ผมซื้อจักรยานมาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ปี ๕๗
เริ่มปั่นจริงๆ จังๆ ก็ต้นเดือนธันวาคม
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ นับแล้วไม่หน้าต่ำกว่า ๖๐๐๐ หลักกิโล เริ่มต้นจากการฝึกเริ่มระยะทางให้ไกลขึ้น จนวันนี้ใช้ปั่นไปไหนต่อไหน ก็ใช้จักรยานเกือบจะเป็นหลัก หากไปคนเดียว ให้ปั่นไปที่ทำงานของแฟน ที่ไกลจากบ้านไป ๔๐ กว่าหลักกิโล ทั้งขาไป และกลับ หรือบางวันขากลับเอาใส่รถแฟนกลับ เรียกได้ว่าคว้าจักรยานออกทุกวัน
เมื่อวันก่อน ... ผมปั่นเส้นเพชรเกษม
ก่อนถึงแยกท่านา(นครชัยศรี) ประมาณ ๖ ถึง ๗ หลักกิโล เรียกว่าปั่นเกือบชิดฟุตบาท(ห่างจากฟุตบาทประมาณ ๑ ฟุต) อยู่ในช่วงก้มหน้าสปินความเร็วเลย ถนนโล่งๆ ข้างหน้าไม่มีรถเลย ทางตรงแต่จู่ๆ มีรถยนต์มาเฉี่ยวข้างผมไปอย่างเร็ว(เรียกว่าเฉียดไหล่ขวาผมไปนิดเดียวเอง) แรงลมทำเอาผมเซเหมือนกัน เงยหน้ามอง เห็นหลังไวปาดออกขวาไปเลนในสุด เห็นข้างหลัง รถตู้โดยสารคาดสติกเกอร์แดงตรงกลางฝาปิดท้าย ด้านบนเหนือกระจกมีสติกเกอร์แดงวงรีใหญ่ มีตัวเลข 80
ผมจอดรถแล้วมองทางหลัง เห็นรถคันอื่นๆ เรียกว่าอยู่ไกลๆ ด้านหน้าไม่มีรถ มีแต่รถตู้ที่เฉี่ยวผมไปไกล แล้วมันมาอย่างไร อยู่ๆ มาเฉี่ยวผมไปแล้วปาดข้ามเลนไปเลนในสุด ผมเสียดายที่มองทะเบียนรถไม่ทัน
มันจะเป็นอะไรไม่ได้เลย นอกจากมีเจตนากลั่นแกล้ง ให้ล้มหรือเสียหลัก
มันเป็นคำถามว่า
"เกิดอะไรขึ้นกับคนขับรถยนต์พวกนี้"
ก่อนอื่นผมอยากจะบอกว่า "ตัวผมอายุ ๔๙"
ผมปั่นจักรยาน ตัวผมเองระมัดระวังที่สุด ห่างรถใหญ่ให้มาที่สุด จะไม่ข้องแวะ หรือจะไปยุ่งอะไรกับรถพวกนี้ เพราะผมคิดเสมอว่า เรามันรถเล็ก เสียเปรียบทุกกรณี เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ผมถอยครับ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง เพราะยังอยากอยู่กับครอบครัวนานๆ ไม่ใช่กลัวนะครับ แต่มันไม่คุ้มถ้าจะไปปะทะกัน
มีข่าวการเสียชีวิต ... ของชาวจักรยาน
ผมเห็นแล้วเศร้าใจครับ เสียชีวิตเพราะความมักง่าย ใช้ชีวิตบนความเสี่ยง จึงทำให้คนอื่นมีความเสี่ยงไปด้วย เป็นเรื่องที่มีไม่จบสิ้น กรณีของเมาแล้วครับ ที่จากเนื้อข่าว วัดแอลกอฮอล์ได้ ๖๗ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินมาตรฐานกฎหมาย
เล่ามายืดยาว
จริงๆ ไม่อยากที่จะมาตั้งกระทู้เลย แต่พอเห็นข่าวแล้วก็อยากมาเตือนพวกเราๆ ชาวจักรยานด้วยกัน ถ้าปั่นเส้นเพชรเกษม ให้ระวังรถตู้โดยสารสาย 80 หรือรถคันอื่นที่มีแนวคิดในแบบที่ผมโดน
*หมายเหตุ
ไม่ต้องบอกผมให้เอาไปปั่นในหมู่บ้านหรือสนามนะครับ ผมใช้จักรยานในชีวิตประจำวันด้วย เพราะผมเองเลี่ยงที่จะใช้รถยนต์ให้มากที่สุด มีรถยนต์ใช้ครับ ๓ คัน จักรยานยนต์อีก ๒ คัน ผมถือว่าผมใช้จักรยานร่างกายผมแข็งแรงขึ้น น้ำหนักผมจาก ๘๙ กิโลกรัม วันนี้น้ำหนัก ๗๗ กิโลกรัม โรคความดันสูงกลับมาเป็นปกติ จากหัวใจเต้นผิดจังหวะก็ดีขึ้น นอนไม่กรน และหายใจสะดุด เหมือนแต่ก่อน เพราะนี้คือสิ่งที่ได้จากการปั่นจักรยานอย่างจริงจังครับ
อีกอย่างบ้านผม ... ออกจากประตูรั่วไป ๑๐๐ เมตร ก็คือถนนเพชรเกษม ครับ ผมหมดสิทธิ์เลี่ยงถนนหลัก นอกจากเอาใส่รถแล้วไปจอดข้างทางในถนนที่ไม่มีรถสัญจรเยอะ แต่ก็เสี่ยงกะรถหาย หรือทรัพย์สินในรถหายอีก คงไม่คุ้ม และไม่ใช่แนวผมครับ
เตือนภัย ... บนเส้นทางเพชรเกษม(สำหรับนักปั่น)
เริ่มปั่นจริงๆ จังๆ ก็ต้นเดือนธันวาคม
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ นับแล้วไม่หน้าต่ำกว่า ๖๐๐๐ หลักกิโล เริ่มต้นจากการฝึกเริ่มระยะทางให้ไกลขึ้น จนวันนี้ใช้ปั่นไปไหนต่อไหน ก็ใช้จักรยานเกือบจะเป็นหลัก หากไปคนเดียว ให้ปั่นไปที่ทำงานของแฟน ที่ไกลจากบ้านไป ๔๐ กว่าหลักกิโล ทั้งขาไป และกลับ หรือบางวันขากลับเอาใส่รถแฟนกลับ เรียกได้ว่าคว้าจักรยานออกทุกวัน
เมื่อวันก่อน ... ผมปั่นเส้นเพชรเกษม
ก่อนถึงแยกท่านา(นครชัยศรี) ประมาณ ๖ ถึง ๗ หลักกิโล เรียกว่าปั่นเกือบชิดฟุตบาท(ห่างจากฟุตบาทประมาณ ๑ ฟุต) อยู่ในช่วงก้มหน้าสปินความเร็วเลย ถนนโล่งๆ ข้างหน้าไม่มีรถเลย ทางตรงแต่จู่ๆ มีรถยนต์มาเฉี่ยวข้างผมไปอย่างเร็ว(เรียกว่าเฉียดไหล่ขวาผมไปนิดเดียวเอง) แรงลมทำเอาผมเซเหมือนกัน เงยหน้ามอง เห็นหลังไวปาดออกขวาไปเลนในสุด เห็นข้างหลัง รถตู้โดยสารคาดสติกเกอร์แดงตรงกลางฝาปิดท้าย ด้านบนเหนือกระจกมีสติกเกอร์แดงวงรีใหญ่ มีตัวเลข 80
ผมจอดรถแล้วมองทางหลัง เห็นรถคันอื่นๆ เรียกว่าอยู่ไกลๆ ด้านหน้าไม่มีรถ มีแต่รถตู้ที่เฉี่ยวผมไปไกล แล้วมันมาอย่างไร อยู่ๆ มาเฉี่ยวผมไปแล้วปาดข้ามเลนไปเลนในสุด ผมเสียดายที่มองทะเบียนรถไม่ทัน
มันจะเป็นอะไรไม่ได้เลย นอกจากมีเจตนากลั่นแกล้ง ให้ล้มหรือเสียหลัก
มันเป็นคำถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับคนขับรถยนต์พวกนี้"
ก่อนอื่นผมอยากจะบอกว่า "ตัวผมอายุ ๔๙"
ผมปั่นจักรยาน ตัวผมเองระมัดระวังที่สุด ห่างรถใหญ่ให้มาที่สุด จะไม่ข้องแวะ หรือจะไปยุ่งอะไรกับรถพวกนี้ เพราะผมคิดเสมอว่า เรามันรถเล็ก เสียเปรียบทุกกรณี เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ผมถอยครับ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง เพราะยังอยากอยู่กับครอบครัวนานๆ ไม่ใช่กลัวนะครับ แต่มันไม่คุ้มถ้าจะไปปะทะกัน
มีข่าวการเสียชีวิต ... ของชาวจักรยาน
ผมเห็นแล้วเศร้าใจครับ เสียชีวิตเพราะความมักง่าย ใช้ชีวิตบนความเสี่ยง จึงทำให้คนอื่นมีความเสี่ยงไปด้วย เป็นเรื่องที่มีไม่จบสิ้น กรณีของเมาแล้วครับ ที่จากเนื้อข่าว วัดแอลกอฮอล์ได้ ๖๗ มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินมาตรฐานกฎหมาย
เล่ามายืดยาว
จริงๆ ไม่อยากที่จะมาตั้งกระทู้เลย แต่พอเห็นข่าวแล้วก็อยากมาเตือนพวกเราๆ ชาวจักรยานด้วยกัน ถ้าปั่นเส้นเพชรเกษม ให้ระวังรถตู้โดยสารสาย 80 หรือรถคันอื่นที่มีแนวคิดในแบบที่ผมโดน
*หมายเหตุ
ไม่ต้องบอกผมให้เอาไปปั่นในหมู่บ้านหรือสนามนะครับ ผมใช้จักรยานในชีวิตประจำวันด้วย เพราะผมเองเลี่ยงที่จะใช้รถยนต์ให้มากที่สุด มีรถยนต์ใช้ครับ ๓ คัน จักรยานยนต์อีก ๒ คัน ผมถือว่าผมใช้จักรยานร่างกายผมแข็งแรงขึ้น น้ำหนักผมจาก ๘๙ กิโลกรัม วันนี้น้ำหนัก ๗๗ กิโลกรัม โรคความดันสูงกลับมาเป็นปกติ จากหัวใจเต้นผิดจังหวะก็ดีขึ้น นอนไม่กรน และหายใจสะดุด เหมือนแต่ก่อน เพราะนี้คือสิ่งที่ได้จากการปั่นจักรยานอย่างจริงจังครับ
อีกอย่างบ้านผม ... ออกจากประตูรั่วไป ๑๐๐ เมตร ก็คือถนนเพชรเกษม ครับ ผมหมดสิทธิ์เลี่ยงถนนหลัก นอกจากเอาใส่รถแล้วไปจอดข้างทางในถนนที่ไม่มีรถสัญจรเยอะ แต่ก็เสี่ยงกะรถหาย หรือทรัพย์สินในรถหายอีก คงไม่คุ้ม และไม่ใช่แนวผมครับ