[CR] [จัดเต็ม] รีวิวการเปลี่ยนสีผม 1 ปี 5 สี ทำเองก็ได้ง่ายจัง ;)

สวัสดีค่ะชาวพันทิป ^^

ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ
     จขกท ชื่อ ปริญญ์ เรียนอยู่บัญชี ปี 2 อายุ 20 ปี
เริ่มคิดอยากทำสีผมมานานซักพักแล้ว เคยเข้าร้านทำผม แต่ว่ามันไม่เวิร์ค ตอนหลังเลยตัดสินใจทำสีเองมาได้ 1 ปีเต็มๆแล้วค่ะ
เคยมีคนมาถามเรื่องทำสีบ้าง เรื่องบำรุงบ้าง เลยคิดว่าไหนๆก็ไหนๆละ รีวิวจัดเต็มไปเลยดีกว่าจะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย
แต่คิดว่าจะแบ่งออกเป็น 2 กระทู้(ถ้ามีคนอ่านนะคะ5555) คือ รีวิวสีผม+วิธีทำ กับ รีวิวผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม+ผลิตภัณฑ์บำรุงผม
เพราะตอนที่ตัวเองทำนี่ก็คิดเองทำเองไม่ปรึกษาใครเลย สีที่ซื้อมาลองก็ยังไม่ค่อยเห็นรีวิวในไทยด้วย คิดว่าน่าจะพอเป็นข้อมูลให้คนที่อยากทำได้บ้าง

ชี้แจงสักนิดนะคะ
     ตอนแรกไม่ได้คิดจะรีวิวจริงจัง เพราะฉะนั้นรูปที่มารีวิวอาจจะไม่เอื้อกับการรีวิวนัก แต่คือพยายามเลือกที่เห็นผมเยอะที่สุดแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่ผ่านแอพ(ปรับสี/แสง) แต่ก็มีบ้างเพราะหารูปต้นฉบับไม่เจอแล้ว5555 ปริญแต่งหน้าไม่เป็นและอ้วนขึ้นด้วยนะคะขอเตือนไว้ก่อนเลย(เผื่อตกใจ5555) บางรูปอาจจะไม่ชัดบ้างเพราะใช้กล้องหน้า มุมเดียวที่สามารถรับแสงแดดได้คือระเบียงตรงราวตากผ้า แล้วก็รูปค่อนข้างเยอะนะคะแม้ปริญจะจับรวมไว้ในรูปเดียวกันบ้างแล้วก็ตาม ไม่รู้จะช่วยได้มากแค่ไหน ;D

รีวิวครั้งแรกนะคะ น้อมรับคำติชมค่ะ ยิ้ม

พล่ามมาเยอะแล้วค่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า
ปริญจะรีวิวแบ่งเป็น 3 part นะคะ เลือกอ่านได้ตามใจชอบ

Part 1 : ช่างจ๋า ปริญลาก่อน
Part 2 : เปลี่ยนสีผม ใครๆก็ทำ(เอง)ได้
Part 3 : นี่ฉันผ่านอะไรมาบ้างเนี่ย!( รีวิวสีทุกสีที่เคยทำมา สีหลักๆ คือ ฟ้า บลอนด์ ชมพู เขียว และเทา)
ถ้าพร้อมแล้ว ลุยค่ะ!


Part 1 : ช่างจ๋า ปริญลาก่อน

มาดูสภาพเส้นผมก่อนทำกันก่อนนะคะ



     ปริญเป็นคนผมตรงมากกก(ตรงเกินไป –“-) หนา เส้นใหญ่ สีน้ำตามเข้ม(ช่างที่ร้านบอกมา) และมีน้ำหนัก(เกินไปเหมือนกัน –“-)
ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำอะไรกับผมเลยยย และไม่ค่อยมีปัญหาอะไร(ยกเว้นผมร่วงเยอะ ผมหงอก และแตกปลายเล็กน้อย) จัดว่าเป็นผมสุขภาพดี(และกำลังจะเสียในไม่ช้านี้ค่ะ5555)
     เนื่องจากเราเก็บกดมานาน(?) เมื่อจะทำผมทั้งทีปริญก็วางแผนจะดัดและทำสีฟ้าค่ะ
ปรึกษาช่างก่อน คราวนั้นทำที่เชียงใหม่ ร้านอยู่แถวสี่แยกหนองหอยค่ะ(แอบโฆษณาให้ อิอิ) ช่างบอกมาว่าต้องดัดก่อน ไม่งั้นพอทำสีไปเจอน้ำยาดัดแล้วสีจะหายหมด เราก็ตกลงค่ะ

     ช่างแนะนำว่าให้ระยะเวลาห่างกัน 1-2 เดือน และระหว่างนั้นให้บำรุงผมไปด้วย ปริญก็แพลนว่าให้ห่างกัน 2 เดือนค่ะ ‘การทำร้ายผมครั้งที่ 1 คือ ดัดเย็น เป็นการดัดถาวร ลอนประมาณผมของยิปโซ รมิตา ค่ะ ตอนนั้นดัดน้ำยาทิ้งไว้ประมาณครึ่งวัน’ หลังจากดัดมา เนื่องจากผมเราธรรมชาติเกินไป TT ลอนอยู่ไม่นานค่ะ เดือนเดียวก็เริ่มคลายจะหมดละ แล้วเราก็ไม่ได้บำรุงอะไร แค่ใส่มูสบ้าง จากนั้น ‘การทำร้ายผมครั้งที่ 2 คือ กัด(ฟอกสีผม) 2 รอบ เพื่อที่จะทำสีฟ้าและสีน้ำเงิน’

     หลังจากกัดรอบที่ 1 (สีตามหมายเลข 1 ในภาพ) อารมณ์นั้นคือผมส้มมากกกกในความคิดเรา เพราะไม่เคยกัด5555 และแห้งมากเช่นกัน ขอเค้าถ่ายรูปแปปนึงก็กัดต่อค่ะ
     กัดครั้งที่ 2(สีตามหมายเลข 2 ในภาพ) คือ ทองแบบทองงงงงงงง ทองงงงงงจริงจัง(จริงๆต้องเรียกว่าบลอนด์นะคะ) ช่างเลยถ่ายรูปผมชัดๆให้(ตามหมายเลข 3) ตอนนั้นถือว่าขาวมากกก ขาวที่สุดในชีวิต จะลงสีอะไรก็ได้ แต่ผมก็กลับมาตรงมากอีกเช่นกัน ไม่เหลือเค้าดัดแม้แต่นิดเดียว(โถว ค่าดัดของช้านน TT) จริงๆช่างบอกว่าปกติต้องกัด 3 รอบ แต่ของเรา 2 รอบก็ลงได้แล้วเพราะผมเราไม่ดำ แต่จะกัดอีกรอบก็ได้ เราเลยเลือกที่จะเซฟผมค่ะ ไม่กัดต่อ เผื่อกัดแล้วเดี๋ยวมันเป็นวุ้น >< ไม่อยากจะคิดเลยยย



     พอกัดเสร็จก็ลงสีฟ้าเลยค่ะ ช่างเอาแม่สีสีน้ำเงินผสมขาวเพื่อให้ออกเป็นฟ้า(ของยี่ห้ออะไรเราไม่ทราบแต่น่าจะเป็นของลอรีออลที่เป็นครีมเปลี่ยนสีผมแฟชั่นกล่องเล็กๆ) แต่เราว่ามันไม่ฟ้าเท่าไหร่ แล้วก็ลงสลับกับสีน้ำเงิน เหมือนสีน้ำเงินอ่อนสลับกับน้ำเงิน แต่ก็สวยดีค่ะออกเทาๆ จริงๆเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงตอนนั้นทำสีอะไร55555 แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าให้เค้าเว้นช่วงสีทองไว้ทำไม แค่รู้สึกว่าอยากให้มันมีสีทอง เสียดายถ้าจะโดนทับหมด(บ้าไปแล้วค่ะ5555)

เสร็จแล้ววววววววว! ผลก็ออกมาเป็นเช่นนี้แลลล



ถึงสีน้ำเงินจะอยู่ในหลืบมากไปหน่อยมองไม่ค่อยเห็น และสีฟ้าไม่เหมือนอย่างที่คิด แต่เราก็โอเคค่ะ ตอนนั้นชอบมากกก แต่หารู้ไม่ว่า ต่อไปแล้วมันจะกลายเป็นแบบนี้(หมายเลข 4) และแบบนี้(หมายเลข 5)อย่างรวดเร็ว TT



     ปริญเข้าใจนะคะว่าทำสีแบบนี้มันก็เฝดเร็วเป็นธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ แค่สระผมครั้งแรกสีก็หายไปเยอะแล้ว พอผมตรงอีกนี่ไม่รู้ว่าตอนนั้นเป็นทรงอะไร ไม่มีใครทักว่าทำสีฟ้าเลยค่ะ(เศร้า TT) อาจจะเป็นเพราะว่าครั้งแรกเราไม่ได้ใช้ยาสระผมสำหรับผมทำสี ไม่รู้ว่าเกี่ยวด้วยหรือเปล่า แต่ครั้งต่อๆมาใช้ค่ะ

     สรุปคือสีมันเฝดไปค่อนข้างเร็ว(ต่างกับตอนหลังทำพอสมควร) แล้วพอทำเสร็จ 2 อาทิตย์เราก็ไปต่างประเทศ ระหว่างที่สีหลุดไปเกือบหมด เราก็บำรุงไปด้วย และวันนึงก็เจอนางเอกของเรา >< นั่นก็คือ.. แว็กเปลี่ยนสีผมแบบกึ่งถาวรค่ะ สีสวยมากกก มีขายตามร้าน drug store ทั่วไปเลย สุดท้ายเราก็อดใจไม่ไหว เพราะฝังใจไว้ว่าจะทำสีฟ้า แต่สีที่ผ่านมามันไม่ฟ้า! เราก็ตัดใจซื้อมาจนได้ค่ะ และหลังจากวันนั้นก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำสีผมเอง นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เย่!
การผจญภัยของเราเริ่มขึ้นแล้ว ;)

Part 2 : เปลี่ยนสีผม ใครๆก็ทำ(เอง)ได้

     ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า ปริญไม่ได้คิดจะทำสีทุกสีบนโลกนี้นะคะ5555 คือครั้งแรกที่ซื้อมาอยากได้ 2 สีคือ ฟ้า กับ น้ำเงิน โดยส่วนตัวอยากทำสีเขียวเป็นทุนเดิม แต่เห็นว่ามีคนทำเยอะแล้ว เลยเบี่ยงเบนไปที่สีฟ้าแทน แต่พอเห็นสีที่เชล์ฟแล้วมันอดไม่ได้จริงๆ กลับมานั่งหารีวิวเองในอินเทอร์เน็ตว่าเป็นยังไง อันตรายไหม สีติดดีหรือเปล่า จนได้ดูรูปรีวิวเรื่อยๆ ความอยากก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็คิดว่าไหนๆจะทำแล้วก็เอาให้มันคุ้มไปเลย จากที่อยากได้ 2 สี เลยกลายเป็นว่าเอาโทนฟ้ากับโทนชมพู 4 หลอดเลยแล้วกัน ผสมเองแล้วได้สีม่วงด้วย

พอเลือกสีที่อยากจะทำได้แล้วก็เริ่มได้ค่ะ!



ตามภาพนะคะ สิ่งที่ต้องเตรียม คือ
      1.    ถุงมือ  เป็นสิ่งที่ควรมีนะคะ ถ้าถามปริญเรียกว่าต้องมีเลยดีกว่า แม้ผิวเราจะสามารถสัมผัสกับสีได้โดยตรง แต่กันไว้ก่อนก็ดีค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าสารในสีถ้าได้รับไปเยอะๆแล้วจะมีผลอะไรต่อร่างกายเราหรือเปล่า และที่สำคัญเลยคือ ถ้าไม่ใส่ถุงมือ มือเราจะเปลี่ยนสีนะคะ! เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน555555 สามารถล้างออกได้ค่ะ ล้างสบู่หลายๆรอบหน่อย เพราะสีที่ปริญใช้ไม่มีแอมโมเนีย ไม่มี Peroxide ค่ะ ค่อนข้างเป็นมิตรกับเรา  ใครถนัดใช้ 2 ข้างใช้ได้เลยนะคะ ปริญไม่ถนัด เลยใช้ข้างเดียว แล้วใช้มือเปล่าอีกข้างจับผมแบบไม่ป้ายสีแทน จับเฉยๆใช้ข้างเดียวป้ายค่ะ แม้มือจะติดสีบ้าง แต่ไม่เยอะค่ะ
     2.    กิ๊บ  อันนี้ตามแต่แต่ละคนสะดวกเลยค่ะ ปริญใช้เพื่อช่วยเก็บผมเวลาแบ่งผมทำทีละชั้น ตัวหนีบตัวเดียวเอาไม่อยู่ แล้วก็เอาไว้ใช้ตอนห่อฟอยล์ด้วยค่ะ เอากิ๊บดำมาหนีบไม่ให้ฟอยล์หลุดสีจะได้ไม่เลอะเสื้อผ้า
     3.    ฟอยล์  เอาไว้ห่อผมค่ะ หรือจะใช้พลาสติกห่ออาหารก็ได้ ม้วนนึงใช้ได้นานมากค่ะ ทำมาตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ยังไม่หมดซักที55555 หรือใครไม่อยากห่อ จะไม่ห่อก็ได้นะคะ ที่ปริญห่อเพราะเหตุผลเดิมค่ะ กลัวเลอะเสื้อ+เวลารอสีติดเราจะได้ทำอะไรได้สะดวกๆด้วย ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไปสาดสีใส่ของใช้อะไรในบ้าน55555
     4.    สี  อันนี้สำคัญเลยค่ะ จะใช้แบบแว็กซ์หรือแบบถาวรเลือกเอาได้ตามใจชอบ วิธีการจะต่างกันนิดหน่อย ตรงที่แบบแว็กซ์ลงสีได้เลย แต่แบบถาวรต้องอาครีมมาผสมกับ developer ก่อนค่ะ
     5.    ภาชนะผสมสี  กรณีต้องการผสมสี ในที่นี้ปริญเอาสีน้ำเงินผสมกับชมพูเป็นสีม่วงค่ะ
     6.    ตัวหนีบผม  เอาไว้ใช้แบ่งผมเป็นชั้นๆเวลาทำค่ะ เพราะเราต้องทำทีละชั้น สีจะได้สม่ำเสมอ
     7.    ผ้าขนหนู เอามารองเสื้อเผื่อเลอะ(ใช้/ไม่ใช้ก็ได้) และเอาไว้เช็ดผมค่ะ
     8.    แปรง เอาไว้ใช้ทาสีลงบนผม แต่ปริญไม่ถนัดค่ะ ใช้มือละเลงเอาง่ายกว่า ใช้แปรงบางกรณีที่คิดว่าน้ำยาแรงมากๆ เช่น กัด หรือลงสีขาวมากๆค่ะ

อุปกรณ์ครบแล้ว ต่อไปเรามาลงมือทำกันเล้ยยยย
อันนี้เอาสภาพระหว่างทำสีมาให้ดูนะคะ จะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนปลาเผาไปชั่วขณะจิต555555



ขั้นตอนที่
     1.    ทดสอบการแพ้ ขั้นตอนการทดสอบการแพ้ตามฉลากเลยนะคะ สำหรับสีที่ปริญใช้ ทาสีทิ้งไว้ตรงบริเวณข้อพับ 1 วันแล้วล้างออก ไม่เกิดรอยแดงถือว่า ผ่าน! ไปด่านต่อไปได้
     2.    สระผม ก่อนทำสีควรสระผมก่อนทุกครั้งนะคะ จะได้ชำระล้างเอาสิ่งสกปรกบนศีรษะเราออกก่อน แต่ห้ามใช้ครีมนวดหรือแชมพูที่ผสมครีมนวดนะคะ
     3.    แบ่งผม เก็บผมส่วนที่ยังไม่ทำสี เราจะทำสีเป็นชั้นๆ ไล่จากข้างล่างขึ้นไป เก็บโดยใช้ตัวหนีบใหญ่ๆ และกิ๊บตัวเล็กช่วยค่ะ
     4.    ลงสี ใส่ถุงมือ เปิดฝาออก ละเลงงงงงงงงได้เลยค่ะ แต่ถ้าเป็นสีแบบถาวรต้องผสมสีกับ developer ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เขย่า/คนจนแน่ใจว่าเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นถ้าขวดเป็นแบบบีบโดยที่มือเราไม่ต้องสัมผัสโดนเนื้อยามาก ก็ลงสีได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่แนะนำให้ใช้แปรงลงสีแทนดีกว่าค่ะ เพื่อความปลอดภัยของนิ้วเรานะคะ จะได้ไม่โดนกัด เพราะเพื่อนปริญเคยแล้วค่ะ ใส่ถุงมือละเลงน้ำยากัดสีผม กัดจริงค่ะ กัดผ่านถุงมือด้วย ลอกนิดแสบหน่อยหนังเปลี่ยนสีกันเลยทีเดียว แต่อาการไม่หนักมากค่ะ
     5.    ห่อฟอยล์/พลาสติกห่ออาหาร ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นค่ะ เอาฟอยล์มาห่อผมทีละช่อ(ถ้าช่อนั้นเป็นคนละสี)และติดกิ๊บดำไว้ สำหรับคนที่กลัวเสื้อเลอะและต้องการความคล่องตัวขณะรอสีติด ห่อไว้จะทำอะไรก็สะดวกค่ะ
     6.    รอค่ะ ข้างหลอดเขียนว่าประมาณ 30 นาที แต่ปริญจะนับ 40 นาทีหลังจากทำช่อสุดท้ายเสร็จค่ะ หรือไม่ก็นั่งดูทีวีรายการจบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น555555 เรื่องเวลาไม่ซีเรียสมากค่ะ ครั้งนึงเคยทำตอนกลางคืน หลับไปเลยก็มี ตื่นมาอีกทีน่าจะ 4-6 ชั่วโมงเข้าไปแล้ว ส่วนตัวคิว่าไม่มีผลต่อสีนะคะ สีสดชัดเหมือนทำครั้งอื่นๆ(ครั้งนี้แอบชัดกว่าเล็กน้อยละมั้ง) ส่วนใหญ่ใช้เวลาตามที่ระบุบนกล่องเลยค่ะ ปริญแอบบวกเพิ่มนิดหน่อยเพื่อความชัวร์ อิอิ
     7.    ล้างผม ล้างด้วยน้ำสะอาดค่ะ ปริญล้างด้วยน้ำเย็นตลอดนะคะ แต่น้ำอุ่นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
     8.    สระผม สระผมตามปกติเลยค่ะ สามารถสระแชมพู ลงครีมนวด ในใส่มาส์ก/น้ำมันบำรุงผมได้ตามปกติ สีที่ปริญใช้ไม่ตกใส่ผ้าเช็ดผมนะคะ สีจะหลุดออกเล็กน้อยเมื่อลงแชมพู น้ำแชมพูจะสีสวยเป็นพิเศษ เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ค่ะ

ภาพนี้ทำสีชมพูครั้งที่สองค่ะ ช่วงก่อนล้างผม



และภาพสุดท้ายตอนกัดผมเองค่ะ กัดครั้งเดียว เพราะที่ร้านกัดแบบเว้นโคนมาให้หมด พอผมยาว ผมดำข้างล่างเลยเห็นชัดเกินไป ปริญก็กัดให้สีอ่อนลงค่ะ จะได้กลมกลืนเวลาทำสีครั้งต่อไป



สำหรับระยะเวลาทั้งหมด ขึ้นกับปริมาณผมและสีที่อยากทำค่ะ ครั้งแรกที่ปริญทำนั้นนานมากกกก เกือบ 6 ชั่วโมง(รวมเวลารอ)  เพราะเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ตลอด สลับช่อทำ 3 สี ฟ้า น้ำเงิน ม่วง สีม่วงหมดก็ต้องผสมใหม่ จะทำแต่ละช่อก็คิดว่า เอ๊ะ ตรงนี้ลงสีฟ้าไปแล้วต่อไปควรเป็นน้ำเงินหรือม่วงดี จะบ้าตายค่ะ5555 เป็นครั้งแรกด้วยเลยทำแบบละเอียดมากกกกกก ลงสีย้ำแล้วย้ำอีก กลัวไม่ติด จริงๆถ้าสีเข้มๆอย่างน้ำเงินลงแปปเดียวก็ติดแล้วค่ะ สีอ่อนอย่างสีฟ้าก็อาจจะต้องย้ำนิดหน่อย แต่ก็ไม่นานมาก หลังๆทำบ่อย ลดเวลาเหลือประมาณ 2 ชั่วโมงก็เสร็จแล้วค่
ชื่อสินค้า:   ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่