เหตุเกิดเย็นวันพุธ จขกท ทานหอยแมลงภู่ลวก จิ้มน้ำจิ้มเปรี้ยวปื๊ด
ตีสาม ฝันกลายเป็นจริง ฝันว่าท้องเสียตื่นมาคลำๆดูพบว่าไม่ใช่ความฝันซะแล้ว
ลุกเข้าห้องน้ำ น้ำล้วนๆไม่มีใยเลย
ตั้งแต่ตีสามถึง แปดโมงเช้า 6 รอบ ตัดสินใจไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เป็นของรัฐบาล จขกท ใช้สิทธิ์จ่ายเงินสด
ระหว่างรอพบหมออีก 2 ชั่วโมง เข้าห้องน้ำอีก 3 ครั้งที่โรงพยาบาล

หมอ: เป็นไรมาครับ
จขกท: ท้องเดินครับ
หมอ: อาการเป็นไงถ่ายกี่รอบแล้ว
จขกท: เมื่อกี่ก็เพิ่งเข้าห้องน้ำมาครับ ถ่ายเป็นน้ำ เกือบสิบครั้งแล้ว ปวดท้อง อ่อนแรง มีอาการคลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน เหมือนๆจะมีไข้ด้วย
หมอ: โอเค คงจะอาหารเป็นพิษ หมอให้ยาแก้อาเจียนนะ ทานก่อนอาหาร ทานน้ำเยอะๆ เชิญรอหน้าห้องจ่ายยาได้เลยครับ

สรุปหมอจ่ายยาแก้คลื่นไส้ให้อย่างเดียวครับ ตอนไปรับยาคนจัดยายังงง (คนจัดยาถามว่าหยุดถ่ายหรือยัง จขกท ตอบว่ายัง)


กลับบ้านทานยา นอน เริ่มมีไข้ออกไปซื้อไทลินอลมาทาน ทุกครั้งที่ทานอะไรเข้าไป สักพักต้องเข้าห้องน้ำ จนเช้าวันศุกร์ยังไม่หาย
ตัดใจไปอีกโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ไม่ใช่โรงพยาบาลเดิม (โรงพยาบาลแรกอยู่จังหวัดหนึ่งใกล้กทม ครั้งที่สองเป็นโรงพยาบาลในกทม)

หมอ: เป็นไรมาครับ
จขกท: ท้องเดินครับ ไปหาหมอมาแล้วที่...หมอให้ยาแก้คลื่นไส้มาอย่างเดียว ตอนนี้ยังไม่หยุดถ่ายครับ ปวดท้อง มีไข้ คลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน
หมอ: เออให้ยาไม่เกี่ยวกับท้องเสียเลยนะ 555
หมอ: ฉีดยาดีกว่านะ หน้าซีดๆ ให้น้ำเกลือสักขวดดีไหม
จขกท: ได้ครับ
หมอ: โอเค เชิญรอหน้าห้องเดี๋ยวให้น้ำเกลือสัก 2 ชั่วโมงแล้วกลับบ้านได้เลยครับ



อาการปัจจุบันไม่มีไข้ ไม่คลื่นไส้ แต่ยังถ่ายอยู่ เริ่มมีกากบ้างแล้ว

ปล. จขกท สงสัยว่าทำไมหมอคนแรกไม่ให้ยาฆ่าเชื้อ ทำไมหมอคนที่สองต้องหัวเราะแล้วบอกว่ายาไม่เกี่ยวกับโรค (จขกท คิดว่าเกี่ยว เพราะ จขกท มีอาการคลื่นไส้)
อยากให้ผู้มีความรู้หรือหมอ ในห้องนี้ช่วยวิเคราะห์ การรักษาของหมอ สองท่านนี้หน่อยครับ

ขอบคุณครับ