หวัดดีครับ สิงอยู่ MBK มานาน ตั้งกระทู้ครั้งแรก บอกก่อนนะครับว่า ผมใช้สินค้าตราผลไม้เป็นหลักมาตลอด ทั้ง iPhone, iPad หรือ Mac นับดูก็ราวๆ 15 ปีได้ ถ้านับแอพ เพลง หนัง ที่เคยเช่า/ซื้อก็น่าจะเอาไปเที่ยวญี่ปุ่นได้รอบนึง เรียกว่าเป็นสาวกคนนึง (มั้ง?) ผูกพันกับแอปเปิลมาตั้งแต่เรียนปีสอง ตั้งแต่จีบแฟนคนแรกเลย ฮ่าๆๆ

(ภาพถ่ายทั้งหมด เป็นลิขสิทธิ์ของผมนะครับ ก๊อปได้ แชร์ได้ แต่อย่าตัดเครดิตออกนะคร้าบ)

โดยพื้นฐานผมก็ชอบตามข่าวเทคโนโลยีนะ (Geek พอควร) สายงาน Telecom ที่ทำอยู่ ก็จะมีไปเกี่ยวๆ กับฝั่งแอนดรอยด์บ้าง ส่วนตัวพยายามจะไม่ยุ่งด้วยเท่าไหร่ แต่มาตายตรงที่แฟนเก่าเป็นสาวกแอนดรอยด์ ใช้มาตั้งแต่เริ่มคบกัน ตอนนั้นเป็น HTC Hero เลยมั้ง เลยต้องรู้ไว้ช่วยดูเครื่องให้ มีปัญหาอะไรก็พึ่งผมตลอด แรกๆ ก็มึนๆ จนตอนนี้ก็ใช้เป็นทั้งสองฝั่งละ มีข่าวอะไรก็ตามดูเค้าไปตามเรื่องตามราว ดูหมดทุกค่าย ส่วนแฟนคนนั้นนะเหรอ? ปัจจุบันเปลี่ยนสถานะเป็น “ภรรยา” ตามกฎหมายแล้วครับ แหะๆ ตอนนี้ที่บ้านเหมือนขุมสมบัติอะไรซักอย่าง กล่องขาวๆ ดำๆ ทั้ง apple, htc, LG เพียบ

ช่วงปลายปีที่แล้ว คุณเธอก็กรี๊ดกร๊าดกับ Samsung Galaxy Alpha เรื่องหน้าตาของมันมาก เออ รอบนี้ดูดีขึ้นนะ พอดีมี Note 4 ออกไล่เลี่ยกัน เธอเลยตัดสินใจไม่ได้ เราสองคนชอบมือถือที่ไม่ค่อยมีพลาสติกน่ะครับ ล่าสุดนี่คุณเธอนั่งกรี๊ดตอนที่เห็นข่าว S6 edge รู้ตัวอีกที เธอไปกดสั่งซื้อ Pre-sale ซะเลย (เธอบอกว่าตัดสินใจไม่ได้ สั่งมา 2 เครื่อง ไม่ชอบค่อยขายต่อ... ครับ - -“)



แล้วของก็มาถึง ผมก็ได้ใช้นะ ทั้ง S6 และ S6 edge ผลัดกันใช้ (ตามใจเธอ) มันก็โอเคนะ ใช้ไปประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เริ่มคุ้น ตอนนี้ต้องพก SIM ejector ไว้ในกระเป๋าตังค์ ไว้สลับกับ iPhone 6 ที่เป็นเครื่องหลัก (ถ้าอนาคตได้ใช้ 2 เครื่องจริงๆ อาจจะซื้อเบอร์เพิ่มอีกที)

ไหนๆ ก็ได้เครื่องมาก่อนชาวบ้าน อยากลองตั้งกระทู้ซะหน่อย (รู้ว่ากระทู้ S6 มีเยอะแล้ว แต่ขอหน่อยนะ นะ) อันนี้ไม่ใช่รีวิวแกะเครื่องนะครับ เค้าทำกันเยอะแล้ว แต่ผมขอไล่ตามที่ผมได้ใช้งานมาละกัน สรุปออกมาได้ประเด็นออกมา 7 ข้อถ้วน เชิญรับชมครับ

(รีวิวแกะกล่องแนะนำของ Blognone นะครับ)



1. หน้าตาและวัสดุ
สมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม อะไรๆ ก็ต้องพรีเมี่ยม ตั้งแต่ประสบการณ์ใช้งานที่มาเป็นอันดับแรก ประสิทธิภาพ ความลื่น เร็ว แรง (หลายคนรวมถึงความเป็นหน้าเป็นตาในสังคมด้วย) แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องพวกนั้น สิ่งแรกที่ผมชอบใน S6 และ S6 edge คือเรื่อง “การออกแบบ และวัสดุ” ครับ

แนวทางการออกแบบของ Samsung ในที่สุดก็ทันชาวบ้านเค้าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว พลาสติกมาตั้งนาน เป็นโลหะซะที ตอนที่ได้เห็นและจับ S6 ครั้งแรก รู้สึกลึกๆ ว่ามันคล้ายกับ iPhone 4/4s ที่เป็นกระจกหน้า/หลัง และล้อมกรอบด้วยโลหะ แต่ถ้าดูดีๆ ก็แตกต่างเพราะมีส่วนเว้าโค้ง มากกว่าพอสมควร และล่าสุดเปลี่ยนมาใช้ Nano SIM แล้ว น้ำตาจะไหล T_T (ทันชาวบ้านเค้าซะที)



ในเรื่องวัสดุที่ใช้ก็ดีนะครับ ตัวกระจกก็ใช้ Gorilla Glass 4 ที่แข็งแรงที่สุดในตอนนี้ ส่วนโครงก็เป็น aluminium alloy เกรด 6013 ซึ่งแข็งแรงกว่า aluminium ที่ใช้ทำสมาร์ทโฟนอื่นๆ ประมาณ 1.5 เท่า (คนอื่นใช้เกรด 6063) ซึ่งเกรดที่ S6 ใช้นั้นเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องบิน รถยนต์ จักรยาน เรือยอร์ช จบวิศวฯ ก็ชอบดูข้อมูลอะไรแบบนี้ล่ะครับ

(ข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Aluminium_alloy และ http://www.phonearena.com/news/How-the-Galaxy-S6-was-made-thermoforming-nanocoating-no-iPhone-bendgate_id66703 )

ความ Premium ไม่ได้หมายถึง Smartphone ชุบทองคำหรือฝังเพชร แต่หมายถึงการตอบรสนิยมของผู้ใช้แต่ละคนมากกว่า



ซึ่งตอนเปิดกล่อง S6 edge ความรู้สึกแรกคือมันล้ำและพรีเมี่ยมจริงๆ (ไม่เหมือนในโฆษณา แต่สวยไปอีกแบบ) คือมองด้านหน้า S6 รุ่นปกติ มันยังคล้ายกับ Samsung รุ่นอื่นๆ อยู่พอสมควร แต่ edge มันไม่ใช่อะ มันอธิบายยากแต่จริง กระจกโค้ง ภาพคม กรอบอลูมิเนียม ผิวเงาๆ รวมกันออกมามันงดงาม ดูดี ถูกใจจอร์จมาก จับดูปุ๊บก็คิดเหมือนหลายคนที่บอกว่าไอ้ขอบบางๆ เนี่ย จับไม่ถนัดนัก แต่เดี๋ยวพอเคสออกมาก็น่าจะมาช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เอาสวยไว้ก่อน 555 งานประกอบเครื่องผมโอเค ประกอบสนิทดี ไม่มีห่าง ไม่มีรอยขนแมว





ตัว S6 edge เนี่ย จับไป ใช้ไป ก็อยากยึดเอาไว้เอง แต่ในฐานะพ่อบ้านใจกล้าแบบผม ก็คงรอปลดระวางจากผบ.ทบ. ก่อน ฮ่าๆๆ คือไอโฟนก็ชอบนะ แต่หน้าตามันคล้ายๆ เดิมมาหลายรุ่นละ (สาวกก็เริ่มเบื่อเหมือนกัน)

จริงๆ จอโค้งของ S6 edge มันอาจจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากในแง่ฟังก์ชั่น แต่ในแง่การออกแบบ มันสุดกว่า S6 อยู่เยอะ เทียบงานออกแบบกับ iPhone 6 อันนั้นก็ดูเรียบ โค้งมน แต่ก็ไม่ค่อยหวือหวา สวยกันคนละแบบ



2. กล้อง
ตั้งแต่อดีต ใครๆ ก็รู้ว่า Samsung เน้นกล้องมากกก (จริงๆ ก็เน้นกันทุกแบรนด์ แค้นใจอยู่แบรนด์เดียวคือ iPhone ที่ยังกล้องหน้า 1.2 ล้านอยู่) ยอมรับเลยว่าภาพจาก S6 สีมันเจ็บมาก ชัดมาก อันนี้เป็นกลางนะครับมันละเอียดกว่าจริง เข้าไปดู Droidsans ทำ Blind test ก็ชนะขาดทุกรุ่นที่เอามาแข่งกัน (iPhone 6, Galaxy S4, S5, Zenfone 2)

(ดูรายละเอียดของ Blind Test โดย Droidsans ได้ที่ >> http://droidsans.com/mini-blind-test-5-smartphone-camera-showdown-result)



เทียบกับ iPhone 6 แล้ว S6 มีความละเอียดมากกว่า (ซึ่งปรับความละเอียดได้) จะมีติดโทนแดงมากกว่า iPhone อยู่ เหมาะกับการถ่ายภาพโทนสีร้อนมากกว่าหน่อยๆ แต่ปัญหาแก้ไขได้ด้วยการตั้ง White Balance และปรับ Color Correction ใน Mode : Pro ครับ ถ้าเปรียบกันก็เหมือนเอา Canon มาเปรียบกับ Nikon พูดยากว่าอะไรดีกว่า มันแล้วแต่คนชอบโทนสีแบบไหนมากกว่า ยกเว้นเรื่องความละเอียดที่ฝั่ง S6 จะให้มาเยอะกว่าเท่านั้นเอง

พอเข้าโหมด Pro จะปรับค่าต่างๆ ได้ละเอียดดี (เหมือนใช้ app ProShot ใน iPhone ) ปรับความเร็วชัตเตอร์ ปรับ White Balance ปรับนู่นนี่นั่น ถูกใจมือปรับอย่างผมมาก และยังดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้อีก สาวๆ น่าจะชอบเพราะไม่ต้องตั้งค่าอะไรวุ่นวาย



ส่วนที่น่าสังเกตคือการถ่ายวีดีโอ 4K ซึ่งผมมองว่ามันกำลังจะมานะ (แต่บางทีก็อาจจะไม่มานะ) ตอนนี้ TV 4K กำลังเริ่มมีราคาถูกลงเรื่อยๆ เชื่อว่าไม่เกิน 2 ปี 4K format น่าจะมีประโยชน์มาก จากที่ได้ลองไปถ่ายวีดีโอ 4K ก็ประทับใจในคุณภาพนะครับ แม้ว่าจะยังไม่ได้มีลูกเล่นอะไรกับตัววีดีโอมากนัก แต่ก็ได้ภาพที่ดีและระบบกันสั่น (OIS) ก็ช่วยให้ภาพดูนิ่งขึ้นมาก ชัดตาแตก ลองดูที่ผมถ่ายแถวชิดลมนะครับ ตอนดูอย่าลืมปรับความละเอียดใน YouTube เป็น 4K นะ


3. จอ
มาถึงอันดับ 3 ที่เป็นเรื่องเนื้อๆ เน้นๆ นั่นคือเรื่องของ จอ นั่นเอง

เรื่องที่เห็นข่มกันอยู่บ่อยๆ คือ ความละเอียดจอ ซึ่งจริงๆ ในขนาดของ Smartphone 5-6 นิ้ว มีความเชื่อว่า แค่ระดับ Full HD (1920x1080) ก็ละเอียดมากพอแล้ว แต่พอได้เห็นของจริง ผมรู้สึกว่ามันก็คมขึ้นจริงๆ แฮะ ไอ้จอ Quad HD เนี่ย (2560x1440) ตั้งแต่สมัยที่ใช้ HTC One M8 จนถึง S6 (แต่หลายคนก็แยกไม่ค่อยออกเหมือนกัน) สำหรับจอชัดๆ แบบนี้ ข้อเสียมีอยู่อย่างเดียวคือถ้าภาพที่เราเปิดในจอไม่ละเอียดมากพอ ก็จะดูแตกๆ ซึ่งความน่าสนใจของจอใน S6 และ S6 edge ขอแยกเป็น 2 ประเด็น ตามนี้ครับ




3.1 คุณภาพจอ
ถ้าใครที่ชอบจอสีสด สีจัดๆ ภาพชัดๆ จอ Super AMOLED ก็น่าจะทำให้ประทับใจได้ เพราะสีมันสดมากและให้ Contrast สูง ถึงผมจะชอบจอ IPS ของ iPhone ที่ให้สีเที่ยงตรงกว่า แต่จอ S6 ก็ดูดีสดใสไปอีกแบบ สาวๆ น่าจะชอบกัน (ในรูปคือเปิดความสว่าง 50% เท่ากัน)



3.2 จอโค้ง (edge display)
เรื่องนี้ผมก็ถามตัวเองเหมือนกันว่าจอโค้งมันดียังไง ถ้าจะว่ากันตรงๆ ฟีเจอร์ที่ให้มาเรื่อง Favorite Contacts กับ Information Stream มันก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ในแง่การใช้งานมากนัก เป็น candy feature ที่ไม่มีก็ไม่เป็นไร ยิ่งถ้าเทียบกับ Note Edge ยิ่งเห็นว่าอันนั้นจะมีประโยชน์มากกว่า แต่จอโค้งมันก็ทำให้หน้าตาเครื่องดูพรีเมี่ยมขึ้น ถือเป็นงานออกแบบที่โอเคครับ



เวลาใช้จริง คนโทรเข้าก็ไม่ค่อยใช้นิ้วปิดเสียงแบบนี้บ่อยนัก เพราะชอบเผลอหยิบมาดู ไม่ก็วางเครื่องหงายขึ้น แล้วก็เคยชินกับการกดปุ่ม เพิ่ม/ลด เสียงแบบเดียวกับ iPhone คงต้องให้คุ้นชินกว่านี้ก่อน



4. แอพ
อย่างแรกที่จะเห็นได้คือ Bloatware ต่างๆ หายไป (คงได้เห็นจากที่มีการ Review กันอย่างท่วมท้นมาแล้ว) เครื่องเบาลงมาก ในขณะที่ app หลายตัวที่ลงมาให้ก็สามารถลบได้ ไม่ต้องเก็บไว้เกะกะเครื่อง พื้นที่ที่มีให้อาจจะน้อยคือ 32 GB แต่ก็ดีที่ยังเอา Bloatware ออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้



ใน Galaxy App Store ที่ได้ใช้จริงๆ ก็มี Hancom office, VSCO Cam พร้อม filter set มาให้โหลดกันฟรี  ส่วนที่ประทับใจจริงๆ คือ SmartSwitch กับ SideSync ที่ใช้งานง่าย โอนถ่ายข้อมูลระหว่าง iPhone มาได้ราบรื่นมาก



5. ประสิทธิภาพ ความเร็ว แรง และการใช้งาน
คงต้องดูกันยาวๆ หลังจากนี้ไปอีกเป็นเดือน แต่จนถึงตอนนี้ ลองเปิดแอพเยอะๆ ลองเปลี่ยน Launcher หลายๆ แบบ ตอนนี้ใช้ Yahoo! Aviate Launcher เป็นหลัก ประมาณ 95% ลื่นมาก มีหนืดๆ ตอนเพิ่งเปิดเครื่องอยู่บ้างนิดหน่อย



แอพหนักๆ นี่ก็ลองเล่นเกมพวก Asphalt ดู ก็มีจังหวะโหลด กระตุกนิดหน่อย แต่ระหว่างเล่นก็ไม่มีกระตุกอะไร (ยังไม่เคยซื้อ Infinity Blade ใน Play Store เลยเปิดของ iPhone ให้ดูเทียบละกันนะครับ)



ลองเทียบคะแนน Benchmark ด้วย AnTuTu ตัว S6 ได้คะแนนไป 68,505 ในขณะที่ S6 edge ได้ไป 67,792 คะแนน เยอะกว่ารุ่นพี่อย่าง Note 4 ไปเยอะพอสมควร

สรุปว่าความคิดเรื่อง android หนืด ช้า ที่เคยเจอในอดีต เจอ CPU 8 คอร์ไปนี่ลื่นหัวแตก คนใช้ iPhone อย่างผมที่ลื่นๆ มาตลอดไม่รำคาญ ต้องปรบมือให้เลย (ถ้าใช้ไปนานๆ แล้วช้าเดี๋ยวมาบอกอีกที)



ส่วน Feature อื่นๆ ก็ได้ใช้งานจริง ตัวแสกนลายนิ้วมือก็แค่ทาบเหมือนกับ iPhone ส่วน edge display พูดตรงๆว่าไม่ได้ใช้เท่าไหร่

*edit รูปที่ไม่ใช่ของผมออกก่อนละกันนะครับ
(มีต่อ)