'ปลัดขิกยักษ์'เป็นต้นเหตุ 'เจ้าอาวาสน้อยใจ'สั่งปิดวัด
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับวัดก้างปลา ริมถนนสาย ทุ่งสง-ตรัง หมู่ 3 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หลังจากวัดมีการขึ้นป้ายว่า ประกาศปิดวัดชั่วคราว จนกว่าทุกเรื่องราวจะคลี่คลาย ชัดเจน โดยปิดไว้ที่หน้าวัด สร้างความแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง จึงรุดไปตรวจสอบ กระทั่งพบว่ามีแผ่นป้ายปิดประกาศตามข่าวจริง
โดย พระครูวรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอบางขันและเป็นเจ้าอาวาสวัดก้างปลา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า วัดได้ทำปลัดขิกขนาดใหญ่จากลำต้นของต้นไม้ ก่อนนำไปวางไว้ที่ริมถนนปากทางเข้าวัด แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจพากันมาชุมนุมคัดค้านให้เอาปลัดขิกออกไป เพราะไม่เหมาะสม แต่อาตมาไม่เข้าใจถึงสาเหตุจึงไม่ได้ทำตาม ปรากฎว่าจู่ๆก็มีมือดีแอบมายกปลัดขิกไปโยนทิ้งในกองขยะ ถือว่าเป็นการคุกคามและไม่มีความเกรงใจวัดเลยจึงขึ้นป้ายดังกล่าวขอปิดวัดชั่วคราว พร้อมทั้งงดรับกิจของสงฆ์ที่จะนิมนต์พระทั้งหมดด้วย นอกจากนี้พระสงฆ์เกือบ 30 รูป ก็เดินทางไปจำที่วัดด้วยชั่วคราวด้วย.
ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ยังคงเป็นกังวลว่า หากมีกิจจำเป็นจะต้องนิมนต์พระสงฆ์จะทำอย่างไร อาทิ สวดอภิธรรมศพ หรือทำบุญบ้าน เป็นต้น
http://www.dailynews.co.th/regional/316936
เจ้าอาวาสวัดก้างปลา สั่งปิดวัด เพราะปลัดขิกยักษ์โดนทิ้งขยะ
'ปลัดขิกยักษ์'เป็นต้นเหตุ 'เจ้าอาวาสน้อยใจ'สั่งปิดวัด
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับวัดก้างปลา ริมถนนสาย ทุ่งสง-ตรัง หมู่ 3 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หลังจากวัดมีการขึ้นป้ายว่า ประกาศปิดวัดชั่วคราว จนกว่าทุกเรื่องราวจะคลี่คลาย ชัดเจน โดยปิดไว้ที่หน้าวัด สร้างความแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง จึงรุดไปตรวจสอบ กระทั่งพบว่ามีแผ่นป้ายปิดประกาศตามข่าวจริง
โดย พระครูวรธรรมวิภัช เจ้าคณะอำเภอบางขันและเป็นเจ้าอาวาสวัดก้างปลา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า วัดได้ทำปลัดขิกขนาดใหญ่จากลำต้นของต้นไม้ ก่อนนำไปวางไว้ที่ริมถนนปากทางเข้าวัด แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านบางส่วนไม่พอใจพากันมาชุมนุมคัดค้านให้เอาปลัดขิกออกไป เพราะไม่เหมาะสม แต่อาตมาไม่เข้าใจถึงสาเหตุจึงไม่ได้ทำตาม ปรากฎว่าจู่ๆก็มีมือดีแอบมายกปลัดขิกไปโยนทิ้งในกองขยะ ถือว่าเป็นการคุกคามและไม่มีความเกรงใจวัดเลยจึงขึ้นป้ายดังกล่าวขอปิดวัดชั่วคราว พร้อมทั้งงดรับกิจของสงฆ์ที่จะนิมนต์พระทั้งหมดด้วย นอกจากนี้พระสงฆ์เกือบ 30 รูป ก็เดินทางไปจำที่วัดด้วยชั่วคราวด้วย.
ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่ยังคงเป็นกังวลว่า หากมีกิจจำเป็นจะต้องนิมนต์พระสงฆ์จะทำอย่างไร อาทิ สวดอภิธรรมศพ หรือทำบุญบ้าน เป็นต้น
http://www.dailynews.co.th/regional/316936