สวัสดีค่ะ เริ่มเรื่องเลยนะคะ คือตอนนี้เราเครียดมากค่ะ ช่วงปีสองปีมานี้ไม่รู้เป็นอะไร ไม่ค่อยอยากเข้าสังคมกะเพื่อนฝูงเลย เพื่อนมันทักมันเล่นมุขใส่ก็ไม่รู้จะตอบกลับยังไงดี เหมือนความเฟรนลี่มันหายไป
ทั้งๆที่เมื่อก่อน(สมัยตั้งแต่จำความได้จนถึงม.1) เราเป็นคนที่เฟรนลี่มากเลยนะ พูดมากคุยเก่งเพื่อนเยอะสุดๆ เรียกได้ว่าคนแทบทั้งโรงเรียนในสมัยประถมรู้จักเราแทบทุกคนค่ะ และตอนนั้นก็เป็นเด็กกิจกรรมด้วย ทำมันแทบทุกอย่างค่ะ ทั้งเต้นงานโรงเรียน พูดหน้าเสาธง เป็นประธานเชียร์กีฬาสี(ในสมัยประถม) ตอนช่วงนั้นก็ยังปรกติดี
แล้วก็ย้ายมาเรียนโรงเรียนมัธยมค่ะ เข้ามาตอนแรกก็ไม่ได้อะไร เพื่อนก็ดีค่ะ แต่คือเราเริ่มพูดน้อยลง เพราะในกลุ่มเพื่อนเราจะมีคนนึง นางพูดเก่งมากกกก เฟรนลี่สุดๆ คุยเก่งจนแบบเราไม่รู้จะพูดอะไรเลยอะค่ะ ทำให้ตอนนั้นเรากลายเป็นคนที่เงียบที่สุดในกลุ่มซะงั้น(คือแย่งนางพูดไม่ทัน-.-) ก็มีเครียดมีทะเลาะมีขัดใจกันบ้างค่ะ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย แต่ตอนนั้นเริ่มรู้สึกแล้วค่ะว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม นิสัยแย่ขึ้น พูดไม่เก่งเหมือนเดิม..
พอม.2 เราได้ย้ายห้องค่ะ เพราะห้องที่เราเข้าตอนแรกมันเป็นแผนการเรียนGiftedซึ่งค่าเทอมมันแพงค่ะ ครอบครัวเราจ่ายไม่ไหวเลยให้มาเรียนห้องธรรมดาแทนค่ะ เหตุการณ์ก็ยังปรกติเหมือนเดิม ก็สามารถเข้ากับเพื่อนห้องใหม่ได้ค่ะ ม.2ก็ธรรมดาเฉยๆ
นี่แหละค่ะเริ่มจะเข้าเรื่องเเล้ว
พอขึ้นม.3เทอมแรก ตอนช่วงปิดเทอมเรามีแฟนคนนึงค่ะ แล้วเปิดเทอมมาที่นี้มีเหตุให้ต้องเลิกกัน และช่วงนั้นเราก็ทะเลาะกะเพื่อนสนิท เครียดมาก มันเหมือนไม่เหลืออะไรแล้วอะคะ ทำให้ช่วงนั้นเก็บกดมาก กลายเป็นพูดน้อยลงกว่าเดิมหรือเเทบไม่ค่อยจะพูดเลยในวันๆนึง และก็มีคนทักเราว่าเอ่อ แก ทำไมแกต้องดึงหน้าด้วยอ่ะ มีคนทักหลายคนมากเลยค่ะบอกว่าเราดึงหน้าใส่ พอเรามาลองสังเกตุตัวเองดูมันก็ใช่จริงๆ แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะคิดว่าอ่าว คนเรามันก็ต้องมีอารมเครียดกันบ้างใครมันจะมายิ้มตลอดเวลา
พอมาช่วงม.3เทอมสอง เพื่อนๆในห้องเริ่มแอนตี้เรา ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร เราก็เลยมาลองสังเกตุตัวเองดู เลยเจอสาเหตุอยู่สองอย่างด้วยกัน
1.เราดึงหน้าใส่เพื่อน(คือในใจเราไม่ได้อยากดึงค่ะ เพราะดึงไปก็มีแต่คนไม่ชอบ แต่คือมันเป็นอย่างนั้นเอง เราไม่ได้ตั้งใจ ข้อนี้กระทบในการใช้ชีวิตประจำวันมากเลย)
2.เรานิสัยไม่ดีหลายอย่าง อันนี้คือยอมรับค่ะว่าเราผิดเอง จะปรับปรุงตัว
คือเราเริ่มมารู้ตัวว่าเพื่อนแอนตี้ก็ตอนก่อนปิดเทอมประมานเดือนนึง(ซึ่งที่จริงเท่าที่เราคิดย้อนหลังดูแล้วเค้าก้อแอนตี้เรามานานแล้วแหละแต่เราเองที่ไม่รู้ตัว) แล้วแต่ล่ะคนที่แอนตี้เราตอนที่เรารู้จักเค้าใหม่ๆเค้าก็เป็นคนดีเป็นคนมีเหตุผลนะคะ เราเลยย้อนกลับมาดูตัวเอง เห้อ สงสัยเรามันจะนิสัยแย่จริงๆนั่นแหละ ก็ทนๆเรียนมาจนจบม.3ค่ะ ตอนแรกก็กะจะต่อม.4ที่เดิมเนี่ยแหละค่ะ จ่ายค่าเทอมซื้อชุดซื้อไรไปเรียบร้อยแล้วด้วย แต่คิดไปคิดมาถึงจะเรียนไปก็คงไม่มีความสุขหรอกถ้าเข้ากะสังคมไม่ได้แบบนี้ เราเลยลองปรึกษากะแม่ดูค่ะว่าเราไม่ไหวแล้ว เราไม่อยากเรียน อยากทำงานมากกว่า แม่ก็ตามใจเราเพราะเค้ารู้ค่ะว่าเราทรมานจริงๆ เปรียบเทียบนะ แต่ก่อนตอนประถมเราเป็นหวัดแทบตายเรายังดันทุรังจะไปโรงเรียนให้ได้เลยเพราะอยู่บ้านมันเหงา ไม่มีเพื่อนคุย แต่เดี่ยวนี้ขนาดรร. มีกิจกรรมสนุกๆ เรายังไม่อยากไปเลย มันน่าเบื่อ มันไม่เหมือนเมื่อก่อน
จบแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านจนจบนะคะ อยากได้คำแนะนำจริงๆว่าควรจะทำไงต่อไปดี
ปล. ขอแทกสุขภาพจิตนะคะเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นโรคจิตเลย เข้ากะสังคมไม่ได้แบบคนอื่นเขา
จะขึ้นม.4 แต่เข้าสังคมกะเพื่อนไม่ได้ ลาออกมาทำงานดีมั้ย?
ทั้งๆที่เมื่อก่อน(สมัยตั้งแต่จำความได้จนถึงม.1) เราเป็นคนที่เฟรนลี่มากเลยนะ พูดมากคุยเก่งเพื่อนเยอะสุดๆ เรียกได้ว่าคนแทบทั้งโรงเรียนในสมัยประถมรู้จักเราแทบทุกคนค่ะ และตอนนั้นก็เป็นเด็กกิจกรรมด้วย ทำมันแทบทุกอย่างค่ะ ทั้งเต้นงานโรงเรียน พูดหน้าเสาธง เป็นประธานเชียร์กีฬาสี(ในสมัยประถม) ตอนช่วงนั้นก็ยังปรกติดี
แล้วก็ย้ายมาเรียนโรงเรียนมัธยมค่ะ เข้ามาตอนแรกก็ไม่ได้อะไร เพื่อนก็ดีค่ะ แต่คือเราเริ่มพูดน้อยลง เพราะในกลุ่มเพื่อนเราจะมีคนนึง นางพูดเก่งมากกกก เฟรนลี่สุดๆ คุยเก่งจนแบบเราไม่รู้จะพูดอะไรเลยอะค่ะ ทำให้ตอนนั้นเรากลายเป็นคนที่เงียบที่สุดในกลุ่มซะงั้น(คือแย่งนางพูดไม่ทัน-.-) ก็มีเครียดมีทะเลาะมีขัดใจกันบ้างค่ะ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมาย แต่ตอนนั้นเริ่มรู้สึกแล้วค่ะว่าตัวเองไม่เหมือนเดิม นิสัยแย่ขึ้น พูดไม่เก่งเหมือนเดิม..
พอม.2 เราได้ย้ายห้องค่ะ เพราะห้องที่เราเข้าตอนแรกมันเป็นแผนการเรียนGiftedซึ่งค่าเทอมมันแพงค่ะ ครอบครัวเราจ่ายไม่ไหวเลยให้มาเรียนห้องธรรมดาแทนค่ะ เหตุการณ์ก็ยังปรกติเหมือนเดิม ก็สามารถเข้ากับเพื่อนห้องใหม่ได้ค่ะ ม.2ก็ธรรมดาเฉยๆ
นี่แหละค่ะเริ่มจะเข้าเรื่องเเล้ว
พอขึ้นม.3เทอมแรก ตอนช่วงปิดเทอมเรามีแฟนคนนึงค่ะ แล้วเปิดเทอมมาที่นี้มีเหตุให้ต้องเลิกกัน และช่วงนั้นเราก็ทะเลาะกะเพื่อนสนิท เครียดมาก มันเหมือนไม่เหลืออะไรแล้วอะคะ ทำให้ช่วงนั้นเก็บกดมาก กลายเป็นพูดน้อยลงกว่าเดิมหรือเเทบไม่ค่อยจะพูดเลยในวันๆนึง และก็มีคนทักเราว่าเอ่อ แก ทำไมแกต้องดึงหน้าด้วยอ่ะ มีคนทักหลายคนมากเลยค่ะบอกว่าเราดึงหน้าใส่ พอเรามาลองสังเกตุตัวเองดูมันก็ใช่จริงๆ แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะคิดว่าอ่าว คนเรามันก็ต้องมีอารมเครียดกันบ้างใครมันจะมายิ้มตลอดเวลา
พอมาช่วงม.3เทอมสอง เพื่อนๆในห้องเริ่มแอนตี้เรา ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร เราก็เลยมาลองสังเกตุตัวเองดู เลยเจอสาเหตุอยู่สองอย่างด้วยกัน
1.เราดึงหน้าใส่เพื่อน(คือในใจเราไม่ได้อยากดึงค่ะ เพราะดึงไปก็มีแต่คนไม่ชอบ แต่คือมันเป็นอย่างนั้นเอง เราไม่ได้ตั้งใจ ข้อนี้กระทบในการใช้ชีวิตประจำวันมากเลย)
2.เรานิสัยไม่ดีหลายอย่าง อันนี้คือยอมรับค่ะว่าเราผิดเอง จะปรับปรุงตัว
คือเราเริ่มมารู้ตัวว่าเพื่อนแอนตี้ก็ตอนก่อนปิดเทอมประมานเดือนนึง(ซึ่งที่จริงเท่าที่เราคิดย้อนหลังดูแล้วเค้าก้อแอนตี้เรามานานแล้วแหละแต่เราเองที่ไม่รู้ตัว) แล้วแต่ล่ะคนที่แอนตี้เราตอนที่เรารู้จักเค้าใหม่ๆเค้าก็เป็นคนดีเป็นคนมีเหตุผลนะคะ เราเลยย้อนกลับมาดูตัวเอง เห้อ สงสัยเรามันจะนิสัยแย่จริงๆนั่นแหละ ก็ทนๆเรียนมาจนจบม.3ค่ะ ตอนแรกก็กะจะต่อม.4ที่เดิมเนี่ยแหละค่ะ จ่ายค่าเทอมซื้อชุดซื้อไรไปเรียบร้อยแล้วด้วย แต่คิดไปคิดมาถึงจะเรียนไปก็คงไม่มีความสุขหรอกถ้าเข้ากะสังคมไม่ได้แบบนี้ เราเลยลองปรึกษากะแม่ดูค่ะว่าเราไม่ไหวแล้ว เราไม่อยากเรียน อยากทำงานมากกว่า แม่ก็ตามใจเราเพราะเค้ารู้ค่ะว่าเราทรมานจริงๆ เปรียบเทียบนะ แต่ก่อนตอนประถมเราเป็นหวัดแทบตายเรายังดันทุรังจะไปโรงเรียนให้ได้เลยเพราะอยู่บ้านมันเหงา ไม่มีเพื่อนคุย แต่เดี่ยวนี้ขนาดรร. มีกิจกรรมสนุกๆ เรายังไม่อยากไปเลย มันน่าเบื่อ มันไม่เหมือนเมื่อก่อน
จบแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านจนจบนะคะ อยากได้คำแนะนำจริงๆว่าควรจะทำไงต่อไปดี
ปล. ขอแทกสุขภาพจิตนะคะเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นโรคจิตเลย เข้ากะสังคมไม่ได้แบบคนอื่นเขา