นี่ไม่ใช่กระทู้เเรกที่เขียนนะ แต่เป็นกระทู้รีวิวครั้งแรก อาจจะมีผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้า ความจริงเราจะเขียนขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่เรายังงงๆวิธีการใช้พันทิป และพึ่งต่อสัญญาการยืนยันทางโทรศัพท์อีก 30 วัน

             เริ่มเลยแล้วกัน สืบเนื่องจากวันสงกรานต์ เราก็ได้ไปเล่นน้ำตามประสาวัยรุ่นทั่วๆไป ก็โดนปะแป้ง (หลายชนิดมาก ทั้งดินสอพอง แป้งเด็ก แป้งเย็น แป้งสารพัด) โดนสาดน้ำ อันนี้เราก็ไม่รู้ได้ว่าน้ำมาจากที่ไหนนัก 5555555 ตอนเล่นก็สนุกอยู่หรอก เเต่พอกลับบ้านมานี่สิ ล้างหน้า ทาครีมบำรุงตามปกตินะ แต่พอตื่นเช้ามาเท่านั้นแหละ โอ้เเม่เจ้า ผดขึ้นทำไมเต็มหน้าเลย ทั้งหน้าผาก และ แก้ม เราก็คิดแค่ว่าเดี๋ยวมันก็หาย เราไปถามแม่ แม่บอกให้ใช้ เจลว่านหางจระเข้ทาทิ้งไว้ แต่เหมือนหน้าเราไม่เข้าใจ อีกวันนึ่งก่อให้เกิดสิวอักเสบมากมาย แต่สิวผดบางจุดก็ลดลง

(ถ่ายมาอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ ของจริงมันหนักหนาสาหัสมา เอาหน้าผากไปรีวิวก่อน)
เราทำใจไม่ได้อย่างแรง 5555555 กับผลลัพธ์ของสงกรานต์เพียง 1 คืน (เราเล่นตอนกลางคืน) เริ่มรักษากันเลยยยย
เราไม่ใช้โฟมล้างหน้า แต่ใช้สบู่ล้างหน้า COSME DECORTE AQMW Facial Bar ราคาน่าจะอยู่ราวๆ ก้อนละ 200-300 บาท เราไม่แน่ใจเพราะได้มาฟรี มันแถมมากับเครื่องสำอางที่แม่ซื้อ

ขออนุญาตินำรูปมาจาก google และเว็บไซต์ตา่งๆเพราะเราแกะเปลือกใช้แล้ว ฮิฮิ

ตามด้วยน้ำเกลือล้างแผล ขวด 40-50 บาทไทย ซื้อตามเซเว่นก็น่าจะมีขาย เอามาเทใส่สำลีแล้วเช็ดหน้าเหมือนใช้โทนเนอร์เลย


กำจัดสิวด้วย คลินด้าเอ็ม ราคาประมาณ 45 บาท ถ้าซื้อในร้านขายยา ผสมกับ ผงวิเศษ ตราร่มชูชีพ ราคา 10 บาท เราให้ 10/10 เลยเพราะ คืนเดียวยุบเลย


พร้อมกับกินยา acnotin 10 mg  ไปด้วย เพื่อไปฆ่าเชื้อแบคที่เรียที่ทำให้เกิดสิว
ปล. ยานี้ค่อนข้างอันตรายพอสมควร ควรอยู่ในการควบคุมของเเพทย์ สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
แต่เราซื้อกินเองเลย ด้วยความเจ็บใจจากการรักษาสิวตามคลินิกที่จ่ายยาตัวนี้ในราคาเม็ดละ 30-45 บาท บังเอิญวันนั้นเราได้ไปหาซื้อยาที่ร้านขายยาทั่วไป และไปถามว่ามียาตัวนี้ไหม ร้านขายยาจ่ายยานี้ในราคาเพียงเม็ดละ 8-10 บาท ซึ่งมันถูกกว่าตอนที่เราเคยไปรักษาสิวกับหมออีก ตัวนี้เราให้ 9/10 เพราะ มีเอฟเฟ็กคือปากแห้ง  


เมื่อสิวเรายุบไปหมดแล้วเราก็เริ่มรักษารอยสิวด้วยวิธีดังนี้

บำรุงหน้าด้วย 


Cosme Decorte Moisture Liposome

 ตัวนี้ค่อนขางแพงนิดนึ่ง แต่สามารถใช้ได้นาน ครั้งละ 1 หยดก็เพียงพอ เซรั่มตัวนี้แตกต่างเพราะแม้จะไม่ได้รู้สึกฉ่ำผิวเว่อ ๆ ทันทีที่ทา แต่จะรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นที่ยาวนานต่อเนื่อง ไม่เหมือนผลิตภัณฑ์บางตัวที่ทาแล้วฉ่ำผิวทันทีแต่แปปเดียวก็ระเหยแห้งไปหมด หาซื้อยากนิดหน่อยอยู่ในราคา 40 ml 3,500 บาท (มีขวดเล็กรุ่นทดลองใช้อยู่ แต่จำราคาไม่ได้แบ้ว) หากอยากได้จริงๆ ติดต่อหลังไมค์เลยจ้า ตัวนี้เราให้ 9/10 นะ หักราคาแพงไปหน่อย (ไม่หน่อยนะแบบนี้ 5555 )


จากนั้น เราจะลง natural e ultra pure มันเป็นวิตามินอี เข้มข้น 1100 หน่วยสากล/กรัม ตามมาตรฐานของเภสัชตำรับอเมริกา (U.S.P.) มันบังเอิญตรงที่เราไปถามหายาลบจุดด่างดำ แล้วเภสัชแนะนำตัวนี้ให้ เค้าบอกว่าการลดรอยสิวต้องใช้วิตามินอีเป็นหลัก เลยแนะนำตัวนี้ให้เรา ราคาอยู่ที่ 450 บาท อันนี้เราไม่รู้จะอธิบายยังไงว่าหาซื้อได้ที่ไหน เพราะว่า เราไปซื้อจากร้านขายยา จะฝาซื้อก็หลังไมค์เลยย ตัวนี้เราให้ 8/10 หักตรงตัวครีมเป็น oil ซึมช้าไปหน่อย

ทาวนๆให้เนื้อครีมซึมสักพักแล้วต่อด้วย

smooth e cream ตัวนี้ เป็นไอเทมที่ควรจะมีติดโต๊ะเครื่องแป้งของสาวๆเลยจริงๆ มีส่วนผสมของวิตามินอีธรรมชาติ ฟื้นฟูและยืดอายุผิวกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เราจะโบกหนาๆเลย แล้วก็แต้มจุดที่มันเป็นรอยสิวชัดเจนไว้ อีกวันเหมือนผิวส่วนนั้นมันผลลัดเซลล์ผิว ผิวส่วนนั้นลอกออกบางๆ ปล. เรามือซนไปแกะมันด้วย แต่มันลอกง่ายๆมากๆ ไม่เจ็บผิวเลย ให้ 10/10 เพราะมันใช่อ๊ะะะ


จุดพีคของเราคือ ไปลองครีมตัวนึ่ง ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะแพ้รึป่าว เเต่เราคิดว่า เอาว่ะ ไม่มีอะไรจะเสียละ เลยทดลองครีมของ กานิเย่ตัวนึ่ง ปรากฏว่า หน้าเราถูกกับเจ้าตัวนี้  garnier light complete ซื้อตามเซเว่นเลยจ้า ใครที่ไม่ชัวกลัวแพ้ เราแนะนำให้ลองซื้อขนาดทดลอง ซองละ 15 บาทมาใช้ก่อน ผลลัพธ์ คือ โอเคอ่ะ หน้าดูสว่างจริงๆ ให้ 9/10 เพราะเนื้อครีมอาจจะหนักไปหน่อย


จบด้วยครีมกันเเดด (หากออกจากบ้าน) ของ boots ตัวนี้หาซื้อได้ง่ายที่ boots ซึ่งเราจำราคาไม่ได้แบ้ววว
ขออนุญาติยืมรูปหน่อยน้าาา


และนี่คือผลลัพธ์จากการใช้ครีมที่เรารีวิวไป ภายใน 10 วัน


แท็กห้องผิดหรือพิมพ์ผิดก็ขอโทษด้วยน้าา T^T