เรื่องคือ รถกะบะของแฟนเราออกจากโรงงาน ซึ่งเราได้ออกรถแล้วเลี้ยวซ้ายตั้งลำตรงแล้ว จู่ๆ มีมอเตอร์ไซค์มาชนท้าย คนขับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนซ้อนเป็นพม่า แค่หัวแตก เวลานั้นประมาณ 2 ทุ่มครึ่งกว่าๆ ตอนที่ออกจากซอยโรงงานคือมองแล้วนะ ก็ว่าเห็นแสงไฟอยู่ไกล จึงได้ออกตัวมา ทีนี้พอโดนชนท้ายด้วยความตกใจก็รีบลงมาดู แล้วก็เรียกคนแถวนั้นมาช่วย ก็มีคนโทรแจ้งตำรวจ ตอนนั้นไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย และทางตำรวจก็ไม่ได้ฉีดเสปรย์บนถนนไว้ด้วย เหตุผลคือเสปรย์หมด จากนั้นก็นำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ส่วนแฟนตำรวจให้ตามไปให้การ บันทึกประจำวัน ซึ่งเขาบอกว่าทางเราประมาท เพราะเป็นทางโท เขาเป็นทางเอก รถที่ออกจากซอยจะถือว่าตั้งลำในทางเอกที่ระยะ 100 เมตร แต่ของเราแค่ 20 เมตร เลยไม่รู้จะแย้งยังไง รอนแผลรถเราคือ กันชนยุบเข้าไปถึงตัวรถ โดนชนที่ด้ายท้ายขวาของรถ หลังจากที่บันทึกประจำวันเสร็จ ก็กลับบ้าน ตำรวจไม่ได้ยึดรถไว้ วันรุ่งขึ้นเราก็ไปที่โรงพยาบาลทั้งๆ ที่ไม่รู้เลยว่าคู่กรณีชื่ออะไร ก็ไปถามตรง ER เขาก็บอกไม่ได้ถ้าไม่มีชื่อ ก็เลยต้องกลับ ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงว่าควรจะไปถามชื้อคู่กรณีจากโรงพัก ก็เลยไม่ได้ไปเยี่ยมเลย เราก็รอการติดต่อจากตำรวจทางเดียว พอหลังสงกรานต์ ตำรวจก็โทรมานัดให้ไปคุยกับคู่กรณี ไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย เขาเรียกมาที่ 3 หมื่น ตอนนี้ตกลงใจไปเพราะเราเห็นว่าคนเจ็บ เจ็บเยอะ รวมทั้งต่อรองแล้ว เขาไม่ลดให้ ก็มองหน้ากันเอาไงดี ก็ยอมไป แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินจากไหน เพราะแฟนก็เป็นแค่มนุษย์เงินเดือน ลูกก็ยังเล็ก ตอนนั้นบอกไปว่าขอเวลาหาเงินหน่อย ไม่มีให้เลยหรอก เขาก็ถามว่าขอซักหน่อยไม่ได้เหรอ ต้องเช่ารถไปหาหมอตอนนั้นมีติดตัวแค่ 2 พัน ก็ให้ไปหมด หลายวันที่เราพยายามหาทาง ก็คุนกันกับครอบครัวว่า หาให้ไม่ถึง 3 หมื่นหรอก แล้วทางบ้านก็ต่อว่า ว่าไปตกลงจ่ายได้ยังไงที่ 3 หมื่น เขามาชนเราเองนะ

ยาวหน่อยนะคะ อยากทราบว่าเหตุการณ์นี้ เราผิดฝ่ายเดียวเลยเหรอ ของฝ่ายคู่กรณี พรบ. ก็ขาด แล้วได้ยินจากคนแถวนั้น รวมทั้ง รปภ. ที่อยู่ขณะนั้นว่า เขากินเหล้ามาด้วย และปิดไปมา (หมายถึงไฟหน้า) แค่ก็ไม่มีหลักฐานอะไร นอกจากพยานบุคคล
ตอนนี้เรื่องยังไม่จบ เราควรทำยังไงดีคะ