ทริปหนีงาน บุกเดี่ยวเที่ยวเล่นไต้หวัน

สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องขอแจ้งก่อนว่า ยืม Account ของเพื่อนมาใช้นะ
และเป็นกระทู้แรกที่เขียนบอกเล่าการเดินทางของตัวเอง อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่า



ไต้หวันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่เป็นครั้งแรกที่เที่ยวเล่นคนเดียวในต่างแดน
ครั้งแรกที่ได้ไปไต้หวัน คือช่วงเดือน ตุลาคม
คือแบบ... ประทับใจ ของกินเยอะ เดินทางง่าย คนไม่พลุกพล่าน
มีพื้นที่สีเขียวอยู่เยอะแยะ เป็นอีกประเทศที่เสพศิลปะได้ตามข้างทาง
ไหนๆ ตั๋วเครื่องบิน ก็โหมจัดโปรโมชันราคามาซะเยอะ จัดไปอีกครั้งละกัน

หมายเหตุ :
*   เนื่องจากไปไต้หวันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 บางสถานที่ที่เคยไปแล้วในครั้งแรก เลยไม่ได้ไปอีก
**  การเขียนอาจไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก สำหรับข้อมูลของแต่ละสถานที่ วิธีการเดินทาง


เดินทาง : 16-24 มี.ค. 58 (ดองไว้นาน กำลังได้ทีดีเลย)
โก โก โก...

มิชชั่นแรก!
เครื่องออกจากไทย 2 ทุ่ม (16 มี.ค.) ถึงไทเป 12.40 AM (17 มี.ค.) หมดไปล่ะ 1 วัน -*-
เอาล่ะ อยากนอนสนามบินมานานล่ะ อยากรู้เป็นไง
ดูรายการ Amazing Race เค้านอนกันสนามบิน แม่ม เท่ว่ะ
จัดแจงหาที่ทาง เอาที่ใกล้ห้องน้ำ มีโซฟา มีปลั๊ก ต่อ Wi-Fi ได้ เป็นโอเค
โดยสรุป การนอนสนามบินที่เถาหยวน ต่อเน็ตสัญญาณแรง สะดวกสบาย ปลอดภัยระดับหนึ่ง
แต่ไม่เหมาะกับคนนอนยาก และก็ไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุกด้วย
เพราะประมาณตี 5 มีทัวร์ลุง-ป้าที่รอขึ้นเครื่องมาโช้งเช้ง ตื่นเลย =.=

วันที่ 2 (17 มี.ค.)
เอาล่ะ ได้เวลาอันสมควรแก่การเที่ยวเล่น ไต้หวันรอเราอยู่


ระหว่างทาง ด้านนอกหมอกจัดเชียว


เข้าที่พักไปฝากกระเป๋าก่อน เราไม่อยากมีภาระ 20 กิโล ติดตัวตอนเที่ยวเล่น
ทั้งทริปนี้ เรานอนที่ Mr. Lobster’s Secret Den อยู่บริเวณ Taipei Main Station
เว็บไซต์ที่พัก www.mrlobstersecret.com
จากสถานีค่อนข้างเดินไกลอยู่ ประมาณ 10 นาทีได้
ติดต่อขอฝากกระเป๋า อาบน้ำ ล้างหน้า ทำตัวให้สะอาด
แล้วเดินทางไปเสพงานของ Jimmy Liao ที่ MRT Nangang





พอใจกับ Jimmy Liao อยากเห็นงานอาร์ตๆอีก
เลยไปต่อ Huashan 1912 Creative Park ที่ MRT Zhongxiao Xingsheng
ที่นี่เป็นไฮไลท์หนักๆเน้นๆเลย สำหรับคนชอบงานติสต์ๆ งานน่ารักๆ
เป็นเหมือนสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม ที่มีสถานที่จัดนิทรรศการเวียน
แต่ละช่วงจะผลัดเปลี่ยนกันไป ทั้งแบบเสียเงินค่าเข้า และแบบไม่เสียเงิน
นอกจากนั้นก็มีคาเฟ่ และก็ร้านขายของแนวๆ








วันที่ 3 (18 มี.ค.) ไปขึ้นกระเช้าคิตตี้ที่เหมาคง (Mao Kong)
เริ่มต้นวัน หาอะไรใส่ท้อง แล้วก็นั่ง MRT ไปลงที่สถานี Taipei Zoo
พอออกจากสถานีแล้ว เดินตามทางไปที่ MaoKong Gondola
ด้านล่างมีจุดขายบัตรขึ้นกระเช้า กระเช้ามี 2 แบบ แบบธรรมดา กับแบบคริสตัล
ซึ่งสถานีกระเช้าจะมีอยู่ 4 สถานี เริ่มจากสถานีที่ขึ้นกระเช้านี่แหละ > สวนสัตว์ > วัด > หมู่บ้านน้ำชา
เราไปที่สถานีปลายทางเลย





ที่นี่คล้ายกับหมู่บ้านย่อมๆ มีทั้งร้านอาหาร มีทั้งวัด มีทั้งสวน
จุดเด่นอยู่ที่ร้านน้ำชา มีหลากหลายร้าน
จิบชาไปพลางๆ ชมวิวตึก Taipei 101 ไปพลางๆ
ใช้ชีวิตแบบ Slow Life อ้าาาาา...นี่แหละชีวิตแสนสุข






เสร็จจาก Mao Kong ไปต่อที่ Songshan Cultural and Creative Park
ที่นี่มี Concept คล้ายกับที่ Huashan 1912 Creative Park ที่ไปมา



ชักภาพระหว่างทาง


Songshan Cultural and Creative Park เป็นสวนสาธารณะ มีลานกิจกรรม
มี Taipei Design Museum มีสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเวียน (เสียเงินเข้า)   
ถ้าเทียบกับ Huashan 1912 สถานที่ของที่นี่ใหญ่กว่า เดินงงกว่า
ตอนที่ไปกำลังมีนิทรรศการ ดราก้อนบอล
อยากเข้านะ ไปที่ประตูทางเข้าแล้วด้วย แต่หาจุดซื้อบัตรเข้าไม่เจอ -*-
คือทางเข้านิทรรศการมันอยู่บนตึกชั้น 2 แต่จุดขายบัตรมันอยู่ชั้นล่างนอกตึก
พอเจอจุดขายบัตร ก็ลืมไปล่ะว่าทางเข้าอยู่ไหน
แล้วก็ไปเจอกับคุณสนูปปี้ เลยเสียเงินเข้าไปทักทายคุณสนูปปี้ กับ ชาร์ลี บราวน์ แทน






โดยส่วนตัวการจัดที่ทางของที่นี่ มันงงๆ
เลยให้ความรู้สึกเหมือนว่าสร้างและจัดการยังไม่เสร็จดี

แต่ที่ชอบที่สุดของที่นี่ คือ The Eslite Spectrum
Eslite ขึ้นชื่อในเรื่องของร้านหนังสือในไต้หวัน มีหลายสาขาใหญ่ๆ  
แต่นอกจากหนังสือ ที่นี่ยังเป็นห้างที่รวบรวมแบรนด์ Handmade เจ๋งๆ  
และแบรนด์พวกนี้ ยังเปิด Workshop สำหรับบุคคลทั่วไปด้วย
มีทั้ง เป่าแก้ว วาดภาพ ทำเครื่องประดับ งานคราฟ งานแฮนด์เมด โหวววว..เจ๋งอะ
ชั่วขณะนั้นแทบอยากย้ายตัวเองมาเป็นคนที่นี่ จะเข้าร่วมมันทุก Workshop เลย
แต่ตอนนี้ ต้องควักเงินซื้อของพวกนี้ไปก่อน


งานอันนี้น่ารักมากมาย สนใจลองดูที่เว็บไซต์เค้านะ www.carpenter.com.tw


วันที่ 4 (19 มี.ค.)  ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ มันจะแค่ไหนกันเชียว
ตื่นเช้ามา รีบพาตัวเองไปขึ้นรถไฟ ต่อรถบัส
เดินทางไปที่ Sun Moon Lake หรือ ทะเลสาบสุริยันจันทรา (ชื่อไทยเท๊..เท่)

กระแสปั่นจักรยาน กำลังมา เราต้องทำตัวให้อินเทรนด์
แต่อินเทรนด์ไม่พอ เราต้องอินเตอร์ด้วย
ปั่นที่ไทยเราไม่ เราต้องปั่นที่ ตปท.
หนึ่งแพลนที่ตั้งใจมาไต้หวันครั้งนี้ คือ ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ
จัดการเช่าจักรยาน ทั้งวัน 200 NT แล้วเริ่มปั่น ไป ไป ไป ไปให้ครบรอบ



...ขอออกตัวก่อน ตอนใช้ชีวิตแบบปกติ ไม่เคยจะปั่นจักรยานทางไกลมาก่อน...
...อย่างมากก็ขี่กินลมชมวิวเอาบรรยากาศกับเพื่อนๆ พอขำๆ...








ไข่ต้มใบชาอันลือชือ



จุดนี่เค้าตั้งป้ายว่า View of Sun Moon Lake แต่มาในช่วงนี้ อากาศร้อน แห้งเหือดมากเลย


หลังปั่นครบรอบทะเลสาบ คือ
ไม่ไหวแล้ววววววว.. เหนื่อยโฮกกกกกกก.. เอาร่างที่แสนทรมานนี้โยนไปบนที่นอนที
ระยะทางโดยรวมประมาณ 33 กิโลเมตร มีทั้งทางขึ้นเขา (ง้อววว...) ทางลงเข้า (ฮูเร่...)
มีทางที่ไม่สามารถปั่นไปได้ ต้องเข็นจักรยานขึ้นเขา ยกขึ้นบันไดเอา
แต่ก็นะ พอจบ ครบรอบแล้ว แทบจะหาถ้วยรางวัลให้ตัวเอง
และพูดกับตัวเองว่า “เก่งอะตัว รักตัวนะ เค้าภูมิใจกับตัวม๊าก..มาก”
แนะนำเลย คุณควรจะมาลองปั่นสักครั้งในชีวิต
ทำไมนะเหรอ? วิวสวย ธรรมชาติสุดๆ
เข้าใจถึงสัจธรรมในชีวิตมากขึ้น (งั้นเลย จริงๆนะ)
และก็ใส่ลงในอัตชีวประวัติ เอาไปโม้ในกรุ๊ปเพื่อนได้เลย  ^^


ข้อเสียของการมาคนเดียว คือ ไม่มีรูปตัวเอง ต้องถ่ายเอาแบบนี้แหละ


วันที่ 5 (20 มี.ค.) วันเปื่อยๆ
หลังจากเมื่อวาน พอกลับถึงที่พัก ติดแปะเกาะเอี๊ยที่ขา
วันนี้ขออนุญาตตัวเองลาเช้า ตื่นสายสักวัน

ออกจากที่พักเที่ยง ไปหาอะไรกินที่ Taipei Main Station
พักอยู่ที่นี่ แต่ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับนี่เลย
Taipei Main Station เป็นสถานีหลัก
ที่มีทั้ง MRT(รถไฟใต้ดิน) TRA(รถไฟธรรมดา) HSR(รถไฟด่วน) รสบัสต่างๆ
ใครจะเดินทางไปไหนมาที่นี่ ครบ!!
นอกจากมีครบทุกเส้นทางรถไฟ รถบัส แล้ว
ยังมีห้างสรรพสินค้าใต้ดิน บนดินมีร้านขายของ ขายขนม ของฝาก
ชั้น 2 เป็นร้านอาหาร และ food court
เรียกได้ว่าถ้าจะมาหาของกิน ได้กินแน่นอน



กินเสร็จ เดินทางไป MOCA Museum ที่ MRT Zhongshan
ครั้งแรกที่มา จับใจมาก เป็นอีกทีที่ชอบที่สุดในไต้หวัน เลยต้องมาอีกครั้ง
แต่ พอถึง MOCA Museum ปิดปรับปรุงค่าาาา
เราเดินพาหัวใจที่แตกสลายของเราไปเดินเล่นละแวกนั้นแทน
มีสวนหย่อมเล็กๆ ข้างสถานี มีร้านอาหาร มีร้านเสื้อผ้า มีห้างสรรพสินค้าให้เดินเล่น
เก็บกล้องใส่กระเป๋า เดินห้างเล่นละกัน



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่