สวัสดีค่ะ สาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
พบกับกระทู้ Eurovision Magazine ฉบับทดลองอีกเช่นเคยค่ะ
วันนี้เข้าสู่บรรยากาศแบบโรโทรเต็มขั้นเลยนะคะ
เพราะว่าเราจะมาพูดถึงเซลีน ดิออน นักร้องดังระดับโลกกัน ถ้าใครเป็นแฟนเพลงของเธอก็จะรู้ว่าเธอเคยประกวดยูโรวิชั่นกับเขาด้วย
และเธอก็คว้าแชมป์เมื่อ 27 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะไปประสบความสำเร็จระดับโลกในเวลาต่อมา
เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 27 ปี เมื่อวันก่อน (30 เมษายน ตั้งกระทู้ช้าไปสองวัน) เราเลยตั้งกระทู้นี้เพื่อมาดูว่าตอนนั้นเธอเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
ก่อนอื่นต้องออกตัวไว้ก่อนว่าเกิดไม่ทันเหตุการณ์นั้น ซึ่งอาจจะมีข้อผิดพลาดก็ได้ ถ้าแฟนพันธุ์แท้ของป้าเซลีนทักท้วง
ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ต้องบอกไว้ก่อนว่าบรรยากาศยูโรวิชั่นเมื่อตอนนั้นไม่ได้เหมือนตอนนี้นะคะ
เพราะสมัยนั้น บรรยากาศดูเหมือนงานทางการของคนชนชั้นสูง ผู้เข้าชมต้องแต่งตัวสุภาพมากๆ แน่นอนว่าผู้ชายใส่สูท ผู้หญิงแต่งชุดราตรี ไม่ได้ดูเหมือนงานปาร์ตี้คอนเสิร์ตอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
มีวงซิมโฟนี่ออเคสตร้าทำหน้าที่บรรเลงเพลงที่เข้าประกวดทุกเพลง มีวาทยากรจากประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันคอยคุมวง (ก่อนจะมายกเลิกในปี 1999)
เป็นช่วงที่ยังจำกัดการใช้ภาษาในบทเพลงที่ต้องใช้ภาษาราชการของประเทศที่เช้าแข่งขันเท่านั้น (ก่อนจะถูกยกเลิกในปี 1999 แล้วต่อมามีแต่เพลงภาษาอังกฤษเกือบทุกเพลงมาตลอดจนถึงทุกวันนี้)
ไหนจะตอนประกาศคะแนนที่จะได้ยินแต่เสียง (ก่อนจะได้เห็นหน้าผู้ประกาศคะแนนตั้งแต่ปี 1994) และคะแนนก็มาจากกรรมการล้วนๆ สมัยนั้นไม่มีการโหวตจากทางบ้าน (ก่อนจะมีตั้งแต่ปี 1997) แต่ระบบคะแนน (12, 10, 8-1 คะแนน) ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1975 ยังเหมือนเดิมทุกประการ
วันที่ 30 เมษายน 1988 มีการจัดประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป หรือยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ ทึ่หอประชุมซิมมอนสเกาท์ สมาคม RDS ในเมืองดับบลิน เมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ มีประเทศเข้าร่วมแข่งขันเพียง 21 ประเทศ แน่นอนว่ายุคนั้นแข่งรอบเดียวหาแชมป์เลย ไม่ได้มีรอบรองชนะเลิศเพื่อคัดทิ้งเหมือนยุคนี้
ทีนี้มาดูว่าป้าเซลีน หรือที่แฟนคลับเรียกเธอว่าป้าเตารีดในยุคนั้น ตอนนั้นอายุแค่ 20 ปี เป็นนักร้องคนหนึ่งแถวคิวเบกในแคนาดา ที่มีแต่ผลงานเพลงภาษาฝรั่งเศสซึ่งประสบความสำเร็จระดับหนึ่งในประเทศตัวเอง และฝรั่งเศส แม้ว่าเธอเคยได้แชมป์ประกวดร้องเพลงระดับโลกของยามาฮ่า ในปี 1982 แต่เธอเลือกที่ลุยในวงการเพลงต่อ โดยเธอเข้ามาแข่งประกวดเพลงระดับประเทศของสวิตเซอร์แลนด์เพื่อหาตัวแทนประเทศไปแข่งยูโรวิชั่นในปี 1988 ซึ่งในตอนนั้นกองประกวดยูโรวิชั่นอนุญาตให้นักร้องต่างสัญชาติเข้าร่วมได้ (ซึ่งปัจจุบันยังอนุญาติอยู่) ทั้งที่เธอไม่ได้เป็นชาวสวิสแต่กำเนิดซะหน่อย แต่เธอเลือกมาแข่งงานนี้เพื่อปูทางในการขยายตลาดให้มากกว่าที่คิวเบกและฝรั่งเศส
และเธอก็ได้แชมป์ระดับประเทศไป เป็นตัวแทนของสวิตเซอร์แลนด์ไปแข่งยูโรวิชั่นในปีนั้น
โดยส่งเพลง Ne Partez Pas Sans Moi ไปประกวด มาในแนวป๊อปบัลลาด
มิวสิควิดีโอที่ส่งไปในตอนนั้น
ตอนไปประกวดจริงในวันแข่ง (แน่นอนว่าเธอร้องสดค่ะ ไม่ลิปซิงค์ออย่างที่เป็นๆอยู่ เพราะเป็นกฏของยูโรวิชั่นที่เข้าแข่งขันต้องร้องสด)
เธอถูกจับตามองว่าเป็นม้ามืดนอกสายตาในปีนั้น
ซึ่งเธอต้องแข่งกับคนนี้... มือวางอันดับหนึ่งของปีนั้น คือ สก๊อต ฟิสเจอร์ราด นักร้องจากสก๊อตแลนด์ ตัวแทนของสหราชอาณาจักร
โดยส่งเพลง Go เข้าประกวด มาแนวซอฟท์ร๊อคบัลลาด
ในวันแข่งจริงของเขา
ถ้าใครติดตามเซลีนในตอนนั้นจะรู้ว่าเป็นละครชีวิตดีๆเรื่องหนึ่งไปเลย
เพราะเป็นช่วงประกาศคะแนน ต้องลุ้นไปจนถึงประเทศสุดท้ายที่จะประกาศผลคะแนน กว่าจะรู้ดำรู้แดงว่าใครได้เป็นแชมป์
ทั้งสองคน ผลัดกันเป็นที่ 1 และที่ 2 กันมาตลอดงาน
ปีนั้นเป็นปีแรกที่ใช้ระบบกราฟิคกระดานคะแนนบอกผลและตัดภาพไปที่ห้องกรีนรูมด้วย เพราะแต่ก่อนต้องใช้กล้องจับภาพแต่กระดานคะแนนบนเวทีตอนประกาศผล
นี่คือช่วงประกาศผล 4 คลิปจาก 5 คลิป (ถ้าใครมีเวลาสามารถดูดราม่าแย่งที่ 1 ตลอดเรื่อง ได้เลย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ทีนี้ก็เหลือประเทศสุดท้ายที่จะประกาศคะแนนคือ ยูโกสลาเวีย
ตอนนั้นป้าเซลีน ตามลุงสก๊อตเพียง 5 คะแนน ด้วยคะแนน 131-136
ต้องตัดสินด้วยคะแนนจากประเทศนี้ว่าจะให้คะแนนที่ประเทศใดบ้าง และป้าเซลีนจะกลับมานำได้ไหม
ซึ่งตอนนั้นลุงสก๊อตเหมือนจะดีใจล่วงหน้าแล้ว
ผลปรากฏว่า ผู้ประกาศคะแนนจากยูโกสลาเวียให้ 6 คะแนนให้สวิตเซอร์แลนด์
ทำให้ป้าเซลีนนำลุงสก๊อตด้วยคะแนน 137-136
ซึ่งลุงสก๊อตต้องลุ้นให้ทางนั้นให้คะแนนช่วงระหว่าง 7-8, 10 และ 12 คะแนน มาที่เขา
เพื่อที่เขาจะเป็นแชมป์....
แต่ว่า...
ยูโกสลาเวียให้ 7 คะแนนให้เนเธอร์แลนด์ ให้เยอรมนี 8 คะแนน นอร์เวย์ 10 คะแนน
ต้องลุ้น 12 คะแนน เพื่อให้แชมป์...
ผลปรากฏว่า....ยูโกสลาเวียให้สเปน 12 คะแนน
แน่นอนค่ะว่าป้าเซลีนเป็นแชมป์แบบฉิวเฉียด ชนะลุงสก๊อตไปแค่คะแนนเดียว
แต่ต่อมา ผู้ประกาศจากยูโกบอกว่าประกาศประเทศที่ได้ 12 คะแนนผิด จนต้องประกาศใหม่ แต่ยังไงก็ไม่เข้าทางลุงสก๊อตอยู่ดี
เพราะ 12 คะแนน ที่ประกาศใหม่ให้ฝรั่งเศสไปครอง...
ป้าเซลีนได้แชมป์
ส่วนลุงสก๊อตชวดแชมป์อย่างหัวใจสลาย
หลังจากที่ป้าเซลีนได้แชมป์ยูโรวิชั่นในปีนั้น
เธอไม่ได้ดังเปี้ยงปร้างแบบทันทีนะคะ ซึ่งต่างจาก ABBA ที่เพลง Waterloo ดังเปรี้ยงทันทีหลังได้แชมป์ในปี 1974
แถมเพลง Ne Partez Pas Sans Moi ก็ไม่ได้ถูกจดจำมากเท่าไหร่ แถมขายเพลงได้ในระดับหนึ่งในยุโรปเท่านั้น
แต่นั่น...เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่เธอจะประสบความสำเร็จระดับโลกในเวลาต่อมา
เพราะหลังจากนั้นก็แอบซุ่มเรียนภาษาอังกฤษแบบจริงจังเพื่อออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรก ชื่อชุด Unison ในปี 1990
แต่ก่อนหน้านั้น เธอเคยฝากผลงานเพลงใหม่ของเธอในยูโรวิชั่น 1989 ซึ่งเธอมาในฐานะแชมป์ปีที่แล้วร้องเพลงก่อนเปิดงาน
โดยเธอร้องเพลง Ne Partez Pas Sans Moi และเพลง Where Does My Heart Beat Now (คุ้นๆไหมคะ) ซึ่งเพลงหลังนี่แหล่ะเธอมาเปิดตัวเพลงนี้ 1 ปี ก่อนเพลงนี้จะดังไปทั่วโลก และเป็นจุดเริ่มต้นในการมีชื่อเสียงในวงกว้าง
เพลง Where Does My Heart Beat Now ในยูโรวิชั่น 1989 (เธอลิปซิงค์เอา)
ส่วนนี่เอ็มวีเพลงนี้ในหนึ่งปีต่อมา ซึ่งตอนนั้นขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดสูงสุดอันดับที่ 4
27 ปี ต่อมา ป้าเซลีนยังเป็นที่กล่าวถึงอยู่ แม้จะเป็นช่วงขาลงก็ตาม
แต่ส่วนลุงสก๊อต รองแชมป์ หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยเห็นผลงานซักเท่าไหร่
ตอนนั้นจะเรียกว่าฟ้าลิขิตหรือผู้กรรมการยูโกคิดถูกที่ให้ 12 คะแนน ให้ประเทศอื่นที่ไม่ใช่สหราชอาณาจักรหรือเปล่า
เพราะไม่อย่างนั้น เราอาจจะไม่ได้ยินบทเพลง My Heart Will Go On และเพลงอมตะอื่นๆ จากเธอแน่ๆเลย
ขอบคุณที่อ่านกระทู้นี้ค่ะ สามารถติชม และแสดงความเห็นกันนะคะ
สำหรับใครที่อยากรู้ว่ายูโรวิชั่นคืออะไร สามารถถามในกระทู้นี้ได้ค่ะ
[Eurovision Magazine] 27 ปีที่แล้ว ของเซลีน ดิออน
สวัสดีค่ะ สาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
พบกับกระทู้ Eurovision Magazine ฉบับทดลองอีกเช่นเคยค่ะ
วันนี้เข้าสู่บรรยากาศแบบโรโทรเต็มขั้นเลยนะคะ
เพราะว่าเราจะมาพูดถึงเซลีน ดิออน นักร้องดังระดับโลกกัน ถ้าใครเป็นแฟนเพลงของเธอก็จะรู้ว่าเธอเคยประกวดยูโรวิชั่นกับเขาด้วย
และเธอก็คว้าแชมป์เมื่อ 27 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะไปประสบความสำเร็จระดับโลกในเวลาต่อมา
เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 27 ปี เมื่อวันก่อน (30 เมษายน ตั้งกระทู้ช้าไปสองวัน) เราเลยตั้งกระทู้นี้เพื่อมาดูว่าตอนนั้นเธอเป็นอย่างไรบ้างค่ะ
ก่อนอื่นต้องออกตัวไว้ก่อนว่าเกิดไม่ทันเหตุการณ์นั้น ซึ่งอาจจะมีข้อผิดพลาดก็ได้ ถ้าแฟนพันธุ์แท้ของป้าเซลีนทักท้วง
ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ต้องบอกไว้ก่อนว่าบรรยากาศยูโรวิชั่นเมื่อตอนนั้นไม่ได้เหมือนตอนนี้นะคะ
เพราะสมัยนั้น บรรยากาศดูเหมือนงานทางการของคนชนชั้นสูง ผู้เข้าชมต้องแต่งตัวสุภาพมากๆ แน่นอนว่าผู้ชายใส่สูท ผู้หญิงแต่งชุดราตรี ไม่ได้ดูเหมือนงานปาร์ตี้คอนเสิร์ตอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
มีวงซิมโฟนี่ออเคสตร้าทำหน้าที่บรรเลงเพลงที่เข้าประกวดทุกเพลง มีวาทยากรจากประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันคอยคุมวง (ก่อนจะมายกเลิกในปี 1999)
เป็นช่วงที่ยังจำกัดการใช้ภาษาในบทเพลงที่ต้องใช้ภาษาราชการของประเทศที่เช้าแข่งขันเท่านั้น (ก่อนจะถูกยกเลิกในปี 1999 แล้วต่อมามีแต่เพลงภาษาอังกฤษเกือบทุกเพลงมาตลอดจนถึงทุกวันนี้)
ไหนจะตอนประกาศคะแนนที่จะได้ยินแต่เสียง (ก่อนจะได้เห็นหน้าผู้ประกาศคะแนนตั้งแต่ปี 1994) และคะแนนก็มาจากกรรมการล้วนๆ สมัยนั้นไม่มีการโหวตจากทางบ้าน (ก่อนจะมีตั้งแต่ปี 1997) แต่ระบบคะแนน (12, 10, 8-1 คะแนน) ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1975 ยังเหมือนเดิมทุกประการ
วันที่ 30 เมษายน 1988 มีการจัดประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป หรือยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ ทึ่หอประชุมซิมมอนสเกาท์ สมาคม RDS ในเมืองดับบลิน เมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ มีประเทศเข้าร่วมแข่งขันเพียง 21 ประเทศ แน่นอนว่ายุคนั้นแข่งรอบเดียวหาแชมป์เลย ไม่ได้มีรอบรองชนะเลิศเพื่อคัดทิ้งเหมือนยุคนี้
ทีนี้มาดูว่าป้าเซลีน หรือที่แฟนคลับเรียกเธอว่าป้าเตารีดในยุคนั้น ตอนนั้นอายุแค่ 20 ปี เป็นนักร้องคนหนึ่งแถวคิวเบกในแคนาดา ที่มีแต่ผลงานเพลงภาษาฝรั่งเศสซึ่งประสบความสำเร็จระดับหนึ่งในประเทศตัวเอง และฝรั่งเศส แม้ว่าเธอเคยได้แชมป์ประกวดร้องเพลงระดับโลกของยามาฮ่า ในปี 1982 แต่เธอเลือกที่ลุยในวงการเพลงต่อ โดยเธอเข้ามาแข่งประกวดเพลงระดับประเทศของสวิตเซอร์แลนด์เพื่อหาตัวแทนประเทศไปแข่งยูโรวิชั่นในปี 1988 ซึ่งในตอนนั้นกองประกวดยูโรวิชั่นอนุญาตให้นักร้องต่างสัญชาติเข้าร่วมได้ (ซึ่งปัจจุบันยังอนุญาติอยู่) ทั้งที่เธอไม่ได้เป็นชาวสวิสแต่กำเนิดซะหน่อย แต่เธอเลือกมาแข่งงานนี้เพื่อปูทางในการขยายตลาดให้มากกว่าที่คิวเบกและฝรั่งเศส
และเธอก็ได้แชมป์ระดับประเทศไป เป็นตัวแทนของสวิตเซอร์แลนด์ไปแข่งยูโรวิชั่นในปีนั้น
โดยส่งเพลง Ne Partez Pas Sans Moi ไปประกวด มาในแนวป๊อปบัลลาด
มิวสิควิดีโอที่ส่งไปในตอนนั้น
ตอนไปประกวดจริงในวันแข่ง (แน่นอนว่าเธอร้องสดค่ะ ไม่ลิปซิงค์ออย่างที่เป็นๆอยู่ เพราะเป็นกฏของยูโรวิชั่นที่เข้าแข่งขันต้องร้องสด)
เธอถูกจับตามองว่าเป็นม้ามืดนอกสายตาในปีนั้น
ซึ่งเธอต้องแข่งกับคนนี้... มือวางอันดับหนึ่งของปีนั้น คือ สก๊อต ฟิสเจอร์ราด นักร้องจากสก๊อตแลนด์ ตัวแทนของสหราชอาณาจักร
โดยส่งเพลง Go เข้าประกวด มาแนวซอฟท์ร๊อคบัลลาด
ในวันแข่งจริงของเขา
ถ้าใครติดตามเซลีนในตอนนั้นจะรู้ว่าเป็นละครชีวิตดีๆเรื่องหนึ่งไปเลย
เพราะเป็นช่วงประกาศคะแนน ต้องลุ้นไปจนถึงประเทศสุดท้ายที่จะประกาศผลคะแนน กว่าจะรู้ดำรู้แดงว่าใครได้เป็นแชมป์
ทั้งสองคน ผลัดกันเป็นที่ 1 และที่ 2 กันมาตลอดงาน
ปีนั้นเป็นปีแรกที่ใช้ระบบกราฟิคกระดานคะแนนบอกผลและตัดภาพไปที่ห้องกรีนรูมด้วย เพราะแต่ก่อนต้องใช้กล้องจับภาพแต่กระดานคะแนนบนเวทีตอนประกาศผล
นี่คือช่วงประกาศผล 4 คลิปจาก 5 คลิป (ถ้าใครมีเวลาสามารถดูดราม่าแย่งที่ 1 ตลอดเรื่อง ได้เลย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทีนี้ก็เหลือประเทศสุดท้ายที่จะประกาศคะแนนคือ ยูโกสลาเวีย
ตอนนั้นป้าเซลีน ตามลุงสก๊อตเพียง 5 คะแนน ด้วยคะแนน 131-136
ต้องตัดสินด้วยคะแนนจากประเทศนี้ว่าจะให้คะแนนที่ประเทศใดบ้าง และป้าเซลีนจะกลับมานำได้ไหม
ซึ่งตอนนั้นลุงสก๊อตเหมือนจะดีใจล่วงหน้าแล้ว
ผลปรากฏว่า ผู้ประกาศคะแนนจากยูโกสลาเวียให้ 6 คะแนนให้สวิตเซอร์แลนด์
ทำให้ป้าเซลีนนำลุงสก๊อตด้วยคะแนน 137-136
ซึ่งลุงสก๊อตต้องลุ้นให้ทางนั้นให้คะแนนช่วงระหว่าง 7-8, 10 และ 12 คะแนน มาที่เขา
เพื่อที่เขาจะเป็นแชมป์....
แต่ว่า...
ยูโกสลาเวียให้ 7 คะแนนให้เนเธอร์แลนด์ ให้เยอรมนี 8 คะแนน นอร์เวย์ 10 คะแนน
ต้องลุ้น 12 คะแนน เพื่อให้แชมป์...
ผลปรากฏว่า....ยูโกสลาเวียให้สเปน 12 คะแนน
แน่นอนค่ะว่าป้าเซลีนเป็นแชมป์แบบฉิวเฉียด ชนะลุงสก๊อตไปแค่คะแนนเดียว
แต่ต่อมา ผู้ประกาศจากยูโกบอกว่าประกาศประเทศที่ได้ 12 คะแนนผิด จนต้องประกาศใหม่ แต่ยังไงก็ไม่เข้าทางลุงสก๊อตอยู่ดี
เพราะ 12 คะแนน ที่ประกาศใหม่ให้ฝรั่งเศสไปครอง...
ป้าเซลีนได้แชมป์
ส่วนลุงสก๊อตชวดแชมป์อย่างหัวใจสลาย
หลังจากที่ป้าเซลีนได้แชมป์ยูโรวิชั่นในปีนั้น
เธอไม่ได้ดังเปี้ยงปร้างแบบทันทีนะคะ ซึ่งต่างจาก ABBA ที่เพลง Waterloo ดังเปรี้ยงทันทีหลังได้แชมป์ในปี 1974
แถมเพลง Ne Partez Pas Sans Moi ก็ไม่ได้ถูกจดจำมากเท่าไหร่ แถมขายเพลงได้ในระดับหนึ่งในยุโรปเท่านั้น
แต่นั่น...เป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่เธอจะประสบความสำเร็จระดับโลกในเวลาต่อมา
เพราะหลังจากนั้นก็แอบซุ่มเรียนภาษาอังกฤษแบบจริงจังเพื่อออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดแรก ชื่อชุด Unison ในปี 1990
แต่ก่อนหน้านั้น เธอเคยฝากผลงานเพลงใหม่ของเธอในยูโรวิชั่น 1989 ซึ่งเธอมาในฐานะแชมป์ปีที่แล้วร้องเพลงก่อนเปิดงาน
โดยเธอร้องเพลง Ne Partez Pas Sans Moi และเพลง Where Does My Heart Beat Now (คุ้นๆไหมคะ) ซึ่งเพลงหลังนี่แหล่ะเธอมาเปิดตัวเพลงนี้ 1 ปี ก่อนเพลงนี้จะดังไปทั่วโลก และเป็นจุดเริ่มต้นในการมีชื่อเสียงในวงกว้าง
เพลง Where Does My Heart Beat Now ในยูโรวิชั่น 1989 (เธอลิปซิงค์เอา)
ส่วนนี่เอ็มวีเพลงนี้ในหนึ่งปีต่อมา ซึ่งตอนนั้นขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดสูงสุดอันดับที่ 4
27 ปี ต่อมา ป้าเซลีนยังเป็นที่กล่าวถึงอยู่ แม้จะเป็นช่วงขาลงก็ตาม
แต่ส่วนลุงสก๊อต รองแชมป์ หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยเห็นผลงานซักเท่าไหร่
ตอนนั้นจะเรียกว่าฟ้าลิขิตหรือผู้กรรมการยูโกคิดถูกที่ให้ 12 คะแนน ให้ประเทศอื่นที่ไม่ใช่สหราชอาณาจักรหรือเปล่า
เพราะไม่อย่างนั้น เราอาจจะไม่ได้ยินบทเพลง My Heart Will Go On และเพลงอมตะอื่นๆ จากเธอแน่ๆเลย
สำหรับใครที่อยากรู้ว่ายูโรวิชั่นคืออะไร สามารถถามในกระทู้นี้ได้ค่ะ