืองมาจากสวน พวกนี้เขาจะไม่บ่ม อยู่ได้นานกว่าบ่มมาก เอาเป็นว่าเลือกลูกสวยๆผิวสดๆไม่มีรอยช้ำนะคะ
วิธีเลือกทุเรียน
1. ให้ดูที่ปากปลิง ( เพิ่งจะทราบว่าเขาเรียกว่าอะไรตอนจะหารูปมาให้ดูอ่ะค่ะ 555) ถ้าอ้วนๆบวมๆตรงข้อแสดงว่าเป็นทุเรียนแก่
( ภาพจากเน็ทนะคะ )
2. ถ้าเป็นทุเรียนเปลือกหนา เช่น ชะนี ต้องเคาะแล้วกลวง ( หลวมพลูแสดงว่าสุกแล้ว ) และที่สำคัญคือต้องไม่มีกลิ่น ถ้ามีกลิ่นแสดงว่าปลาร้าแล้วค่ะ ( เพิ่งจะรู้ว่าถ้าเลือกเป็น ชะนีเป็นทุเรียนพันธุ์ที่อร่อยมากจริงๆค่ะ )
3. ทุเรียนหมอนทองถ้าจะให้อร่อย อย่าเลือกที่พลูขนาดเท่ากันทุกพลู ( เต็มพลู ) ลูกนั้นจะไม่อร่อย
4. ถ้าเป็นทุเรียนหมอนทอง ต้องหลวมพลูและมีกลิ่น กลิ่นจะแรงมากน้อยขึ้นอยู่กับสุกมากน้อย ( ต่างกับชะนีนะคะ ) และเขาว่าก้นแตกนิดหน่อยก็ยังพอทานได้นะคะ
5. ถ้าทุเรียนแก่ร่องน้ำ ( รอยแยกระหว่างหนามทุเรียนระหว่างขั้วและปลายผลทุเรียน จะอยู่กลางพลูใหญ่ๆ) จะชัดมาก ถ้าอ่อนร่องน้ำไหลจะไม่ชัดเจน
ปูลู 1. ความรู้เล็กๆ ชะนีจะสุกก่อนหมอนทอง ช่วงต้นๆฤดูทุเรียนให้ทานชะนีก่อน ถัดจากนั้นค่อยทานหมอนทอง ( ถ้าต้นฤดูรีบซื้อหมอนทองถ้าเลือกไม่เก่งอาจเจอทุเรียนอ่อนได้ ตอนนี้หมอนแก่แล้วทานได้แล้วค่ะ ) จะได้ทานทุเรียนอร่อยๆ แต่ถ้าฝนตกไปแล้วอาจต้องเสี่ยงกับไส้ซึม อันนี้ดูไม่เป็นค่ะ รู้แต่ว่าถ้าฝนเริ่มมาก็จะไม่ซื้อทุเรียนทาน นอกจากแกะให้เห็นๆ
ปูลู 2. ปลาร้า กับสุกกำลังดี เสียงจะหลวมพลูเหมือนกันนะคะ ต้องอาศัยดมช่วย ถ้ากลิ่นแรงแสดงว่าาาาเละ ต้องหอมเบาๆอ่อนๆจะสุกกำลังดีค่ะ
วิธีเลือกกล้วยน้ำว้า
1. ให้เลือกลูกกลมๆไม่มีเหลี่ยม หรือ มีเหลี่ยมน้อยที่สุด
2. ถ้าปลูกเอง ให้สุกคาเครือจะอร่อยกว่า
วิธีเลือกกล้วยหอม
1. เลือกลูกผอมๆยาวๆ แต่เหลี่ยมน้อยๆลูกไม่ต้องใหญ่มาก จะอร่อยกว่า เนื้อจะแข็งแน่นกว่า
2. ถ้าไม่บ่มจะอร่อยและอยู่ได้นานกว่าแต่เดี๋ยวนี้หายาก เพราะเขาชุบน้ำยาเร่งสุกตั้งแต่ที่สวนกล้วยแล้ว และจะไปซ้ำอีกทีที่ตลาดขายส่ง ดังนั้นกว่าจะถึงมือเราก็หลายชุบแล้วหล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าอยากได้กล้วยไม่ชุบน้ำยาต้องไปหาซื้อที่สวนกล้วยก่อนที่เขาจะชุบน้ำยา ถ้าโชคดีจะมีกล้วยตีนเต่า ( กล้วยปลายเครือ ) จะเป็นกล้วยไม่ได้ขนาด ขายไม่ได้ เจ้าของสวนจะเก็บไว้ทานเอง ไม่ชุบน้ำยา กล้วยแบบนี้อร่อยมาก เนื้อจะแน่น หอมหวาน และเพราะไม่ชุบน้ำยา จะอยู่ได้นานกว่า ต้อมจะไปหาสวนกล้วยแถวๆรังสิตคลอง 13 แต่จะปลูกกล้วยตลอดไม่ได้ ต้องสลับปลูกพืชอย่างอื่นเพื่อพักดินด้วย ดังนั้นจะบอกพิกัดแน่นอนไม่ได้ ต้องลองขับรถหาๆดูอ่ะค่ะ
ส่วนวิธีดูกล้วยหอมที่ไม่บ่ม ผลกล้วยจะสุกไม่พร้อมกัน ผลจะแข็งกว่า
วิธีเลือกส้มโอ
เลือกลูกหนักๆ นิยมผึ่งไว้ระยะหนึ่ง ไม่กินทันทีที่เก็บมาจากต้น ลายจุดสีจะเข้มๆ
ขนุน
ต้องเลือกลูกที่ช่องระหว่างหนามห่างชัดเจน แสดงว่าแก่จัด
ลองกอง
1. เลือกลูกยาวๆจะหวานอร่อยกว่า
2. สีเหลืองสวย อย่าให้ติดสีเขียว แสดงว่าอ่อน
ส้มสายน้ำผึ้ง
1. ผิวเหลืองหรืออมเหลือง
2. รอยขั้วสดไม่แห้ง
3. ผิวไม่เหี่ยว ( สมัยนี้ส่วนใหญ่จะเคลือบแวกซ์ เพื่อทำให้อยู่ได้นานขึ้น )
4. ถ้าชิมดูจะไม่เหม็นโอ่ ( บอกไม่ถูกค่ะ ต้องชิมบ่อยๆจะทราบ เหมือนเหม็นลม แสดงว่าเป็นส้มค้าง ไม่สด ) รสชาติหอมหวาน
ปูลู ถ้าจะเอามาคั้น ควรเลือกส้มเบอร์ 3 จะดีกว่า เพราะเปลือกจะไม่ล่อน และรสชาติจัดกว่าลูกใหญ่ แต่ถ้าเอามาทานเลย เลือกเบอร์ 5 ขึ้นไปถึงจะดี
วิธีเลือกละมุด
เลือกผิวสีน้ำตาลอ่อนอมแดง ผิวตึง จับแล้วไม่เละ แสดงว่าแก่จากต้น
( ขอบคุณภาพจากเน็ทนะคะ )