สงสัยค่ะ สรุปแล้วเหาเนี่ย มันมีต้นกำเนิดมาจากอะไรกันแน่คะ?

กระทู้คำถาม
คือพอดีเพิ่งติดเหามาจากหลานที่มาจากต่างจังหวัด พอเอามาปล่อยใส่เราเสร็จแม่นางก็พาชิ่งหนีกลับไปเลยFacepalm
เราเลยสงสัยว่าเหาเนี่ยยยย มันเกิดจากอะไรกันแน่
ทำไมตอนเด็กๆถึงเป็นกันบ๊อยยยบ่อย แต่พอโตมาก็ไม่เป็นละ นอกจากว่าจะไปติดเด็กแถวบ้านอะไรแบบนี้
ตอนเด็กๆก็เคยถามอาจารย์เค้าก็บอก เพราะสกปรกไม่ยอมสระผม เราก็เลยคิด เอ่อ คือ สกปรกขนาดนั้นเลยเหรออออ?
บางคนก็บอกเพราะอยู่ใกล้พวกหมาแมวที่มีหมัด คือ หมัดเนี่ยมันกลายร่างเป็นเหาได้ด้วยเหรอ .____.
หรือว่าถ้าหมัดที่ขึ้นอยู่กับพวกหมาแมวเรียกหมัด ส่วนหมัดที่อยู่บนหัวคนเรียกเหาคะ? (แต่จำได้ลางๆว่ามันคนละตัวกัน ถึงจะกินเลือด และลักษณะคล้ายกัน แต่ก็คนละตัว)

เลยสงสัยว่า เหา มันมีต้นกำเนิดมายังไง แล้วทำไมช่วงอนุบาลถึงฮิตกันจัง
แล้วช่วงม.ต้น ม.ปลายก็ไม่มีแล้ว มันเพราะอะไรคะ?

ปล.ถ้าเราสระผมด้วยน้ำยาอาบน้ำหมาบ่อยจะเป็นอันตรายไหมคะ? (แบบพอสระแล้วผมมันไม่ค่อยร่วงอะ ฟินน *^*)
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
เหาน่าจะเกิดจากความสกปรกหลายคนเคยพูดไว้เเต่นั่นมันก็จริงแต่ดึกดำบรรพของเหาหรือเรียกว่าต้นกำเนิดก็คือ เหาเป็นแมลงขนาดเล็ก 1-2 มม. สีดำ ไม่มีปีก ชอบกัดและดูดเลือดคน อาศัยอยู่บนศีรษะและอยู่ตามขนบริเวณลำตัว ลักษณะตัวแบนคล้ายตัวเห็บ แต่มีขนาดเล็กกว่า เหาหนึ่งตัวจะวางไข่ประมาณ 150 ฟอง มีสีขาวขุ่นอยู่ติดกับโคนผม ไข่เหาจะฟักเป็นตัวภายใน 7-10 วัน เนื่องจากเหามีลำตัวเรียวยาว และมีความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว จึงติดต่อกันได้ง่ายมาก
โรคเหาที่หนังศีรษะพบได้บ่อยในเด็กวัยเรียน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง เหาจะคอยดูดเลือดกินเป็นอาหาร ในน้ำลายของเหามีสารที่ระคายผิวหนังได้ ทำให้เกิดตุ่มคันตรงรอยกัด
    ค้ะและวิธีทำไห้หายคือ1. สระผมวันเว้นวัน ใช้หวีเสนียดสางเหาใส่กระดาษและเผาทำลาย ทำเช่นนี้ทุกวันประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะช่วยให้เหาหมดไปได้โดยไม่ต้องใช้ยากำจัด การใช้หวีเสนียดซึ่งเป็นหวีซึ่งมีซี่ของหวีถี่มากใช้สางผมทำให้ทั้งตัวเหาและไข่เหาหลุดติดกับหวีออกมาได้
2. ใช้สมุนไพร เช่น ยาฉุน ใบหรือเมล็ดน้อยหน่า ตำแล้วคั้นกับน้ำหรือน้ำมัน ชโลมผมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง จึงสระผม เหามักจะเกิดในเด็กนักเรียน ในการกำจัดเหาจำเป็นต้องทำซ้ำ เพราะขณะกำจัดเหา สมุนไพรที่ใช้สามารถฆ่าเหาได้ แต่ไข่อาจจะถูกกำจัดไม่หมด จึงควรใช้ซ้ำ และแนะนำให้รักษาความสะอาดโดยการสระผมบ่อยๆ
3. ใช้ยารักษาหิด-เหาขององค์การเภสัชกรรมซึ่งมีลักษณะเป็นยาน้ำแขวนตะกอนสีขาวขุ่น ควรใช้อย่างระมัดระวัง และปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลาก
4. วิธีโกนผมออกให้หมด ซึ่งที่จริงใช้รักษาได้ผลดี เพราะเหาไม่มีที่ยึดเกาะ แต่ก็ในแนวทางปฏิบัติ อาจทำได้ยาก การโกนผมจะช่วยได้มากและสะดวกดี ไม่สิ้นเปลือง แต่เด็กจะอายเพื่อนฝูง
5. ยาที่ใช้ฆ่าเหาและไข่เหาได้ผลดี คือ แกมมาเบนซินเฮกซาคลอไรด์ ชื่อทางการค้าว่า "จาคูติน" ใช้ทาทั่วศีรษะ หลังสระผมให้สะอาดแล้ว แล้วทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง และสระผมซ้ำล้างออก โดยจะฆ่าตัวเหาได้หมด แต่ไข่เหายังไม่หมด จึงแนะนำให้ทายาซ้ำอีก 1 สับดาห์ แล้วใช้หวีซี่ถี่ๆ สางผมให้ไข่เหาหลุดออก หรือใช้ทาศีรษะ ทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง ล้างออกใช้ทาติดต่อกัน 3 วัน
6. เบนซิลเบนโซเอตชนิด 25 % ชโลมทั่วศีรษะ โพกผ้าทิ้งไว้ประมาณ 12-20 ชั่วโมง วิธีที่สะดวก คือ ใส่ยาตอนเย็น แล้วทิ้งไว้ค้างคืนหลังจากนั้นสระผมให้สะอาด พร้อมทั้งใช้หวีเสนียดสางเอาไข่เหาออกมา อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ควรทำซ้ำอีกครั้ง เพราะเป็นระยะที่ไข่เหาที่หลงเหลืออยู่จะฟักตัวอีกครั้งหนึ่ง
7. นำเครื่องใช้ของผู้ติดเหาไปล้างทำความสะอาด ส่วนเครื่องนุ่งห่ม ให้นำไปตากแดดหรือเข้าเครื่องอบผ้า
8. พิจารณาใช้ยาปฏิชีวนะ ถ้าเกิดมีเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเกิดขึ้น
9. ยากลุ่มแอนติฮีสตามีน เพื่อระงับอาการคัน
หวังว่าคอมเม้นคอมเม้นนี้จะมีประโยชนกับเจ้าของกระทู้น้ะค้ะ  ปล.ก็อปมาจากเว็บอื่นไม่ได้คิดเอง.(เเต่อยากช่วยจขกท)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่