ผู้สร้าง Facebook.com เศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก!

[ข้อมูล Update ช่วงปี 2554]
เพื่อใครยังไม่รู้ เลยอยากเอามาแบ่งปันประวัติความเป็นมาของ CEO Facebook

    ความเป็นอัจฉริยะเหนือมนุษย์ทั่วไป  ปรากฏให้เห็นตั้งแต่วัยหนุ่ม ด้วยอายุเพียง  ๒๐ ปี  เท่านั้น (ปัจจุบันประมาณ 30-31)  

    เขาสร้างเนื้อสร้างตัวรวยเร็วที่สุด  เท่าที่นิตยสาร  Forbes เคยทำการสำรวจมาในหมู่ผู้ที่สร้างความร่ำรวยด้วยตนเอง  !!  ราคาหุ้นมีมูลค่าสูงกว่า  ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท  ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยที่สุดอันดับหนึ่งของโลก  ที่สร้างฐานะด้วยลำแข้ง ของตนเอง  โดยใช้เวลาเพียงแค่  ๖ ปี เท่านั้นเอง !!


    หนุ่มผู้ที่กล่าวถึงนี้  คือ   มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก !!    ผู้สร้าง   Facebook.com  ให้โลกได้รู้จัก  และเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีผู้ใช้กันมากที่สุดในโลกขณะนี้

    มารู้จักกับ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก  สักเล็กน้อย มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก  CEO ของ  Facebook.com

    มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก  (Mark Elliot Zuckerberg)  มีเชื้อสาย ยิว - อเมริกัน  เกิดเมื่อวันที่ ๑๔  พฤษภาคม  ๒๕๒๗  (ปัจจุบันอายุ
30 ปี)  (คนเก่งระดับโลก เช่น ไอน์สไตน์, ฟอน บราวน์ เป็นต้น มักมีเชื้อสายยิว - ผู้เขียน)

    เติบโตในย่าน  Dobbs Ferry  นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา  เข้าศึกษาระดับมัธยมที่ Ardsley High School และจบมัธยมปลายที่ Phillips Exeter Academy ในปี  ๒๕๔๕
    สมัยเรียนไฮสกูล  ซักเคอร์เบิร์กหัดเป็นโปรแกรมเมอร์ ตั้งแต่อยู่ชั้น  ป. ๖  เขากับเพื่อนสร้าง  โปรแกรมสำหรับเรียนรู้นิสัยการฟังเพลงของ
ผู้ใช้  Winamp  และ  MP3  และเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีทางอินเตอร์เน็ต(คนเก่ง ๆ มักเรียนรู้ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็ก  ตรงกันข้ามกับเด็กไทยบางคน สนใจแต่เล่นเกมส์ และมีแนวโน้มจะมากขึ้น - ผู้เขียน)

    ซัคเกอร์เบิร์กเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด หยุดเรียนไปกลางคัน และกลับมาลงทะเบียนเรียนอีกครั้งในปี ๒๕๔๙  ที่ฮาร์เวิร์ด ซัคเกอร์เบิร์กเริ่มต้นโครงการวิจัยหรือโปรเจ็กต์ชิ้นแรกกับเพื่อนร่วมห้อง Arie Hasit ชื่อของโปรเจ็กต์นี้คือ Coursematch เป็นบริการที่เปิดให้นักศึกษาสามารถดูรายชื่อเพื่อนร่วมชั้นเรียนได้
    โปรเจ็กต์ต่อมาคือ Facemash.com เว็บไซต์โหวตรูปนักศึกษาฮาร์เวิร์ดว่าใครได้รับความนิยมชมชอบมากหรือน้อย แต่แล้วเมื่อโปรเจ็กต์
นี้ให้บริการจริงบนโลกออนไลน์เพียง ๔ ชั่วโมง มหาวิทยาลัยก็ลงดาบระงับการใช้อินเทอร์เน็ตของซัคเกอร์เบิร์ก ด้วยข้อหาว่าโปรเจ็กต์นี้ของ
ซัคเกอร์เบิร์กละเมิดนโยบายการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้และเป็นภัยต่อระบบความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย
    ซัคเกอร์เบิร์กคลอดบริการนาม Facebook จากห้องพักตัวเองในมหาวิทยาลัยด้วยฤกษ์วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗ บางแหล่งข่าวระบุว่า
ซัคเกอร์เบอร์เขียน โปรแกรม FaceBook ชุดดั้งเดิมในเวลาไม่ถึง ๒ สัปดาห์ คราวนี้ไม่ใช่บริการโหวตรูปหรือบริการแสดงรายชื่อเพื่อนร่วมชั้น แต่เป็นบริการที่ให้นักศึกษาสามารถโพสต์ข้อมูลของตัวเองได้เท่าที่ต้องการ
Dustin Moskovitz เืพื่อนและผู้ร่วมก่อตั้ง Facebook.com กับ Mark Zuckerberg แน่นอนว่าเฟสบุ้กได้รับความนิยมถล่มทลายในฮาร์เวิร์ด นักศึกษาราว ๒ ใน ๓ แห่ลงทะเบียนใช้งานตั้งแต่ ๒ สัปดาห์แรกที่เปิดให้บริการ ต่อมา ซัคเกอร์เบิร์กและเพื่อน Dustin Moskovitz เริ่มขยายบริการเฟสบุ้กไปยังมหาวิทยาลัยอื่น เช่น สแตนฟอร์ด โคลัมเบีย และเยล โดยราว ๔ เดือน สถานศึกษาที่ใช้บริการ Facebook มีจำนวนราว ๓๐ แห่ง เมื่ออะไรก็ไปได้สวย ซัคเกอร์เบิร์กตกลงใจเดินทางไป Palo Alto แคลิฟอร์เนียพร้อม Moskovitz และกลุ่มเพื่อนช่วงฤดูร้อนปี ๒๕๔๗ ทั้งกลุ่มวางแผนกลับฮาร์เวิร์ดให้ทันฤดูใบไม้ร่วงแต่ก็เปลี่ยนใจอยู่ที่แคลิฟอร์เนียต่อไป และขาดเรียนที่ฮาร์เวิร์ดตั้งแต่นั้น

    Facebook นั้น เป็นที่รู้จักในนามบริการออนไลน์ที่ทำให้ผู้ใช้แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนที่อยู่ในสังคมเดียวกันแบบรวดเร็วทันใจ  และเข้าถึง
ทั้งข้อมูลแฟ้มภาพถ่ายเมื่อครั้งไปเที่ยว ภาพยนตร์ที่ชอบ และประวัติส่วนตัวทั่วไป     ต่างจากเว็บไซต์ชุมชนออนไลน์อื่นตรงที่ Facebook เป็นชุมชนในโลกที่มีตัวตนอยู่จริง ใช้ชื่อ Email เดียวกันและต้องการทำความรู้จักคนอื่น ๆ ในสังคมเดียวกัน ทั้งหมดนี้โดนใจชาวอเมริกันที่กระตือรือร้นอยากจะรู้จักคนอื่นในสังคมเดียวกันให้มากขึ้น  
    ซัคเกอร์เบิร์กได้พบกับ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้งบริการชำระเงินออนไลน์ PayPal ซึ่งให้ทุนก้อนแรกมา ๕ แสนเหรียญ  สำนักงาน Facebook
แห่งแรกจึงกำเนิดขึ้นที่ University Avenue ในตัวเมือง Palo Alto  นับจากนั้นไม่กี่เดือน ปัจจุบัน Facebook มีอาคารสำนักงานในเมือง Palo Alto จำนวน ๔ อาคาร ซึ่งซัคเกอร์เบิร์กเรียกว่า "urban campus" หรืออาณาจักรวิทยาลัย  จดหมายเปิดผนึกจาก  Mark Zuckerberg  เมื่อวันที่  ๒ ธันวาคม  ๒๕๕๒ ที่น่าสนใจ  เพื่อทราบแนวทางในการพัฒนา Facebook ในอนาคต
ลักษณะการทำงานของ  Facebook Facebook  เปิดตัวในปี พ.ศ. ๒๕๔๗  โดย มาร์ก ซักเกอร์ เบิร์ก  ซึ่งขณะนั้น เป็นนักศึกษาหนุ่มน้อยวัยแค่  ๒๐ ปี จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง  "ฮาร์วาร์ด" เขาร่วมมือกับเพื่อนอีก ๒ คน คิดค้นสร้าง เครือข่ายภายในรั้วมหาวิทยาลัยโดยให้นักศึกษาที่สนใจสามารถเข้ามาอัพเดตและ แบ่งปันข้อมูลส่วนตัวและรูปภาพได้ จนได้รับความนิยมมากขึ้น จากภายในมหาวิทยาลัยกระจายสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำอื่น ๆ และขยายกลุ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีผู้สนใจจากทั่วโลกเข้าลงทะเบียนใช้งานมากกว่า ๒๔ ล้านคน  เฉลี่ยมีผู้ลงทะเบียนใหม่กว่า ๑๐๐,๐๐๐ รายต่อวัน

    ลักษณะการทำงานของ  Facebook  มีลิงก์จากเพื่อนส่งเข้ามาหาและถ้าตอบตกลง sign up เข้าไปก็จะเข้าไปอยู่ในเครือข่ายของ  acebook ทันที ขณะเดียวกันก็สามารถส่งลิงก์ เชื้อเชิญเพื่อนคนอื่นให้เข้ากลุ่มเป็นลูกโซ่ ต่อไปได้ โดยใน Facebook จะมีการแบ่งปันข้อมูลประสบการณ์ของแต่ละคน อัพเดตรูปภาพที่ได้ไปเที่ยวกันมา พูดคุย ติดต่อ เมาท์ หรือแม้แต่เข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นก็ได้
    บางคนอาจคิดว่า Facebook เหมือนกับ  My space  เว็บไซต์เครือข่ายออนไลน์ที่ฮอตอยู่ในขณะนี้   แต่  Facebook มีมากกว่านั้น ความโดดเด่นของ  Facebook คือผู้ใช้งานต้องใช้ชื่อจริงและอีเมล์เดียวกันในการลงทะเบียนและมีความต้องการที่จะรู้จักคนอื่นที่มีตัวตนจริง ๆ บนโลกใบนี้
    นักวิจัยจากสถาบันแห่งหนึ่งจากอังกฤษกล่าวว่า Facebook  ยอดเยี่ยมกว่า My space เพราะเหมาะสำหรับ "เด็กดี" ขณะที่  My space เหมาะสำหรับ ขาร็อก ฮิปฮอป ศิลปิน หรือคนทำงาน ความร้อนแรงและความหอมหวานของ Facebook และวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ CEO หนุ่มไฟแรงแห่ง Facebook                                                                                                                                                  
   ความร้อนแรง และความหอมหวานของ Facebook ทำให้บริษัทออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ของโลกอย่าง Yahoo.com เสนอซื้อกิจการด้วยมูลค่า
สูงลิ่วถึง $ ๑.๖ พันล้าน แต่ได้รับการปฏิเสธจาก Mark Zuckerberg ก่อนหน้านี้
    เมื่อเร็ว ๆ นี้ยักษ์ใหญ่ Search Engine อย่าง Google ก็อยากได้ Facebook มาไว้ในครอบครอง   ด้วยการยื่นข้อเสนอทุ่ม  ๒.๖ พันล้าน
ดอลล่าสหรัฐ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา แต่ดูท่าทีของ CEO Zuckerberg แล้ว ยังอยากเก็บหุ้นส่วน และบริษัทของตัวเองไว้มากกว่า
    จากการทุ่มเสนอซื้อ Facebook ของ Google ครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาสูงกว่า ที่เคยซื้อ Youtube มากทีเดียว   ซึ่งเดิมที Google ได้ซื้อ
Youtube มาด้วยราคา $ ๑.๖๕ พันล้าน  
   ขายหุ้นให้ไมโครซอฟท์ บิลล์ เกตส์  ผู้สร้างตำนานลาออกจากมหาวิทยาลัย  เพื่อมาก่อตั้งไมโครซอฟท์  เป็นนักลงทุนรายแรก ที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงิน  ๒๔๐ ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ  แลกกับหุ้นเฟชบุ๊กเพียงแค่  ๑.๖  %  เมื่อปลายปี  ๒๕๕๐ ต้งแต่เฟซบุ๊กให้บริการมาได้แค่ ๓ ปี และมีผู้ใช้บริการเพียง ๕๐ ล้านคน
ขณะนั้น  รายได้ของเฟซบุ๊กก็ยังไม่มากมายเท่าทุกวันนี้  โดยสามารถทำเงินเพียง  ๑๕๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และมีสินทรัพย์รวมไม่ถึง  ๒๐๐  ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    กระนั้น การตัดสินใจของไมโครซอฟท์หนุนส่งให้มูลค่าตลาดของเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นเป็น  ๑,๕๐๐  ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในชั่วข้ามคืน
    ช่วงเวลานั้น  มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า  ไมโครซอฟท์คงกินยาผิดถึงได้ตัดสินใจขี่ช้างจับตั้กแตนขนาดนั้น  แต่นักวิเคราะห์ที่รู้จริงกลับเดาทางถูกว่า  เงินแค่ ๒๔๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมาก  เมื่อเทียบกับสิ่งที่ไมโครซอฟท์หมายมั่นปั้นมือ
    นั่นคือ  การแลกกับสินทรัพย์มหาศาลที่มองไม่เห็นในงบดุล  จากการเข้าถึงฐานลูกค้าจำนวนหลายสิบหลายร้อนล้านคนของ Facebook โดย
เฉพาะลูกค้าต่างประเทศ  และลูกค้าในวัยหนุ่มสาว ซึ่งไมโครซอฟท์ยังเข้าไม่ถึง

ขายหุ้นให้กับ  DST  สัญชาติรัสเซีย
    นอกจากนี้  ดีลประวัติศาสตร์อีกครั้งของ  Facebook  ก็คือตกลงขายหุ้นนิดหน่อยให้กับกลุ่มนักลงทุนอินเตอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ สัญชาติรัสเซีย
"ดิจิตอล สกาย เทคโนโลยีส์"  หรือ  DST  เพื่อแลกกับการเจาะตลาด Facebook ในแถบรัสเซีย และยุโรปตะวันออก  ซึ่ง  DST เป็นเจ้าของธุรกิจและนายทุนใหญ่คุมตลาดอินเตอร์เน็ตทั้งภูมิภาคดังกล่าว
    ดีลประวัติศาสตร์นี้ ตกลงกันสำเร็จเมื่อเดือน พฤษภาคม ปีที่แล้วโดยฝ่ายนายทุนหมีขาวใจป้ำยินดีจ่ายเงิน  ๒๐๐  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  แลก
เปลี่ยนกับหุ้นบุริมสิทธิแค่  ๑.๙๖ %  ของหุ้น Facebook  ซึ่งขณะนั้นมีมูลค่ารวม  ๑๐,๐๐๐  ล้านดอลลาร์สหรัฐ  พร้อมรับปากว่าจะไม่มีตัวแทนในบอร์ดบริหารและไม่ก้าวก่ายเรื่องการบริหาร  ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญของ Facebook  ตลอดมา      


ชีวิตส่วนตัว ของ Mark  Zuckerberg    ถึงแม้จะร่ำรวยทั้งเงินทองและชื่อเสียงชนิดหาตัวจับยาก  แต่ทุก วันนี้  CEO หนุ่มแห่ง  Facebook  ยังคงใช้ชีวิตสมถะไม่แตกต่างจากเดิม
    เขาชอบสวมสเวตเตอร์เชิ้ตสีน้ำตาล กับกางเกงสแล็กสีกากีง่าย ๆ และรองเท้าแตะอาดิดาสคู่โปรด  ยังคงเช่าอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ อยู่ใกล้ออฟฟิศทำงานย่าน พาโลอัลโต  ซึ่งเป็นซิลิคอน วัลเลย์  ในรัฐแคลิฟอร์เนีย  เหมือนเมื่อครั้งเริ่มก่อตั้งFacebook ใหม่ ๆ  ภายในห้องมีแค่ฟูกนอนราคาถูก  โต๊ะทำงานตัวเดียวกับเก้าอี้สองตัว  
    ส่วนอาหารเช้าของมหาเศรษฐี  ก็ยังเป็นซีเรียลใส่นมในชามกระดาษกับช้อนพลาสติก  และใครจะเชื่อว่าเขายังขี่จักรยาน หรือไม่ก็เดินไปทำงานทุกวัน !!!
    เห็นไหมครับว่า  คนรวยระดับโลกตั้งแต่หนุ่ม โดยไม่โกงใครใช้เวลาสร้างตัวด้วยสมอง เพียง  ๖ ปี เท่านั้นก็ยังมี  แถมยังใช้ชีวิตสมถะ
เช่าอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ อยู่ และขี่จักรยานหรือไม่ก็เดินไปทำงานทุกวันในทุกวันนี้

ที่มา : http://www.dek-d.com/board/view/2068165/

[ผิดห้อง ..ขออภัย!]
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่