EUROPE 1st Time : เที่ยวด้วยตัวเอง 15 วัน 6 ประเทศ (Belgium/Cologne/Netherlands/Paris/Switzerland/Italy/(Vatican))

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ...คนที่สนใจไปเที่ยวด้วยตัวเอง แบบตามใจฉัน มึนๆ งงๆ หลงๆ ไปกับเรา ^^อมยิ้ม17
เที่ยวด้วยตัวเอง 15 วัน 6 ประเทศ (Germany(Cologne)/Belgium(Brugge/Brussels/Dinant/Namur)/Netherlands/Paris/Switzerland/Italy/(Vatican))

นี่เป็นกระทู้รีวิว...ครั้งแรก!!! เลยนะเนี่ยยยยยย!!!
ตั้งใจจะเขียนตั้งหลายครั้งแล้ว...แต่ด้วยความที่เพื่อนที่น่ารักทั้งหลาย จัดทริปให้อย่างต่อเนื่อง....

ครั้งแล้วครั้งเล่า...พอจะเขียนอีกทีก็เลิกอิน...ไปละ!!!

อาจจะเขียนติดๆขัดๆหน่อยนะคะ มือใหม่หัดรีวิว ก็งี้ ><”

ทริปนี้เริ่มจากการที่อ้างแม่บอกว่าเราจะไปเยี่ยมน้า...(หารู้ไม่ว่าเราวางแผนเที่ยวแบบแยบยล 5555)

ยุโรปประเทศอะไรติดกับอะไร...แผนที่เป็นยังไงยังไม่รู้เรื่องเลย (ตกภูมิศาสตร์อย่างแรงงง - -)

แต่อยากจะไปทั้งทีก็นั่งศึกษาหน่อยละกัน.....

เริ่มจากกางจุดเริ่มต้นที่เราจะลงเครื่องก่อน....เราใช้วิธีเที่ยวแบบดาวกระจายและค่อยๆไหลลงมาจนถึงอิตาลี

สรุปได้ว่า...เราได้ประเทศที่ต้องการไปละ (Belgium/Germany/Netherlands/Paris/Switz/Italy)



ทีนี้...มาเหนื่อยกับการลิสสถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทางโดยรถไฟ (ยากละทีนี้...มืดสิบด้าน!!!!)

การเตรียมตัว
1.    Schengen visa : ถ้าไปใกล้ๆช่วงเทศกาลนี้แนะนำให้รีบทำเลยนะ นานสุด 90 วันก่อนเดินทางจ้า

2.    IYTC CARD: If you are 30 years old or younger, the IYTC card opens the door to thousands of discounts both at home and overseas. You'll save money on flights, accommodation, communications, museums, food, clothes, movies and more.  ถ้าอายุยังไม่ถึงรีบทำซะนะ...ลดค่าตั๋วเครื่องบิน...ค่า EURAIL PASS ค่าอื่นๆได้อีกมากมายนะเธอ (เราให้ STA Travel เป็นคนจัดการให้หมดเลย)

3.    EUIRAIL PASS: เดินทางหลายประเทศแบบนี้ EURAIL PASS น่าจะเข้าท่าที่สุด เราเลือกแบบ 15 วัน (ได้ฟรีมาอีก 2 วัน เป็น 17 วัน) แต่ค่าตั๋วนี้อาจจะแพงสักหน่อย เอาเถอะนะสักครั้งในชีวิต แนะนำ!!! ซื้อ First Class ไปเลยดีว่านะ ปลอดภัยกะชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องที่นั่งมากเท่ากับ  2nd class

4.    ใบขับขี่ระหว่างประเทศ : เนื่องจากพวกเราแพลนที่จะขับรถเที่ยวกันด้วย และอย่าลืมนำใบขับขี่ไทยไปด้วยนะคะเพราะเค้าจะขอดูตอนเราไปรับรถ (ค่าทำใบขับขี่ระหว่างประเทศอยู่ที่ 505 บาทนะคะ ไม่นานๆ 10นาทีได้เลยจ้า)

•    เอาเป็นว่าเอกสารคร่าวๆก็น่าจะมีประมาณนี้นะคะ



พร้อมออกเดินทางไปกับเราละยัง.....
เริ่มละน้า.......

Day 1
20.40 ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Qatar (เพราะได้ส่วนลดจาก IYTC อิอิ)



07.35 ถึง Brussels ละจ้า....

วันแรกของการเดินทางเราก็เปรี้ยวเลยจ้า...
ให้น้าสุดที่รัก...มารับกระเป๋าที่สนามบินเพื่อที่เราจะได้เที่ยวตัวปลิว อย่างสบายใจ
รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า...และออกเดินทางกันเลย!!!!

จุดหมายแรกที่สุดแสนจะตื่นเต้น

1st day in Cologne, Germany

สำรวจเส้นทางสักเล็กน้อย โดยใช้ App "Rail Planner"

อันนี้โหลดเก็บไว้เลยนะ!!! ใช้ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายยยยยยย










แอบยืมนายแบบนางแบบ....




โคโลญจน์ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเบอร์ลิน ฮัมบวร์ก และมิวนิค และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี สร้างโดยชาวโรมัน ในเมืองมีมหาวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral; Kölner Dom) ซึ่งเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียง และนี้แหละคือที่เราจะไปกัน

1. มหาวิหาร (Cologne Cathedral) วิหารแบบโกธิใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ มีจุดเด่นอยู่ที่ มันคือหอคอยแฝด
ลงสถานี Koln Hbf/Dom Hbf (GPS: 50.941278,6.958281)





Cologne Cathedral ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟ เดินออกมาจากสถานีรถไฟ  มองหาป้ายที่ชี้ไปว่า Dom
เดินตามทางไปเรื่อยๆ มีป้ายบอกตลอดทาง ออกจากสถานีก็เห็นกับมหาวิหารอันใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่เบื้องหน้าเลย ไม่น่าเชื่อจริงๆ สวยงามมากๆๆๆๆๆๆๆ
เป็นที่ที่สวยแหละประทับใจที่สุดเลย

ปัจจุบัน มหาวิหารเปิดให้เข้าชมภายในได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถเข้าชมในส่วนพิพิธภัณฑ์ของมีค่าที่ขุดค้นพบเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาธอลิกสมัยโรมันในราคา 5 ยูโร และ การเดินจุดชมวิวบนหอคอยสูง ในราคา 3 ยูโร

เว่อร์วัง อลังการ คือสวยมากจริงๆนะ แต่เราถ่ายไม่สวย...เลยไม่รู้จะอธิบายยังไงดี T T












เปิดเผย โฉมหน้าสมาชิกในทริป ^^



2. แม่น้ำไรน์ แม่น้ำสายสำคัญของเยอรมนี

3. สะพาน Hohenzollern Bridge สะพานยักษ์ที่เป็นสะพานคนเดินและมีรางรถไฟวิ่งสู่สถานีโคโลญจน์
ลงสถานี Koln Hbf/Dom Hbf (GPS: 50.941502,6.65597)

ระหว่างทางโดนดึงดูด ด้วยขนมเล็กน้อย

คือ "อร่อย" มากกกกก






ถึงแม่น้ำสักที....

ขอยืมภาพนายแบบหน่อยนะคะ ^^



ระหว่างเดินบนสะพาน....

ก็มีการล๊อคกุญแจ....ตามธรรมเนียม
(คือ...ไม่เข้าใจ....ล็อคกันยันห่วงเหล็กบนสะพาน 555555)




และเราก็เดินมาถึงจุดยอดนิยมของที่นี่แล้วค้า....

ปลาย สะพาน Hohenzollern Bridge



เดี๋ยวๆๆอย่าเพิ่งด่านะว่ามีแต่รูปเรา >< คือเพิ่งมาถึง ก็เห่อ นิดนึงเนอะ

ประเทศอื่นรับรอง ดูวิว เต็มมมมมมม!!!!


หลังจากเดินเหนื่อยมานาน....

ไม่ไปไหนละ หาที่ทานข้าวดีกว่า


4.ลาน Heumarkt
BEER : Kölsch  ที่ร้าน Pfaffen ผลิตเอง ตั้งอยู่ที่  Heumarkt 62  เสร็จเรา!!!!
ร้านนี่พิชช๋า อร่อยดีนะคะ แต่ด้วยความหิวในตอนนั้น ทุกอย่างหายไปในพริบตาาาาาาาา




ตบท้ายด้วยไอศกรีม ร้านข้างๆ ฟิน!!!!!



ระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถไฟ ก็มีร้านขายของ น่ารักๆๆ ตลอดทาง




และแล้ว เวลาแห่งความสุขก็หมดลง เพราะคืนนี้เราต้องกลับไปนอนที่ เบลเยี่ยม T T

Bye Bye Cologne +++




P.S. อย่าลืมแวะไปดมน้ำหอม Cologne 4711 ของขึ้นชื่อ ของที่นี้ด้วยนะคะ
เป็นน้ำหอมกลิ่นอ่อน เจือจาง เเละมีคุณสมบัติเย็นนนนนน ใช้หลังจากอาบน้ำเสร็จ เพื่อให้ร่างกาย(หอม)สดชื่นนนนนนน



Day 2 : Brugge Venice of the north - Brussels

วันที่สองของพวกเรา เปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางจากรถไฟ เป็น "ขับรถ"

โดยเราจองรถเช่าก่อนที่จะมาผ่านเว็บ http://www.rentalcars.com/ เลือกรับรถที่สถานที่ Bruxelles-Midi (สะดวกในการเดินทางมาและไม่ต้องไปรับไกลถึงสนามบิน)

* ข้อสังเกตุในการเช่ารถขับ
1. ต้องดูเรื่องประกันดีๆนะคะ ให้ครอบคลุมทุกอุบัติเหตุที่เราคาดไม่ถึง บางทีการจองในเว็บอาจจะไม่ครอบคลุม ต้องจ่ายเพิ่มนิดหน่อย แต่ถือว่าคุ้มค่ากับการที่เราไม่ต้องมานั่งลุ้น เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อคะ

2. Mileage เลือกเป็น unlimited mileage จะดีที่สุด (พยายามอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดนะคะ) ไม่อย่างนั้นเราต้องเสียเพิ่มนับเป็น Kilometer ที่เราขับเกินมา

3. ใบขับขี่สากล และ ใบขับขี่ของเราจากเมืองไทย ห้ามลืมเป็นอันขาด!!!



ทีนี่...คาดเข็มขัดให้แน่นและมุ่งหน้าไป Brugge กัน

บรูช (Bruges) หรือ บรุเยอ (Brugge) ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจากองค์กร Unesco

เป็นเมืองเล็กๆๆน่ารักอีกแห่งหนึ่ง สงบมาก ผู้คนไม่ค่อยพลุกหล่านเท่าไหร่หนัก

ใช้เวลาขับรถจาก Bruxelles-Midi ประมาณ 2 ชั่วโมง ที่จอดรถก็หาได้ไม่ยากคะ

สถานที่ที่เราจะพาไปเดินชมรอบๆ Brugge

- Market Square (Grote Markt)



- อนุสาวรีย์ Jan Breydel & Pieter De Coninck



- The Belfly and Halles  เป็นหอระฆังสมัยกลางในประวัติศาสตร์ หนึ่งใน  Landmark ที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของ Brugge

วันที่ไปด้านล่างมีการปิดซ่อมทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่สวยมากนัก



- Provincial  Court ( Hof Provinciaal)   อีกอาคารที่งดงามมาก รวมอยู่ที่จัตุรัสแห่งนี้



- Walking Street/Canal มีของฝากมากมายให้เลือก รวมถึง Waffle แสนอร่อย ก็มีใครเดินเลือกหลายร้านเลยคะ











- Minnewater  เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดดดดด  (Lake of Love )ทะเลสาบแห่งรัก โรแมนติกสุดๆๆๆๆ






โดยรวมแล้ว Brugge เป็นเมืองเล็กๆสบายๆสะอาด เดินครึ่งวันจบคะ ผู้คนน่ารัก^^




PS. Patrick Devos ร้านอาหารชื่อดังของเมืองบรูจส์ แวะชิม Dublin Bay Prawns กุ้งมีก้าม กับเมล็ดควินัว เมนูขึ้นชื่อของที่นี่
ร้านชอคโกแลต“Stephan Dumon” เป็นร้านชอคโกแลตแนะนำในหนังสือนำเที่ยวของ Rick’s Steve  
อันนี้เอามาจากเว็บไซด์อื่นอีกทีนะคะ จขกท. ไม่ได้ไปชิมเลย อดด!!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่