อยากได้ไอเดีย งานแต่งในฝัน หน่อยครับผม

เวลาเพื่อนๆจินตนาการถึงงานแต่งของตัวเองในอนาคต   ผมคิดว่า หลายๆคนอาจมีภาพงานแต่งในฝันแตกต่างกันออกไป
แต่เชื่อว่า ทุกคนก็คงอยากจะให้ บรรยากาศภาพรวมในงานมันสวยงาม ประทับใจ มีความสุข สนุกสนาน เป็นที่จดจำสำหรับตัวเราไปตลอดชีวิต คิดขึ้นมาครั้งใด ก็มีความสุข  เป็นภาพฝันฟุ้งๆที่ผมคิดมาตลอด

แต่ในความเป็นจริง  ด้วยธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ในงานแต่งงานที่ผมเคยเห็นเคยได้ไปร่วมมา  มันมีอะไรหลายๆอย่างที่รู้สึกได้ว่า มันไม่ได้ออกมาอย่างที่หลายๆคนฝันกันเอาไว้  โดยเฉพาะ สีหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาว   ดูเหนื่อยกันมาก  คงต้องลำบากอะไรมาเยอะตั้งแต่เช้า ซึ่ง อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าเวลาเราแต่งเราก็ต้องเหนื่อย ต้องลำบาก ต้องลุ้น อะไรบ้าง  ตกลงนี่วันสำคัญ วันที่เรามีความสุข หรือวันที่เราต้องมาลุ้นมาเหนื่อยมาทรมานกันแน่

ผมก็เลยคิดว่า ถ้าเอาแค่ความฝัน(ที่พอจะเป็นไปได้นะครับ) เพื่อนๆอยากจะมีงานเลี้ยงแต่งงานในลักษณะไหนกันบ้างครับ อยากได้ไอเดีย เผื่อเอามาใช้กับงานของผม(ยังไม่ได้แต่งเร็วๆนี้หรอกนะครับ แต่ คิดเอาไว้ก่อน เพราะมีเวลาอีกเยอะก็จะได้ สมบูรณ์มากขึ้น) แต่ผมคงตัดอะไรหลายๆอย่างที่ไม่อยากทำออกไป แล้วก็ คงเตรียมงานให้มันออกมาแบบที่เราชอบมากที่สุด  คือวันจริง เราจะไม่เหนื่อย ไม่ลุยอะไรหนัก   เราจะชิวๆ กับวันสำคัญของเรา และมีความสุขจริงๆ แบบที่เราต้องการ

ผมขอยกตัวอย่างงานแต่งในฝันของผมก่อนเลยครับ ที่คิดว่าจะทำแน่ๆ เราจะไม่มาสนใจกะเรื่องเงินทองนะครับ เอาแค่ไอเดียก่อนที่พอจะเป็นไปได้และที่เราอยากให้เป็น

1. จัดที่ทะเลครับ   สำหรับผมแล้วหอประชุมต่างๆ ไม่ว่าจะโรงแรม หรือ เทศบาลเมือง หรือ สโมสร ต่างๆ  มันปิดกั้นจินตนาการในหัวมากเลย  ดูอึดอัด  ในเมื่อชีวิตจริงเราไม่เคยได้ไปเหยียบสถานที่แห่งนั้นเลยซักครั้ง แล้วทำไม วันแต่งงานเรา เราจะต้องเอางานที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆในชีวิตเรา ไปอยู่ที่ตรงนั้นด้วยล่ะครับ   ไอ้เรื่องความสะดวก สบาย จอดรถง่าย ใครมาง่าย ก็เข้าใจครับ  แต่ในเมื่อมันเป็นงานแต่งในฝันทั้งที ก็ขอฝันว่า จัดที่ทะเล แล้วกันครับ ในความเป็นจริงก็คงต้องไปติดต่อ หาสถานที่ดู  ซึ่งก็คงต้องไม่ไกลมาก แล้วก็เพื่อนสนิทสามารถมาได้จริง  ที่อยากให้เป็นทะเล ก็เพราะไม่อยากเหมือนใคร แล้วก็รู้สึกว่าทะเลเป็นสถานที่ที่โรแมนติค  มันเป็นที่ที่แปลกตากว่าชีวิตในวันปกติของเราๆ   มันเป็นความชอบส่วนตัวอะครับ    แต่ก็ห่วงเรื่องลม อยู่เหมือนกัน แต่ช่างมันครับค่อยไปแก้ปัญหาเอา

2. แขกที่มาในงาน  อันนี้ขอใช้คำว่า เลือก เลยดีกว่าครับ    เชิญเฉพาะ คนที่เราอยากให้มา  คนที่เราสองคนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว อยากให้มา  คนที่เราไม่รู้จัก ผู้หลักผู้ใหญ่ ที่ไม่สนิท  สส นายอำเภอ นายกเทศบาล นายกโน่นนั่นนี่ ใครก็ตาม    ถ้าไม่ใช้ญาติสนิทจริงๆ   ไม่ต้องมาดีกว่าครับ   เพราะคุณก็คงไม่ได้อยากมา อยู่แล้ว ก็แหง๋แหละ ก็เราไม่รู้จักกันนี่นา  แล้ว มากันมากมาย  งานที่เป็นกันเอง ก็จะกลายเป็นทางการ  แล้วเราจะมีความสุขกับงานที่ต้องมาเกรงใจคนไม่สนิทได้ยังไงล่ะครับ   ชีวิตเราก็มีคนที่เรารัก คนที่เราสนิท   วันสำคัญของเรา ก็ขอเป็นปาร์ตี้สำหรับกลุ่มที่เราสนิทจริงๆ ก็พอ  ถึงจะมีแค่ สามสี่โต๊ะ แต่มันก็เพียงพอแล้วนี่นา  ก็ในเมื่อเราสนิทกับคนบนโลกนี้ แค่ สามสี่โต๊ะ  แล้วเราจะไปเรียนเชิญ คนที่ไม่สนิทมาให้งานมันใหญ่โต กดดันตัวเองทำไม เวลาเราอยู่กับเพื่อนเราทำตัวแบบไหน เราเป็นตัวของเราเอง มองไปทางไหนก็เจอแต่คนที่เรารัก สบายๆ กันเอง   ถ้ามีแขกที่เราไม่รู้จัก เพื่อนพ่อ ญาติแม่ กำนัน อบต ผอ โน่นนั่นนี่ ไม่ใช่ละ  เราจะกดดัน กลัวทำโน่นนี่ไม่ถูกใจคนเหล่านี้  ทั้งๆที่ ผ่านจากคืนนี้ไป เราจะได้เจอคนเหล่านี้อีกหรือเปล่าในชีวิต ก็ยังไม่รู้  เราจะมาเครียด กดดัน กับคนพวกนี้ทำไม ผมก็ไม่เข้าใจ        

อันนี้ผมยืนยันเลยว่า งานผมจะเป็นแบบนั้น   เพราะคิดเอาไว้นานแล้ว  เรื่องเงินเรื่องซอง ไม่เป็นไรครับ เราเสียเงินกับเรื่องที่เปล่าประโยชน์มากมาย  แล้วทำไมจะเสียเงินกับสิ่งที่อยากจะให้มันเกิดขึ้นจริงๆไมไ่ด้    โต๊ะน้อย ซองน้อย  แล้วไงครับ  ในเมื่อคนที่เรารัก คนสำคัญกับชีวิตเราที่เราอยากให้มางาน   สำหรับคนกลุ่มนี้แล้ว เขาอยู่กับเรารักเรา เคียงข้างเรามาทั้งชีวิต  และวันนี้เขาจะมาร่วมแสดงความยินดีกับเรา  เอาตรงๆ เรื่องซองตัดทิ้งไปเลยดีกว่า เราก็ยังไม่อยากเก็บคนพวกนี้อยู่แล้ว เปลี่ยนเป็นเราเป็นฝ่ายให้ซองพวกเขายังได้เลยครับ ซองค่ารถ ซองค่าเดินทาง กรุณมามาเป็นเกียรติกูเถอะ พวกคุณ พวกทั้งหลายนี่แหละ คือผู้มีพระคุณ คือคนสำคัญของชีวิตกูเลย  ถ้าเดินทางมากันไม่ได้เพราะลำบาก เราก็ยังแทบต้องเหมารถไปรับมาให้ได้ เพราะเราสนิท เรารักคนกลุ่มนี้  มาร่วมอวยพรกับเราทั้งที  มามีความสุขกันดีกว่าอยากให้พวกแกมาอยู่ในวันที่เรามีความสุขที่สุด แค่นี้ก็พอแล้ว

3. สัตว์เลี้ยงของเรา     อันนี้มีในหัวทุกครั้งที่คบกับแฟน แล้วเราไปซื้อสัตว์เลี้ยง มาเลี้ยง   ภาพที่ผมเห็นคือ สัตว์เลี้ยงของผมเหล่านี้ ใส่สูทมาร่วมงานแต่งงานของผม (ซึ่งมันคงไม่ได้มาเองเนาะ เราก็คงจะบังคับใส่เสื้อผ้าให้มัน แล้วก็เอามาโชว์ในงาน)  ตอนนี้ก็ชักเยอะแล้วครับ ทั้งนก ทั้งหมา   เตรียมตัดชุดไปโชว์ตัวในงาน ได้เลย   นกก็คงจะหากรงสวยๆมาให้อยู่โชว์ความงาม กันซักวัน  แขกเหรื่อ สามสี่โต๊ะ ซึ่งก็คงจะชินกับนกผมอยู่แล้ว ก็จะมาเห็นนกผมในกรงอันสวยงาม พร้อมชุดสูท     สุนัข อีกสามตัว ที่ มีสูทก็มาออกงาน ผูกไว้ใกล้ๆ กะนก หรือจะ ให้เด็กๆ พาไปวิ่งเล่นที่ทะเล ก็ได้  สุนัขสีขาว ก็สูทดำ สุนัขสีดำ ก็สูทขาว  หึๆๆๆๆ      ลูกๆเหล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวความรักของเรา เพราะฉะนั้นในวันสำคัญนี้ ก็ต้องมีบทบาทกันหน่อย

4. ฟองสบู่   อันนี้ชอบส่วนตัว  ก็อยากให้มีฟองสบู่เยอะๆ  ให้มันฟุ้งๆ เพ้อๆ  สวยงามหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้ แต่ชอบ  เอาเครื่องผลิตฟองมาเป่าเล่น ลอยๆ รอบงาน ให้ทั้งงาน อบอวล ไปด้วยฟองสบู่ อันนี้เอาแบบพอจะเป็นจริงได้ ก็ต้องดูว่าแพงถูกซักแค่ไหนก่อน    แต่ถ้ามันลอยล่องจนทำให้แขกผู้มีเกียรติรำคาญ อันนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะเราคัดเลือกแขกผู้มีเกียรติเอาไว้แล้ว ซี้กันทั้งนั้น  มีไรพูดกันตรงๆ ไม่มีไปแอบด่าเราลับหลัง  เพราะคนพวกนั้นเราไม่ได้เชิญมา  สบายใจได้ งานจะดีไม่ดี ไม่มีใครว่า   เพราะงานเราเอง  เราก็ทำแต่สิ่งที่เราต้องการไม่ต้องแคร์ใครมากก็ได้  วันของเราทั้งทีนี่นา

5. พิธีกรรม บนเวที    อันนี้ยังไม่ได้คิด แต่ ไม่เอาแบบ  คนใหญ่คนโตนายก มาอวยพร      เอาพ่อแม่ มาอวยพร  อยากได้แค่นั้น  จะอวยพร ออกไมค์ หรืออวยพร ปากเปล่า ก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ก็คือ อยากมีศิริมงคลกับชีวิต ก็ต้อง มีซีน พ่อแม่อวยพร แน่นอน    ส่วนตัวเราก็พูดพอได้  ก็ต้องมีการพูดความในใจให้เพื่อนๆและญาติสนิทฟัง เกี่ยวกับความรู้สึก ความรัก บลาๆ ที่มีแต่แฟน  ส่วนแฟน  ร้องเพลงเพราะ ก็ต้องมี ซีน โชว์พลังเสียงแน่นอน เราก็เล่นดนตรีให้แฟนร้อง  ซ้อมซักเดือน เพลงสำคัญๆ ความหมายดีๆ มีที่มาที่ไป  เก็บเป็นวีดีโอไว้  (เดี๋ยวนี้ยังใช้คำว่าวีดีโอกันอยู่ไหมเนี่ย)     โดยรวมเอาไว้ค่อยคิด แต่ก็คิดคร่าวๆเอาไว้  ประมาณนี้ ถึงวันงาน ค่อยเพิ่ม ค่อยลด ค่อยแก้ อะไรอีก   


ทั้งหมดนี้ คงอีกนานที่จะเกิดขึ้น แต่ ก็ มีการลิสต์รายชื่อแขกเอาไว้ในใจแล้ว  เพียงแต่เจ้าตัวยังไม่รู้เท่านั้นเอง ว่าจะต้องไป  เอาไว้ใกล้ๆ ค่อยบอก 5555

  ยังไงถ้าใครมีไอเดียอะไร ลองแชร์ได้นะครับ  เราไม่ต้องเอาที่เขาทำกัน หรือสิ่งที่ต้องมีโน่นนั่นนี่ ให้เหมือนงานทั่วๆไปก็ได้ครับ ถ้าเราไม่ชอบ  งานเรา ครับ  เงิน เรา เราจะทำยังไงมันก็เรื่องของเรา  ถ้าทำไม่ดีแล้วคนจะว่า ผมก็เลือกคนมางานที่เขาจะไม่ว่าผมแน่ๆ เพราะในชีวิตจริงคนพวกนี้ก็ไม่เคยว่า มีแต่จะรักและเอ็นดูเรา จากใจ เพราะฉะนั้นปัญหานี้ก็ตัดไป

ไม่ได้มาชวนเพื่อนๆ ทำอะไรพิสดาร หรือแหวกแนว นะครับ แค่ความฝันเองครับ  ถ้าไม่มีขีดจำกัดเรื่องหน้าตาในสังคม ความรู้สึกของคนรอบตัว ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน หรืออะไรก็ตามที่มันทำให้คุณทำอะไรไม่ได้ตามที่ใจคุณต้องการ


ถ้าจินตนาการได้เอง ออกแบบได้เอง จริงๆ   คุณอยากมีงานแต่งในฝันแบบไหนกันบ้างเหรอครับ แชร์กันหน่อยสิครับ ผมจะเก็บไปทำตามสำหรับความคิดเห็นหรือไอเดียที่น่าสนใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่