เรื่องครอบครัวของผม ผมเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อและแม่ แต่แม่ของผมมีลูกติด 1 คน ก่อนจะมาแต่งงานกับพ่อของผม และเธอเป็นผญ ซึ่งแน่นอนครับเธอเป็นพี่สาวต่างมารดาของผม เราอายุห่างกัน 9 ปี ผมรู้สึกว่าแม่ผมรักพี่สาวมากกว่าผม อะไรที่ทำให้ผมคิดแบบนั้นนะหรอ.....
ตอนที่พี่สาวผมเรียนมหาลัย แม่ผมให้พี่ผมไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ โดยใช้เงินของพ่อผม จนตอนนี้พี่สาวผมทำงานแล้วได้เงินเดือนๆนึง ก็ราวๆ 3-4 หมื่น แต่แม่ผมก็ยังจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าไฟค่าน้ำคอนโดให้อยู่ และทุกครั้งที่พี่สาวผมไปทำงานต่างประเทศ เค้าก็มักจะมาขอเงินพ็อกเกตมันนี่แม่ทุกครั้งไป แต่ดูผมสิครับ เวลาผมอยากได้หรืออยากทำอะไร ถ้าพี่สาวผมบอกว่าไม่โอเค แม่ก็จะปฏิเสธผมทันทีครับ
ตอนนี้ผมอายุ 22 ครับ อายุเท่านี้ผมก็ควรจะเรียนจบและกำลังหางานทำแล้วใช่มั้ยครับ แต่... ชีวิตผมมันไม่ได้สวยงามแบบนั้นครับ ช่วงที่ผมเรียนอยู่มหาลัยปี 2 ผมรู้สึกว่า คณะที่ผมเรียน มันไม่ใช่ตัวผม ผมเลยขอแม่ย้ายคณะ แต่แม่ปฏิเสธ แล้วก็ให้ผมออกจากมหาลัยทันที หลังจากนั้นชีวิตผมก็เรื่อยเปื่อยจนทุกวันนี้ จบแค่ม.6 หางานอะไรทำก็ยาก แต่ผมก็ยังอยากหาเงินด้วยตัวของผมเอง
ผมเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ อยู่กับธรรมชาติ หลังจากที่ผมโดนให้ออกจากมหาลัย ผมก็พยายามศึกษา เกี่ยวกับการปลูกต้นตะบองเพชร อย่างละเอียด ด้วยตัวของผมเอง ด้วยความหวังที่ว่า ผมจะหาเงินใช้ได้ด้วยตัวเอง แล้วผมก็คิดจะลงทุนทำต้นตะบองเพชร ผมเลยตัดสินใจคุยกับแม่ เพื่อขอเงินมาลงทุน แน่นอนครับ แม่ผมปฏิเสธ ผมเลยคิดหาวิธีของผมเอง โดยการเอาเงิน ค่าขนมที่ได้ อาทิตละ 2 พัน ไปทยอยซื้อแม่พันธุ์มา ช่วงแรกๆ ผมลำบากมาก เงินแทบไม่พอกินข้าว แต่ผมโชคดีครับที่มีแฟนดี แฟนผมมักจะแบ่งเงินของเธอมาให้ผมใช้เสมอเวลาที่ผม ไม่มีเงิน แต่ผมก็ไม่ได้อยากเอาเงินของเธอนะครับ แต่เธอบอกกับผมว่า เธอเชื่อใจผมว่าสิ่งที่ผมทำมันไม่ได้ไร้สาระ (แบบที่แม่ผมมอง) พอผมมีแม่พันธุ์มากพอ แล้วเริ่มออกดอก ผมก็เก็บเมล็ดที่ได้มาลองเพาะดูครับ แล้วมันก็สำเร็จครับ นอกจากนี้ ผมก็ยังหาจับต้นไม้ มาขายในเว็บ จนมี เงินผ่านบัญชีผม อาทิตย์นึงประมาณ 2000-4000 บาท ผมก็เล่าให้แม่ฟังว่าผมทำอะไรมาบ้าง แต่แม่ก็ยังมองว่าผมไร้สาระอยู่ดี จนเมื่อแม่ผมเห็นว่า บัญชีผมมีเงินผ่านมาอาทิตย์ละมากๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำงาน ก็สงสัย และมาถามผมว่า ใครโอนเงินมาให้ แล้วไปทำอะไรถึงได้เงินมา ผมก็บอกไปตามความจริง แต่สุดท้ายแม่ก็ไม่เชื่อผม หาว่าผมไปขายยา แต่ผมก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะผมคิดจะสร้างอนาคตของผมเอง
ผมกับแม่และพ่อทะเลาะกันบ่อย แล้วครั้งนี้ที่ทะเลาะกัน พ่อลงไม้ลงมือกับผม (แต่จิงๆก็เป็นแบบนี้มาตลอด) ผมเริ่มรู้สึกว่าทนไม่ไหว ผมเลยออกจากบ้านมา ไม่ติดต่อใคร แม่ผมก็พยายามติดต่อผม โดยเข้าทางแฟนผม แล้วแม่ก็โอนเงินให้ผม หนึ่งหมื่นบาท แล้วบอกว่าให้นำเงินนี้ไปลงทุนทำต้นไม้ แล้วขอให้ผมกลับไปขอโทษพ่อ ผมก็ตกลงแล้วก็นำเงินไปลงทุนซื้อต้นแม่พันธุ์ ที่คิดว่าจะต่อยอด และสามารถขายได้
แต่อะไรมันก็ไม่ได้สวยหรูแบบที่ผมคิดไว้ เว็บที่ผมขายต้นไม้ เริ่มมีคนเข้ามาหลอกขาย หลอกให้โอนเงิน จนไม่มีใครค่อยซื้อต้นไม้ในเว็บอีก ผมก็เริ่มขายได้น้อยลง จนขายไม่ได้ แล้วแม่ก็มองว่า ผมไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม หาว่าผมหลอกเอาเงินไปเที่ยว เอาไปเลี้ยงแฟน ผมก็จนใจจะอธิบาย ที่บ้านผมไม่มีใครชอบแฟนผม แม่เคยจ้างให้ผมเลิกกับแฟนคนนี้ 2หมื่น โดยให้เหตุผลว่า เธอมาหลอกผม เธอไม่จิงใจกับผม แต่ผมมั่นใจในตัวแฟนผม ผมเลยไม่เลยเลิกครับ
จนวันหนึ่งแม่ผมบอกว่าให้ผมไปเรียนตัดผม ให้เหตุผลว่าดีกว่าอยู่เฉยๆ ผมก็พยายามขอกลับไปเรียน แต่แม่ผมก็ปฏิเสธตามเคย ผมก็ไม่อยากขัดใจแม่ เลยไปเรียนตัดผม ผมก็ไปหาที่เรียนมาให้แม่เลือก แต่แม่บอกให้ไปเรียนของกทม. เรียนฟรี เพราะแม่ไม่อยากเสียตัง ผมก็เรียนตัดผมจนจบคอส ผมตัดผมทรงพื้นฐานได้เกือบทุกทรง จนเวลาผ่านมา 2 ปี ชีวิตผมก็ยังไม่ได้ทำงาน พ่อผมบังคับให้ผมไปหางานทำ พ่อบอกว่าผมใช้เงินไปวันๆ โตแล้วทำไมไม่หางานทำ ผมก็ไปหางานทำ จนได้งานเป็นแมสเซนเจอร์ ของบริษัทเครือข่ายโทรศัพ ผมไปบอกพ่อ แต่พ่อผมกลับไม่ให้ผมทำ แล้วก็พูดใส่หน้าผมว่า อยู่เฉยๆเถอะ ไม่ต้องไปทำอะไร อยู่เฉยๆก็ไม่มีใครว่า ผมนี่ถึงกับงงไปเลยครับ ตกลงจะให้ผมทำแบบไหนกันแน่
ตอนนี้ผมอยากกลับไปทำต้นไม้ เลยขอให้ ที่บ้านซื้อที่ดินให้ผม แต่เค้าก็บอกว่า กำลังดูๆให้อยู่ บอกแบบนี้มา หลายเดือนแล้ว ผมควรทำยังไงดี ผมอยากสร้างอนาคตของผมเอง อยากหาเงินใช้เอง ไม่อยากที่จะต้องขอพ่อกับแม่ไปแบบนี้ตลอด ผมน้อยใจที่พ่อแม่มองผมไร้สาระ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ดีแต่ใช้เงินไปวันๆ ผิดกับพี่สาวที่ทั้งเรียนเก่ง ได้ทำงานดีๆ เป็นหน้าเป็นตาให้กับพ่อแม่ ทุกครั้งที่ครอบครัวผมไปเที่ยวต่างประเทศ ผมเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่เคยได้ไป โดนให้เฝ้าบ้านตลอด บางทีผมก็คิดนะครับว่าผมเป็นลูกของพ่อกับแม่หรือเป็นลูกคนรับใช้ที่บ้าน
พ่อแม่ที่ไม่รักลูก มีจริงใช่ไหม?
ตอนที่พี่สาวผมเรียนมหาลัย แม่ผมให้พี่ผมไปซัมเมอร์ที่ต่างประเทศ โดยใช้เงินของพ่อผม จนตอนนี้พี่สาวผมทำงานแล้วได้เงินเดือนๆนึง ก็ราวๆ 3-4 หมื่น แต่แม่ผมก็ยังจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าไฟค่าน้ำคอนโดให้อยู่ และทุกครั้งที่พี่สาวผมไปทำงานต่างประเทศ เค้าก็มักจะมาขอเงินพ็อกเกตมันนี่แม่ทุกครั้งไป แต่ดูผมสิครับ เวลาผมอยากได้หรืออยากทำอะไร ถ้าพี่สาวผมบอกว่าไม่โอเค แม่ก็จะปฏิเสธผมทันทีครับ
ตอนนี้ผมอายุ 22 ครับ อายุเท่านี้ผมก็ควรจะเรียนจบและกำลังหางานทำแล้วใช่มั้ยครับ แต่... ชีวิตผมมันไม่ได้สวยงามแบบนั้นครับ ช่วงที่ผมเรียนอยู่มหาลัยปี 2 ผมรู้สึกว่า คณะที่ผมเรียน มันไม่ใช่ตัวผม ผมเลยขอแม่ย้ายคณะ แต่แม่ปฏิเสธ แล้วก็ให้ผมออกจากมหาลัยทันที หลังจากนั้นชีวิตผมก็เรื่อยเปื่อยจนทุกวันนี้ จบแค่ม.6 หางานอะไรทำก็ยาก แต่ผมก็ยังอยากหาเงินด้วยตัวของผมเอง
ผมเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ ปลูกต้นไม้ อยู่กับธรรมชาติ หลังจากที่ผมโดนให้ออกจากมหาลัย ผมก็พยายามศึกษา เกี่ยวกับการปลูกต้นตะบองเพชร อย่างละเอียด ด้วยตัวของผมเอง ด้วยความหวังที่ว่า ผมจะหาเงินใช้ได้ด้วยตัวเอง แล้วผมก็คิดจะลงทุนทำต้นตะบองเพชร ผมเลยตัดสินใจคุยกับแม่ เพื่อขอเงินมาลงทุน แน่นอนครับ แม่ผมปฏิเสธ ผมเลยคิดหาวิธีของผมเอง โดยการเอาเงิน ค่าขนมที่ได้ อาทิตละ 2 พัน ไปทยอยซื้อแม่พันธุ์มา ช่วงแรกๆ ผมลำบากมาก เงินแทบไม่พอกินข้าว แต่ผมโชคดีครับที่มีแฟนดี แฟนผมมักจะแบ่งเงินของเธอมาให้ผมใช้เสมอเวลาที่ผม ไม่มีเงิน แต่ผมก็ไม่ได้อยากเอาเงินของเธอนะครับ แต่เธอบอกกับผมว่า เธอเชื่อใจผมว่าสิ่งที่ผมทำมันไม่ได้ไร้สาระ (แบบที่แม่ผมมอง) พอผมมีแม่พันธุ์มากพอ แล้วเริ่มออกดอก ผมก็เก็บเมล็ดที่ได้มาลองเพาะดูครับ แล้วมันก็สำเร็จครับ นอกจากนี้ ผมก็ยังหาจับต้นไม้ มาขายในเว็บ จนมี เงินผ่านบัญชีผม อาทิตย์นึงประมาณ 2000-4000 บาท ผมก็เล่าให้แม่ฟังว่าผมทำอะไรมาบ้าง แต่แม่ก็ยังมองว่าผมไร้สาระอยู่ดี จนเมื่อแม่ผมเห็นว่า บัญชีผมมีเงินผ่านมาอาทิตย์ละมากๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำงาน ก็สงสัย และมาถามผมว่า ใครโอนเงินมาให้ แล้วไปทำอะไรถึงได้เงินมา ผมก็บอกไปตามความจริง แต่สุดท้ายแม่ก็ไม่เชื่อผม หาว่าผมไปขายยา แต่ผมก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะผมคิดจะสร้างอนาคตของผมเอง
ผมกับแม่และพ่อทะเลาะกันบ่อย แล้วครั้งนี้ที่ทะเลาะกัน พ่อลงไม้ลงมือกับผม (แต่จิงๆก็เป็นแบบนี้มาตลอด) ผมเริ่มรู้สึกว่าทนไม่ไหว ผมเลยออกจากบ้านมา ไม่ติดต่อใคร แม่ผมก็พยายามติดต่อผม โดยเข้าทางแฟนผม แล้วแม่ก็โอนเงินให้ผม หนึ่งหมื่นบาท แล้วบอกว่าให้นำเงินนี้ไปลงทุนทำต้นไม้ แล้วขอให้ผมกลับไปขอโทษพ่อ ผมก็ตกลงแล้วก็นำเงินไปลงทุนซื้อต้นแม่พันธุ์ ที่คิดว่าจะต่อยอด และสามารถขายได้
แต่อะไรมันก็ไม่ได้สวยหรูแบบที่ผมคิดไว้ เว็บที่ผมขายต้นไม้ เริ่มมีคนเข้ามาหลอกขาย หลอกให้โอนเงิน จนไม่มีใครค่อยซื้อต้นไม้ในเว็บอีก ผมก็เริ่มขายได้น้อยลง จนขายไม่ได้ แล้วแม่ก็มองว่า ผมไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม หาว่าผมหลอกเอาเงินไปเที่ยว เอาไปเลี้ยงแฟน ผมก็จนใจจะอธิบาย ที่บ้านผมไม่มีใครชอบแฟนผม แม่เคยจ้างให้ผมเลิกกับแฟนคนนี้ 2หมื่น โดยให้เหตุผลว่า เธอมาหลอกผม เธอไม่จิงใจกับผม แต่ผมมั่นใจในตัวแฟนผม ผมเลยไม่เลยเลิกครับ
จนวันหนึ่งแม่ผมบอกว่าให้ผมไปเรียนตัดผม ให้เหตุผลว่าดีกว่าอยู่เฉยๆ ผมก็พยายามขอกลับไปเรียน แต่แม่ผมก็ปฏิเสธตามเคย ผมก็ไม่อยากขัดใจแม่ เลยไปเรียนตัดผม ผมก็ไปหาที่เรียนมาให้แม่เลือก แต่แม่บอกให้ไปเรียนของกทม. เรียนฟรี เพราะแม่ไม่อยากเสียตัง ผมก็เรียนตัดผมจนจบคอส ผมตัดผมทรงพื้นฐานได้เกือบทุกทรง จนเวลาผ่านมา 2 ปี ชีวิตผมก็ยังไม่ได้ทำงาน พ่อผมบังคับให้ผมไปหางานทำ พ่อบอกว่าผมใช้เงินไปวันๆ โตแล้วทำไมไม่หางานทำ ผมก็ไปหางานทำ จนได้งานเป็นแมสเซนเจอร์ ของบริษัทเครือข่ายโทรศัพ ผมไปบอกพ่อ แต่พ่อผมกลับไม่ให้ผมทำ แล้วก็พูดใส่หน้าผมว่า อยู่เฉยๆเถอะ ไม่ต้องไปทำอะไร อยู่เฉยๆก็ไม่มีใครว่า ผมนี่ถึงกับงงไปเลยครับ ตกลงจะให้ผมทำแบบไหนกันแน่
ตอนนี้ผมอยากกลับไปทำต้นไม้ เลยขอให้ ที่บ้านซื้อที่ดินให้ผม แต่เค้าก็บอกว่า กำลังดูๆให้อยู่ บอกแบบนี้มา หลายเดือนแล้ว ผมควรทำยังไงดี ผมอยากสร้างอนาคตของผมเอง อยากหาเงินใช้เอง ไม่อยากที่จะต้องขอพ่อกับแม่ไปแบบนี้ตลอด ผมน้อยใจที่พ่อแม่มองผมไร้สาระ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ดีแต่ใช้เงินไปวันๆ ผิดกับพี่สาวที่ทั้งเรียนเก่ง ได้ทำงานดีๆ เป็นหน้าเป็นตาให้กับพ่อแม่ ทุกครั้งที่ครอบครัวผมไปเที่ยวต่างประเทศ ผมเป็นคนเดียวในบ้านที่ไม่เคยได้ไป โดนให้เฝ้าบ้านตลอด บางทีผมก็คิดนะครับว่าผมเป็นลูกของพ่อกับแม่หรือเป็นลูกคนรับใช้ที่บ้าน