กลับมาต่อแล้วจ้า
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 1) การเตรียมตัวก่อนเดินทางและมีรีวิวที่พัก
http://ppantip.com/topic/33596622
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 2) Day 1 Central – Wan Chai – Golden Bauhinia – Avenue of Star – SOL
http://ppantip.com/topic/33597702
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 3) Day 2 Ngong Ping – Disneyland + รีวิวเมนูพิเศษ
http://ppantip.com/topic/33611781
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 4) Day 3 วัดนางชี,สวนสวย – วัดหวังต้าเซียน – Repulse Bay- The Peak
http://ppantip.com/topic/33662137
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 5 ตอนจบ) Day 4-5 มาเก๊า 1 วัน + วันกลับ
http://ppantip.com/topic/34093652
แลกเงินไปเท่าไหร่?
นอกจากจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน และซื้อตั๋วดิสนี่แลนด์ และกระเช้านองปิงแล้ว เราคำนวณค่าโรงแรม + ค่าเดินทาง และเผื่อเงินช็อปอีกเล็กน้อย ลงตัวที่ 3200 HKD ในนี้จะมีค่ากิน ค่าที่พัก ค่าตั๋วเรือไปมาเก๊า และค่าเดินทางในฮ่องกง
ก่อนออกเดินทางทำเว็บเช็คอินจะได้หมายเลขที่นั่งมา เนื่องด้วยเรากะเพื่อนจองคนละบุ๊คกิ้ง ในตอนแรกก็เลยตกลงกันว่าจะซื้อที่นั่งติดกัน แต่ปรากฏว่า เน็ตเราไม่ดี ช้ามาก เลือกที่นั่งไม่ได้ เลยไม่ได้เลือก ช่างมัน นั่งคนละที่ก็ได้
ออกเดินทาง
เครื่องออกจากเชียงใหม่ 6 โมงเช้า เราตื่นตั้งแต่ตี 3 ออกจากบ้านตี 3 ครึ่ง ถึงสนามบินเชียงใหม่ตอนตี 4 สนามบินเงียบเหงามาก พนักงานมาเช็คอินตอนตี 5 โหลดกระเป๋าเสร็จ ก่อนผ่านตม.จะผ่านเครื่องสแกนก่อน ตรงนี้ใครมีของเหลวเกินที่กำหนดก็ต้องทิ้งค่ะ น้ำดื่มขวดเล็กก็ไม่ได้นะคะ ทิ้งอย่างเดียว แล้ว ก็ผ่านตม. (ห้ามถ่ายรูป) ผ่านตม.เข้าไปข้างใน จะมี Duty Free เครื่องออกตรงเวลา บนเครื่องมีผู้โดยสารประมาณครึ่งลำ ส่วนใหญ่เป็นคนจีน คนน้อยสามารถย้ายที่นั่งได้ นั่งตรงไหนก็ได้
วิวจากที่นั่ง 15A
วิวจากที่นั่ง 28A
ใกล้ถึงแล้ว
ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 45 นาที อุณหภูมิ 23 องศา ท้องฟ้าปลอดโปร่ง นักบินประกาศว่า วันนี้เรามาถึงเร็วกว่ากำหนดถึง 30 นาที (นี่เหยียบมิดเลยใช่มะ) เวลาที่ฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง อย่าลืมปรับนาฬิกาด้วยนะ บนเครื่อง แอร์จะแจกใบตม. ตอนนี้แหละ ถึงบอกให้เอาปากกาไปด้วย เรากะเพื่อนไม่มีปากกา เลยไม่ได้เขียน ต้องไปต่อคิวเขียนที่ด่านตม.
ลงจากเครื่องก็เดินตามประชาชนไปเรื่อยๆ ดูป้าย Immigration เดินตามบันไดเลื่อนยาวๆ มีห้องน้ำระหว่างทางหลายที่ค่ะ เดินไปจนสุดบันไดเลื่อน ให้เลี้ยวขวา จะเห็นคนต่อคิวเยอะๆ นั่นคือ ตม. ฮ่องกง (ห้ามถ่ายภาพ) ถ้ายังไม่ได้เขียนใบผ่านแดน ก็ให้มาเขียนตรงนี้ ถึงตอนนี้เรากับเพื่อนแยกแถวกันค่ะ ใจเต้นรัวๆ ผู้ชายข้างหน้าเราถูกเรียกออกไป เรานี้ใจแป้วเลย แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ ไม่มีคำถามอะไร แต่เราเตรียมเอกสารพวก แผนการเดินทาง ใบจองที่พัก ตั๋วดิสนี่แลนด์ ตั๋วนองปิง เอาไปหมดเผื่อเขาถาม แต่ก็ไม่มีคำถามอะไรผ่านมาสบายๆ ออกมาเสร็จรับกระเป๋า ตอนจะรับกระเป๋าเรากับเพื่อนยืนงงเล็กน้อย เพราะรางรับกระเป๋าเยอะมาก แล้วกระเป๋าอยู่รางไหน ไม่รู้เลยเดินหา ดูจากจอที่อยู่บนราง ที่มีโลโก้แอร์เอเชีย สรุปอยู่รางแรกซ้ายสุด เหลือกระเป๋าอยู่แค่สองสามใบ คือของเรากับเพื่อนนั่นเอง
ที่สนามบินฮ่องกงมีฟรี Wifi แต่เราลองเข้าเฟซบุ๊คก็เล่นไม่ได้ ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากรับกระเป๋าเดินออกช่องสีเขียว จะเจอ Arrival Hall ถึงตรงนี้ เราต้องซื้อบัตร Octopus ให้มองหาเค้าเตอร์กลมๆ แบบนี้
รูปนี้ยืมคุณ Bobby Ball มาค่ะ
เขียนว่า Airport Express เดินเข้าไปต่อแถว พอถึงคิวก็บอกพนักงานว่า Octopus (อ๊อกโทพุส) แล้วยื่นเงินไป 150$ ก็จะได้บัตรมา 1 ใบ ในนั้นมีเงินอยู่ 100$ อีก 50 เป็นเงินมัดจำ ให้เอามาแลกคืนก่อนกลับ จะโดนหักอีก 9$
เสร็จปั๊ป มองไปทางฝั่งตรงข้ามเค้าท์เตอร์ AE จะมีร้านค้ามากมาย ให้มองหาร้านที่มีป้ายแบบนี้
(รูปจาก Google ค่ะ)
เครื่องเราใช้ Micro sim เขาก็แนะนำอันนี้ Unlimit 7 วัน เห็นบอกว่าใช้ที่มาเก๊าได้ ไม่รู้ว่าใช้ยังไง สรุปไปมาเก๊าก็ไม่ได้ใช้
เครื่องเพื่อนเราเป็น Nano Sim ใช้แบบข้างบนไม่ได้ ต้องใช้แบบนี้
จ่ายเงินยื่นเครื่องให้พนักงาน เขาจะจัดการให้ แล้วก็เล่นเน็ตได้เลยจ้า
หมายเหตุ เพื่อนเราที่บินจากดอนเมือง นางหาร้านไม่เจอ เลยไปซื้อซิมที่เซเว่น แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ Unlimit พอวันท้ายๆนางบ่นว่าเล่นเน็ตไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ทราบว่านางได้ซิมอะไรมา
เดินทางเข้าเมือง
เราเลือกเข้าเมืองด้วยบัส A21 เพื่อไปลงจิมซาจุ่ย ให้เดินตามป้าย To City พอถึงทางแยก ด้านหน้าเป็นรถไฟ AE ให้เลี้ยวขวา ตามป้าย Bus ไป แล้วไปทางขวาอีกทีจะเป็นป้ายรถบัสเรียงกัน ก็ไปต่อแถว A21 พอถึงตรงนี้ มีรถจอดอยู่แล้วและคนก็ขึ้นไปเยอะแล้ว แต่...อิชั้นกับเพื่อน อยากนั่งหน้า เราเลยไม่ไปต่อแถวค่ะ ยืนอยู่ข้างนอก(ห่างๆป้าย) รอให้รถคันแรกออกไปก่อน แล้วค่อยไปต่อแถว ตอนนั้นไม่มีคนเลย เราเลยเป็นคนแรก ความพยายามสูงมาก รอซักแปปรถอีกคันก็มา
ขึ้นรถแตะบัตร Octopus ที่แท่นข้างคนขับ เอากระเป๋าไปวางที่ชั้นวางกระเป๋า แล้วขึ้นไปนั่งด้านบน ข้างหน้า ไม่ต้องกลัวกระเป๋าหาย เขามีกล้องวงจรปิด มีจอฉายให้ดู และมีป้ายไฟ บอกว่าต่อไปสถานีอะไร เราจะลงป้าย 13 จิมซาจุ่ย
ระหว่างนั่งรถฟ้าครึ้ม พอเข้าเขตเมืองฝนตกปอยๆ
รูปบรรยากาศข้างทางค่ะ
แชร์ทริป ตะลุยฮ่องกง-มาเก๊า 5 วัน 4 คืน (Part 2) Day 1 Central – Wan Chai – Golden Bauhinia – Avenue of Star – SOL
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี่ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แลกเงินไปเท่าไหร่?
นอกจากจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน และซื้อตั๋วดิสนี่แลนด์ และกระเช้านองปิงแล้ว เราคำนวณค่าโรงแรม + ค่าเดินทาง และเผื่อเงินช็อปอีกเล็กน้อย ลงตัวที่ 3200 HKD ในนี้จะมีค่ากิน ค่าที่พัก ค่าตั๋วเรือไปมาเก๊า และค่าเดินทางในฮ่องกง
ก่อนออกเดินทางทำเว็บเช็คอินจะได้หมายเลขที่นั่งมา เนื่องด้วยเรากะเพื่อนจองคนละบุ๊คกิ้ง ในตอนแรกก็เลยตกลงกันว่าจะซื้อที่นั่งติดกัน แต่ปรากฏว่า เน็ตเราไม่ดี ช้ามาก เลือกที่นั่งไม่ได้ เลยไม่ได้เลือก ช่างมัน นั่งคนละที่ก็ได้
ออกเดินทาง
เครื่องออกจากเชียงใหม่ 6 โมงเช้า เราตื่นตั้งแต่ตี 3 ออกจากบ้านตี 3 ครึ่ง ถึงสนามบินเชียงใหม่ตอนตี 4 สนามบินเงียบเหงามาก พนักงานมาเช็คอินตอนตี 5 โหลดกระเป๋าเสร็จ ก่อนผ่านตม.จะผ่านเครื่องสแกนก่อน ตรงนี้ใครมีของเหลวเกินที่กำหนดก็ต้องทิ้งค่ะ น้ำดื่มขวดเล็กก็ไม่ได้นะคะ ทิ้งอย่างเดียว แล้ว ก็ผ่านตม. (ห้ามถ่ายรูป) ผ่านตม.เข้าไปข้างใน จะมี Duty Free เครื่องออกตรงเวลา บนเครื่องมีผู้โดยสารประมาณครึ่งลำ ส่วนใหญ่เป็นคนจีน คนน้อยสามารถย้ายที่นั่งได้ นั่งตรงไหนก็ได้
วิวจากที่นั่ง 15A
วิวจากที่นั่ง 28A
ใกล้ถึงแล้ว
ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 45 นาที อุณหภูมิ 23 องศา ท้องฟ้าปลอดโปร่ง นักบินประกาศว่า วันนี้เรามาถึงเร็วกว่ากำหนดถึง 30 นาที (นี่เหยียบมิดเลยใช่มะ) เวลาที่ฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง อย่าลืมปรับนาฬิกาด้วยนะ บนเครื่อง แอร์จะแจกใบตม. ตอนนี้แหละ ถึงบอกให้เอาปากกาไปด้วย เรากะเพื่อนไม่มีปากกา เลยไม่ได้เขียน ต้องไปต่อคิวเขียนที่ด่านตม.
ลงจากเครื่องก็เดินตามประชาชนไปเรื่อยๆ ดูป้าย Immigration เดินตามบันไดเลื่อนยาวๆ มีห้องน้ำระหว่างทางหลายที่ค่ะ เดินไปจนสุดบันไดเลื่อน ให้เลี้ยวขวา จะเห็นคนต่อคิวเยอะๆ นั่นคือ ตม. ฮ่องกง (ห้ามถ่ายภาพ) ถ้ายังไม่ได้เขียนใบผ่านแดน ก็ให้มาเขียนตรงนี้ ถึงตอนนี้เรากับเพื่อนแยกแถวกันค่ะ ใจเต้นรัวๆ ผู้ชายข้างหน้าเราถูกเรียกออกไป เรานี้ใจแป้วเลย แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีค่ะ ไม่มีคำถามอะไร แต่เราเตรียมเอกสารพวก แผนการเดินทาง ใบจองที่พัก ตั๋วดิสนี่แลนด์ ตั๋วนองปิง เอาไปหมดเผื่อเขาถาม แต่ก็ไม่มีคำถามอะไรผ่านมาสบายๆ ออกมาเสร็จรับกระเป๋า ตอนจะรับกระเป๋าเรากับเพื่อนยืนงงเล็กน้อย เพราะรางรับกระเป๋าเยอะมาก แล้วกระเป๋าอยู่รางไหน ไม่รู้เลยเดินหา ดูจากจอที่อยู่บนราง ที่มีโลโก้แอร์เอเชีย สรุปอยู่รางแรกซ้ายสุด เหลือกระเป๋าอยู่แค่สองสามใบ คือของเรากับเพื่อนนั่นเอง
ที่สนามบินฮ่องกงมีฟรี Wifi แต่เราลองเข้าเฟซบุ๊คก็เล่นไม่ได้ ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากรับกระเป๋าเดินออกช่องสีเขียว จะเจอ Arrival Hall ถึงตรงนี้ เราต้องซื้อบัตร Octopus ให้มองหาเค้าเตอร์กลมๆ แบบนี้
รูปนี้ยืมคุณ Bobby Ball มาค่ะ
เขียนว่า Airport Express เดินเข้าไปต่อแถว พอถึงคิวก็บอกพนักงานว่า Octopus (อ๊อกโทพุส) แล้วยื่นเงินไป 150$ ก็จะได้บัตรมา 1 ใบ ในนั้นมีเงินอยู่ 100$ อีก 50 เป็นเงินมัดจำ ให้เอามาแลกคืนก่อนกลับ จะโดนหักอีก 9$
เสร็จปั๊ป มองไปทางฝั่งตรงข้ามเค้าท์เตอร์ AE จะมีร้านค้ามากมาย ให้มองหาร้านที่มีป้ายแบบนี้
(รูปจาก Google ค่ะ)
เครื่องเราใช้ Micro sim เขาก็แนะนำอันนี้ Unlimit 7 วัน เห็นบอกว่าใช้ที่มาเก๊าได้ ไม่รู้ว่าใช้ยังไง สรุปไปมาเก๊าก็ไม่ได้ใช้
เครื่องเพื่อนเราเป็น Nano Sim ใช้แบบข้างบนไม่ได้ ต้องใช้แบบนี้
จ่ายเงินยื่นเครื่องให้พนักงาน เขาจะจัดการให้ แล้วก็เล่นเน็ตได้เลยจ้า
หมายเหตุ เพื่อนเราที่บินจากดอนเมือง นางหาร้านไม่เจอ เลยไปซื้อซิมที่เซเว่น แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ Unlimit พอวันท้ายๆนางบ่นว่าเล่นเน็ตไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ทราบว่านางได้ซิมอะไรมา
เดินทางเข้าเมือง
เราเลือกเข้าเมืองด้วยบัส A21 เพื่อไปลงจิมซาจุ่ย ให้เดินตามป้าย To City พอถึงทางแยก ด้านหน้าเป็นรถไฟ AE ให้เลี้ยวขวา ตามป้าย Bus ไป แล้วไปทางขวาอีกทีจะเป็นป้ายรถบัสเรียงกัน ก็ไปต่อแถว A21 พอถึงตรงนี้ มีรถจอดอยู่แล้วและคนก็ขึ้นไปเยอะแล้ว แต่...อิชั้นกับเพื่อน อยากนั่งหน้า เราเลยไม่ไปต่อแถวค่ะ ยืนอยู่ข้างนอก(ห่างๆป้าย) รอให้รถคันแรกออกไปก่อน แล้วค่อยไปต่อแถว ตอนนั้นไม่มีคนเลย เราเลยเป็นคนแรก ความพยายามสูงมาก รอซักแปปรถอีกคันก็มา
ขึ้นรถแตะบัตร Octopus ที่แท่นข้างคนขับ เอากระเป๋าไปวางที่ชั้นวางกระเป๋า แล้วขึ้นไปนั่งด้านบน ข้างหน้า ไม่ต้องกลัวกระเป๋าหาย เขามีกล้องวงจรปิด มีจอฉายให้ดู และมีป้ายไฟ บอกว่าต่อไปสถานีอะไร เราจะลงป้าย 13 จิมซาจุ่ย
ระหว่างนั่งรถฟ้าครึ้ม พอเข้าเขตเมืองฝนตกปอยๆ
รูปบรรยากาศข้างทางค่ะ