ตอบแบบง่ายๆ ก็เรียนอัดเทอมละ 24 หน่วยกิต + ซัมเมอร์ 12 หน่วยกิต แล้วสอบให้ผ่านให้หมด
    ถ้าทำได้จริง 2 ปีครึ่ง ก็เรียนจบได้ครับ
    1 ปีการศึกษา (2 เทอม + ซัมเมอร์ 1 เทอม จะได้ 60 หน่วยกิต)
    2 ปีการศึกษา เก็บได้ 120 หน่วยกิต
    ปี 3 เทอม 1 ลงเต็ม 30 หน่วยกิต (เทอมสุดท้ายที่ขอจบสามารถลงได้ 30 หน่วยกิต)
    ก็เกิน 145 หน่วยกิตตามหลักสูตรแล้ว
    ถ้าทำได้ตามนี้ก็จบ 2 ปีครึ่งครับ

ส่วนควรลำดับการลงเรียนวิชาแบบไหนดี
ลองดูแผนการเรียนของหลักสูตรครับ ตามลิงค์นี้
https://docs.google.com/viewer?url=http%3A%2F%2Fwww.ru.ac.th%2Fth%2Fcenter_study_plan%2F9%2F1390792548_Political%20Science_6_57.pdf
จะเห็นว่ามีแผนการลงวิชาเรียนไว้แล้ว
ถ้าน้องอยากจบ 2 ปีครึ่ง น้องก็เอาวิชาของเทอมถัดๆไป
มาลงในเทอมที่น้องเรียน ให้เต็ม 24, 12 หรือเทอมสุดท้าย 30 หน่วยกิต
แต่แนะนำว่าควรลงตามรหัสวิชาไปครับ จากน้อยไปมาก
เพราะมหาวิทยาลัย เรียงลำดับตามเนื้อหามาอยู่แล้ว จะได้ต่อเนื่องไปครับ

ส่วนปริญญารัฐศาสตรบัณฑิต ของ ม.ราม
ได้รับการรับรองคุณวุฒิจาก ก.พ. อยู่แล้วครับ
ใช้สอบแข่งขันบรรจุเข้ารับราชการได้ ไม่มีปัญหา

เรื่องที่ว่าเรียนรามจบยากน่ะ พี่ว่าไม่จริงนะ มันเป็นกรณีรายบุคคล
พี่ว่าเรียน ม.ปิด ยังจบยากกว่า ม.ราม ซะอีก
เพราะ ม.ปิด มีเช็คชื่อเข้าเรียน มีรายงาน มีแลบ
มีสอบย่อย สอบกลางภาค ปลายภาค มีอะไรที่ต้องส่งเยอะแยะไปหมด
มีปัจจัยต่างๆในการผ่านแต่ละวิชามาก
ส่วนกรณี ม.ราม ในส่วนใหญ่ วัดกันที่คะแนนสอบปลายภาคเลยทีเดียว
สอบตกก็ยังมีโอกาสให้สอบซ่อมได้อีก
ด้วยปัจจัยเช่นนี้พี่จึงคิดว่า ม.ราม ไม่ได้เรียนจบยากอย่างที่ว่ากันหรอกครับ
คนที่บอกว่าจบยากน่ะ คือคนไม่เรียน ไม่อ่านหนังสือ ไม่เตรียมตัว ต่างหาก
ลองเจอคนอ่านหนังสือมาดีๆ เตรียมตัวมามากๆ ทำข้อสอบแป๊ปเดียวเสร็จ
ออดครึ่งชั่วโมงดัง ผมเพิ่งขึ้นข้อ 2 ท่านก็เล่นออกจากห้องละ (กรณีคนทำได้นะ)
แล้วคนแบบนั้นผลสอบออกมาก็ผ่านฉลุยทุกวิชาครับ
แต่ถึงมีปัจจัยช่วยอย่างสอบซ่อม ก็ไม่ใช่ว่าจะจบง่ายๆ ขี้ๆ นะครับ
ถ้าไม่อ่านหนังสือไปสอบก็จบเห่เช่นกัน จะสอบกี่ครั้งก็ตกเหมือนเดิม
เพราะเราต้องรับผิดชอบตัวเอง ทั้งการอ่านหนังสือ การหัดทำข้อสอบ การหาความรู้เพิ่มเติม
นี่จึงเป็นคุณสมบัติของบัณฑิต ม.ราม ที่มีความรับผิดชอบในตัวเองสูง
และขยันขันแข็ง ไม่แพ้เด็ก ม.ดังๆ ครับ