จากลิงค์
https://www.facebook.com/IConvertedToChristianityThisIsMyStory/photos/pb.410332635724871.-2207520000.1429992407./435098146581653/?type=1&theater
เขาได้กลับใจใหม่รับเชื่อในพระเยซูคริสต์เมื่ออายุ 15 ปี อาศัยอยู่ในอิสราเอล ในครอบครัวมุสลิมปาเลสไตน์ ตอนเชื่อพระเยซู แรกๆ เขาไม่สามารถบอกใครได้ โดยเฉพาะบิดาของเขา
เป็นเวลา 3ปีที่เขาต้องหลบซ่อน อยู่ในกลุ่มใต้ดินที่เชื่อพระเยซู แม้เขาต้องเข้ากลุ่ม มัสยิดที่เยซูเล็ม เพื่อไปละหมาด แต่ภายในจิตใจของเขาได้อธิษฐานต่อพระเยซูมาโดยตลอด
จนกระทั่งเขาอายุ 27 ปี ได้ย้ายไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ได้ออกสื่อทีวี ทั้งภาคภาษาอังกฤษ และ อารบิค เขาได้สละหลายสิ่งเพื่อความเชื่อของเขา
ในวัยเด็กเขาเกิดที่ Brooklyn , New York ปี 1984 โดยบิดาของเขายืนกรานว่า แม้เราเป็นผู้อพยพ มาอาศัยอยู่ที่นี่ แต่เราต้องพูดภาษาอารบิก โดยธรรมเนียมของมุสลิมที่พึ่งปฏิบัติ เขาถูกสอนอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับอิสลาม
และเมื่อเขาอายุได้ 12 ปี ทางครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่อิสราเอล เพื่อเรียนหลักปฏิบัติของอิสลาม
โดยหลักอิสลามในทุกๆ วัน ต้องละหมาดวันละ 5 ครั้ง ต่อวัน
เขาบอก เขาทำได้แค่ 4 ครั้ง เพราะเขาขี้เกียจต้องตื่นแต่เช้า มาละหมาด
ต้องถ่องจำ Koran ต้องเข้าชั้นเรียน ในมัสยิด
ทุกอย่างต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งภายในส่วนลึก เขารู้สึกหดหู่ภายในจิตใจ
วันหนึ่งเขาได้มีโอกาศพูดคุยกับเพื่อนอิสลามที่เชื่อในพระเยซู ตลอดปี ครึ่ง
เพื่อนเขาได้พูดประโยคหนึ่ง บอกว่า * พระเจ้ารักเขามาก และได้ส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ คือพระเยซู มาเพื่อเขา *
และถามเขาว่า พระเจ้าสามารถตอบคำอธิษฐานในนาม Allah ?
ซึ่งก็ใช่..ไม่สามารถตอบคำอธิษฐานเขาในนามนั้นได้
เพื่อนเขาบอกต่อไปว่า ให้มอบความกังวลใจไว้กับพระเยซู พระองค์ทรงรักและห่วงใย อย่างที่บอก พระองค์ทรงรักเขาจนได้ส่งพระบุตรองค์เดียวมาเพื่อเขา เพื่อที่จะช่วยเขา
พอเขาอายุ 15 ปี เขาได้เข้าโบสถ์ที่เยรูซาเล็ม ซึ่งไม่สามารถบอกชื่อโบสถ์ได้เพราะกลัวโบสถ์ถูกโจมตี
ในโบสถ์ เขาเห็น คนยิ้มแย้ม แจ่มใส เต็มไปด้วยความสุข เห็นคนรักพระเยซู ชูมือนมัสการพระองค์ ทำให้เขาโกรธมาก ณ เวลา นั้น เพราะเขาอยากให้เป็นพระเจ้าใน Koran มากกว่า
เขาหนีออกไปอีกห้องเพื่อละหมาด หันหน้าไปที่ นครเมกกะ ซาอุดิอาระเบีย และการละหมาดของเขาไม่มีผลใดๆเกิดขึ้น
จนกระทั่งเขากลับไปที่ประชุมอีกครั้ง และได้เริ่มต้นอธิษฐานในนามพระเยซูเป็นครั้งแรก วินาทีนั้นเอง ได้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นภายใน ที่เปลี่ยนเขา จน
ทำให้เขารับเชื่อในพระเยซู เป็นคริสเตียน
หลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็ได้ย้ายกลับไปอยู่ที่อเมริกาอีกครั้ง
เขาได้เดินกับพระเยซูอย่างหลบๆซ่อนๆ ซึ่งไม่สามารถบอกใครได้ จนกระทั่ง เขามีอายุครบ 18 ปี เขาได้ตัดสินใจ บอกกับพ่อ เป็นครั้งแรกว่าเขาเป็นคริสเตียนเชื่อในพระเยซูคริสต์ พ่อของเขาก็ได้ตัดขาดเขาและไม่ได้เจอหน้ากันอีก หรือมีการติดต่อ ใดๆอีกเลย ...
Hazem Farraj Sunni
ดีมากๆ และหนุนใจมากในคำพยานลองฟังดูค่ะ
คำพูดที่เขาเอ่ยในประวัติส่วนตัวค่ะ
he has said he believes God sent a message to him
to "stop running from your culture" soon afterwards, which caused him to change his mind
ลิงค์
http://en.wikipedia.org/wiki/Hazem_Farraj
Muslims Converting to Christianity after ISIS Atrocities
Nearly 200,000 Muslims of the Yazidi tribe are fleeing Northern Iraq due to the current atrocities of ISIS. Many of these fugitives are turning to Christianity after seeing the stark contrast in behavior of the members of the two religions, true to the teachings of Jesus in Matthew 7:16-20 that they will know us by our fruit.
The refugees report finding their neighbors turning on them and persecuting them. They see fellow Islamists executing many Christians and Muslims and taking their wives and daughters as slaves or for sexual purposes. One recent convert states, “The kindness and generosity of Christians creates a gap between their faith and Muslims as great as that between earth and sky. While our fellow Muslims betrayed us, the Christians showed us real humanity and love.”
“While our fellow Muslims betrayed us, the Christians showed us real humanity and love.”
This convert and others continually expressed the question, “Why do Muslims not show this attitude towards others?” Samaritan’s Purse, serving the community of refugees, has brought water, supplies, and other necessities for those who left their homes with nothing. They hand out blankets and other items in the name of Christ and witness to those in desperate need.
Why It Matters
Christians are facing new confrontations and struggles on many fronts. However, the birth of our faith was borne out of struggle and increasingly brutal confrontation. It’s not the absence of tribulation but the way the Spirit enables us to face those challenges that proves the Word. Even as we are called bigots and worse, we are provided new opportunities to share the Truth with the world and those around us. When we live out God’s Word in acts of kindness and generosity, it will provide a stark contrast to Islam. In that way, God will be able “…to do exceeding abundantly above all that we ask or think, according to the power that works in us.” (Ephesians 3:20 KJV)
Take Action
•Pray the Spirit will continue to move among those who are facing daily persecution and even death by the radical Islamists.
•Ask the Lord to empower those who work among these refugees, and encourage them in the fruit they are producing.
•Many ministries, such as Samaritan’s Purse, work to show God’s love to these displaced people. Consider giving above and beyond your local tithe to support them in their fulfillment of Christ’s commands.
ลิงค์
http://www.believersstandunited.com/muslims-converting-to-christianity-after-isis-atrocities/
ขอพระเจ้าทรงเป็นความรักสำหรับทุกคน และ ฝากอธิษฐานเผื่อพี่น้องในความเชื่อที่ถูกข่มเหง ณ เวลานี้ด้วยเช่นกัน เอเมน..
คำพยาน Hazem Farraj
https://www.facebook.com/IConvertedToChristianityThisIsMyStory/photos/pb.410332635724871.-2207520000.1429992407./435098146581653/?type=1&theater
เขาได้กลับใจใหม่รับเชื่อในพระเยซูคริสต์เมื่ออายุ 15 ปี อาศัยอยู่ในอิสราเอล ในครอบครัวมุสลิมปาเลสไตน์ ตอนเชื่อพระเยซู แรกๆ เขาไม่สามารถบอกใครได้ โดยเฉพาะบิดาของเขา
เป็นเวลา 3ปีที่เขาต้องหลบซ่อน อยู่ในกลุ่มใต้ดินที่เชื่อพระเยซู แม้เขาต้องเข้ากลุ่ม มัสยิดที่เยซูเล็ม เพื่อไปละหมาด แต่ภายในจิตใจของเขาได้อธิษฐานต่อพระเยซูมาโดยตลอด
จนกระทั่งเขาอายุ 27 ปี ได้ย้ายไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ได้ออกสื่อทีวี ทั้งภาคภาษาอังกฤษ และ อารบิค เขาได้สละหลายสิ่งเพื่อความเชื่อของเขา
ในวัยเด็กเขาเกิดที่ Brooklyn , New York ปี 1984 โดยบิดาของเขายืนกรานว่า แม้เราเป็นผู้อพยพ มาอาศัยอยู่ที่นี่ แต่เราต้องพูดภาษาอารบิก โดยธรรมเนียมของมุสลิมที่พึ่งปฏิบัติ เขาถูกสอนอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับอิสลาม
และเมื่อเขาอายุได้ 12 ปี ทางครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่อิสราเอล เพื่อเรียนหลักปฏิบัติของอิสลาม
โดยหลักอิสลามในทุกๆ วัน ต้องละหมาดวันละ 5 ครั้ง ต่อวัน
เขาบอก เขาทำได้แค่ 4 ครั้ง เพราะเขาขี้เกียจต้องตื่นแต่เช้า มาละหมาด
ต้องถ่องจำ Koran ต้องเข้าชั้นเรียน ในมัสยิด
ทุกอย่างต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งภายในส่วนลึก เขารู้สึกหดหู่ภายในจิตใจ
วันหนึ่งเขาได้มีโอกาศพูดคุยกับเพื่อนอิสลามที่เชื่อในพระเยซู ตลอดปี ครึ่ง
เพื่อนเขาได้พูดประโยคหนึ่ง บอกว่า * พระเจ้ารักเขามาก และได้ส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ คือพระเยซู มาเพื่อเขา *
และถามเขาว่า พระเจ้าสามารถตอบคำอธิษฐานในนาม Allah ?
ซึ่งก็ใช่..ไม่สามารถตอบคำอธิษฐานเขาในนามนั้นได้
เพื่อนเขาบอกต่อไปว่า ให้มอบความกังวลใจไว้กับพระเยซู พระองค์ทรงรักและห่วงใย อย่างที่บอก พระองค์ทรงรักเขาจนได้ส่งพระบุตรองค์เดียวมาเพื่อเขา เพื่อที่จะช่วยเขา
พอเขาอายุ 15 ปี เขาได้เข้าโบสถ์ที่เยรูซาเล็ม ซึ่งไม่สามารถบอกชื่อโบสถ์ได้เพราะกลัวโบสถ์ถูกโจมตี
ในโบสถ์ เขาเห็น คนยิ้มแย้ม แจ่มใส เต็มไปด้วยความสุข เห็นคนรักพระเยซู ชูมือนมัสการพระองค์ ทำให้เขาโกรธมาก ณ เวลา นั้น เพราะเขาอยากให้เป็นพระเจ้าใน Koran มากกว่า
เขาหนีออกไปอีกห้องเพื่อละหมาด หันหน้าไปที่ นครเมกกะ ซาอุดิอาระเบีย และการละหมาดของเขาไม่มีผลใดๆเกิดขึ้น
จนกระทั่งเขากลับไปที่ประชุมอีกครั้ง และได้เริ่มต้นอธิษฐานในนามพระเยซูเป็นครั้งแรก วินาทีนั้นเอง ได้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นภายใน ที่เปลี่ยนเขา จน
ทำให้เขารับเชื่อในพระเยซู เป็นคริสเตียน
หลังจากนั้นครอบครัวของเขาก็ได้ย้ายกลับไปอยู่ที่อเมริกาอีกครั้ง
เขาได้เดินกับพระเยซูอย่างหลบๆซ่อนๆ ซึ่งไม่สามารถบอกใครได้ จนกระทั่ง เขามีอายุครบ 18 ปี เขาได้ตัดสินใจ บอกกับพ่อ เป็นครั้งแรกว่าเขาเป็นคริสเตียนเชื่อในพระเยซูคริสต์ พ่อของเขาก็ได้ตัดขาดเขาและไม่ได้เจอหน้ากันอีก หรือมีการติดต่อ ใดๆอีกเลย ...
Hazem Farraj Sunni
ดีมากๆ และหนุนใจมากในคำพยานลองฟังดูค่ะ
คำพูดที่เขาเอ่ยในประวัติส่วนตัวค่ะ
he has said he believes God sent a message to him
to "stop running from your culture" soon afterwards, which caused him to change his mind
ลิงค์
http://en.wikipedia.org/wiki/Hazem_Farraj
Muslims Converting to Christianity after ISIS Atrocities
Nearly 200,000 Muslims of the Yazidi tribe are fleeing Northern Iraq due to the current atrocities of ISIS. Many of these fugitives are turning to Christianity after seeing the stark contrast in behavior of the members of the two religions, true to the teachings of Jesus in Matthew 7:16-20 that they will know us by our fruit.
The refugees report finding their neighbors turning on them and persecuting them. They see fellow Islamists executing many Christians and Muslims and taking their wives and daughters as slaves or for sexual purposes. One recent convert states, “The kindness and generosity of Christians creates a gap between their faith and Muslims as great as that between earth and sky. While our fellow Muslims betrayed us, the Christians showed us real humanity and love.”
“While our fellow Muslims betrayed us, the Christians showed us real humanity and love.”
This convert and others continually expressed the question, “Why do Muslims not show this attitude towards others?” Samaritan’s Purse, serving the community of refugees, has brought water, supplies, and other necessities for those who left their homes with nothing. They hand out blankets and other items in the name of Christ and witness to those in desperate need.
Why It Matters
Christians are facing new confrontations and struggles on many fronts. However, the birth of our faith was borne out of struggle and increasingly brutal confrontation. It’s not the absence of tribulation but the way the Spirit enables us to face those challenges that proves the Word. Even as we are called bigots and worse, we are provided new opportunities to share the Truth with the world and those around us. When we live out God’s Word in acts of kindness and generosity, it will provide a stark contrast to Islam. In that way, God will be able “…to do exceeding abundantly above all that we ask or think, according to the power that works in us.” (Ephesians 3:20 KJV)
Take Action
•Pray the Spirit will continue to move among those who are facing daily persecution and even death by the radical Islamists.
•Ask the Lord to empower those who work among these refugees, and encourage them in the fruit they are producing.
•Many ministries, such as Samaritan’s Purse, work to show God’s love to these displaced people. Consider giving above and beyond your local tithe to support them in their fulfillment of Christ’s commands.
ลิงค์
http://www.believersstandunited.com/muslims-converting-to-christianity-after-isis-atrocities/
ขอพระเจ้าทรงเป็นความรักสำหรับทุกคน และ ฝากอธิษฐานเผื่อพี่น้องในความเชื่อที่ถูกข่มเหง ณ เวลานี้ด้วยเช่นกัน เอเมน..