เกิดความชุมมุลวุ่นวายเมื่อสาวเจ้าของรถเก๋งตกใจ กลุ่มชายพนักงานไฟแนนซ์ติดตามทวงยึดรถ จึงซิ่งหนี จนต้องนำรถบรรทุกบล็อกปิดทางเข้าออกซอยอ่อนนุช สุดท้ายต้องไปเจรจากันที่โรงพัก และเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันอีก
วันนี้( 4 พ.ค.) ร.ต.ท.โอปอ โนนทะขันท์ พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์พยายามขับรถหนีพนักงานบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ ซ.อ่อนนุช 44 ต่อมาได้เฉี่ยวชนรถยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ก่อนที่จะมีการนำรถหกล้อมาปิดกั้นบล็อครถบริเวณปากซอยอ่อนนุช 56 ก่อนถึงแยกศรีอุดม แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยอ่อนนุช 56 พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลร่า อัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฌ 4041 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพที่ไฟหน้าซ้ายแตก และกันชนด้านซ้ายได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบรถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดใหญ่ จอดปิดกั้นรถคันดังกล่าวอยู่ และด้านหลังมีรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีขาว ทะเบียน ญพ 4019 กรุงเทพมหานคร จอดขวางด้านหลัง นอกจากนี้ยังพบประชาชนจำนวนมากมุงดูด้วยความสนใจ ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นเวลานาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเมืองดีได้เข้าพูดคุยเจรจาให้หญิงสาวคนดังกล่าวลงมาจากรถ แต่ไม่เป็นผล หญิงสาวได้พยายามที่จะถอยรถหนีอีกครั้งแต่ไม่สามารถหนีต่อไปได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานรถลากมาทำการลากรถคันดังกล่าวที่มีหญิงสาวนั่งอยู่ภายในมายัง สน.พระโขนง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึง สน.พระโขนงเจ้าหน้าที่ได้ทำการเจรจาให้หญิงสาวคนดังกล่าวลงมาจากรถ เพื่อทำการไกล่เกลี่ยกับตัวแทนของบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ขับรถคันดังกล่าวคือ น.ส.บุญยวีร์ ชูบุญศรี อายุ 34 ปี มีตัวแทนบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 5 คน มาติดตามทวงถามการส่งคืนรถเพราะค้างค่าส่งงวด 6 เดือนติดต่อกันแต่เจรจากันไม่ได้ จึงเกิดเหตุผู้ขับขี่ขับรถหนีออกไปแล้วนายรัฐพงษ์ เพ็งนุ่ม อายุ 24 ปี ตัวแทนของบริษัท ได้ตัดสินใจกระโดดเกาะท้ายกระโปรงของรถ ติดตามไปเป็นระยะไกลจนถูกสะบัดตกลงมา ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับรถไปชนคันอื่นเสียหายเล็กน้อยหลายคัน แต่ต้องหยุดรถเพราะการจราจรที่แออัดขับรถต่อไปไม่ได้
เวลาต่อมาที่ สน.พระโขนง นายจักรกฤษ์ ชื่นสุภัค อายุ 60 ปี อาชีพทนายความอิสระ พ่อของนางสาวบุญยวรีย์ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การกระทำของกลุ่มไฟแนนซ์น่าจะเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ยอมรับว่ารถติดค่างวดจริง เพราะรายได้ของลูกสาวที่ทำสวนยางใน จ.พัทลุงรายได้ไม่ดี ซึ่งเคยคุยกับทางไฟแนนซ์แล้วว่าจะหาเงินมาปิดงวดให้หลังมีรายได้จากการขายยางพารา แต่ไม่ทราบว่าทำไมต้องมากันหลายคนแล้วผู้หญิงมาคนเดียวจึงกลัว เลยขับรถออกไป ตนอยากให้นักข่าวลองนึกภาพดูว่าถนนรถติดจะขับเร็วได้ซักขนาดไหน แล้วตามกฏหมายตามทวงยึดรถ เมื่อผู้เช่าซื้อขาดส่ง 3 งวดติดต่อกัน ทางไฟแนนซ์ต้องฟ้องศาลให้บังคับคดี เช่น อาจพิจารณาให้ชดใช้ตามจำนวนราคา หรือให้ยึดรถคืนโดยคำสั่งศาล ซึ่งผิดขั้นตอน แล้วมากันหลายคนผู้หญิงก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา
ด้านนายสถิตย์ สังข์เมือง อายุ 48 ปี เจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ตนได้ขับรถออกจากบ้านบริเวณ ซ.อ่อนนุช 46/2 ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ก่อนจะออกจากซอยดังกล่าวได้เห็นรถยนต์ท้ายรถมีคนเกาะอยู่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ และขับตามไปเนื่องจากเกรงว่าจะมีคนได้รับอันตราย โดยมีรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ติดตามรถคันดังกล่าวไปด้วย ต่อมาได้มีการประสานให้ช่วยกันบล็อกรถคันดังกล่าว โดยมีรถบรรทุกจอดบล็อกไว้ ตอนนั้นตนไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน ทราบเพียงแต่ว่ามีคนเกาะอยู่ที่ท้ายรถ และมีคนตะโกนบอกว่าขโมยรถมาบ้าง ขับรถชนแล้วหนีบ้าง ตนจึงได้ขับรถตามไปเป็นกิโล ตอนแรกคิดว่าเขาจะจอด แต่เขาก็ขับหนีไปอีกจนมาชนกับรถตนจากนั้นจึงถามเขาว่ารถมีประกันไหม เขาบอกว่าช่วยไม่ได้ ตนก็ไม่ติดใจอะไรถ้าเขาจะไม่ชดใช้ เพราะตนก็มีประกัน ระหว่างนั้นที่มีการปิดกั้นบล็อกรถ ตนก็ได้เอาน้ำให้ดื่ม เพราะคิดว่าคงจะตกใจ ได้พูดคุยบอกมีอะไรก็ให้ลงมาคุยกัน ที่ตนตัดสินใจตามไปเพราะมีชีวิตคนทั้งคนอยู่ที่ท้ายรถคันดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่หลังจากนี้จะสอบปากคำตัวแทนของบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และคู่กรณีอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะมีการแจ้งข้อหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากการสอบปากคำทั้งสองฝ่ายก็มีเหตุชุลมุนเกิดขึ้นโดยทั้งสองฝ่ายมีปากเสียง และมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น ที่บริเวณหน้า สน.ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าระงับเหตุและพาตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อไป
เครดิต
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050869
จากข่าวนี้คุณเห็นใจฝ่ายไหนมากกว่ากัน
วันนี้( 4 พ.ค.) ร.ต.ท.โอปอ โนนทะขันท์ พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์พยายามขับรถหนีพนักงานบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่ ซ.อ่อนนุช 44 ต่อมาได้เฉี่ยวชนรถยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 3 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ก่อนที่จะมีการนำรถหกล้อมาปิดกั้นบล็อครถบริเวณปากซอยอ่อนนุช 56 ก่อนถึงแยกศรีอุดม แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
ที่เกิดเหตุบริเวณปากซอยอ่อนนุช 56 พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโลร่า อัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฌ 4041 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพที่ไฟหน้าซ้ายแตก และกันชนด้านซ้ายได้รับความเสียหาย ใกล้กันพบรถบรรทุก 6 ล้อ ขนาดใหญ่ จอดปิดกั้นรถคันดังกล่าวอยู่ และด้านหลังมีรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีขาว ทะเบียน ญพ 4019 กรุงเทพมหานคร จอดขวางด้านหลัง นอกจากนี้ยังพบประชาชนจำนวนมากมุงดูด้วยความสนใจ ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นเวลานาน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพลเมืองดีได้เข้าพูดคุยเจรจาให้หญิงสาวคนดังกล่าวลงมาจากรถ แต่ไม่เป็นผล หญิงสาวได้พยายามที่จะถอยรถหนีอีกครั้งแต่ไม่สามารถหนีต่อไปได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานรถลากมาทำการลากรถคันดังกล่าวที่มีหญิงสาวนั่งอยู่ภายในมายัง สน.พระโขนง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึง สน.พระโขนงเจ้าหน้าที่ได้ทำการเจรจาให้หญิงสาวคนดังกล่าวลงมาจากรถ เพื่อทำการไกล่เกลี่ยกับตัวแทนของบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ขับรถคันดังกล่าวคือ น.ส.บุญยวีร์ ชูบุญศรี อายุ 34 ปี มีตัวแทนบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 5 คน มาติดตามทวงถามการส่งคืนรถเพราะค้างค่าส่งงวด 6 เดือนติดต่อกันแต่เจรจากันไม่ได้ จึงเกิดเหตุผู้ขับขี่ขับรถหนีออกไปแล้วนายรัฐพงษ์ เพ็งนุ่ม อายุ 24 ปี ตัวแทนของบริษัท ได้ตัดสินใจกระโดดเกาะท้ายกระโปรงของรถ ติดตามไปเป็นระยะไกลจนถูกสะบัดตกลงมา ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ขับรถไปชนคันอื่นเสียหายเล็กน้อยหลายคัน แต่ต้องหยุดรถเพราะการจราจรที่แออัดขับรถต่อไปไม่ได้
เวลาต่อมาที่ สน.พระโขนง นายจักรกฤษ์ ชื่นสุภัค อายุ 60 ปี อาชีพทนายความอิสระ พ่อของนางสาวบุญยวรีย์ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การกระทำของกลุ่มไฟแนนซ์น่าจะเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ยอมรับว่ารถติดค่างวดจริง เพราะรายได้ของลูกสาวที่ทำสวนยางใน จ.พัทลุงรายได้ไม่ดี ซึ่งเคยคุยกับทางไฟแนนซ์แล้วว่าจะหาเงินมาปิดงวดให้หลังมีรายได้จากการขายยางพารา แต่ไม่ทราบว่าทำไมต้องมากันหลายคนแล้วผู้หญิงมาคนเดียวจึงกลัว เลยขับรถออกไป ตนอยากให้นักข่าวลองนึกภาพดูว่าถนนรถติดจะขับเร็วได้ซักขนาดไหน แล้วตามกฏหมายตามทวงยึดรถ เมื่อผู้เช่าซื้อขาดส่ง 3 งวดติดต่อกัน ทางไฟแนนซ์ต้องฟ้องศาลให้บังคับคดี เช่น อาจพิจารณาให้ชดใช้ตามจำนวนราคา หรือให้ยึดรถคืนโดยคำสั่งศาล ซึ่งผิดขั้นตอน แล้วมากันหลายคนผู้หญิงก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา
ด้านนายสถิตย์ สังข์เมือง อายุ 48 ปี เจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ตนได้ขับรถออกจากบ้านบริเวณ ซ.อ่อนนุช 46/2 ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ก่อนจะออกจากซอยดังกล่าวได้เห็นรถยนต์ท้ายรถมีคนเกาะอยู่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ และขับตามไปเนื่องจากเกรงว่าจะมีคนได้รับอันตราย โดยมีรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ติดตามรถคันดังกล่าวไปด้วย ต่อมาได้มีการประสานให้ช่วยกันบล็อกรถคันดังกล่าว โดยมีรถบรรทุกจอดบล็อกไว้ ตอนนั้นตนไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน ทราบเพียงแต่ว่ามีคนเกาะอยู่ที่ท้ายรถ และมีคนตะโกนบอกว่าขโมยรถมาบ้าง ขับรถชนแล้วหนีบ้าง ตนจึงได้ขับรถตามไปเป็นกิโล ตอนแรกคิดว่าเขาจะจอด แต่เขาก็ขับหนีไปอีกจนมาชนกับรถตนจากนั้นจึงถามเขาว่ารถมีประกันไหม เขาบอกว่าช่วยไม่ได้ ตนก็ไม่ติดใจอะไรถ้าเขาจะไม่ชดใช้ เพราะตนก็มีประกัน ระหว่างนั้นที่มีการปิดกั้นบล็อกรถ ตนก็ได้เอาน้ำให้ดื่ม เพราะคิดว่าคงจะตกใจ ได้พูดคุยบอกมีอะไรก็ให้ลงมาคุยกัน ที่ตนตัดสินใจตามไปเพราะมีชีวิตคนทั้งคนอยู่ที่ท้ายรถคันดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่หลังจากนี้จะสอบปากคำตัวแทนของบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และคู่กรณีอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะมีการแจ้งข้อหาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากการสอบปากคำทั้งสองฝ่ายก็มีเหตุชุลมุนเกิดขึ้นโดยทั้งสองฝ่ายมีปากเสียง และมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น ที่บริเวณหน้า สน.ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าระงับเหตุและพาตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อไป
เครดิต http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050869