ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าปกติไม่เคยตีตั๋วแพงขนาดนี้ไปดูคอนเสิร์ตหรือดูอะไรมาประมาณนี้มาก่อน
เพราะก็ไม่ได้มีฐานะถึงระดับที่ใช้จ่ายแบบนี้ได้สบายๆ
แต่ที่ตีตั๋วมาเลย เหตุผลเดียวของผมคือการที่จะได้มาพบและฟังเสียงของศิลปินที่เป็นไอดอลของผมมาหลายปี
ถึงขนาดเอาตังค์เก็บมาซื้อตั๋วเพราะหวังว่าสักครั้งในชีวิต จะได้ลิ้มรสกับความฟินทางด้านเสียงดนตรี (ดูเหมือนเว่อร์ แต่ตั้งใจแบบนั้นจริงๆนะครับ)
.
.
.
เข้าเรื่อง!!
สิ่งที่ผมได้มา ต้องบอกเลยว่าผมฟินกับนักร้องและศิลปินทุกท่านมากๆที่มา ทั้ง Andrea Bocelli ที่มีเสียงก้องกังวาน ฟินสุดๆ
อารมณ์ขันและเป็นกันเองของ เดวิด ฟอสเตอร์ เสียงใสๆที่น่าทึ่งจาก Jackie Evancho รวมถึงเสียงเทพๆของ แคทธอรีน แมคฟี่
ดนตรีเพราะๆก่อนงานเริ่มจากศิลปิน Carisma และยังมีเซอร์ไพรต์ด้วยเพลงจากศิลปินดาวรุ่งจากไทยอย่างน้อง ไมร่า มณีภัสสรณ์ ที่โกอินเตอร์เต็มตัวด้วย
แต่สิ่งที่สะดุดเราทุกคนในฮอล์เลยคือ
อยู่ๆเสียงไมค์ก็แตกดังปริๆๆๆ แล้วไม่มีการแก้ไขจนกว่าเพลงจะจบ
อีกทั้งยังเกิดขึ้นรอบสองอีกต่างหากขณะที่อังเดรอากำลังแสดงคอนเสิร์ต
โชคดีที่สปิริตนักร้องและการแก้ปัญหา ทำให้ต้องมาใช้ไมค์ร่วมกันในการขับร้องเพลง
แต่น่าเสียดายที่โปรดักชั่นหรือทางผู้จัดไม่เตรียมการให้รอบคอบมากกว่านี้จนเกิดความผิดพลาดได้
ซึ่งถ้ามองผ่านๆอาจดูเหมือนไม่น่ามีอะไร แต่อย่าลืมว่าคนจ่ายมาฟังนักร้องเหล่านี้
ค่าตั๋วถูกสุด 12,000 บาทนะครับ และอย่างที่ของผมก็ 25,000 บาท
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเหมาะโต๊ะดินเนอร์ด้วยก็เหนาะๆ 1,500,000 (หนึ่งล้านห้าแสน) บาท
ก็ไม่ใช่ถูกๆ ดังนั้นขอตำหนิทางทีมเทคนิคและอยากให้มีการปรับปรุงในโอกาสต่อๆไปครับ
เพราะอายต่างประเทศไทยเขามาก ถ้าไม่โปรแบบนี้
(อันนี้เป็นทางเข้ากาล่าดินเนอร์นะครับ สำหรับเราได้แต่มองจากด้านนอกเลยไม่ทราบว่าข้างในเป็นอย่างไร)
อย่างที่สองเลยคือเรื่องของบัตร ตั๋วบัตรราคาเป็นหมื่น แต่แขกกลับมาแค่บัตรกระดาษ
มันน่าจะมีการพิจารณานะครับ เพราะขนาดของบัตรคอนเสิร์ตราคาถูกกว่านี้มาก
ยังได้เป็นบัตรชนิดดีๆที่ทำจากพลาสติกแข็งเลย
อย่างที่สามคือเรื่องของเก้าอี้นั่ง ทำออกมาไม่ได้สมราคาเลยครับ ยังโชคดีที่แถวที่จองคนนั่งไม่ได้เยอะทำให้ไม่ต้องเบียดกับใครมาก
จะชมก็มีอยู่อย่างเรื่องที่แจกขนมกล่องช๊อคโกแลต อันนี้โอเคครับ อร่อยดีทานเพลิน
แต่รวมๆ
ความประทับใจของผมในรอบนี้ อยู่ที่นักร้องแทบจะทั้งหมดครับ
ด้วยความประทับใจในตัวนักร้องและไอดอลอย่าง Andrea Bocelli
ทำให้ข้อผิดพลาดอย่างอื่นในงานดูเหมือนจะถูกมองข้ามไปได้แบบง่ายดาย( ณ เวลานั้น)
แต่เมื่อคอนเสิร์ตผ่านไปและเรามานั่งประเมิน คิดดูว่า เอ มันคุ้มไหมกับสองหมื่นห้า
รีวิวนี้จึงเกิดขึ้นตามมาเพื่อตั้งคำถามถึงมาตรฐานของการจัดงาน การตั้งราคา และคุณภาพ
ถ้าเทียบกับราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่ายไป แต่ยังไงก็ขอขอบคุณผู้จัดที่อุตส่าห์เชิญศิลปินที่เป็นไอดอลของผมมาแสดงคอนเสิร์ตถึงที่ไทยได้
ดังนั้นก็นะ บ่นมากต่อไปเดี๋ยวเขาไม่พามาให้ดูก็คงแย่ ดังนั้นเอาเป็นว่ากระทู้นี้ติเพื่อก่อแล้วกันนะครับ ^^
แล้วสำหรับคุณ ความคุ้มค่าของการตีตั๋วไปดูคอนเสิร์ดแต่ละครั้งนั้นพิจารณาจากไหน?
และใครที่ได้ไปงานคอนเสิร์ดครั้งนี้ มีใครเห็นด้วย เห็นต่าง อยากให้มาแชร์กันครับ
อยากอ่านฟีตแบคจากเพื่อนๆท่านอื่นในห้องนี้ ขอบคุณมากครับ
ท้ายสุด ขอฝากคลิปเพลง Time to say goodbye จากคอนเสิร์ตให้ฟังกันครับ
เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยิน Andrea Bocelli ดวลไมค์กับนักร้องรุ่นเด็กที่น่าจับตาอายุ14หรือราวๆ15 อย่าง Jackie Evancho ที่ผมยังขนลุกเสียงเธอเลยครับ
ลองฟังกันครับ
ใครชอบอยากแชร์ อยากโหวต ก็ยินดีครับ
ถือว่ามาแบ่งปันประสบการณ์กันดูครับ
ปกติอ่านอย่างเดียว รอบนี้ขอบ้างละกัน
แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไปที่เหมาะสมครับ
Time to say goodbye ^^
[CR] ว่าด้วยคอนเสิร์ดนักร้องระดับโลกAndrea Bocelli บัตรราคา 25,000 B. แต่สิ่งที่ได้มา..
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าปกติไม่เคยตีตั๋วแพงขนาดนี้ไปดูคอนเสิร์ตหรือดูอะไรมาประมาณนี้มาก่อน
เพราะก็ไม่ได้มีฐานะถึงระดับที่ใช้จ่ายแบบนี้ได้สบายๆ
แต่ที่ตีตั๋วมาเลย เหตุผลเดียวของผมคือการที่จะได้มาพบและฟังเสียงของศิลปินที่เป็นไอดอลของผมมาหลายปี
ถึงขนาดเอาตังค์เก็บมาซื้อตั๋วเพราะหวังว่าสักครั้งในชีวิต จะได้ลิ้มรสกับความฟินทางด้านเสียงดนตรี (ดูเหมือนเว่อร์ แต่ตั้งใจแบบนั้นจริงๆนะครับ)
.
.
.
เข้าเรื่อง!!
สิ่งที่ผมได้มา ต้องบอกเลยว่าผมฟินกับนักร้องและศิลปินทุกท่านมากๆที่มา ทั้ง Andrea Bocelli ที่มีเสียงก้องกังวาน ฟินสุดๆ
อารมณ์ขันและเป็นกันเองของ เดวิด ฟอสเตอร์ เสียงใสๆที่น่าทึ่งจาก Jackie Evancho รวมถึงเสียงเทพๆของ แคทธอรีน แมคฟี่
ดนตรีเพราะๆก่อนงานเริ่มจากศิลปิน Carisma และยังมีเซอร์ไพรต์ด้วยเพลงจากศิลปินดาวรุ่งจากไทยอย่างน้อง ไมร่า มณีภัสสรณ์ ที่โกอินเตอร์เต็มตัวด้วย
แต่สิ่งที่สะดุดเราทุกคนในฮอล์เลยคือ
อยู่ๆเสียงไมค์ก็แตกดังปริๆๆๆ แล้วไม่มีการแก้ไขจนกว่าเพลงจะจบ
อีกทั้งยังเกิดขึ้นรอบสองอีกต่างหากขณะที่อังเดรอากำลังแสดงคอนเสิร์ต
โชคดีที่สปิริตนักร้องและการแก้ปัญหา ทำให้ต้องมาใช้ไมค์ร่วมกันในการขับร้องเพลง
แต่น่าเสียดายที่โปรดักชั่นหรือทางผู้จัดไม่เตรียมการให้รอบคอบมากกว่านี้จนเกิดความผิดพลาดได้
ซึ่งถ้ามองผ่านๆอาจดูเหมือนไม่น่ามีอะไร แต่อย่าลืมว่าคนจ่ายมาฟังนักร้องเหล่านี้
ค่าตั๋วถูกสุด 12,000 บาทนะครับ และอย่างที่ของผมก็ 25,000 บาท
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเหมาะโต๊ะดินเนอร์ด้วยก็เหนาะๆ 1,500,000 (หนึ่งล้านห้าแสน) บาท
ก็ไม่ใช่ถูกๆ ดังนั้นขอตำหนิทางทีมเทคนิคและอยากให้มีการปรับปรุงในโอกาสต่อๆไปครับ
เพราะอายต่างประเทศไทยเขามาก ถ้าไม่โปรแบบนี้
(อันนี้เป็นทางเข้ากาล่าดินเนอร์นะครับ สำหรับเราได้แต่มองจากด้านนอกเลยไม่ทราบว่าข้างในเป็นอย่างไร)
อย่างที่สองเลยคือเรื่องของบัตร ตั๋วบัตรราคาเป็นหมื่น แต่แขกกลับมาแค่บัตรกระดาษ
มันน่าจะมีการพิจารณานะครับ เพราะขนาดของบัตรคอนเสิร์ตราคาถูกกว่านี้มาก
ยังได้เป็นบัตรชนิดดีๆที่ทำจากพลาสติกแข็งเลย
อย่างที่สามคือเรื่องของเก้าอี้นั่ง ทำออกมาไม่ได้สมราคาเลยครับ ยังโชคดีที่แถวที่จองคนนั่งไม่ได้เยอะทำให้ไม่ต้องเบียดกับใครมาก
จะชมก็มีอยู่อย่างเรื่องที่แจกขนมกล่องช๊อคโกแลต อันนี้โอเคครับ อร่อยดีทานเพลิน
แต่รวมๆ
ความประทับใจของผมในรอบนี้ อยู่ที่นักร้องแทบจะทั้งหมดครับ
ด้วยความประทับใจในตัวนักร้องและไอดอลอย่าง Andrea Bocelli
ทำให้ข้อผิดพลาดอย่างอื่นในงานดูเหมือนจะถูกมองข้ามไปได้แบบง่ายดาย( ณ เวลานั้น)
แต่เมื่อคอนเสิร์ตผ่านไปและเรามานั่งประเมิน คิดดูว่า เอ มันคุ้มไหมกับสองหมื่นห้า
รีวิวนี้จึงเกิดขึ้นตามมาเพื่อตั้งคำถามถึงมาตรฐานของการจัดงาน การตั้งราคา และคุณภาพ
ถ้าเทียบกับราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่ายไป แต่ยังไงก็ขอขอบคุณผู้จัดที่อุตส่าห์เชิญศิลปินที่เป็นไอดอลของผมมาแสดงคอนเสิร์ตถึงที่ไทยได้
ดังนั้นก็นะ บ่นมากต่อไปเดี๋ยวเขาไม่พามาให้ดูก็คงแย่ ดังนั้นเอาเป็นว่ากระทู้นี้ติเพื่อก่อแล้วกันนะครับ ^^
แล้วสำหรับคุณ ความคุ้มค่าของการตีตั๋วไปดูคอนเสิร์ดแต่ละครั้งนั้นพิจารณาจากไหน?
และใครที่ได้ไปงานคอนเสิร์ดครั้งนี้ มีใครเห็นด้วย เห็นต่าง อยากให้มาแชร์กันครับ
อยากอ่านฟีตแบคจากเพื่อนๆท่านอื่นในห้องนี้ ขอบคุณมากครับ
ท้ายสุด ขอฝากคลิปเพลง Time to say goodbye จากคอนเสิร์ตให้ฟังกันครับ
เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยิน Andrea Bocelli ดวลไมค์กับนักร้องรุ่นเด็กที่น่าจับตาอายุ14หรือราวๆ15 อย่าง Jackie Evancho ที่ผมยังขนลุกเสียงเธอเลยครับ
ลองฟังกันครับ
ใครชอบอยากแชร์ อยากโหวต ก็ยินดีครับ
ถือว่ามาแบ่งปันประสบการณ์กันดูครับ
ปกติอ่านอย่างเดียว รอบนี้ขอบ้างละกัน
แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไปที่เหมาะสมครับ
Time to say goodbye ^^