เมื่อพูดถึง
Guardians of the Galaxy หลายคนคงนึกถึงชื่อของผู้กำกับ James Gunn แต่น้อยคนจะรู้ว่ายังมีอีกคนที่ปลุกปั้นหนังเรื่องนี้ก่อน Gunn จะเข้ามาซะอีกและชื่อของเธอคือ
Nicole Perlman
Nicole Perlman เกิดและเติบโตในครอบครัวที่หลงไหลเรื่องราวไซไฟ โดยคนที่ผลักดันเธอมากที่สุดก็คือคุณพ่อของเธอที่เป็นแฟนไซไฟตัวยงและแนะนำเธอให้อ่านนิยายไซไฟชั้นดีมากมายตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะงานของ Ray Bradbury พออายุ 15 เธอก็ชนะรางวัลงานเขียนไซไฟ โดยราวัลคือการได้ไปเข้าค่ายวิทยศาสตร์อวกาศ แต่เธอไม่ได้ไปเพราะเธอต้องเข้ารับการผ่าตัด เธอบอกว่าจนถึงทุกวันนี้เธอยังเสียใจที่ไม่ได้เข้าค่ายนั้น
Perlman เข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ NYU สาขาเขียนบท ระหว่างเรียนเธอเขียนบทหนังเกี่ยวกับการสืบสวนการระเบิดของยาน Challenger ของเธอชนะรางวัลที่เทศกาลภาพยนตร์ Tribeca (จนถึงทุกวันนี้ บทหนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในลิสต์บทหนังดีที่ยังไม่มีใครสร้าง) เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี 2003 ด้วยเครดิตขนาดนี้ ชีวิตในฐานะนักเขียนบทคงจะราบรื่นและสวยหรู แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น
ไม่นานหลังจากเรียนจบ เธอได้งานดัดแปลงบท
First Man: The Life of Neil A. Armstrong ซึ่งเธอก็เข้าใจว่าคืองานเริ่มต้นของนักเขียนทุกคน แต่งานของ Ray Bradbury ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยในอวกาศและฉากแอ็คชั่นมากมายยังครุกรุ่นอยู่ข้างในตัว เธอเริ่มหาลู่ทางที่จะได้เขียนงานประเภทนั้น หลายค่ายปฎิเสธด้วยเพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงบุคลิกอ่อนหวานแบบเธอจะเขียนงานแอ็คชั่นแมนๆแบบนั้นได้ ทุกคนล้วนหันหน้าหนี ยกเว้นค่ายหนังเล็กๆที่เพิ่งมีหนังได้ 2 เรื่อง ที่ชื่อว่า
MARVEL
ในปี 2009 หลังจากความสำเร็จอันล้นหลามของ Iron Man และเอ่อ..อะไรก็ตามแต่ที่ Incredible Hulk เป็น Marvel คิดการณ์ใหญ่ เขาไม่ได้มองแค่การมาถึงของ The Avengers พวกเขามองหาอะไรใหม่จากตัวละครที่เขามี พวกเขาจึงสร้างโครงการที่รวมนักเขียนหน้าใหม่ที่มีพรสวรรค์ มาเขียนบทและนั้นพาทั้งคู่มาพบกัน
Perlman เล่าให้ฟังว่าเธอและนักเขียน 2 – 3 คน ถูกพาเข้าโครงการพร้อมยื่นรายชื่อตัวละครให้เลือกราวครึ่งโหล มีทั้งที่พอได้ยินชื่อมาบ้าง หรือไม่เคยได้ยินเลย แล้วให้พวกเขาพัฒนาบทจากตัวละครนั้นเป็นเวลา 2 ปีเต็ม ซึ่งบทที่จะถูกพัฒนาเป็นหนังนั้นจะมีเพียงเรื่องเดียว และนี่อาจเป็น 2 ปี ที่ว่างเปล่าสำหรับเธอหากบทไม่ได้รับนำไปสร้าง ถึงอย่างนั้น Perlman เลือก Guardians of the Galaxy กลุ่มฮีโร่นอกคอกที่แทบไม่มีใครรู้จัก เพราะดูเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับเรื่องราวไซไฟอวกาศที่เธออยากทำมาตลอด
เมื่อเธอเลือก Guardians of the Galaxy ก็ทำให้ Marvel แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พยายามจะหยุดอะไรเธอ หรือคลางแคลงใจในตัวเธอแบบที่เคยเจอมา พวกเขากลับคิดว่ามันน่าสนใจดี
โดยในช่วงเวลา 6 อาทิตย์แรก Perlman ใช้เวลาอ่านและศึกษา Guardians of the Galaxy (ที่ไม่ได้เป็นคอมมิคที่นิยมมากเท่าไหร่นัก จุดกำเนิดมันเริ่มตั้งแต่ปี 1969 ซึ่งก็มีผัดเปลี่ยนสมาชิกไปตั้งแต่ยุค 1970s, ยุค 1990s และครั้งล่าสุดคือปี 2000 ซึ่งแม้แต่ในสังคมคนอ่านคอมมิค นี่ก็หาได้ยากว่าใครจะรู้จักพวกเขา เรียกว่าเป็น Geek ในหมู่ Geek เลยก็ได้) ซึ่งไม่ใช่แค่อ่านในหัวเรื่องนี้ แต่ต้องอ่านเรื่องราวของตัวละครที่พวกเขาปฎิสัมพันธ์ด้วย ซึ่งสิ่งที่เธอแปลกใจแม้แต่ทุกวันนี้คือความอิสระที่ Marvel มอบให้เธอ เหมือนกับพวกเขายื่นคอมมิคกองโตให้เธอแล้วบอก “อยากเขียนอะไรก็เขียน อยากใช้ตัวละครไหนก็ใช้ ขอให้ออกมาดีแล้วกัน” ซึ่งเป็นอิสระที่หาได้ยากในงานค่ายหนังทุกวันนี้
ท้ายที่สุดเธอก็เลือกสมาชิกบางส่วนจากคอมมิคปี 2008 ที่ประกอบด้วย Peter Quill , Gamora , Drax , Rocket Raccoon และ Groot
แต่แทนที่เธอจะดำเนินตามรอยคอมมิค เธอกับเลือกจะ’รีบูต’ตัวละครเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ชมสามารถเชื่อมต่อกับพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น Star-Lord (Peter Quill) คือนักบินอวกาศที่หลุดมาเจอเหตุการณ์ในอวกาศ มาเป็นเด็กชายที่ถูกลักพาตัวจากโลกพร้อมเทปคาสเซ็ตอุดมด้วยเพลงยุค 70
ระหว่างนั้นเองเธอก็ได้ช่วยเขียนบท Thor ในส่วนของ Jane Foster (Natalie Portman) เพราะเธอต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องของดวงดาวและอวกาศ Perlman จึงไม่รอช้าที่จะแสดงความสามรถของเธออกมาเพื่อจะได้ร่วมงานกับไอดอลของเธออีกคนอย่าง Kenneth Branagh
หลังเสร็จสิ้นโครงการในปี 2011 Marvel เชิญเธอกลับมาแก้บทใหม่อีกครั้งเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งทำให้เธอเริ่มมั่นใจว่าพวกเขาจะทำหนังเรือกนี้จริงๆ และเวลาสำหรับหนังเรื่องนี้กำลังจะหมดลง เพราะ Marvel พิจารณาที่จะค้นหาผู้กำกับที่เขียนบทได้ด้วยมารับช่วงต่อบทนี้อีกทอดหนึ่ง ส่วนหนึง Perlman ยอมรับว่าเธอเองไม่ใช่นักเขียนเชิงตลกในโทนที่ทาง Marvel อยากให้หนังเป็นได้
และเวลาก็หมดลง เมื่อ Marvel ได้นำผู้กำกับอินดี้ชื่อ James Gunn เข้ามาสู่หนัง Gunn เพิ่มความตลก สนุกเข้าไปในหนัง และมีหลายฉากที่ไม่แน่จะมีได้แน่ในหนังเรื่องอื่น Perlman จึงถอยออกจากบทของเธอด้วยความสบายใจ
และแทนที่จะปล่อย Perlman ออกจากโปรเจคไปอย่างเงียบๆ Marvel เลือกจะพาเธอมาเยี่ยมชม การถ่ายทำถึงลอนดอน ซึ่งเธอจะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ที่เธอต้องการ ซึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนฝันที่เป็นจริงเมื่อได้อยู่ในกองถ่ายที่มีนักแสดงประกอบแต่หน้าตาเป็นเอเลี่ยนมากกว่า 600 คน
และในเดือนสิงหาคมปี 2014 ชื่อของ
Nicole Perlman ก็ขึ้นเป็นผู้เขียนบทร่วมในหนังเรื่องนี้ และทำให้เธอกลายเป็นมือเขียนบทหญิงคนแรกของ
Marvel
หลังจากความสำเร็จ Guardians of the Galaxy เธอก็ได้มีงานเขียนบทหนังและทีวีไซไฟมากมายรวมถึง Challenger ที่กำลังจะถูกสร้างภายใต้บริษัท Hydra Entertainment (สาบานว่าไม่ได้มุขบริษัทชื่อไฮดร้าจริงๆ)
และก้าวต่อไปของเธอและ Marvel คือการปลุกปั้นหนังฮีโร่หญิงคนแรกของค่ายอย่าง
Captain Marvel โดยเธอจะร่วมเขียนบทกับ Meg LeFauve (หนึ่งในทีมเขียนบทหนังอนิเมชั่น Inside Out) และแว่วว่ากำลังจะหาผู้กำกับหญิงอยู่ ก็ต้องมาลุ้นกันว่าหนังฮีโร่พลังหญิงเรื่องนี้จะเป็นม้ามืดอย่างที่ Guardians of the Galaxy ทำได้ไหม
Nicole Perlman มือเขียนบทผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Guardians of the Galaxy
เมื่อพูดถึง Guardians of the Galaxy หลายคนคงนึกถึงชื่อของผู้กำกับ James Gunn แต่น้อยคนจะรู้ว่ายังมีอีกคนที่ปลุกปั้นหนังเรื่องนี้ก่อน Gunn จะเข้ามาซะอีกและชื่อของเธอคือ Nicole Perlman
Nicole Perlman เกิดและเติบโตในครอบครัวที่หลงไหลเรื่องราวไซไฟ โดยคนที่ผลักดันเธอมากที่สุดก็คือคุณพ่อของเธอที่เป็นแฟนไซไฟตัวยงและแนะนำเธอให้อ่านนิยายไซไฟชั้นดีมากมายตั้งแต่เด็กโดยเฉพาะงานของ Ray Bradbury พออายุ 15 เธอก็ชนะรางวัลงานเขียนไซไฟ โดยราวัลคือการได้ไปเข้าค่ายวิทยศาสตร์อวกาศ แต่เธอไม่ได้ไปเพราะเธอต้องเข้ารับการผ่าตัด เธอบอกว่าจนถึงทุกวันนี้เธอยังเสียใจที่ไม่ได้เข้าค่ายนั้น
Perlman เข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ NYU สาขาเขียนบท ระหว่างเรียนเธอเขียนบทหนังเกี่ยวกับการสืบสวนการระเบิดของยาน Challenger ของเธอชนะรางวัลที่เทศกาลภาพยนตร์ Tribeca (จนถึงทุกวันนี้ บทหนังเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในลิสต์บทหนังดีที่ยังไม่มีใครสร้าง) เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี 2003 ด้วยเครดิตขนาดนี้ ชีวิตในฐานะนักเขียนบทคงจะราบรื่นและสวยหรู แต่ความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้น
ไม่นานหลังจากเรียนจบ เธอได้งานดัดแปลงบท First Man: The Life of Neil A. Armstrong ซึ่งเธอก็เข้าใจว่าคืองานเริ่มต้นของนักเขียนทุกคน แต่งานของ Ray Bradbury ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยในอวกาศและฉากแอ็คชั่นมากมายยังครุกรุ่นอยู่ข้างในตัว เธอเริ่มหาลู่ทางที่จะได้เขียนงานประเภทนั้น หลายค่ายปฎิเสธด้วยเพราะไม่เชื่อว่าผู้หญิงบุคลิกอ่อนหวานแบบเธอจะเขียนงานแอ็คชั่นแมนๆแบบนั้นได้ ทุกคนล้วนหันหน้าหนี ยกเว้นค่ายหนังเล็กๆที่เพิ่งมีหนังได้ 2 เรื่อง ที่ชื่อว่า MARVEL
ในปี 2009 หลังจากความสำเร็จอันล้นหลามของ Iron Man และเอ่อ..อะไรก็ตามแต่ที่ Incredible Hulk เป็น Marvel คิดการณ์ใหญ่ เขาไม่ได้มองแค่การมาถึงของ The Avengers พวกเขามองหาอะไรใหม่จากตัวละครที่เขามี พวกเขาจึงสร้างโครงการที่รวมนักเขียนหน้าใหม่ที่มีพรสวรรค์ มาเขียนบทและนั้นพาทั้งคู่มาพบกัน
Perlman เล่าให้ฟังว่าเธอและนักเขียน 2 – 3 คน ถูกพาเข้าโครงการพร้อมยื่นรายชื่อตัวละครให้เลือกราวครึ่งโหล มีทั้งที่พอได้ยินชื่อมาบ้าง หรือไม่เคยได้ยินเลย แล้วให้พวกเขาพัฒนาบทจากตัวละครนั้นเป็นเวลา 2 ปีเต็ม ซึ่งบทที่จะถูกพัฒนาเป็นหนังนั้นจะมีเพียงเรื่องเดียว และนี่อาจเป็น 2 ปี ที่ว่างเปล่าสำหรับเธอหากบทไม่ได้รับนำไปสร้าง ถึงอย่างนั้น Perlman เลือก Guardians of the Galaxy กลุ่มฮีโร่นอกคอกที่แทบไม่มีใครรู้จัก เพราะดูเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับเรื่องราวไซไฟอวกาศที่เธออยากทำมาตลอด
เมื่อเธอเลือก Guardians of the Galaxy ก็ทำให้ Marvel แปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พยายามจะหยุดอะไรเธอ หรือคลางแคลงใจในตัวเธอแบบที่เคยเจอมา พวกเขากลับคิดว่ามันน่าสนใจดี
โดยในช่วงเวลา 6 อาทิตย์แรก Perlman ใช้เวลาอ่านและศึกษา Guardians of the Galaxy (ที่ไม่ได้เป็นคอมมิคที่นิยมมากเท่าไหร่นัก จุดกำเนิดมันเริ่มตั้งแต่ปี 1969 ซึ่งก็มีผัดเปลี่ยนสมาชิกไปตั้งแต่ยุค 1970s, ยุค 1990s และครั้งล่าสุดคือปี 2000 ซึ่งแม้แต่ในสังคมคนอ่านคอมมิค นี่ก็หาได้ยากว่าใครจะรู้จักพวกเขา เรียกว่าเป็น Geek ในหมู่ Geek เลยก็ได้) ซึ่งไม่ใช่แค่อ่านในหัวเรื่องนี้ แต่ต้องอ่านเรื่องราวของตัวละครที่พวกเขาปฎิสัมพันธ์ด้วย ซึ่งสิ่งที่เธอแปลกใจแม้แต่ทุกวันนี้คือความอิสระที่ Marvel มอบให้เธอ เหมือนกับพวกเขายื่นคอมมิคกองโตให้เธอแล้วบอก “อยากเขียนอะไรก็เขียน อยากใช้ตัวละครไหนก็ใช้ ขอให้ออกมาดีแล้วกัน” ซึ่งเป็นอิสระที่หาได้ยากในงานค่ายหนังทุกวันนี้
ท้ายที่สุดเธอก็เลือกสมาชิกบางส่วนจากคอมมิคปี 2008 ที่ประกอบด้วย Peter Quill , Gamora , Drax , Rocket Raccoon และ Groot
แต่แทนที่เธอจะดำเนินตามรอยคอมมิค เธอกับเลือกจะ’รีบูต’ตัวละครเหล่านี้ เพื่อให้ผู้ชมสามารถเชื่อมต่อกับพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น Star-Lord (Peter Quill) คือนักบินอวกาศที่หลุดมาเจอเหตุการณ์ในอวกาศ มาเป็นเด็กชายที่ถูกลักพาตัวจากโลกพร้อมเทปคาสเซ็ตอุดมด้วยเพลงยุค 70
ระหว่างนั้นเองเธอก็ได้ช่วยเขียนบท Thor ในส่วนของ Jane Foster (Natalie Portman) เพราะเธอต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องของดวงดาวและอวกาศ Perlman จึงไม่รอช้าที่จะแสดงความสามรถของเธออกมาเพื่อจะได้ร่วมงานกับไอดอลของเธออีกคนอย่าง Kenneth Branagh
หลังเสร็จสิ้นโครงการในปี 2011 Marvel เชิญเธอกลับมาแก้บทใหม่อีกครั้งเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งทำให้เธอเริ่มมั่นใจว่าพวกเขาจะทำหนังเรือกนี้จริงๆ และเวลาสำหรับหนังเรื่องนี้กำลังจะหมดลง เพราะ Marvel พิจารณาที่จะค้นหาผู้กำกับที่เขียนบทได้ด้วยมารับช่วงต่อบทนี้อีกทอดหนึ่ง ส่วนหนึง Perlman ยอมรับว่าเธอเองไม่ใช่นักเขียนเชิงตลกในโทนที่ทาง Marvel อยากให้หนังเป็นได้
และเวลาก็หมดลง เมื่อ Marvel ได้นำผู้กำกับอินดี้ชื่อ James Gunn เข้ามาสู่หนัง Gunn เพิ่มความตลก สนุกเข้าไปในหนัง และมีหลายฉากที่ไม่แน่จะมีได้แน่ในหนังเรื่องอื่น Perlman จึงถอยออกจากบทของเธอด้วยความสบายใจ
และแทนที่จะปล่อย Perlman ออกจากโปรเจคไปอย่างเงียบๆ Marvel เลือกจะพาเธอมาเยี่ยมชม การถ่ายทำถึงลอนดอน ซึ่งเธอจะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ที่เธอต้องการ ซึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนฝันที่เป็นจริงเมื่อได้อยู่ในกองถ่ายที่มีนักแสดงประกอบแต่หน้าตาเป็นเอเลี่ยนมากกว่า 600 คน
และในเดือนสิงหาคมปี 2014 ชื่อของ Nicole Perlman ก็ขึ้นเป็นผู้เขียนบทร่วมในหนังเรื่องนี้ และทำให้เธอกลายเป็นมือเขียนบทหญิงคนแรกของ Marvel
หลังจากความสำเร็จ Guardians of the Galaxy เธอก็ได้มีงานเขียนบทหนังและทีวีไซไฟมากมายรวมถึง Challenger ที่กำลังจะถูกสร้างภายใต้บริษัท Hydra Entertainment (สาบานว่าไม่ได้มุขบริษัทชื่อไฮดร้าจริงๆ)
และก้าวต่อไปของเธอและ Marvel คือการปลุกปั้นหนังฮีโร่หญิงคนแรกของค่ายอย่าง Captain Marvel โดยเธอจะร่วมเขียนบทกับ Meg LeFauve (หนึ่งในทีมเขียนบทหนังอนิเมชั่น Inside Out) และแว่วว่ากำลังจะหาผู้กำกับหญิงอยู่ ก็ต้องมาลุ้นกันว่าหนังฮีโร่พลังหญิงเรื่องนี้จะเป็นม้ามืดอย่างที่ Guardians of the Galaxy ทำได้ไหม