ป้าด...ขึ้นกระทู้แนะนำแหละ ขอบคุณทุกๆ คนมากค่ะ
อยู่ๆ ก็มีอารมณ์นักเขียนเข้าสิง !! ไม่รู้เขียนอะไรดี เขียนเรื่องราวชีวิตของตัวเราเองนั้นแหละ
ปัจจุบันเราทำงานเป็นอาสาสมัครทหารพรานหญิงอยู่ในสามจังหวัดค่ะ
อะไรที่ทำให้เรามาทำอาชีพนี้ ทำไมถึงตัดสินใจมา เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังนะค่ะ
ขอย้อนเวลาไปในวัย 18 ก่อนเลยนะค่ะ ตอนนั้นเรียนจบ ปวช. ใหม่ๆ ได้งานทำในบริษัทแห่งหนึ่ง ปี2546
ต่ำแหน่งในการทำงานก็เป็นพนักงานขายอุปกรณ์ไฟฟ้าค่ะ ช่วงเวลานั้นเราเรียน ปวส. ภาคค่ำด้วยค่ะ
ทำงานจันทร์ถึงเสาร์ เลิกงานห้าโมงเย็นก็นั่งรถไปเรียน เราเรียนจันทร์ถึงเสาร์เหมือนกันค่ะ
เลิกเรียนสามทุ่มกว่าจะกลับถึงบ้านก็สี่ทุ่มกว่าบ้าง ห้าทุ่มบ้าง ยอมรับชีวิตช่วงนี้เหนื่อยค่ะ พักผ่อนน้อย
วันว่างวันหยุดวันอาทิตย์ ? ใครบอกว่าว่างค่ะ วันอาทิตย์เราไปเรียนนักศึกษาวิชาทหารหรือ ร.ด. นั้นเอง
บางครั้งชั่วโมงเรียนไม่พออาจารย์ก็ไปสอนวันอาทิตย์ เลิกเรียน ร.ด. เราก็รีบๆ นั่งรถมาเรียนต่อ
ในชีวิตช่วงตอนนั้นวนเวียนอยู่กับเรื่องเรียน เรื่องทำงาน แข่งขันกับเวลาให้ไปเรียนให้ทัน
วันไหนเหนื่อยมากๆ แอบไปหลับในห้องน้ำ และมันก็บ่อยครั้ง ฮา..... เงินเดือนครั้งแรกในชีวิต 4,500 บาท
ตอนนั้นการเรียนนักศึกษาวิชาทหารต้องไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ 5 วัน เราก็ลางาน 5 วันเลย เจ๋งไหมล่ะ 555 (ดีแล้วเขาไม่ไล่ออก)
กลับมาจากฝึกก็ทำงานเหมือนเดิมแล้วก็ไปแอบหลับในห้องน้ำต่อ 5555
ช่วงที่เราเรียน ปวส. เราก็ใส่เสื้อช็อปไปทำงาน เราเรียนสาขาเทคโนคอม วันไหนมีสอบก็ใส่ชุดนักศึกษาไปทำงานทั้งวัน
ตกเย็นขอเลิกงานเร็วก่อน 1 ชั่วโมงไปสอบ กลัวไปเข้าสอบไม่ทัน เคยเข้าเรียนทุกวันทุกวิชา บางครั้งก็ตกเพราะเราไปไม่ทันเช็คชื่อ
และแล้วโชคชะตาก็นำพาให้เราก็ไปสะดุดตาผู้จัดการโรงงาน ช่วงนั้นบริษัทขยายกิจการเพิ่มได้ซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นลงโรงงาน
และเขาก็หาคนเขียนโปรแกรมเครื่องจักรตัวนั้นและเราก็โชคดี(หรือเปล่าหนอ)
อยู่แผนกขายมา 2-3 เดือน ผู้จัดการโรงงานเลือกเราให้ย้ายไปอยู่แผนกแมคคานิค (เป็นสาวคนเดียวคนแรกในแผนกนั้นนะเออ)
คนในแผนกก็สอนเราเริ่มเขียนโปรแกรมเครื่องจักร แต่เครื่องจักรนั้นเป็นของประเทศเยอรมัน (ยากมาก)
เราไม่จบช่างแต่เราก็ต้องมาเรียนรู้ การเขียนแบบ ตัวเลข คำนวน ขนาด ชิ้นงาน ความหนาเหล็ก
เราต้องเช็คทุกอย่างก่อนที่จะผลิตงานออกมาสักชิ้น...
เวลาช่วงนั้นผ่านไปเราเรียนจบ ปวส. เรียนจบ ร.ด.ปี 5 อายุ 20 พอดี เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็น ว่าที่ร้อยตรีหญิง โคตรตะเท่ห์เลยยยยยยย
ชีวิตก็มาเปลี่ยนแปลงในการทำงานอีกครั้ง สะดุดตาอีกแล้ววววว งวดนี้ไปเข้าตาเจ้าของบริษัท 0_0 อาย่ะ
บริษัทมีลูกค้าอยู่เจ้านึง การทำงานกับลูกค้าเครื่อนี้วุ่นวายมาก สั่งของวันนี้เอาวันพรุ่งนี้มั่ง กดราคามั่ง โทรฟ้องนายมั่ง
แต่เจ้าของบริษัทก็ยังเลือกที่จะทำการค้ากับลูกค้าเครื่อนั้นอยู่ และจะบอกให้ว่าไม่มีใคร ไม่มีใคร !!!
ดูแลโปรเจคนี้ของลูกค้าคนนั้นได้เกิน 1 ปี อาจจะเป็นเพราะทนความกดดันไม่ไหวหรือได้งานที่ดีกว่าเลยลาออกไป
เสี่ยเจ้าของบริษัทบอกให้เรามารับผิดชอบโปรเจคนี้ เสี่ยสอนเราคำนวนชิ้นงานไว้เสนอขายให้ลูกค้า
เสียสอนทุกอย่าง และเราก็รับผิดชอบโปรเจคนั้นในวัย 21 ปี ช่วงเวลานั้นกดดันมาก เรารับผิดชอบตั้งแต่เช็คราคาสั่งซื้อ
เขียนโปรแกรมลงเครื่องจักร ไล่ตามงานแต่ละแผนก และก็ต้องแพ็คของส่งลูกค้า ยกเหล็กทุกเช้านะเออ T_T
โดนลูกค้ากดดันสุดๆ บริษัทเราทำงานหลายหน้า เราตามงานให้ไม่ทันก็โดนด่า บางครั้งก็หนีไม่รับโทรศัพท์ลูกค้า
ลงไปอยู่กับพนักงานในส่วนการผลิต หนีไม่พ้นหรอกค่ะ หนีไปงั้นเพื่อความสบายใจชั่วคร่าว
เคยอยากลาออกหลายครั้ง ไปสมัครที่ใหม่แล้วก็ไม่ได้ เราก็ได้ทำโปรเจคนั้นเรื่อยๆ จบเราอายุ 23 ตัดสินใจเรียนต่อปริญญาตรี
การเรียนปริญญาตรีเราเรียนแค่วันอาทิตย์ เรียนทั้งวัน !! วิชาล่ะ 4 ช.ม. สมาธิพี่แตกตั้งแต่ 10 นาทีแรกที่เริ่มทำการสอนแระ 555
ช่วงไหนมีสอบก็จะบอกลูกค้าห้ามตามงาน ห้ามส่ง Order ในอาทิตย์นั้นเราจะเลิกงานห้าโมงเย็น กลับห้องพักอ่านหนังสือ
โชคดีที่ลูกค้าเข้าใจ แต่พอสอบเสร็จเท่านั้นแหละ โดนตามงานกระจาย Order เข้าเป็นล้านๆ พี่ตั้งรับไม่ทันนะ เอิ๊กๆ
เวลาผ่านพ้นมาเราเรียนจบปริญญาตรีปี 53 รับปริญญาปี 54
ปี2554 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตในครั้งใหญ่ ปีที่ขอร้องแม่ลงใต้ 2 ครั้ง แม่ไม่อนุมัติ
ปีที่ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกความฝันให้เป็นจริงหรือความฝันเป็นแค่ความฝัน.....
เดี๋ยวมาต่อน่ะ มีประชุม
ขออนุญาติแท็กห้องไกลบ้านนะค่ะ ก็ไกลบ้านอยู่นะ มีระเบิดด้วยนะเออ คริคริ
เรื่องจริงของชีวิต...กว่าจะได้มาเป็นทหารพรานหญิง
อยู่ๆ ก็มีอารมณ์นักเขียนเข้าสิง !! ไม่รู้เขียนอะไรดี เขียนเรื่องราวชีวิตของตัวเราเองนั้นแหละ
ปัจจุบันเราทำงานเป็นอาสาสมัครทหารพรานหญิงอยู่ในสามจังหวัดค่ะ
อะไรที่ทำให้เรามาทำอาชีพนี้ ทำไมถึงตัดสินใจมา เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังนะค่ะ
ขอย้อนเวลาไปในวัย 18 ก่อนเลยนะค่ะ ตอนนั้นเรียนจบ ปวช. ใหม่ๆ ได้งานทำในบริษัทแห่งหนึ่ง ปี2546
ต่ำแหน่งในการทำงานก็เป็นพนักงานขายอุปกรณ์ไฟฟ้าค่ะ ช่วงเวลานั้นเราเรียน ปวส. ภาคค่ำด้วยค่ะ
ทำงานจันทร์ถึงเสาร์ เลิกงานห้าโมงเย็นก็นั่งรถไปเรียน เราเรียนจันทร์ถึงเสาร์เหมือนกันค่ะ
เลิกเรียนสามทุ่มกว่าจะกลับถึงบ้านก็สี่ทุ่มกว่าบ้าง ห้าทุ่มบ้าง ยอมรับชีวิตช่วงนี้เหนื่อยค่ะ พักผ่อนน้อย
วันว่างวันหยุดวันอาทิตย์ ? ใครบอกว่าว่างค่ะ วันอาทิตย์เราไปเรียนนักศึกษาวิชาทหารหรือ ร.ด. นั้นเอง
บางครั้งชั่วโมงเรียนไม่พออาจารย์ก็ไปสอนวันอาทิตย์ เลิกเรียน ร.ด. เราก็รีบๆ นั่งรถมาเรียนต่อ
ในชีวิตช่วงตอนนั้นวนเวียนอยู่กับเรื่องเรียน เรื่องทำงาน แข่งขันกับเวลาให้ไปเรียนให้ทัน
วันไหนเหนื่อยมากๆ แอบไปหลับในห้องน้ำ และมันก็บ่อยครั้ง ฮา..... เงินเดือนครั้งแรกในชีวิต 4,500 บาท
ตอนนั้นการเรียนนักศึกษาวิชาทหารต้องไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ 5 วัน เราก็ลางาน 5 วันเลย เจ๋งไหมล่ะ 555 (ดีแล้วเขาไม่ไล่ออก)
กลับมาจากฝึกก็ทำงานเหมือนเดิมแล้วก็ไปแอบหลับในห้องน้ำต่อ 5555
ช่วงที่เราเรียน ปวส. เราก็ใส่เสื้อช็อปไปทำงาน เราเรียนสาขาเทคโนคอม วันไหนมีสอบก็ใส่ชุดนักศึกษาไปทำงานทั้งวัน
ตกเย็นขอเลิกงานเร็วก่อน 1 ชั่วโมงไปสอบ กลัวไปเข้าสอบไม่ทัน เคยเข้าเรียนทุกวันทุกวิชา บางครั้งก็ตกเพราะเราไปไม่ทันเช็คชื่อ
และแล้วโชคชะตาก็นำพาให้เราก็ไปสะดุดตาผู้จัดการโรงงาน ช่วงนั้นบริษัทขยายกิจการเพิ่มได้ซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นลงโรงงาน
และเขาก็หาคนเขียนโปรแกรมเครื่องจักรตัวนั้นและเราก็โชคดี(หรือเปล่าหนอ)
อยู่แผนกขายมา 2-3 เดือน ผู้จัดการโรงงานเลือกเราให้ย้ายไปอยู่แผนกแมคคานิค (เป็นสาวคนเดียวคนแรกในแผนกนั้นนะเออ)
คนในแผนกก็สอนเราเริ่มเขียนโปรแกรมเครื่องจักร แต่เครื่องจักรนั้นเป็นของประเทศเยอรมัน (ยากมาก)
เราไม่จบช่างแต่เราก็ต้องมาเรียนรู้ การเขียนแบบ ตัวเลข คำนวน ขนาด ชิ้นงาน ความหนาเหล็ก
เราต้องเช็คทุกอย่างก่อนที่จะผลิตงานออกมาสักชิ้น...
เวลาช่วงนั้นผ่านไปเราเรียนจบ ปวส. เรียนจบ ร.ด.ปี 5 อายุ 20 พอดี เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อเป็น ว่าที่ร้อยตรีหญิง โคตรตะเท่ห์เลยยยยยยย
ชีวิตก็มาเปลี่ยนแปลงในการทำงานอีกครั้ง สะดุดตาอีกแล้ววววว งวดนี้ไปเข้าตาเจ้าของบริษัท 0_0 อาย่ะ
บริษัทมีลูกค้าอยู่เจ้านึง การทำงานกับลูกค้าเครื่อนี้วุ่นวายมาก สั่งของวันนี้เอาวันพรุ่งนี้มั่ง กดราคามั่ง โทรฟ้องนายมั่ง
แต่เจ้าของบริษัทก็ยังเลือกที่จะทำการค้ากับลูกค้าเครื่อนั้นอยู่ และจะบอกให้ว่าไม่มีใคร ไม่มีใคร !!!
ดูแลโปรเจคนี้ของลูกค้าคนนั้นได้เกิน 1 ปี อาจจะเป็นเพราะทนความกดดันไม่ไหวหรือได้งานที่ดีกว่าเลยลาออกไป
เสี่ยเจ้าของบริษัทบอกให้เรามารับผิดชอบโปรเจคนี้ เสี่ยสอนเราคำนวนชิ้นงานไว้เสนอขายให้ลูกค้า
เสียสอนทุกอย่าง และเราก็รับผิดชอบโปรเจคนั้นในวัย 21 ปี ช่วงเวลานั้นกดดันมาก เรารับผิดชอบตั้งแต่เช็คราคาสั่งซื้อ
เขียนโปรแกรมลงเครื่องจักร ไล่ตามงานแต่ละแผนก และก็ต้องแพ็คของส่งลูกค้า ยกเหล็กทุกเช้านะเออ T_T
โดนลูกค้ากดดันสุดๆ บริษัทเราทำงานหลายหน้า เราตามงานให้ไม่ทันก็โดนด่า บางครั้งก็หนีไม่รับโทรศัพท์ลูกค้า
ลงไปอยู่กับพนักงานในส่วนการผลิต หนีไม่พ้นหรอกค่ะ หนีไปงั้นเพื่อความสบายใจชั่วคร่าว
เคยอยากลาออกหลายครั้ง ไปสมัครที่ใหม่แล้วก็ไม่ได้ เราก็ได้ทำโปรเจคนั้นเรื่อยๆ จบเราอายุ 23 ตัดสินใจเรียนต่อปริญญาตรี
การเรียนปริญญาตรีเราเรียนแค่วันอาทิตย์ เรียนทั้งวัน !! วิชาล่ะ 4 ช.ม. สมาธิพี่แตกตั้งแต่ 10 นาทีแรกที่เริ่มทำการสอนแระ 555
ช่วงไหนมีสอบก็จะบอกลูกค้าห้ามตามงาน ห้ามส่ง Order ในอาทิตย์นั้นเราจะเลิกงานห้าโมงเย็น กลับห้องพักอ่านหนังสือ
โชคดีที่ลูกค้าเข้าใจ แต่พอสอบเสร็จเท่านั้นแหละ โดนตามงานกระจาย Order เข้าเป็นล้านๆ พี่ตั้งรับไม่ทันนะ เอิ๊กๆ
เวลาผ่านพ้นมาเราเรียนจบปริญญาตรีปี 53 รับปริญญาปี 54
ปี2554 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตในครั้งใหญ่ ปีที่ขอร้องแม่ลงใต้ 2 ครั้ง แม่ไม่อนุมัติ
ปีที่ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกความฝันให้เป็นจริงหรือความฝันเป็นแค่ความฝัน.....
เดี๋ยวมาต่อน่ะ มีประชุม
ขออนุญาติแท็กห้องไกลบ้านนะค่ะ ก็ไกลบ้านอยู่นะ มีระเบิดด้วยนะเออ คริคริ