อยากขอคำปรึกษาและความเห็นหน่อยนะคะว่า เราควรทำตัวอย่างไรดี
คือเรืองมีอยู่ว่า ซอกฟันกรามเราผุคะ แล้วเราชอบเอาแปรงที่ขัดฟันอันเล็กๆ ไปขัด มันเป็นโพรงนะคะ ขัดเพือเอาเศษอาหารออก ทำประจำจนมีวันหนึ่งเรารู้สึกปวดฟันมากจนนอนไม่หลับ
เราเลยเข้าไปคลีนิคทำฟันในวันถัดมาแห่งหนึ่งหมอได้x-ray และซักถามอาการ หมอดูแล้วพบว่าอาจจะผุถึงโพรงประสาทฟันแล้วมั้ง ?
เลยให้เราไปนัดหมอที่รักษารากฟัน ซึ่งถัดไปอีก 2 วัน ระหว่าง2 วันนั้นเราไม่มีอาการปวดฟันตอนกลางคืนเลยคะ? แต่เมือถึงวันนัด เราก้อไปคะ อยากรีบๆทำให้เสร็จไปเพราะไม่รู้ว่าจะปวดขึ้นมาอีกวันไหนคะ
ทำรากฟันครั้งแรก ผ่านไปด้วยดีคะ
พอครั้งที่ 2 ในการรักษารากฟัน เราได้เข้าไปทำในวันที่1 เมษายน ช่วงเย็นกลับมารู้สึกปากระบมนิดหน่อย เราก้อคิดเป็นปรกติของการทำฟันรอบนี้คงหนักกว่ารอบแรก เราเลยกินยาแก้ปวด
พอวันที่ 2 เมษายน เรายังคงรู้สึกปวดฟันอยู่คะ แบบว่าเคี้ยวอะไรไม่ค่อยได้ เคี้ยวโดนจะปวด ซึ่งรู้สึกปวดนานกว่ารอบแรก ตกเย็นวันที่2 ก้อยังเคี้ยวกดลงฟันไม่ได้มากนั้กเราเลยเน้นกลืนๆ ไปคะ
วันที่3 เมษายน เรายังคงรู้สึกปวดอยู่นิดหน่อยคะ
แต่ที่แปลกๆคือ เมือความรู้สึกปวดเริ่มหมดไป เราก้อรู้สึกว่า บริเวณ ริมฝีปากและ ผิวหน้งที่คางชาคะ
ลองคิดภาพ สามเหลียม มุมฉากกลับหัวนะคะ
จากกลางริมฝีปาก ลงไปถึง ปลายคางขึ้นมาถึง มุมปากขวา เป็นบริเวณที่ชา
อาการชา คล้าย ผิวหนังมันหนาๆ เหมือนเวลาเราเป็นเหน็บชาตามขา ที่ใกล้ๆหายนะคะ รู้สึกแปลบๆ
และรู้สึกแปลบเวลาจับโดน หรือพูด
จน วันที่7 คลีนิคโทรมาเช็ค เวลานัด เราได้บอกทางคลีนิคไปว่าปากเราชา นะ ทางคลีนิค บอกว่าจะเขียนบอกคุณหมอไว้ให้
พอถึงวันที่8 วันนัด ทางคลีนิคก้อบอกว่าคุณหมอไม่สบายขอเลื่อนนัด เราก้ออุสาหะรอจะได้พบ ไปคุยกับคุณหมอเราเลยบอกว่าเราต้องการคุย กับคุณหมอว่าสาเหตุที่ทำให้เราปากชาคืออะไร
คุณหมอโทรกลับมาคะชักถามอาการ และก้อบอกว่าให้หาวิตามิน บี12 กิน
มีโทรกลับมาอีกรอบ ย่ำว่าเป็น methyl cobol นะ
บอกว่าอันนี้เบอร์หมอ มีอะไรโทรมา...
เออคือว่า ปากเราชา ให้เราซื้อยามารักษาตัวเอง
ระหว่างนั้นเราก้อได้หาข้อมูลจาก google น่าจะเกิดจาก การที่ คุณหมอ ฉีดยาชาแล้วโดนเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทโดนทำลาย ไป
และเราก้อเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้คิดจะโทษคุณหมอ แต่ คุณหมอคะ วิตามินบี 12 ที่คุณหมอให้ไปหามาซื้อกินเอง กล่องละ 30 เม็ด กิน 3 เวลา ต่อวัน คือ1 กล่อง กินได้ 10 วัน ดังนั้น 1 เดือนต้องใช้ 3 กล่อง เป็นเงิน 540 บาทต่อ 30 วัน
คุณหมอได้เลือนนัดมาเป็นวันที่22 เมษายน ระหว่างนั้นคุณหมอไม่ได้โทรมาถามอะไรเลย เราก้อไม่ได้ว่าอะไรคะ
พอก่อนถึงวันนัดทางคลีนิคโทรมา เช็คเวลานัด และได้สอบถามอาการชา เราก้อตอบไปคะว่ายังคงชาอยู่และเหมือนเดิมพื้นที่ชาเท่าเดิม และยังยืนยันว่าจะไปรักษารากฟันครั้งที่3 ตามนัด
วันที่22 คลีนิคโทรมาเช็คอีกครั้ง แล้วรีบวางสายไปไม่ได้ถามอาการใดๆ ทั้งสิ้น
ถึงเวลานัดเราก้อไปพบหมอคะ
หมอถามอาการซ้ำไปซ้ำมา ว่าชา ชาแบบไหนเหมือนยาชาไหม? เราพยายามอธิบายว่า ไม่ได้ชาขนาดโดนยาเหมือนยาชาใกล้หมดฤทธิ์
ลองเอาเข็มจิ้มเหงือเราดูว่าชาไหม ซึ่งก้อบอกว่าไม่ชา ฟันก้อไม่ชา จนเรารู้สึกว่าคุณหมอไม่เชื่อว่าปากเราชาหรือปล่าวคะ
หลังจากซักถามเราอยู่นาน ก้อให้เรานอนลง เพื่อทำฟัน
เอาเครืองมือ ง้างปากเราไว้แล้วบอกว่าวันนี้แค่ล้างนะคะ ?!?!
เราอยากถามว่าทำไมไม่รักษาต่อให้จบๆไปเลย ก้อทำไม่ได้คะเครืองมืออยู่ในปาก
และเมือคิดว่าจะไม่รักษารากตั้งแต่แรกทำไมไม่บอกก่อนให้เราเสียเวลางานมาทำไม ไม่ก้อเลือนนักเราไปอีกสักเดือนก้อได้นิ
คุณหมอได้แกะ ที่อุดออก ดู บอกว่าก้อไม่มีหนองนิ?
เอ๋เราไม่ได้ปวดนะคะ
แล้วคุณหมอก้ออุดไว้ตามเดิม...
รอบนี้เราเสียค่ารักษา 550 บาท แล้ว นัดรักษาครั้งต่อไประยะห่างอีก 1 เดือน หมอบอกว่าเพือจะดูว่าปากจะหายชาไหม?
และจากที่เราสอบถามหาข้อมูลและถามเพื่อนที่เคยปากชา
เพื่อนคนที่1 ถอนฟันช่วงเด็กๆ มีอาการปากชา บอกว่านาน มากกว่าจะหายแบบว่าจำไม่ได้ว่าหายไปเมือไร
แต่คุณหมอให้ยามากินนะ ( ในที่นี้คือเพือนคนนี้ไม่เสียเงินคุณหมอซื้อยามาให้กิน)
เพื่อนคนที่ 2 ไม่สนิทนัก บอกว่าเราชาสัก 3 เดือนได้มั้ง จากการผ่าฟันคุด
สิ่งที่เราไม่เข้าใจคือ
ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่า กว่าปากเราหายชา เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้ประมาณระยะเวลา3 เดือน เงินในการ.ซื้อยา 1620
บาท
และในการนัดครั้งล่าสุด นัดมาแค่ล้างฟัน และซักถามอาการ ในราคา550 และค่ายา วิตามินบี12 ประมาณ 3 เดือน. 2170 เป็นเงินที่เราไม่ควรเสียเพิ่ม การจากรักษารากฟัน รากฟันปรกติ
เงินจำนวนนี้อาจจะไม่มากนักสำหรับคุณหมอ
แต่สำหรับเราสามารถเอาไปใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายอื่นๆได้อีกเยอะเลย
โดยส่วนตัว เราเข้าใจคุณหมอไม่ได้ตั้งใจให้ปากเราชา แต่ คุณหมอก้อควรรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในส่วนที่เราไม่ควรต้องเสีย มีเกิดจากความผิดพลาดของคุณหมอเราควร ทำอย่างไรดีคะ
#ขอคำปรึกษาคะ เรื่องรักษารากฟันแล้วทำให้ปากชา#
คือเรืองมีอยู่ว่า ซอกฟันกรามเราผุคะ แล้วเราชอบเอาแปรงที่ขัดฟันอันเล็กๆ ไปขัด มันเป็นโพรงนะคะ ขัดเพือเอาเศษอาหารออก ทำประจำจนมีวันหนึ่งเรารู้สึกปวดฟันมากจนนอนไม่หลับ
เราเลยเข้าไปคลีนิคทำฟันในวันถัดมาแห่งหนึ่งหมอได้x-ray และซักถามอาการ หมอดูแล้วพบว่าอาจจะผุถึงโพรงประสาทฟันแล้วมั้ง ?
เลยให้เราไปนัดหมอที่รักษารากฟัน ซึ่งถัดไปอีก 2 วัน ระหว่าง2 วันนั้นเราไม่มีอาการปวดฟันตอนกลางคืนเลยคะ? แต่เมือถึงวันนัด เราก้อไปคะ อยากรีบๆทำให้เสร็จไปเพราะไม่รู้ว่าจะปวดขึ้นมาอีกวันไหนคะ
ทำรากฟันครั้งแรก ผ่านไปด้วยดีคะ
พอครั้งที่ 2 ในการรักษารากฟัน เราได้เข้าไปทำในวันที่1 เมษายน ช่วงเย็นกลับมารู้สึกปากระบมนิดหน่อย เราก้อคิดเป็นปรกติของการทำฟันรอบนี้คงหนักกว่ารอบแรก เราเลยกินยาแก้ปวด
พอวันที่ 2 เมษายน เรายังคงรู้สึกปวดฟันอยู่คะ แบบว่าเคี้ยวอะไรไม่ค่อยได้ เคี้ยวโดนจะปวด ซึ่งรู้สึกปวดนานกว่ารอบแรก ตกเย็นวันที่2 ก้อยังเคี้ยวกดลงฟันไม่ได้มากนั้กเราเลยเน้นกลืนๆ ไปคะ
วันที่3 เมษายน เรายังคงรู้สึกปวดอยู่นิดหน่อยคะ
แต่ที่แปลกๆคือ เมือความรู้สึกปวดเริ่มหมดไป เราก้อรู้สึกว่า บริเวณ ริมฝีปากและ ผิวหน้งที่คางชาคะ
ลองคิดภาพ สามเหลียม มุมฉากกลับหัวนะคะ
จากกลางริมฝีปาก ลงไปถึง ปลายคางขึ้นมาถึง มุมปากขวา เป็นบริเวณที่ชา
อาการชา คล้าย ผิวหนังมันหนาๆ เหมือนเวลาเราเป็นเหน็บชาตามขา ที่ใกล้ๆหายนะคะ รู้สึกแปลบๆ
และรู้สึกแปลบเวลาจับโดน หรือพูด
จน วันที่7 คลีนิคโทรมาเช็ค เวลานัด เราได้บอกทางคลีนิคไปว่าปากเราชา นะ ทางคลีนิค บอกว่าจะเขียนบอกคุณหมอไว้ให้
พอถึงวันที่8 วันนัด ทางคลีนิคก้อบอกว่าคุณหมอไม่สบายขอเลื่อนนัด เราก้ออุสาหะรอจะได้พบ ไปคุยกับคุณหมอเราเลยบอกว่าเราต้องการคุย กับคุณหมอว่าสาเหตุที่ทำให้เราปากชาคืออะไร
คุณหมอโทรกลับมาคะชักถามอาการ และก้อบอกว่าให้หาวิตามิน บี12 กิน
มีโทรกลับมาอีกรอบ ย่ำว่าเป็น methyl cobol นะ
บอกว่าอันนี้เบอร์หมอ มีอะไรโทรมา...
เออคือว่า ปากเราชา ให้เราซื้อยามารักษาตัวเอง
ระหว่างนั้นเราก้อได้หาข้อมูลจาก google น่าจะเกิดจาก การที่ คุณหมอ ฉีดยาชาแล้วโดนเส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทโดนทำลาย ไป
และเราก้อเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้คิดจะโทษคุณหมอ แต่ คุณหมอคะ วิตามินบี 12 ที่คุณหมอให้ไปหามาซื้อกินเอง กล่องละ 30 เม็ด กิน 3 เวลา ต่อวัน คือ1 กล่อง กินได้ 10 วัน ดังนั้น 1 เดือนต้องใช้ 3 กล่อง เป็นเงิน 540 บาทต่อ 30 วัน
คุณหมอได้เลือนนัดมาเป็นวันที่22 เมษายน ระหว่างนั้นคุณหมอไม่ได้โทรมาถามอะไรเลย เราก้อไม่ได้ว่าอะไรคะ
พอก่อนถึงวันนัดทางคลีนิคโทรมา เช็คเวลานัด และได้สอบถามอาการชา เราก้อตอบไปคะว่ายังคงชาอยู่และเหมือนเดิมพื้นที่ชาเท่าเดิม และยังยืนยันว่าจะไปรักษารากฟันครั้งที่3 ตามนัด
วันที่22 คลีนิคโทรมาเช็คอีกครั้ง แล้วรีบวางสายไปไม่ได้ถามอาการใดๆ ทั้งสิ้น
ถึงเวลานัดเราก้อไปพบหมอคะ
หมอถามอาการซ้ำไปซ้ำมา ว่าชา ชาแบบไหนเหมือนยาชาไหม? เราพยายามอธิบายว่า ไม่ได้ชาขนาดโดนยาเหมือนยาชาใกล้หมดฤทธิ์
ลองเอาเข็มจิ้มเหงือเราดูว่าชาไหม ซึ่งก้อบอกว่าไม่ชา ฟันก้อไม่ชา จนเรารู้สึกว่าคุณหมอไม่เชื่อว่าปากเราชาหรือปล่าวคะ
หลังจากซักถามเราอยู่นาน ก้อให้เรานอนลง เพื่อทำฟัน
เอาเครืองมือ ง้างปากเราไว้แล้วบอกว่าวันนี้แค่ล้างนะคะ ?!?!
เราอยากถามว่าทำไมไม่รักษาต่อให้จบๆไปเลย ก้อทำไม่ได้คะเครืองมืออยู่ในปาก
และเมือคิดว่าจะไม่รักษารากตั้งแต่แรกทำไมไม่บอกก่อนให้เราเสียเวลางานมาทำไม ไม่ก้อเลือนนักเราไปอีกสักเดือนก้อได้นิ
คุณหมอได้แกะ ที่อุดออก ดู บอกว่าก้อไม่มีหนองนิ?
เอ๋เราไม่ได้ปวดนะคะ
แล้วคุณหมอก้ออุดไว้ตามเดิม...
รอบนี้เราเสียค่ารักษา 550 บาท แล้ว นัดรักษาครั้งต่อไประยะห่างอีก 1 เดือน หมอบอกว่าเพือจะดูว่าปากจะหายชาไหม?
และจากที่เราสอบถามหาข้อมูลและถามเพื่อนที่เคยปากชา
เพื่อนคนที่1 ถอนฟันช่วงเด็กๆ มีอาการปากชา บอกว่านาน มากกว่าจะหายแบบว่าจำไม่ได้ว่าหายไปเมือไร
แต่คุณหมอให้ยามากินนะ ( ในที่นี้คือเพือนคนนี้ไม่เสียเงินคุณหมอซื้อยามาให้กิน)
เพื่อนคนที่ 2 ไม่สนิทนัก บอกว่าเราชาสัก 3 เดือนได้มั้ง จากการผ่าฟันคุด
สิ่งที่เราไม่เข้าใจคือ
ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่า กว่าปากเราหายชา เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้ประมาณระยะเวลา3 เดือน เงินในการ.ซื้อยา 1620
บาท
และในการนัดครั้งล่าสุด นัดมาแค่ล้างฟัน และซักถามอาการ ในราคา550 และค่ายา วิตามินบี12 ประมาณ 3 เดือน. 2170 เป็นเงินที่เราไม่ควรเสียเพิ่ม การจากรักษารากฟัน รากฟันปรกติ
เงินจำนวนนี้อาจจะไม่มากนักสำหรับคุณหมอ
แต่สำหรับเราสามารถเอาไปใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายอื่นๆได้อีกเยอะเลย
โดยส่วนตัว เราเข้าใจคุณหมอไม่ได้ตั้งใจให้ปากเราชา แต่ คุณหมอก้อควรรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในส่วนที่เราไม่ควรต้องเสีย มีเกิดจากความผิดพลาดของคุณหมอเราควร ทำอย่างไรดีคะ